เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 29, 2024, 09:35:16 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สงสัย เรื่องปืนสวัสดิการ  (อ่าน 5234 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #30 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 11:31:14 PM »

จากที่ดูโครงการ ปืนสวัสดิการ ปัจจุบัน เดียวนี้ราคาปืน สวัสดิการราคาสูงเหมือนกันเป็นปืน ระดับ เทพ เช่น Bear ที่มาจัดปืนสวัสดิการยี่ห้อล่าสุด ซึ่งทำให้ผมแปลกใจว่า ข้าราชการเงินเดือนไม่ได้สูงมาก จำเป็นต้องซื้อปืน ราคา เริ่มต้น Bear 120K เลยเหรอ เพราะที่ผมถาม ๆ ข้าราชการ แค่ ปืนยาว กระบอก ยังบอกว่า ไม่จำเป็นเลยทั้งมีสวน ที่ต้องดูแล แต่นี้ปืนสั้น ราคาขนาดนี้ ผมว่าขนานพนักงาน บริษัท เงินเดือน ไม่ถึง 20000 ยังไม่อยากได้เลย ถึงแม้ให้ผ่อนก็เถอะครับ เพราะค่าใช้จ่ายส่วนตัว ก็ แทบจะไม่พออยู่แล้ว ผมว่าอีกไม่นาน ปืนสวัสดิการคงมี .223 กับ .308 แน่เลย ทำให้ผมอยากเป็นข้าราชการเลย ครับ ยุคทองจริง ๆ ข้าราชการชอบเล่นปืน ซื้อสะสมไว้ ราคาไม่แพง ด้วย แถมผ่อนลด 4 เปอร์เซ็นต์ รอใจกันขนาดนี้ ถ้ารูดบัตรได้อีกสุดยอดครับ

ทั่วๆไปถ้าหากผ่อนไม่ได้ลด ๔ เปอร์เซนท์ครับ...

ส่วนลดนั้นได้เฉพาะเงินสดครับ...

ส่วนหากอยากรูดบัตรนั้นก็คงรูดได้...

แต่ต้องรูดบัตรเครดิตเอาเงินสดออกมาจ่าย...

แล้วโดนดอกเบี้ยอ่วมครับ... Cheesy

สวัสดีครับ คุณหมอ

ถึงจะโดนดอกเบี้ย แต่บ้างครั้งต้องยอมครับ

เพราะแค่เรื่องนิดเดียวเองครับ "อยากได้" นั่นเองครับ

ถ้าหากต้องถึงขนาดรูดบัตรเอาเงินดอกแพงๆมาซื้อปืนผมคงไม่เอาแน่ๆครับ...

ผมเองรายได้ไม่สูงมาก ต้องระมัดระวังเรื่องการใช้เงินครับ...

ส่วนการซื้อปืนนั้นผมต้องแน่ใจว่าจะสามารถหาเงินเย็นมาซื้อ...

มิเช่นนั้นผมก็ใช้วิธีหยอดกระปุกเอาครับ... Cheesy

บันทึกการเข้า
a14
คนเราทุกคนมีจุดยืนที่เดียวกันคือที่......เท้า........ จริงมั้ย? หรือใครจะเถียง
Jr. Member
**

คะแนน 12
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 47



« ตอบ #31 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2010, 12:01:49 AM »

เอาบัญชีเงินเดือนมาจับ โดยใช้ค่าสูงสุด ............. จะมีข้าราชการกี่คนที่เงินเดือนขึ้นถึงเพดานสูงสุดครับ

ทำไมไม่กล่าวถึงตอนที่ไต่ระดับบ้างละครับ ..............

ผมจบมาพร้อมๆกับเพื่อน เทียบกัน ผมเป็นข้าราชการ อีกคนอยู่บริษัทเงินทุน.............. ผมเริ่มที่ 2905.- บาท เพื่อนเริ่มที่ 8700.- บาท ......................ทำงานมา 25 ปี เงินเดือนผมยังแตะไม่ถึง หกหมื่นดีเลย เพื่อนผมมันไป แสนสามแล้ว..................

