ได้รับเป็นfwd mailมา เลยเอามาแบ่งกันอ่านครับ
หมายเหตุ : ข้อเขียนเรื่องลูกแกะหลงทางนั้น มาจากใน
www.manager.co.th ที่ผู้อ่านท่านหนึ่ง ใช้นามว่า 555 Post เข้ามาตรง ความคิดเห็นที่ 9 เข้ามาท้ายเรื่อง จากกัลยาณมิตรถึงนายกฯทักษิณ ชินวัตร (15) ประธานวุฒิสภาต้องลาออก เปิดทางให้วุฒิสภาแก้ปัญหา ส่งเรื่องกลับศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเชื่อว่าใครที่ได้อ่านต้องสะเทือนใจทุกคน
พ่อมีความรักอันอบอุ่นให้ลูกเสมอ พ่อไม่เคยเกรี้ยวกราด ด่าทอลูกว่าโง่ เวลาพ่อจะบอกลูกถึงปัญหา พ่อมักมีแง่คิดดีๆ มีนิทานแฝงคติให้ลูกได้นำไปคิดเสมอ ๆ ซึ่งเมื่อลูก ๆ ได้คิด ก็จะเข้าใจอะไร ๆ มากขึ้น
พ่อมักเตือนให้ลูก ๆ แปรงฟันก่อนนอนเพื่อฟันจะได้ไม่ผุ แต่ลูก ๆ ก็มักจะคิดได้หลังจากที่ต้องถอนฟันไปซี่แล้วซี่เล่า
พ่อมักบอกให้เราซื่อสัตย์ทำงานหนัก เพื่อที่เราจะได้มีความเป็นอยู่ที่ดีตามอัตภาพ
พ่อไม่เคยบอกให้เราต้องร่ำรวยเพื่อจะมีความสุข
พ่อมักบอกเสมอ ๆ ว่าเรามีความสุขได้ตามอัตภาพโดยไม่ต้องร่ำรวย
พ่อที่มีลูก ๆ ของท่าน 60 กว่าล้านคน ไม่เคยคิดที่จะยอมขายลูกของตัวเอง เอาเปรียบลูกของตัวเอง เพื่อฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
แม้แต่พาหนะเดินทางของพ่อ รองเท้าเก่า ๆ ของพ่อก็ยังคงมัธยัสถ์ทะนุถนอม ใช้ของเดิม ๆ เมื่อชำรุดก็ให้คนเอาไปซ่อม ไม่เคยคิดแม้แต่จะไถเงินจากลูกครั้งละ 40 สตางค์ เพื่อความมั่งคั่งส่วนตัวของพ่อเอง
พ่อมักบอกกับลูกเสมอ
ๆ ว่าเราต้องก้าวไปพร้อม ๆ กัน ถ้าลูกคนโตสบายอยู่คนเดียว
ในขณะที่ลูก ๆ อีก 60 กว่าล้านคนต้องลำบากต้องโดนเอาเปรียบ โดยการเปลี่ยนแปลงพี่น้องให้เป็นทาส มอมเมาพี่น้องด้วยเงินทอง โทรศัพท์มือถือ การพนัน ไม่ถือเป็นการพัฒนา
พ่อบอกว่าให้ลูก ๆ เลือกตัวแทนมาทำงาน มาบริหารครอบครัว โดยมีเป้าหมายเพื่อ ความสุขสูงสุดของลูก ๆ ทุกคน ไม่ใช่เพื่อกำไรสูงสุด ของครอบครัว แต่เพื่อความสุขสูงสุดของครอบครัว ภายใต้เงื่อนไขที่มีอยู่มากมาย ทั้งภายในบ้าน และรอบ ๆ บ้าน
แต่มีลูกที่ดื้อรั้น หยิ่งผยองอวดดี ที่บังเอิญสวมหนังลูกแกะ และคุณธรรม คิดวัดรอยเท้าพ่อ ใช้พี่น้องคนอื่น ๆ ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือบางคนก็รู้และสมยอมเพราะพี่ชายคนโตมีท่าไม้ตายคือ เงินฟาดหัวจากลูก ๆ ที่เป็นแกะดำเพียงไม่กี่คน ลัทธิรวยแล้วโก้ รวยแล้วเท่ห์ รวยแล้วกร่าง ก็เริ่มแพร่หลายในสังคม
จากลูกแกะเซื่อง ๆ ที่มาจากศรัทธาของพี่น้อง ไหว้แม้แต่พี่น้องที่อาศัยอยู่ข้างถนน กลายเป็นคนใจร้อนกำแหง เกรี้ยวกราดกับทุกคน
จากคนเดิม ๆ ที่พ่อยอมให้เข้ามาบริหารครอบครัวแม้มีความไม่โปร่งใสเรื่องทรัพย์สิน
จากผู้นอบน้อม กลายเป็นศาสดาซึ่งมอบความกลัว ความเกลียดชัง การหลบหลู่และข้อกล่าวหาว่าโง่ แก่พี่น้องทุกคนที่เห็นตรงกันข้าม กลายเป็นศาสดาที่กำแหงถึงขนาดกล้าชี้ผิดชี้ถูก รุกคืบในสิทธิมนุษยชนของพี่น้องคนอื่น ๆ เข้าไปถึงในความคิด ในวิถีชีวิตของพี่น้องอีก 60 ล้านคน
จากผู้ที่ดูเหมือนจะบริสุทธิ์ผุดผ่อง กลายเป็นบุคคลปริศนาที่ไม่ยอมตอบคำถามใด ๆ กลัวการตอบคำถาม และยึดครองสมบัติของครอบครัวเป็นของตนแต่ผู้เดียว
พ่อบอกว่าพ่อเกลียดคนโกง ลูกแกะหลงทางบอกว่า ไม่ต้องตรวจสอบผมรับประกัน ผมใหญ่ที่สุดแล้วในครอบครัว ถ้าใครมีปัญหาระวังจะไม่มีงานทำ
พ่อบอกว่านี้คือลูกที่ดีของฉัน ลูกชายผู้หลงผิดบอกว่าต้องขับออกจากพรรค
พ่อบอกว่าเราควรมีเศรษฐกิจแบบพอเพียง พวกลูกแกะหลงทางกลับบอกว่า จะเอาอะไรกินเราไปอยู่กระต๊อบกันดีไหมพวกโง่ทั้งหลาย
พ่อบอกว่าเราต้องพัฒนาไปพร้อม ๆ กัน ก้าวเดินไปพร้อม ๆ กัน
ลูกแกะหลงทาง ขายสาธารณูปโภคพื้นฐานเพื่อทำกำไรแก่คณะตนเอง รวมไปถึงการจัดตั้งกองกำลังคุ้มกันบ้าน ลูกแกะหลงทางกล่าวกำแหง ผมจะเอาคนนี้ใครก็เปลี่ยนไม่ได้ เพราะพ่อต้องอยู่ใต้กฎบ้าน
ลูกแกะคนโตยังหลงทางต่อไป...ต่อไป..และต่อไป ลูก ๆ ทั้งหลาย ตื่นเถิด ตาสว่างได้แล้ว ชีวิตนี้ของพวกท่านเป็นของพ่อโดยไม่ต้องมีกฎใด ๆ มารองรับ...
กราบแทบเท้าพ่อของแผ่นดิน