เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 25, 2024, 06:35:31 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โครงการ กูจะอยู่ค้ำฟ้า ของอเมริกัน (2)  (อ่าน 2580 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
PinMEMO
Growww
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 1
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 82

http://pinmemo.blogspot.com


เว็บไซต์
« เมื่อ: ตุลาคม 06, 2004, 12:35:04 PM »

อ่านให้จบนะ

อ้างถึง
โครงการ กูจะอยู่ค้ำฟ้า ของอเมริกัน (2)


http://www.manager.co.th/
โดย ยอดธง ทับทิวไม้

เมื่อสงครามเวียดนามสิ้นสุดลงและอเมริกาถอยออกไปจากอินโดจีน ในเมืองไทยมีข่าวๆ หนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นทั้งข่าวจริงหรือข่าวปล่อยเพื่อให้เข้าใจว่า เวียดนามคือศัตรูของไทยที่จะต้องระมัดระมังอย่างยิ่งก็คือ ข่าวที่ว่าหลังจากที่นายพลหวันเทียนดุง ของเวียดนามยกกองทัพเวียดนามเข้ากวาดเขมรแดงของพลพตราพณาสูรไปแล้ว ข่าวนั้นก็ถูกเพิ่มต่อไปว่าทางเวียดนามเคยประกาศว่าตอนนั้นทางเวียดนามจะยกกองทัพรุกคืบหน้ามาจนถึงเกาะกงและจังหวัดชลบุรี ก็จะสามารถเอาชนะได้ภายในไม่เกิน 24 ชั่วโมงเท่านั้น

ใครฟังข่าวนี้ก็รู้สึกน่ากลัวอย่างยิ่ง

หรือถ้าหากว่าเวียดนามจะทำอย่างนั้นจริงๆ ก็น่าจะทำได้ เพราะตอนนั้นกองทัพเวียดนามกำลังแข็งแกร่งอย่างมาก แม้แต่ทางจีนซึ่งก็เป็นคอมมิวนิสต์ที่น่ากลัวประเทศหนึ่งที่จะต้องเล่นงานกันอยู่ตลอดเวลา ก็ยังไม่ไว้ใจว่าเวียดนามจะไม่เติบโตและเก่งกล้าอย่างที่ใครๆ ก็คิด เฉพาะพวกฝ่ายขวาตะบันราดของไทยนั้น เรื่องกลัวจนตัวสั่นหรือพยายามแพร่ข่าวว่าเวียดนามจะต้องเป็นศัตรูกับไทยและเล่นงานไทยนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แน่ ทุกคนเชื่อกันว่าเมืองไทยจะต้องเป็นเหยื่อของเวียดนามไม่วันใดก็วันหนึ่ง

ตอนนั้น ผมถูกมองหรือถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์คนหนึ่ง ซึ่งหลังจากถูกจับเข้าคุกไปถึง 5 เดือนแล้ว ก็ถูกปล่อยออกมา และในระหว่างที่ไม่มีอะไรจะทำนั้น ก็เร่ร่อนไปตามที่ต่างๆ เพื่อหาความรู้ความเข้าใจโลกและหาเรื่องเขียนหนังสือพิมพ์เบ็ดเตล็ดหรือหนังสือพิมพ์กันเองชนิดที่จ่ายค่าเรื่องบ้างไม่จ่ายค่าเรื่องบ้างอยู่หลายปี แต่ในการเดินทางแสวงหาความรู้ที่ว่านี้ ผมก็มีโอกาสได้ไปเวียดนามเฉพาะเวียดนามเหนือหรือฮานอยบ่อยๆ เช่นเดียวกับเขมรและเวียดนาม จนรู้สึกว่ามีความคุ้นเคยกับทั้งสามประเทศนี้ค่อนข้างมากและรู้สึกเป็นกันเองมาก

ที่ฮานอย ซึ่งผมได้คบหาจนกระทั่งเป็นมิตรสนิทต่อมาในตอนหลังคือ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เหงียน โคทัก ซึ่งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศคนหนึ่งที่มีความสำคัญมากสำหรับเอเชียในยุคนั้น ผมก็ได้รู้จักได้คุยเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับบ้านเมืองในเอเชียรวมไปถึงขบวนการคอมมิวนิสต์และความคิดของนักการเมืองต่างประเทศมากมายหลายเรื่อง