เด็กจบ ป.ตรี มาบรรจุใหม่ๆ ตอนนี้ เริ่มที่เงินเดือน หกพันกว่า ............. ผมยังคิดเลยว่าจะอยู่กันยังไง ถ้าไม่ประหยัดกันจนตัวลีบ ก็คงต้องยังขอเงินพ่อ-แม่ใช้อยู่อีกกระมัง................
จบ ป.ตรี บรรจุข้าราชการครูผู้ช่วย (เทียบเท่าซี 3) หลักสูตร 4 ปี 7,940+1,500 = 9,440 หลักสูตร 5 ปี 8,700+1,500 = 10,300 ซึ่งอาจดูน้อยแต่ผมก็เชื่อว่า งานเอกชนในปัจจุบันส่วนใหญ่ก็จ้างโดยให้เงินเดือนประจำ(ย้ำว่าเงินเดือนประจำนะ)ไม่เกินนี้ แต่ผมว่าความมั่นคงเทียบกันไม่ได้เลยนะระหว่างลูกจ้างเอกชน(ขั้นต้น) กับข้าราชการขั้นต้นที่ได้เงินเดือนเท่าๆกัน
บันทึกการเข้า
มะขิ่น
Hero Member
*****

คะแนน 2453
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17813


"ทหารแก่ไม่มีวันตาย แต่จะค่อยๆเลือนหายไป"


« ตอบ #32 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2010, 12:26:44 AM »

เอาบัญชีเงินเดือนมาจับ โดยใช้ค่าสูงสุด ............. จะมีข้าราชการกี่คนที่เงินเดือนขึ้นถึงเพดานสูงสุดครับ

ทำไมไม่กล่าวถึงตอนที่ไต่ระดับบ้างละครับ ..............

ผมจบมาพร้อมๆกับเพื่อน เทียบกัน ผมเป็นข้าราชการ อีกคนอยู่บริษัทเงินทุน.............. ผมเริ่มที่ 2905.- บาท เพื่อนเริ่มที่ 8700.- บาท ......................ทำงานมา 25 ปี เงินเดือนผมยังแตะไม่ถึง หกหมื่นดีเลย เพื่อนผมมันไป แสนสามแล้ว..................

เด็กจบ ป.ตรี มาบรรจุใหม่ๆ ตอนนี้ เริ่มที่เงินเดือน หกพันกว่า ............. ผมยังคิดเลยว่าจะอยู่กันยังไง ถ้าไม่ประหยัดกันจนตัวลีบ ก็คงต้องยังขอเงินพ่อ-แม่ใช้อยู่อีกกระมัง................
จบ ป.ตรี บรรจุข้าราชการครูผู้ช่วย (เทียบเท่าซี 3) หลักสูตร 4 ปี 7,940+1,500 = 9,440 หลักสูตร 5 ปี 8,700+1,500 = 10,300 ซึ่งอาจดูน้อยแต่ผมก็เชื่อว่า งานเอกชนในปัจจุบันส่วนใหญ่ก็จ้างโดยให้เงินเดือนประจำ(ย้ำว่าเงินเดือนประจำนะ)ไม่เกินนี้ แต่ผมว่าความมั่นคงเทียบกันไม่ได้เลยนะระหว่างลูกจ้างเอกชน(ขั้นต้น) กับข้าราชการขั้นต้นที่ได้เงินเดือนเท่าๆกัน

ยังมีส่วนภาคเอกชนที่บรรจุปีแรกเงินเดือนเกินข้าราชการครับ  .......... มีที่ลูกจ้างเอกชน จบป.ตรี 5 ปีเข้าทำงานในภาคเอกชน เงินเดือน ตกราวๆหมื่นเจ็ด ..................

ที่กล่าวว่าเท่าๆกัน ผมคิดว่าคลาดเคลื่อน  .............ยิ่งเอาเงินตำแหน่งหรือเงินเพิ่มวิทยฐานะมารวมกับเงินเดือนด้วย ก็จะดูเท่าๆกัน ................. แต่ในความจริงเม็ดเงินสำหรับการเลื่อนขั้น % คิดจากอัตราเงินเดือนแท้ๆ ไม่เอาเงินเพิ่มมาคิดด้วย ..................

