เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 01, 2024, 10:29:48 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: * * * โรคหัวใจวาย * * *  (อ่าน 5268 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #30 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2011, 10:22:48 AM »


                      น้องปูเป็นไงมั่งครับน้าอรรถ

บันทึกการเข้า

                
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #31 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2011, 10:37:01 AM »

ระวังกันไว้ครับ Grin Grin Grin ออกกำลังกายช่วยได้
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« ตอบ #32 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2011, 10:38:57 AM »


                      น้องปูเป็นไงมั่งครับน้าอรรถ



เหลือแผลแห้งตกสะเก็ดครับ ส่วนแผลเย็บ 5 เข็มเรียบร้อยดีครับ  ปวดเมื่อยและเจ็บสะโพกอยู่ครับผม ขอบคุณครับน้าปู  ไหว้ หลงรัก
บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
saengsakul-รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 111
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 360


« ตอบ #33 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2011, 05:45:53 PM »

  ขอบคุณครับ คุณ pasta  ไหว้ <455>
บันทึกการเข้า
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #34 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2011, 06:28:45 PM »


                   จัดต่อ  456   สวย
บันทึกการเข้า

                
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« ตอบ #35 เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2011, 12:03:48 PM »

  ขอบคุณครับ คุณ pasta  ไหว้ <455>

เยี่ยม สู้ตาย > 39 <  ไหว้

                   จัดต่อ  456   สวย

ไหว้ ขอบคุณครับผม > 2399 <


วันนี้ 08.40 น. พารุ่นพี่อายุ 49 ปี ส่ง รพ.  อาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก ... แกบอกเหมือนหลังจะขาด ( ไม่มีโรคประจำตัว ) / ก่อนผมกลับมานี้กำลังตรวจหัวใจ ปอด   ผมรอจนน้องสาวเขามา ( 10.30 น. )  และส่งไม้ต่อรับช่วงไป
บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
saengsakul-รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 111
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 360


« ตอบ #36 เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2011, 03:32:12 PM »

  ขอบคุณครับ คุณ pasta  ไหว้ <455>

เยี่ยม สู้ตาย > 39 <  ไหว้

                   จัดต่อ  456   สวย

ไหว้ ขอบคุณครับผม > 2399 <


วันนี้ 08.40 น. พารุ่นพี่อายุ 49 ปี ส่ง รพ.  อาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก ... แกบอกเหมือนหลังจะขาด ( ไม่มีโรคประจำตัว ) / ก่อนผมกลับมานี้กำลังตรวจหัวใจ ปอด   ผมรอจนน้องสาวเขามา ( 10.30 น. )  และส่งไม้ต่อรับช่วงไป



                    โรคหัวใจ,เบาหวาน,มะเร็ง เป็นโรคยอดฮิต คนไทยนิยมเป็นกันมาก(จำยอม).....เมื่อวานผมชมรายการของ ดร.ณรงค์  โฉมเฉลา
    เกี่ยวกับสรรพคุณของ "น้ำมันมะพร้าว" ที่เป็นน้ำมันมหัศจรรย์ของชาวเอเซียที่ถูกลืมมากว่า ๔๐ ปี ไปหลงชื่นชมยินดีกับน้ำมันถั่วเหลืองของ
    พวกฝรั่ง....น้ำมันมะพร้าวมนุษย์รู้จักและใช้ประโยชน์มา ๔,๐๐๐ กว่าปี ป้องกัน รักษาได้หลายโรค...น่าเข้าไปศึกษานะครับ  #458#
เยี่ยม[/color]
บันทึกการเข้า
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« ตอบ #37 เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2011, 09:55:26 PM »

  ขอบคุณครับ คุณ pasta  ไหว้ <455>

เยี่ยม สู้ตาย > 39 <  ไหว้

                   จัดต่อ  456   สวย

ไหว้ ขอบคุณครับผม > 2399 <


วันนี้ 08.40 น. พารุ่นพี่อายุ 49 ปี ส่ง รพ.  อาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก ... แกบอกเหมือนหลังจะขาด ( ไม่มีโรคประจำตัว ) / ก่อนผมกลับมานี้กำลังตรวจหัวใจ ปอด   ผมรอจนน้องสาวเขามา ( 10.30 น. )  และส่งไม้ต่อรับช่วงไป