และอีกท่านหนึ่งที่ผมได้รับความกรุณาเป็นพิเศษแต่เพียงคนเดียวในบรรดาคนหลายๆ ชาติที่เข้าไปฮานอยในสมัยนั้นคือ ท่านผ่าม วันดง นายกรัฐมนตรีที่ผมจะซักถามอะไรกับท่านได้เสมอมา

เช่นเดียวกับเรื่องเวียดนามจะบุกไทยและเป็นศัตรูกับไทย

ผมเคยนำมาเขียนลงในหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ฉบับหนึ่ง ที่ท่านผ่าม วันดง พูดกับผมว่า ต่อให้อีกร้อยปีข้างหน้า เวียดนามจะไม่มีวันแตะต้องประเทศไทย และผมก็ถูกล้อเลียนจากพรรคขวาหน้าโง่บางคนที่เขียนล้อผมในเรื่องนี้ว่า ผมขายชาติให้เวียดนามไป

เหตุผลที่ทั้งท่านผ่าม วันดง และท่านเหงียน โคทัก ซึ่งผมก็มีโอกาสได้ซักถามพูดคุยในเรื่องอย่างเปิดอกกัน ผมก็ได้รับคำตอบที่ว่า เรื่องรบนั้นนะ มันไม่สำคัญหรอก ใครมีอาวุธดี ใครมีคนยอมตายได้มากหรือเสียได้มากมันก็ชนะ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าเมื่อรบชนะแล้ว คุณจะปกครองประเทศไทยยังไง คนไทยจะยอมให้คุณปกครองหรือมีคนขาติไหนบ้าง แม้แต่แม้วแต่เย้าในอินโดจีนตามป่าเขาทุกกลุ่ม ก็ยังไม่ยอมให้ใครปกครองเลย ไปแตะอะไรเข้ามีเรื่องเอาง่ายๆ เอาแต่ว่าเรื่องของคนเวียดนามเองที่มีปัญหาที่จะต้องแก้ไขกันอีกร้อยแปดนี่ ก็ไม่มีวันแก้ให้จบลงได้ง่ายๆ อย่างที่พวกขวาจัดของคุณคิดกันแบบนั้น

คำบอกกล่าวของนักรบคนสำคัญของเวียดนามที่ผ่านศึกและการเมืองมาด้วยตนเองอย่างโชกโชนที่บอกมานี้เอง ทำให้ผมเกิดความสงสัยขึ้นมาตลอดเวลาหลายวันที่อเมริกาเปิดสงครามรบอิรักที่อเมริกาโดดเข้ามาพร้อมกับอาวุธและประกาศปลดประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน ออกจากตำแหน่งหน้าที่ปกครองประเทศที่เจ้าของประเทศเขาเลือกขึ้นมาและยอมรับให้ปกครองมานาน 24 ปี ให้ออกจากตำแหน่งเสียหรือให้ไปลงนรกที่ไหน โดยที่เจ้าของประเทศส่วนใหญ่เขาไม่รับรู้รับเห็นนั้น เป็นเรื่องมหัศจรรย์อย่างยิ่ง

ยิ่งไปกว่านั้น อเมริกายังประกาศก้องต่อโลกว่า อเมริกาจะเข้าไปปกครองประเทศอิรักเสียด้วยตนเอง (พร้อมด้วยเด็กมุสลิมชีอะห์ที่เป็นศัตรูมาตั้งแต่กำเนิดกับซัดดัม ฮุสเซน หยิบมือหนึ่งมาเต้นเชียร์เหยงๆ หน้ากล้องโทรทัศน์สำหรับเอามาโฆษณาชวนหลอกต้มมนุษย์ตามวิสัย) ทำให้ต้องคิดกันว่าอเมริกันกำลังเล่นตลกเส็งเคร็งอะไรกับมนุษยชาติขึ้นมาอีก?

อเมริกาและพวกสวะที่อเมริกาจะเอามาตั้งขึ้นเพื่อปกครองประเทศที่ผ่านการต่อสู้มาร้อยแปดในอิรักนั้น อเมริกาและสวะเหล่านั้นจะเอาบุญวาสนาที่ไหนมาปกครองคนอิรักที่มีอยู่ทุกวันนี้ (โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม)

การเป็นคนอิรัก เป็นคนมุสลิมที่มีลัทธิศาสนาและลัทธิความเชื่อของตน ซึ่งเป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่ในตะวันออกกลางมาเป็นพันๆ ปีนั้น มันจะรีบหายออกไปจากอิรักได้ง่ายๆ เพียงแต่คนอย่างประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุชมานั่งหลับหูหลับตาบอกให้เชื่อก็ยอมอย่างง่ายดายเอาเชียวหรือ?