ถ้าเอาเงินประจำตำแหน่ง เงินเพิ่มวิทยฐานะ ของราชการเพิ่ม ................ ก็จะเปรียบเทียบได้ไม่ครบทุกตำแหน่ง

ในส่วนภาคเอกชน บางตำแหน่ง ผมทราบว่ามีเงินเพิ่มพวกค่ายานพาหนะ ค่าน้ำมัน รวมทั้ง % การขายสินค้าด้วย ..................ถ้าเอามาบวกแล้วคิดว่าเป็นรายได้ต่อเดือน .............. ยังไงๆ ก็ไม่มีทางเท่ากันหรอกครับ

ใน ทบ. ว่าที่ร้อยตรีจบใหม่ (4ปี) เงินเดือน รวมกันยังไงๆ ก็ไม่เกินหนึ่งหมื่น ....................

ในเรื่องความมั่นคง ที่กล่าวเป็นเรื่องจริงครับ .................. ทั้งสวัสดิการต่าง จิปาถะ ปัจจัยนี้มีผลเป็นอย่างมากในเรื่องการตัดสินที่จะเข้ามารับราชการ.............

อีกอย่างข้าราชการถ้าไม่ทำความผิดวินัยร้ายแรงหรือผิดกฏหมายจนถูกต้องโทษ โอกาสถูกออกจากราชการยากมาก ................... ภาคเอกชนแค่เห็นว่าเงินเดือนสูงไป ให้ออกดีกว่า ก็ยื่นซองขาวให้ได้...............ความมั่นคงน้อยหรือแทบจะไม่มี

บางส่วนในภาคเอกชนเลยต้องทำงานหนักเพื่อให้มีรายได้มากๆ แล้วต้องเก็บออมเอาไว้ใช้ในภายภาคหน้า...................

ผมเองทำงานมา 25 ปี ............... เงินเก็บน้อยครับ เพราะเงินเดือนน้อย ใช้จ่ายดำรงชีวิตและดุแลครอบครัว แต่ละเดือนเหลือไม่มาก (ยิ่งตอนเริ่มรับราชการแรกๆ เงินเดือนมีใช้จนชนเดือนนี่ หรูสุดแล้ว)................... ถ้าเทียบกับพรรคพวกที่ทำงานในภาคเอกชนมาพอๆกัน มันเก็บเงินได้หลายล้านแล้ว ............อาศัยสวัสดิการที่ให้มากกว่าและมีความมั่นคงเรื่องเวลาเกษียณราชการไปแล้วเท่านั้นที่ได้เปรียบเรื่องเงินบำนาญ...............

เรื่องเงินเดือนตอนต้นๆจนไปยันเพดาน ................. ยังไง ภาคเอกชนส่วนใหญ่ก็มีรายได้มากกว่าข้าราชการในระดับเดียวกันครับ ที่ว่าเท่าๆกัน ผมว่ามีไม่มากเท่าไหร่.........................
บันทึกการเข้า

อย่าดึงฟ้าต่ำ  อย่าทำหินแตก  อย่าแยกแผ่นดิน
KENG 92FS
"คาวบอยแม่โจ้"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 66
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1999



« ตอบ #33 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2010, 12:32:08 AM »

กลายเป็นกระทู้เรื่องเงินเดือนไปซะแล้ว  ผมบรรจุเดือนแรก 6,340 บาทครับ (5-6ปีที่แล้ว) ต่อมาเขยิบเป็น 7,800 บาท   หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน   น้อยกว่าเงินที่พ่อแม่ให้ใช้ตอนเรียนอีก  เติมน้ำมันรถแทบจะไม่พอ  แต่ก็อยู่ได้ ด้วยความพอเพียงครับ  เยี่ยม 