                    โรคหัวใจ,เบาหวาน,มะเร็ง เป็นโรคยอดฮิต คนไทยนิยมเป็นกันมาก(จำยอม).....เมื่อวานผมชมรายการของ ดร.ณรงค์  โฉมเฉลา
    เกี่ยวกับสรรพคุณของ "น้ำมันมะพร้าว" ที่เป็นน้ำมันมหัศจรรย์ของชาวเอเซียที่ถูกลืมมากว่า ๔๐ ปี ไปหลงชื่นชมยินดีกับน้ำมันถั่วเหลืองของ
    พวกฝรั่ง....น้ำมันมะพร้าวมนุษย์รู้จักและใช้ประโยชน์มา ๔,๐๐๐ กว่าปี ป้องกัน รักษาได้หลายโรค...น่าเข้าไปศึกษานะครับ  #458#
เยี่ยม[/color]

น้ำมันมะพร้าว   เยี่ยม  ...  ขอบคุณครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #38 เมื่อ: พฤษภาคม 30, 2011, 06:27:55 PM »

ะลึง! คนไทยเป็น 5 โรคเรื้อรังพุ่ง เสี่ยงอัมพฤกษ์ อัมพาต 10 ล้านคนวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 เวลา 16:26:30 น.
Share9



 
เพราะวิถีการดำเนินชีวิตขาดความสมดุล สิ่งแวดล้อมไม่ปลอดภัย มีปัจจัยเสี่ยงสารพัดที่กระทบต่อสุขภาพ เช่นอาหารฟาสต์ฟู้ด อาหารจานด่วนประเภททอด ปิ้ง ย่าง หนักไปทางเนื้อกับไขมัน อาหารรสจัดๆ โดยเฉพาะหวานมากและเค็มจัด ไม่รับประทาน ผักผลไม้ มีความสะดวกสบายเกินไปจะใช้อะไรก็แค่ปลายนิ้วสัมผัส ร่างกายแทบไม่ต้องขยับ ที่สำคัญมีความเครียดสูง แถมดื่มเหล้าสูบบุหรี่เพิ่มขึ้นแม้ว่าจะมีการรณรงค์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ด้วยเหตุนี้ ทำให้คนเรามีปัญหาภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนมากขึ้น และส่งผลให้กลายเป็น  “โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” หรือที่เรียกว่า “โรควิถีชีวิต” แพร่ระบาดไปทั่ว และทั้งที่โรคเหล่านี้สามารถป้องกันได้ แต่สถานการณ์ปัจจุบันกลับเข้าขั้นวิกฤต


 องค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี 2548 ในจำนวนการตายของประชากรโลกทั้งหมดประมาณ 58 ล้านคน มีถึงร้อยละ 60 ที่ตายจากโรคเรื้อรัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง 5 โรค คือ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคมะเร็ง
ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น


  2 ปีที่ผ่านมา มีคนไทยป่วยด้วยโรคเบาหวาน 3.5 ล้านคน แต่มีถึง 1.1 ล้านคนที่ไม่รู้ว่าตนเองป่วย ที่น่าห่วงยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ผู้ป่วยเหล่านี้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองสูงกว่าคนปกติถึง 2-4 เท่า และมากกว่าครึ่งมีความผิดปกติของระบบประสาท และเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย เกิดภาวะแทรกซ้อนทางตา เท้า  และไต
ในรายที่เป็นไม่มากผู้ป่วยมักไม่มีอาการผิดปกติ แต่ในรายที่เป็นมาก (ระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่า 200 มก./ดล.) จะมีอาการให้สังเกตได้คือ ปัสสาวะบ่อยและมาก หิวและกระหายน้ำบ่อย อ่อนเพลียไม่มีแรง บางคนปัสสาวะแล้วมีมดขึ้น อาการเหล่านี้บ่งบอกว่าถึงขั้นน่าเป็นห่วง