ผมไม่มีวันเชื่อมันจะเป็นไปได้ แม้ว่าอิรักจะทิ้งเมืองทุกเมืองปล่อยให้นักรบอเมริกันเดินเข้ามาโก้ๆ แล้วก็ประกาศออกมาว่า อเมริกายึดอิรักได้เรียบร้อยแล้วก็ตาม!

ต่อให้ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช และนายโทนี่ แบลร์ หรือใครก็ตามคิดว่ามีบุญบารมีมากถึงขนาดที่จะปกครองอิรักและคนอิรักได้นั้น แม้แต่จะขุดลากเอาวิญญาณของบรรพบุรุษอีกหลายชั่วโคตรของตนมาร่วมด้วยก็ไม่มีวันจะทำได้สำเร็จ

อย่างที่ท่านผ่าม วันดง และท่านรัฐมนตรีเหงียน โคทัก บอกผมไว้ การไปรบกับใครที่ไหนนั้นไม่ยาก มีเงินมีอาวุธ มีคนที่พร้อมจะตาย มันก็รบกันได้ทำได้ทั้งนั้น การชนะก็ทำได้ไม่ยาก ปัญหาอยู่ที่ว่าจะปกครองยังไงเมื่อหลังคุณชนะไปแล้ว

http://www.thaimuslimshop.com/news/index.p...tegory=1&id=352

ปล.ยังไม่จบ มันยาวเกินโพสอ่ะ
บันทึกการเข้า

PinMEMO
Growww
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 1
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 82

http://pinmemo.blogspot.com


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2004, 12:36:08 PM »

อ้างถึง
ใครจะยอมให้คุณปกครองหรือใครจะยอมอยู่ใต้อำนาจของคุณ?

วันที่ผมเริ่มต้นเขียนบทความนี้ อเมริกาได้สมมติเอาว่าสงครามที่ตนยกขบวนทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าไปยึดโรงปาเลสไตน์ โดยไม่มีการต่อสู้หรือไม่มีคนตายตลอดถึงการระเบิดถล่มทลายวังซัดดัม 3 แห่งพร้อมกันในวันแรก แล้วก็สมมติเอาว่าประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน และลูกชายพากันกอดคอกันตายจนเหลือแต่กระดูก อเมริกันอย่างประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช และนายกรัฐมนตรี โทนี่ แบลร์ของอังกฤษ ก็สมมติเอาว่าอิรักแพ้ไปแล้ว โดยไม่มีใครทราบว่าคนอิรักและทหารอิรักนับเป็นล้านๆ คนนั้น พากันไปขุดรูอยู่ที่ไหนกันเสียหมด ไม่มีภาพ ไม่มีข่าว ไม่มีอะไรให้เห็น นอกจากปล่อยให้อเมริกันโง่ๆ พวกนั้น คิดเอาเองแล้วประกาศออกมาเท่านั้นก็ลงมือเตรียมตั้งรัฐบาลอิรักชุดใหม่ขึ้นมาเอง และพากันนั่งตีพุงปกครองอิรักอย่างสนุกสนานกันต่อไป

มันง่ายแสนง่ายอย่างอัศจรรย์!

การรบหรือการกัดกัน แม้แต่สิงสาราสัตว์ทุกชนิดมันก็ไม่เงียบเหงาถึงขนาดนี้!

ผมสงสัยว่าคนอิรัก คนมุสลิม คนตะวันออกกลางมันกินหญ้ากินฟางกันทุกชาติไปหมดแล้วกระนั้นหรือ?

หรือเพราะว่าคนอิรักและคนมุสลิมหรือคนตะวันออกกลางทุกวันนี้ เพียงได้ยินชื่ออเมริกาและประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช แล้วก็ถึงกับขุดหลุมฝังตัวเองและลูกหลานกันหมดงั้นหรือ?

แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นลงเอยประการใดก็ตาม เป็นเรื่องที่จะเชื่อว่าการปล้นสะดมของอเมริกา ซึ่งเป็นหลักการอันมั่นคงของชาติที่ท่านประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ได้ลิขิตไว้ว่า อเมริกาจะต้องปกครองโลกนั้น จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากบรรดาประเทศเล็กๆ หรือประเทศขยะ (FAILED STATES) ที่อเมริกาหมายหัวไว้นั้น จะต้องถูกขยี้ ถูกทำลายและสิ้นความเป็นชาติเป็นประเทศต่อไป

คำว่า ค่านิยม (VALUES) ของอเมริกาที่อเมริกาได้นำมากล่าวถึงในฐานะมันเป็นหลักของโครงการล่าเมืองขึ้น ซึ่งมันก็คือลัทธิเผด็จการที่ระยำที่สุดของอเมริกัน ซึ่งเป็นเสมือนยากลางบ้านที่อเมริกันจะนำมาพูดซ้ำๆ เสมอเช่นคำว่า เราจะต้องเคารพสิทธิในทรัพย์สินของบุคคล (RESPECT FOR PRIVATE PROPERTY) สนับสนุนกฎหมายและนโยบายที่มีกฎเกณฑ์ที่จะกระตุ้นให้เกิดการลงทุนด้านธุรกิจ (PROGROWTH LEGAL AND REGULATORY POLICIES TO ENCOURAGE BUSINESS INVESTMENT) การประดิษฐ์คิดสรรค์ทำสิ่งใหม่ๆ ขึ้น (INNOVATION)

และการปล้นสะดมอื่นๆ นานาที่เป็นความชำนาญของจักรวรรดินิยมและขบวนการล่าเมืองขึ้น ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วยังรวมถึง นโยบายภาษีอากร เฉพาะอย่างยิ่ง อัตราภาษีอากรที่ต่ำที่สุด ซึ่งจะช่วยให้แก้ปัญหาที่จะกระตุ้นการมีงานทำและการลงทุน รวมถึงระบบการเงินที่เข้มแข็งที่สุดที่จะทำให้การบริหารทุนอยู่ในสภาพที่มีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่จะมีได้ และที่สำคัญที่สุดก็คือ นโยบายการเงินที่จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการดำเนินธุรกิจขึ้น ซึ่งความมุ่งหมายที่เอกสารฉบับที่นำเรื่องนี้มากล่าวทั้งหมด ท่านประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช กล่าวว่า บทเรียนจากประวัติศาสตร์ให้การยืนยันที่ชัดแจ้งก็คือว่า การที่เศรษฐกิจของประเทศต่างๆ หรือทุกประเทศที่ต้องกระทำตามสิ่งที่เรียกว่า ค่านิยมของอเมริกันนั้นก็คือ เศรษฐกิจการตลาด (MARKET ECONOMIES) ไม่มีการบังคับหรือมีการควบคุมด้วยมาตรการใดๆ โดยอำนาจของรัฐบาลแต่ละประเทศ ซึ่งการดำเนินเศรษฐกิจดังกล่าวนี้ เป็นวิถีทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้ความมั่งคั่งเกิดขึ้น และลดความยากจนของประชาชนพลเมืองลง นโยบายดังกล่าวนี้จะช่วยให้ตลาดมีความมั่นคง ตลาดจะมีลักษณะเป็นสถาบันที่มีอยู่ทั่วไปเหมือนตลาดทุกหนทุกแห่งในโลก ไม่ว่าจะเป็นตลาดในประเทศอุตสาหกรรม ตลาดที่กำลังเกิดและตลาดในโลกที่พัฒนาแล้ว

ในสมัยหนึ่ง เมืองไทยเต็มไปด้วยผู้คนที่เรียกกันว่า คนรุ่นใหม่จำนวนมาก มักจะพูดถึงการเอารัดเอาเปรียบของประเทศทุนนิยม-จักรวรรดินิยม และก็จะถูกมองไปว่าเป็นพวกฝ่ายซ้ายหรือเป็นคอมมิวนิสต์ไปถึงขนาดเสียคนไปก็มี แต่ความเป็นจริงมันคือข้อความที่ปรากฏอยู่ในเอกสารของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ชิ้นนี้ในฐานะที่เป็นผู้นำและเป็นผู้แทนของประเทศทุนนิยมที่กำหนดลงไปเป็นมั่นเป็นเหมาะนี้ ก็เพื่อที่จะใช้เป็นนโยบายปล้นประเทศชาติต่างๆ ด้วยวิธีการเหล่านี้ ซึ่งทุกประเทศในองค์การสหประชาชาติทั้งหมด ได้ตกเป็นทาสและกลายเป็นทาสจนโงหัวกันไม่ขึ้น ยกเว้นประเทศอิรักและเกาหลีเหนือ ซึ่งอเมริกาและประเทศทุนนิยม-จักรวรรดินิยมเหล่านี้ กำลังเอาปูนหมายหัวจะสั่งสอนด้วยการรุมกระทืบกับพวกล่าเมืองขึ้นที่มีหางสีเดียวกัน เพราะไม่ยอมก้มหัวให้

