แสดงว่าทางวัดก็ทำตามสมควรแล้ว.......
แม่ชีท่านคิดอะไรอยู่หนอ
จากรายละเอียดที่เล่ามา ทางวัดก็ทำตามขั้นตอนที่เหมาะสมแล้วครับ
แม่ชีก็ยังคงอยู่ ตำรวจแนะนำว่าให้ไปฟ้องศาลขับไล่ดีกว่า หากศาลตัดสิน
ให้ขับไล่แล้ว ยังไม่ออก ตำรวจเอาหมายศาลไปจับตัวได้ตามกฎหมายเรื่องขับไล่ครับ
ต้องพึ่งอำนาจศาล ละครับ ช้าหน่อยแต่ปลอดภัยจากการฟ้องร้องกลับ
ครับ ..ทางวัดทำดีสุดๆเลยครับ .. เพราะแม่ชีแกหัวหมอ.. ออกจะเพี้ยนๆไม่ยอมใครง่ายๆนะครับ
ปัญหาข้อกฎหมายที่ลังเลสงสัยกันอยู่ .. ทั้งพระ ทั้งชาวบ้าน และทั้งตำรวจ ก็ตรงนี้ละครับ
ลองดู
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พรบ.คณะสงฆ์ พศ.๒๕๐๕
มาตรา ๓๘ เจ้าอาวาสมีอำนาจดังนี้
(๑) ห้ามบรรพชิตและคฤหัสถ์ซึ่งมิได้รับอนุญาตของเจ้าอาวาสเข้าไปอยู่อาศัยในวัด
(๒) สั่งให้บรรพชิตและคฤหัสถ์ซึ่งไม่อยู่ในโอวาทของเจ้าอาวาสออกไปเสียจากวัด
(๓) สั่งให้บรรพชิตและคฤหัสถ์ที่มีที่อยู่หรือพำนักอาศัยในวัด ทำงานภายในวัดหรือให้ทำทัณฑ์บนหรือให้ขอขมาโทษ ในเมื่อบรรพชิตหรือคฤหัสถ์ในวัดนั้นประพฤติผิดคำสั่งเจ้าอาวาส ซึ่งได้สั่งโดยชอบด้วยพระธรรมวินัย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบหรือคำสั่งของมหาเถรสมาคม
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
.... นี่แหละครับ กฎหมายตัวเจ้าปัญหาที่เอามาถามนักกฎหมายกัน ...
( ๒ ) เจ้าคณะอำเภอก็มีหนังสือไฟเขียว .. ให้เจ้าอาวาส ใช้มาตรา ๓๘ (๒ )
ได้เลย เจ้าอาวาสกับชาวบ้านก็ใช้ ( ๒ ) นี้แล้ว แม่ชีก็ยังไม่ออกสิครับ
เมื่อไล่ไม่ออก ๓๘ (๒) หรือ พรบ.คณะสงฆ์ พศ.๒๕๐๕ มาตรา อื่นๆก็ไม่ได้บัญญัติ
ถึงกรณี ไล่แล้วไม่ออกนี้ไว้ ...
ทำให้ตำรวจกับชาวบ้านไม่กล้าผลีผลาม .. เข้าไปลากจับตัวแม่ชีไงครับ ...
ทางวัดก็ไม่อยากฟ้องเพราะเสียเงินค่าทนาย+เสียเวลา
ก็เลยไม่รู้จะทำยังไง .. เมื่อตำรวจไม่กล้าจับตัว .. ก็เลยจำเป็นคงต้องฟ้องไปละครับ ..