ต่อมาก็เป็น โรคความดันโลหิตสูง ในช่วงปีเดียวกันนั้นมีคนไทยที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปเป็นโรคนี้สูงมากถึง 10.8 ล้านคน โดย 5.4 ล้านคนที่ไม่รู้ว่าตนเองเป็นอยู่


ความร้ายแรงแบบโดมิโนของโรคความดันโลหิตสูง อยู่ตรงที่คนที่เป็นโรคนี้มักมีคอเรสเตอรอลสูงกว่าคนปกติ 6-7 เท่า เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและโรคหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 และร้อยละ 25 ตามลำดับ และมีโอกาสเสียชีวิตจากหัวใจวายถึงร้อยละ 60-75 หลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตันร้อยละ 20-30 ไตวายร้อยละ 5-10 และมีโอกาสเป็นอัมพาตมากกว่าคนปกติถึง 5 เท่า และโอกาสเสียชีวิตสูงกว่าคนปกติ 2-4 เท่า


   คนเป็นโรคความดันโลหิตสูงระยะแรกจะไม่แสดงอาการ แต่ก็เป็น “เพชรฆาตเงียบ” ที่สร้างความเสียหายอย่างมากมายต่อหลอดเลือดและอวัยวะอื่นๆ หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รีบรักษาจะเกิดการเสื่อมสภาพของหลอดเลือดแดง โดยเฉพาะหลอดเลือดที่ส่งเลือดไปเลี้ยงสมอง ตา หัวใจ และไต ทำให้หลอดเลือดสมองตีบตันหรือแตก จนเกิดเป็นอัมพาต และอาจทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือด เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว หรือหัวใจวายตามมา รวมทั้งเกิดโรคไตวายเรื้อรัง


  สำหรับ โรคหัวใจ 2 ปีที่ผ่านมา มีคนไทยเสียชีวิตจากโรคนี้เฉลี่ย 50 คนต่อวัน หรือชั่วโมงละ 2 คน และเจ็บป่วยนับเฉพาะที่เข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในมีมากเฉลี่ยถึง 1,185 รายต่อวัน  โรคหัวใจที่พบได้มากมีทั้ง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน โรคหัวใจล้มเหลว โรคหัวใจวาย และอื่นๆ
 และนับวันก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ


ผลการสำรวจพฤติกรรมคนไทยล่าสุดพบว่า คนไทยมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจสูงถึงร้อยละ 86 เพราะความนิยมบริโภคอาหารไขมันสูง ทำให้มีไขมันสะสมในเส้นเลือดแดง ส่งผลให้เกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดตีบตามมา จนมีคนไทยจำนวนมากที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร


  โรคหลอดเลือดสมอง หรืออัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นอีกโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่มีแนวโน้มการเกิดผู้ป่วยที่สูงขึ้นมาก
 โรคหลอดเลือดสมองแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ โรคหลอดเลือดสมองแตก และโรคหลอดเลือดสมองตีบ หรืออุดตัน เฉพาะปี 2550 มีคนไทยอายุ 15-74 ปี ที่ป่วยด้วยโรคนี้เพิ่มขึ้นเป็น 5 แสนคน คาดว่าแต่ละปีมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 150,000 ราย 


ทุกวันนี้มีคนไทยที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเป็นโรคนี้อย่างไม่รู้ตัวอยู่ประมาณ 10 ล้านคน ยิ่งเป็นผู้ที่มีความดันโลหิตสูงยิ่งมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 3-17 เท่าตัว เป็นโรคเบาหวานเสี่ยงเพิ่ม 2 เท่า ภาวะไขมันคอเลสเตอรอลสูงเสี่ยงเพิ่ม 1.5 เท่า และหากมีปัจจัยเสี่ยงมากกว่าหนึ่งปัจจัย โอกาสเกิดโรคนี้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ


นอกจากนี้ ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่นๆ ตามมาอีก โดยเฉพาะ โรคหัวใจขาดเลือด โรคสมองเสื่อม โรคหลอดลมอุดตันเรื้อรัง และมะเร็ง


 โรคนี้ยังไม่พบสาเหตุที่แน่ชัด แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น อายุ เชื้อชาติ ภาวะความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ภาวะไขมันในเลือดสูง ความอ้วน การสูบบุหรี่-ดื่มสุรา


คนทั่วไป โดยเฉพาะคนที่อายุ 45 ปีขึ้นไป หากมีอาการแขนขาชาอ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่ง พูดไม่ชัด พูดไม่ได้ หรือฟังไม่เข้าใจ เดินเซ เวียนศีรษะเฉียบพลัน ตามองเห็นภาพซ้อน หรือมองมืดมัวข้างใดข้างหนึ่ง ต้องรีบไปพบแพทย์ยิ่งเร็วยิ่งดี เพราะนี่คือสัญญาณเตือนของโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต


ด้านการรักษาปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาที่ได้ผลดี การป้องกันไม่ให้เกิดโรคจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุด โดยลดปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือด ความเครียด งดสูบบุหรี่ และเลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์
โรคมะเร็ง สาเหตุการตายอันดับ 1 สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ระบุว่า ในปี 2551 ประเทศไทยมีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ราว 120,000 ราย และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 ในช่วง 10 ปี


มะเร็งที่พบมาก 5 อันดับแรกคือ มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก และน่าสังเกตว่า ผู้หญิงเป็นโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเริ่มพบมากในสตรีอายุ 35 ปีขึ้นไป และพบสูงสุดในกลุ่มอายุ 45 ปี เกือบร้อยละ 50 อยู่ในระยะที่มีการกระจายในต่อมน้ำเหลืองแล้ว
 มะเร็งระยะแรกๆ มักไม่ปรากฏอาการ จนเมื่อเป็นมากขึ้นจะมีอาการเฉพาะ ซึ่งขึ้นกับชนิดของโรคมะเร็งที่เป็น แต่โดยรวมแล้วอาการที่พบทั่วไปในมะเร็งทุกชนิด ได้แก่ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว อาจมีไข้เรื้อรัง ท้องอืดเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน ซีด หน้ามืดเป็นลม ใจหวิว เป็นต้น


สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงส่วนใหญ่เกิดจากการได้รับสารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อนในอาหาร อาหารไขมันสูง อาหารเค็มจัด-หวานจัด อาหารปิ้งย่างเผาเกรียม สารเคมีในผัก-ผลไม้และสารที่ใช้ในการถนอมอาหาร อาหารที่มีสารเจือปนผสมสีสังเคราะห์ สารอะฟาทอกซิน การสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ การสัมผัสแสงแดดจัดเป็นประจำ การได้รับเชื้อไวรัส การติดเชื้อพยาธิใบไม้ในตับ และอื่นๆ มีเพียงส่วนน้อยที่มาจากความผิดปกติในร่างกายหรือพันธุกรรม
 หันมาดูตัวเองแล้ว หากใครจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง ก็ควรหมั่นไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินความเสี่ยงการเป็นมะเร็ง เพราะการตรวจพบระยะแรก โอกาสรักษาให้หายขาดจะมีมากขึ้น


   การรู้เท่าทันโรคภัยพร้อมกับการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตสู่พฤติกรรมใหม่ที่เป็นผลดีต่อสุขภาพ จะเป็นวิถีทางสู่การ “ลดทุกข์ สุขเพิ่ม” เพื่อการมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว



 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1306744065&grpid=01&catid=&subcatid=
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #39 เมื่อ: พฤษภาคม 30, 2011, 07:03:19 PM »

ผลวิจัยชี้คนไทยตายก่อนวัยอันควรจากการสูบบุหรี่ วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 เวลา 12:25:56 น.
Share6
 