สำหรับเมืองไทยนั้น ไม่ต้องพูดถึง เพียงแต่พวกอเมริกันหรืออังกฤษพวกนี้ขยับเท้าให้ได้ยินสักครั้งสองครั้งก็ยอมหมด ด้วยการขายชาติอย่างไม่ให้มีอะไรเหลือ คนไทยที่ยังไม่รู้ว่าการขายชาติหรือการล่าเมืองขึ้นอย่างกันเอง และการขายด้วยความสุภาพของคนไทยก็อยากจะขอให้เปิดอินเทอร์เน็ตรายการ หนี้แผ่นดิน ของยูบีซี 7 ดู ที่นั่นมีรายการของอาจารย์ดุสิต ศิริวรรณ จะต้องขนลุกขนพอง ถ้าหากใครมีเหลือความเป็นคนไทยอยู่ในเส้นเลือดสักเล็กน้อย และรายละเอียดที่ไม่มากนักแต่กะทัดรัดและหมดเนื้อความก็คือ รายงาน ข่าวปนคน คนปนข่าว ของ เซี่ยงเส้าหลง ในหน้า 16 ของหนังสือพิมพ์ ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันพุธที่ 9 เมษายน 2546 ก็จะได้รับความรู้เพิ่มเติมอย่างไม่ต้องไปศึกษาปริญญาที่ไหน การขายชาติที่ทำกันนั้นชัดเจนมาก เหมาะสมอย่างยิ่งที่ข้าราชการผู้มีอำนาจ หรือนักการเมืองที่จะเล่นการเมืองต่อไป หรือรัฐมนตรีที่ยังรับประทานไม่อิ่ม จะต้องช่วยกันศึกษาฝืกปรือเอาไว้เพื่อยังมีโอกาสที่จะหากินได้อีก ก็จะไม่ต้องหาวิธีการให้เหน็ดเหนื่อย

บันทึกการเข้า

PinMEMO
Growww
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 1
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 82

http://pinmemo.blogspot.com


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2004, 12:36:56 PM »

อ้างถึง
ประเทศไทยยังมีหลายอย่างที่ขายได้อยู่เสมอทั้งในอดีต ปัจจุบันและในอนาคต

หลักคิดและปรัชญาในการพัฒนาบ้านเมืองให้มั่งคั่งสมบูรณ์ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลสัพเพเหระที่ไหน หรือนักเศรษฐศาสตร์ประเภทศาสตราจารย์มาจนถึงนักวิชาการกระจิบกระจอกที่ไหน แม้แต่นักการเมืองชั้นยอดที่พากันขายชาติขายแผ่นดินกันไปเรียบร้อยแล้ว จะมีคำที่จะต้องนำมาใช้อย่างทั่วถึงกันอยู่คำเดียวที่พูดกันได้คล่องปากคล่องใจ โดยมีความเชื่อทั้งด้วยชีวิตวิญญาณว่าจะทำให้ประเทศชาติร่ำรวย นั่นคือคำว่า เศรษฐกิจการตลาด หรือ MARKET ECONOMY นี่เอง เพราะพากันหลับหูหลับตาเชื่อทั้งตัวเองและทำให้คนอื่นเชื่อว่า การที่จะสร้างประเทศขึ้นมาได้อยู่ที่การตลาดที่ในท้องถิ่นของตัวเองหรือในประเทศของตัวเองไม่มี แต่ตลาดที่หาได้นั้น จะต้อง (1) ใช้อาวุธและกำลังเข้าไปปล้นหรือไปยึดเอาอย่างที่อเมริกากำลังทำกับอิรักและตะวันออกกลางอยู่ในขณะนี้ (2) การเข้าไปปล้นและเข้าไปยึด นั่นหมายถึงว่าย่อมจะได้ทั้งตลาดทั้งผู้คน ทรัพย์สิน ทรัพยากรและภาษีอากรจากคนในประเทศที่ไปปล้นไปบำรุงบ้านเมืองของตนเอง โดยประเทศของตนและผู้คนของตนเองไม่ต้องรับภาระ (3) จะได้ผู้คนไปตายแทนคนของตนเองในยามเกิดสงครามในรูปของทหารและนักรบอย่างที่ฝรั่งเศสเคยใช้คนในเวียดนามไปตายในสนามรบทุกแห่ง ที่คนฝรั่งเศสไม่ต้องการตายหรือแม้แต่ญี่ปุ่นที่เคยปล้นเกาหลีเอาเป็นเมืองขึ้นก็ได้ใช้นักรบเกาหลีเข้ามาช่วยในสงครามโลกครั้งที่สอง

ตลาดมีความสำคัญที่สุดสำหรับประเทศทุนนิยม-จักวรรดินิยม ถ้าไม่มีตลาดประเทศเหล่านี้ จะไม่มีโอกาสลืมตาอ้าปากขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นทุกคนจะต้องได้รับการอบรมสั่งสอนกันในเรื่องนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นประเทศไหนขอให้ถือว่า คนเราเกิดมานั้น ต้องปล้นเอาไว้ก่อน!

