เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 16, 2024, 11:20:14 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ผลไม้ที่มี วิตามีนซี ,วิตามีนอี ,สารเบต้าแคโรทีน มากที่สุด  (อ่าน 2157 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1628
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18173



« เมื่อ: มิถุนายน 21, 2010, 04:33:08 PM »



ฝากรูป

ฝากรูป

ฝากรูป

ฝากรูป
บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
sada
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2010, 01:23:47 AM »

ขอบคุณครับ
+1ให้ อา ยอด ครับ เยี่ยม ไหว้

ผมสังเกตได้อย่างนึงครับ  ผลไม้ไทย มี คุณค่ามากกว่า  สตอเบอรี่ แต่ในขณะที่สตอเบอรี่ มีราคาที่แพง กว่า
แต่ บางคนกลับนิยม ผลไม้เมืองนอก
ผมยกตัวอย่างนะครับ  จากประสบการณ์ส่วนตัว
ผมไปเดินเที่ยวในบิ๊กซี ผมหิวข้าว ผมเลยกินข้าวในห้าง ในขณะที่รู้อยู่แก่ใจว่า ข้าวในห้างมีราคาแพงกว่า เมื่อเทียบปริมาณ (ไม่ได้คุยเรื่องคุณภาพนะครับ)  ผมกินข้าวตามร้าน  ข้าวผัดพริก จานละ 30 บาท
   แต่ผมกินข้าวในห้าง จานพิเศษ  ข้าวผัดพริกเหมือนกัน   จานละ  40 บาท ผมต้องกิน 2จานถึงจะอิ่ม
 สรุปผมต้องจ่ายเงินแพงกว่าข้างนอก  ถึง50 บาท แถมต้องเดินไปกดน้ำกินเอง  ผมเฉยๆ ครับ
แต่เชื่อมั้ยครับ  ผม อยากกินลูกกีวี มากๆ ลูกละ  22บาท ลูกเท่าลูกละมุด  ผมทำใจไม่ได้ที่จะซื้อกิน ครับ
รู้มั้ยครับ ผมคิดอะไร   ผมคิดว่า  เจ้าลูกกีวี ราคา มันแพงเกินไป ที่จะจ่าย ครับ  เคยมีคนบอกว่า มันเป็นของนำเข้าผมเข้าใจครับ
แต่ผมก็ไม่ซื้ออยู่ดี  ทุกวันนี้ผมอยากกินอยู่เลยครับ แต่ไม่ซื้อ ...... ไหว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 22, 2010, 01:56:40 AM โดย ศักดา ครับ รักในหลวง » บันทึกการเข้า
sada
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2010, 02:06:18 AM »

                           เบต้าแคโรทีน" (Beta-carotene)
"เบต้าแคโรทีน" (Beta-carotene) เป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ(โปรวิตามิน เอ) มีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ทั้ง นี้ โดยปกติร่างกายของมนุษย์เราสามารถเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนไปเป็นวิตามินเอ ได้ตามปริมาณที่ร่างกายต้องการ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เสมือนเป็นสารต้าน อนุมูลอิสระ(แอนตี้ออกซิเดนท์) ด้วย

สำหรับขนาดรับประทานของวิตามินเอเพื่อรักษาสุขภาพโดยทั่วไปคือ 5,000 หน่วย สากล(IU) ซึ่งเทียบเท่ากับเบต้าแคโรทีน 3 มิลลิกรัม และสำหรับปริมาณที่สม เหตุสมผลของเบต้าแคโรทีนที่แนะนำให้รับประทานต่อวันเพื่อรักษาสุขภาพให้แข็ง แรงคือ 15 มิลลิกรัม ในขณะที่การรับประทานเพื่อหวังผลในรักษาจะต้องได้รับใน ปริมาณมากกว่านี้

เบต้าแคโรทีนมีในพืชสีเหลืองและสีส้ม ทั้งแครอต ฟักทอง หน่อไม้ฝรั่ง ข้าว โพดอ่อน แตงโม แคนตาลูป มะละกอสุก และผักที่มีสีเขียวอย่างบร็อกโค ลี่ มะระ ผักบุ้ง ต้นหอม ผักคะน้า ผักตำลึง เป็นต้น (เหตุที่มีสีเขียวเพราะ สีของเบต้าแคโรทีนถูกสีเขียวของคลอโรฟิลล์บดบัง)

ประโยชน์ที่เบต้าแคโรทีนให้แก่ร่างกายคือ

1.ดูแลรักษาผิวพรรณอันเป็นส่วนของร่างกายที่ดีที่สุดที่จะทำให้ทราบว่า อนุมูลอิสระมีผลต่อเราแล้วหรือยัง เช่น ผิวเริ่มเหี่ยวย่น ไม่ผ่องใส

2.ลดความเสี่ยงต่อภาวะมะเร็ง อนุมูลอิสระมีผลเกี่ยวข้องกับมะเร็งเนื้อ ร้าย การลดปริมาณอนุมูลอิสระเท่ากับลดความเสี่ยงของมะเร็ง ทั้งยังพบว่าเบ ต้าแคโรทีนให้ผลกระตุ้นเซลล์ภูมิต้านทานในร่างกายที่ชื่อ ที-เฮลเปอร์ ให้ทำ งานต้านสิ่งแปลกปลอมได้ดีขึ้น ให้ผลดีกับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อมะเร็ง

3.บำรุงสุขภาพของดวงตา เบต้าแคโรทีนเมื่อโดนย่อยสลายที่ตับแล้วจะได้วิตามิน เอ ซึ่งร่างกายนำไปใช้สร้างสารโรดอฟซินในดวงตาส่วนเรตินา ทำให้ตามีความ สามารถในการมองเห็นในตอนกลางคืนได้ และยังลดความเสื่อมของเซลล์ของลูกตา ลด ความเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจกด้วย

4.ชะลอความแก่ เบต้าแคโรทีนให้ผลในการลดความเสื่อมของเซลล์จากอนุมุ ลอิสระ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดกระบวนการแก่

เบต้าแคโรทีนนับเป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญสำหรับสุขภาพของมนุษย์ อย่างไร ก็ตามไม่พบว่ามีรายงานของการขาดเบต้าแคโรทีนเลย แม้ว่าการวิจัยจำนวนมากจะ ระบุว่า การเสริมด้วยเบต้าแคโรทีนใช้ในคนที่มีอาการขาดวิตามินเอ แต่ก็ยังคง ไม่มีข้อมูลแน่ชัดที่แสดงถึงอาการขาดเบต้าแคโรทีน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์และนัก โภชนาการแนะนำว่าเราควรรับประทานเบต้าแคโรทีนเข้าสู่ร่างกายโดยการบริโภคผัก สดและผลไม้สด

สำหรับผลข้างเคียงที่อาจเป็นผลเสียต่อร่างกายจากเบตาแคโรทีน ขณะนี้ยังไม่ พบ แม้จากการวิจัยพบว่าวิตามินเออาจเป็นพิษได้ถ้ารับประทานในปริมาณที่สูงก ว่า 25,000 หน่วยสากล(IU) ต่อวัน แต่ไม่พบว่าเบต้าแคโรทีนมีความเป็น พิษ เมื่อรับประทานในปริมาณสูง ส่วนการมีปฏิกิริยากับสารอื่นไม่พบรายงานว่า มีปฏิกิริยาของเบต้าแคโรทีนกับยาสมุนไพร รวมทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆ 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.132 วินาที กับ 22 คำสั่ง