 ทพ.ญ.กนิษฐา บุญธรรมเจริญ หัวหน้าโครงการพัฒนาการดำเนินการจัดทำเครื่องชี้วัดภาระโรคและปัจจัยเสี่ยง ของประเทศไทย สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้ศึกษาภาระโรคจากปัจจัยเสี่ยงของประชาชนไทย โดยทำการศึกษาทุก 5 ปี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การสูบบุหรี่ล่าสุดในปี  2552 พบว่า การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุให้ประชากรไทยเสียชีวิตประมาณ 5 หมื่นคนต่อปี โดยเฉลี่ย ผู้ชาย 1 ใน 6 คน และผู้หญิง 1 ใน 25 คนเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ ทำให้สูญเสียปีสุขภาวะ(ปีที่มีสุขภาพดี)จากการตายก่อนวัยอันควรและความพิการ 6 แสนปีหรือร้อยละ  11.1 ของภาระโรคทั้งหมดในผู้ชาย และสูญเสียปีสุขภาวะ 8.8 หมื่นปี หรือร้อยละ  2.1  ของภาระโรคทั้งหมดในผู้หญิง  ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดร้อยละ 24  และมะเร็งปอดร้อยละ 20

     

 

 

  “อย่างไรก็ตามพบว่า แนวโน้มผู้สูบบุหรี่ลดลงเล็กน้อย  แต่ภาระจากโรคยังคงเพิ่มขึ้น เป็นผลจากการสูบบุหรี่ในอดีต โดยเฉพาะโรคหัวใจและหลอดเลือด  หากคนไทยทุกคนไม่สูบบุหรี่ จะทำให้ภาระโรคจากการสูบบุหรี่ลดลงร้อยละ  86  ในเพศชาย และร้อยละ  61  ในเพศหญิง ซึ่งปีสุขภาวะทีสูญเสียไปนั้น ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ และเศรษฐกิจด้วย” ทพ.ญ.กนิษฐา กล่าว
 
       ผศ.นพ.สุทัศน์ รุ่งเรืองหิรัญญา กรรมการเครือข่ายวิชาชีพแพทย์ในการควบคุมการบริโภคยาสูบ คลินิกฟ้าใส กล่าวว่า การสำรวจพฤติกรรมของผู้สูบบุหรี่ พบว่า จากจำนวนผู้สูบบุหรี่ทั้งหมด มีร้อยละ  60 ที่มีความคิดอยากเลิกสูบบุหรี่ โดยกว่าครึ่งเคยเริ่มเลิกบุหรี่ด้วยตนเอง ซึ่งในจำนวนนี้กว่าครึ่งไม่สามารถเลิกเองได้ การให้คำแนะนำและสนับสนุนให้ประชาชนเลิกสูบบุหรี่ จึงถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่ปัจจุบันพบว่าภาครัฐยังไม่ได้บรรจุสิทธิเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนเลิกสูบ บุหรี่เข้าไปในหลักประกันสุขภาพทุกระบบ โดยมีเพียงคำแนะนำ แต่ยังไม่มีการจัดเตรียมยาเลิกบุหรี่ ซึ่งผู้ที่ติดบุหรี่หนัก ตั้งแต่วันละ 1 ซองขึ้นไป จะไม่สามารถเลิกเองได้ จำเป็นต้องมียาช่วย แต่เมื่อต้องจัดหายาด้วยตนเอง จึงทำให้ส่วนหนึ่งล้มเลิกความตั้งใจ อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายจากการเลิกบุหรี่ พบว่า คุ้มค่าในการลงทุน เพราะมีค่าใช้จ่ายวันละ 40-60 บาท เพียง 3 เดือน แต่หากยังสูบบุหรี่ก็จะเสียทั้งเงินและเกิดโรคมากมาย  ปัจจุบันประชาชนขอคำแนะนำเลิกบุหรี่ได้ที่สายด่วน 1600 หรือ คลินิกฟ้าใส หรือสอบถามได้ที่ 02-7166556
 
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.155 วินาที กับ 22 คำสั่ง