เพราะฉะนั้น ขบวนการสังคมนิยมที่มีคนคอยเฝ้าดูพฤติการณ์ของสัตว์ร้ายต่างๆ ที่กำลังกัดกำลังกินและกำลังปล้นสะดมอยู่ทั่วโลกในขณะนี้ จึงมีการสรุปลงไปว่าปัจจุบันนี้สังคมมนุษย์กำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤติทางด้านเศรษฐกิจอย่างรุนแรงและถลำลึกไปทั่วทั้งโลก ซึ่งประเทศทุกภูมิภาคของโลกในขณะนี้ ซึ่งต่างก็ได้รับความทุกข์ยากอย่างสาหัสก็เพราะผลของเศรษฐกิจการตลาดที่ว่านี้ ในแอฟริกาเอากันเฉพาะแองโกลาประเทศเดียวเท่านั้น ที่เป็นประเทศร่ำรวยด้วยแร่ธาตุ น้ำมันและสัตว์น้ำมหาศาล แต่เพราะความอ่อนแอจากความขัดแย้งกันเองของคนในประเทศนั่นเอง ทำให้ถูกนักการตลาดที่จ้องล่าเมืองขึ้นพากันปล้นเอาไปเสียหมด ขณะนี้แองโกลามีประชากรตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่กำลัง พร้อมที่จะตายหรือนอนรอความตาย เพราะความอดอยากอยู่ถึง 8 ล้านคนเห็นๆ!

นั่นคือผลของเศรษฐกิจการตลาดที่เป็นอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ที่อเมริกานำมาอ้างทุกลมหายใจ เมื่อลงมือและวางแผนปล้นโลกและปล้นประเทศที่ยากจนไม่ยอมหยุด

เวลานี้ในองค์การสหประชาชาติมีประเทศที่เป็นสมาชิกขององค์การสหประชาชาติเกือบสองร้อยชาติ ทุกชาติอยู่ภายใต้การพัฒนาบ้านเมืองตามหลักเศรษฐกิจการตลาดอันชั่วช้านี้ มีประเทศไหนที่สามารถพ้นความทุกข์ยากฉิบหายไปด้วยประการต่างๆ ได้บ้าง แม้แต่อเมริกาเองและประชาชนในอเมริกาก็อดอยากไม่น้อยกว่า 75 ล้านคน

หลังจากที่พยายามทำลายคอมมิวนิสต์ในรัสเซียได้สำเร็จแล้วรีบเร่งสร้างระบบทุนนิยมหรือระบบเศรษฐกิจการตลาดขึ้นมา มาถึงตอนนี้ทุกอย่างมันชัดเจนว่ารัสเซียกำลังตกอยู่ในสภาพที่มีแนวโน้มว่าชาติอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ จะมีสภาพเป็นเพียงป่าช้าที่น่าสมเพชเวทนาป่าช้าหนึ่ง เพราะผู้คนกำลังตายลงมากกว่าการเกิด หรือการไม่ยอมให้เกิดเพราะความยากจน แต่ที่แน่นอนที่สุดก็คือการตายของประชาชนชาวรัสเซียนั้นมากเกินกว่าเกิดในอเมริกาใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่ไอเอ็มเอฟตื่นเต้นร่าเริงเพราะได้ไปให้ความช่วยเหลือและพัฒนาประชาชนที่นั่นอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่คนตายไม่ใช่ไอเอ็มเอฟ แต่เป็นประชาชนแอฟริกาใต้ทั้งหมด เพราะการพัฒนาเศรษฐกิจของอเมริกาใต้ในขณะนี้ สามารถจะไปสำรวจดูมันพังทลายอย่างไม่เป็นล่ำเป็นสันไปทั้งทวีป เฉพาะคนแอฟริกาใต้นั้น ที่กำลังรอความตายเพราะโรคเอดส์เห็นอยู่จำนวนมากมาย การพัฒนาเศรษฐกิจการตลาดของระบบทุนนิยม-จักรวรรดินิยม ที่ถือเป็นสูตรตายตัวที่เอาไปนั้น พูดได้คำเดียวว่า ล้มเหลวและนำมาซึ่งความฉิบหายอันยิ่งใหญ่สาหัสที่ไม่เคยเป็นกันมาก่อน