ดึงกลับมาเรื่องปืน   ปืนสวัสดิการตัวแพงๆ  ผมคิดแต่ว่า  ".....หูย..แล้วราคาเต็มมันจะเท่าไหร่เนี่ย...."     แค่นั้นเองครับ   ส่วนตัวผมซื้อกระบอกละ 3-5 หมื่นเท่านั้นครับ  ตามอัตภาพ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 05, 2010, 12:34:27 AM โดย keng_maejo(เก่ง แม่โจ้) » บันทึกการเข้า

NRA.#98 / SPD.#11 / 105UNIT#2
indojeen@รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 364
ออฟไลน์

กระทู้: 2702



« ตอบ #34 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2010, 08:34:13 AM »

 เยี่ยม  หลายคน  หลากความคิดครับ

เจ้าของกระทู้คงเข้าใจไม่ผิดในข้อสงสัยครับ

วัตถุประสงค์สำหรับปืนสวัสดิการข้าราชการ  คือให้ผู้ปฎิบัติงานให้กับหน่วยงาน

สามารถมีปืนที่ถูกต้องตามกฎหมายไว้ในครอบครอง  ได้ในราคาข้าราชการ  ก็คือ

ถูกกว่าท้องตลาดนั่นเอง    และให้มีปืนกันอย่างทั่วถึง  เพื่อปฏิบัติงาน  ไม่ต้องถูกจำกัด

จากโควต้าปืน  ที่ไม่เพียงพอกับความต้องการ  จะเห็นว่าโครงการแรก ๆ จะเป็น จนท.ทหาร

ตำรวจ  และฝ่ายปกครองเท่านั้น    ต่อมาก็มีพัฒนาการให้หน่วยงานใกล้เคียง  เข้าร่วมโครงการ

รวมถึงองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ รัฐวิสหกิจ  และหน่วยราชการอื่น ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ

เช่นกัน  ปืนช่วงแรก ๆ จะเป็นปืนทั่วไป  ท้องตลาด  ข้าราชการนิยมใช้ หาง่าย  ราคาถูก

แต่เมื่อมีร้านเข้ารวมโครงการมาก ๆ ก็มีความหลากหลาย  เรื่องปืน ทั้งยี่ฮ้อ และรุ่น  เพราะถือ

เป็นโอกาศของร้านขายปืน และผู้จำหน่าย  ที่จะหนีกรอบโควต้าอาวุธปืนที่จำกัดในแต่ละปี

ทีนี้พอจะมองเห็นภาพมั้ยครับ  คนซื้อดีใจ  คนขายแฮปปี้  ไม่มีอย่างอื่นเลย

แต่มาประเด็นเรื่องปืน custom ดี ๆ ราคาแพง ๆ และความสามารถในการซื้อปืนดังกล่าวของ

ข้าราชการ  นี่มาอีกเรื่องเลยครับ  บางคนเป็นข้าราชการ  แต่ไม่ได้มีรายได้น้อยอย่างที่คิดครับ

เมือมีโอกาศ  ก็ไม่น่าจะพลาดสำหรับของที่ชอบ ๆ กันอยู่  ปืนระดับราคาแสนกว่ามาในโครงการ

ผมว่าไม่เหมาะสม  แต่ทำไงได้ละครับ  มันเป็นไปแล้ว  และไปได้ดีซะด้วย  หลายร้านที่เข้า

ร่วมใครงการ  จึงไม่ลังเล   ที่จะสั่งเข้ามาขาย และเพิ่มรุ่น ยี่ฮ้อ  ที่หลากหลาย  คงเป็นจังหวะ

และโอกาศละครับ  สำหรับงานนี้ คิก คิก

สำหรับผมซื้อปืนโครงการเพื่อใช้งานป้องกันชีวิตและทรัพย์สินครับ  ไม่ได้ขอเพื่อการกีฬา 

เหมือนหลาย ๆ ท่าน คิก คิก

กระบอกเดียวน่าจะพอแล้ว ยิ้มีเลศนัย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 05, 2010, 08:45:05 AM โดย indojeen » บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.137 วินาที กับ 22 คำสั่ง