นอกจากโรคเอดส์ที่เป็นกันอย่างเอาเป็นเอาตายแล้วต่อมาที่ร้ายที่สุดก็คือ มาลาเรีย และวัณโรคที่กำลังฆ่าคนแอฟริกาใต้ไปเป็นล้านคนแล้ว เฉพาะมาลาเรียอย่างเดียวเท่านั้น ประเทศในแอฟริกาต้องลดงบประมาณของตนลงไปปีละไม่น้อยกว่า 0.5 เปอร์เซ็นต์

คนที่นั่นเคยมีอายุยืนยาวอยู่ได้อย่างน้อย 50 ปี ในปี 1987 แล้วมาถึงปี 1999 ลดลงเหลือเพียง 47 ปี ก็รีบตายกันเพราะผลการพัฒนาประเทศด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจการตลาดหรือเศรษฐกิจการปกครองเมืองขึ้นที่นำมาโอ้อวดอย่างไม่รู้สึกละอายนั้น มันช่วยแต่ให้คนทุกคนอับจนและฉิบหายเร็วขึ้นไปเท่านั้น เฉพาะประเทศที่โรคเอดส์ได้ขยายตัวออกไปเพราะผลการพัฒนาเศรษฐกิจการตลาดจนประเทศเหลือแต่แผ่นดินที่ถูกปล้นถูกโขมยทรัพยากรออกไปหมด และผู้คนที่เป็นเพียงขยะอย่างในบอตสวานา, ซิมบับเว แอฟริกาใต้ ระยะอายุยืนเฉลี่ยจะลดลงคนละ 10 ปีเป็นอย่างน้อย จากรายงานชื่อ (POVERTY REDUCTION AND WORLD BANK EXECUTIVE SUMMARY)

สภาพความวิบัติหายนะของประชาชนพลโลกในประเทศด้อยพัฒนาที่อยู่ภายใต้การโอบอุ้มของระบบทุนนิยมที่โอ้อวดอยู่ดังนี้ ในรายงานชิ้นเดียวกันของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช กับพวกก็ยอมรับว่า จำนวนครึ่งหนึ่งของประชากรโลกทุกวันนี้ ส่วนมากมีชีวิตอยู่ได้วันละไม่เกิน 2 ดอลลาร์เท่านั้น แต่ก็ยืนยันว่าจากนโยบายของอเมริกาที่ประธานาธิบดีกับพวกร่างขึ้นมานั้น สามารถที่จะรับผิดชอบต่อความอดอยากหิวโหยของประชาชนที่มาอยู่ทั่วโลกนี้ได้เพียงแต่ความวิบัติโดยไม่มีอะไรต้องสงสัยต่อไปอีก แต่ระบบอุบาทว์นี้ก็ยังทำหน้าที่ของมันอยู่ทั่วทั้งโลก โดยการเผยแพร่ของประเทศล่าเมืองขึ้นเหล่านี้มาตั้งหลายร้อยปีมาแล้ว

วิธีการแสวงหาตลาดของทุนนิยม-จักรวรรดินิยมนั้น อเมริกาได้พยายามโกหกมดเท็จและอวดอ้างว่า ตนเป็นคนใจกว้างหรือประเทศที่ใจกว้าง จะไปปล้นที่ไหนแล้วจะไม่ปล้นเพียงคนเดียว แต่จะแบ่งให้พวกโจรอื่นๆ ได้รับผลประโยชน์ด้วย อย่างในการปล้นอิรักและตะวันออกกลางครั้งนี้ก็เหมือนกัน นอกจากประเทศหลายประเทศจะได้รับส่วนแบ่งผลประโยชน์แล้ว ยังมีบางประเทศที่อเมริกันลากคอไปให้ผลประโยชน์ฐานะผู้ดำเนินการร่วมกันเพราะความใจกว้างของอเมริกันนั่นคือ อังกฤษ

ระบบเศรษฐกิจการตลาด ซึ่งเป็นแขนงหนึ่งของลัทธิใช้อเมริกันเป็นศูนย์กลางของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือลัทธิที่ต้องยอมรับให้อเมริกาเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดระหว่างชาติ (DISTINCTLY AMERICAN INTERNATIONALISM) นี้ เอกสารกำหนดนโยบายครองโลกของท่านประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ก็ลงทุนอวดอ้างว่า ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีมานะพยายามอย่างยิ่งที่จะให้การสนับสนุนชุมนุมระหว่างชาติตามแผนการที่กล่าวนี้ เราไม่เคยลังเลเลยในการที่จะไม่ทำเพียงประเทศเดียวเท่านั้น แต่เรายินยอมหรือแบ่งปันให้ชาติที่เป็นสมุนบริวารหรือมีความหลงใหลใฝ่ฝันที่จะเป็นสมุนบริวารอื่นเข้ามาร่วมมีหุ้นส่วนด้วย (WHILE THE UNITED STATES WILL CONSTANTLY STRIVE TO ENLIST THE SUPPORT OF THE INTERNATIONAL COMMUNITY WE WILL NOT HESITATE TO ACT ALONE) แม้แต่องค์การสหประชาชาติก็จะต้องเข้ามามีส่วนในสงครามอิรักในฐานะผู้วิ่งหาเงินทุนจากชาติอื่นทั้งหมดที่เป็นลูกมือที่มีอยู่ในองค์กรขยะแห่งนี้เพื่อมาใช้จ่ายหลังจากที่อเมริกาและสมุนบริวารใช้อาวุธร้ายแรงถล่มราบคาบไปเรียบร้อยแล้ว จนบ้านเมืองย่อยยับไปหมด ผู้ที่จะเข้ามามีส่วนหรือเข้ามาร่วมมือในการชดใช้ความเสียหายนี้ องค์การสหประชาชาติมีหน้าที่ที่จะต้องไปรีดเงินสมุนบริวารอื่นๆ มาแทนการปล้นสะดมที่อเมริกากระทำลงไป

นี่คือนโยบาย กูจะอยู่ค้ำฟ้า ของอเมริกาทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

หวานและมันยิ่งนัก!!
บันทึกการเข้า

โจ ™
สมาชิกลำดับที่: 41
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 219
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8187


รวมเวลาที่อยู่ในระบบ: 555 วัน 5 ชั่วโมง 55 นาที


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2004, 12:39:51 PM »

มีภาคต่อไปป่าวครับเนี่ย  ยาวน่าดูเลย   Shocked Shocked
บันทึกการเข้า

บางโพ 5
JarengkaBOW
Dog in Thailand
Hero Member
*****

คะแนน 18
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6150

By physically, the object couldn't lit by itself.


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2004, 12:45:01 PM »

Sign ของคุณ The Evolution ดีนะเจ้าค่ะ.....

บอก IP address, OS, IE version ของคนดูหมดเลย
บันทึกการเข้า

I am dying... -*-


PinMEMO
Growww
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 1
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 82

http://pinmemo.blogspot.com


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2004, 12:46:42 PM »

ภาคแรกกดที่นี่ โครงการ กูจะอยู่ค้ำฟ้า ของอเมริกัน (1)
บันทึกการเข้า

submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #6 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2004, 12:53:24 PM »

มีโปรแกรมกำจัดไวรัสให้ด้วยสิ
 Grin Grin
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

มะเอ็ม
Hero Member
*****

คะแนน 348
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4749


"ปักษ์ใต้บ้านเรามันเหงาจังไม่มีคนนั่งแลหนังโนราห์"


« ตอบ #7 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2004, 01:08:15 PM »

ยาวน่าดู Grin Grin Grin
ไม่มีใครที่ไหนยอมให้คนอื่นมายึดบ้านเขาตัวเองหรอกครับ
ต้องสู้กันไปจนสิ้นสุดคนสุดท้าย Angry
บันทึกการเข้า
แมว
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2004, 01:12:33 PM »

โครงการ "กูจะอยู่ค้ำฟ้า" ของอเมริกัน (3) มาแล้ว

http://www.thaimuslimshop.com/news/index.php?category=1&id=353

ลองเข้าไปอ่านดูนะครับ
 
บันทึกการเข้า
แมว
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2004, 01:15:32 PM »

โครงการ กูจะอยู่ค้ำฟ้า ของอเมริกัน (4)

http://www.thaimuslimshop.com/news/index.php?category=1&id=354

มาอีกแล้วครับ Shocked
บันทึกการเข้า
แมว
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2004, 01:23:34 PM »

และภาคสุดท้าย(ภาค 5) ก็อยู่ ที่นี่ไง
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.132 วินาที กับ 22 คำสั่ง