มีที่ทำงานเป็นพยาบาลโรงพยาบาลพระมงกุฏ ท่านนั้นก็สวยครับ
ผมเคยตั้งกระทู้แบบนี้ที หนึ่ง มีพี่ ท่านหนึ่งว่า "ผมตั้งกระทู้สนองตัณหาตัวเอง"
ผมยังนึกขอบคุณแกอยู่ในใจว่า
เพราะแกเลยทำให้ผมเจอกับ
อย่าตัดสินคนอื่น เคยไหม ในชีวิตที่เราคิดของเราไปเองจากภาพหรือเหตุการณ์ที่ราเห็น แล้วบอกว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นเป็นอย่างไร ดี หรือไม่ดี ทั้งๆที่ภาพที่เราเห็น ก็แค่ภาพๆหนึ่งเท่านั้น
หลายคนดูภาพนี้ เห็น : ผู้หญิงนั่งอยู่ที่ระเบียง ส่วนผู้ชายกำลังซักผ้า
ภาพก็บอกเพียงแค่นั้น
คนที่ไม่เคยเห็นภาพมาก่อน อาจจะบอกว่า...
"แย่จัง เป็นผู้หญิง ไม่ยอมทำงานบ้าน ให้ผู้ชายทำ"
"ผู้ชายคนนี้ดีจังเลย ซักผ้า-ทำงานบ้าน"
"ดูเขามีความสุขดีนะคะ ผู้ชายซักผ้าอย่างมีความสุข ยิ้มละไมเชียว"
"สงสัยผู้หญิงมือเจ็บ เลยซักผ้าไม่ได้ ผู้ชายก็เลยเป็นคนทำ"
"อยากมีสามีดีดีที่ช่วยซักผ้า-ทำงานบ้านอย่างนี้บ้าง" และอื่นๆอีกมากมาย
แต่หากใครที่เคยรู้ เคยเห็นว่าภาพนี้มาอย่างไร เรื่องเล่าของเขาและเธอเป็นอย่างไร ก็จะบอกอีกอย่างหนึ่ง
"นี่เป็นภาพของดิวและต้น ตัวละครในเรื่อง The letter เมื่อหลายปีก่อนนี่นา ดูแล้วซึ้งจริงๆ"
"ที่ต้นเป็นคนซักผ้า เพราะว่าดิวเป็นสาวกรุงเทพ ซักผ้าด้วยมือไม่เป็น เคยใช้แต่เครื่อง"
"ต้นเต็มใจทำให้ดิว เพราะว่าเห็นว่าดิวทำไม่เป็น และไม่อยากให้ดิวลำบาก"
"เป็นความรักของต้นที่มีต่อดิว ที่ได้สิ่งที่ดีให้กับคนที่รัก"
"น่าอิจฉาดิวจังเลย" และอื่นๆอีกมากมาย
แล้วคุณล่ะคะ เมื่ออ่านถึงตรงนี้แล้ว คิดอย่างไรกับภาพที่เห็นบ้าง
หากคุณได้เห็นภาพภาพหนึ่ง จะเป็นภาพที่มีชีวิต เคลื่อนไหวได้ หรือว่าเป็นภาพนิ่งที่ถูกถ่ายเก็บไว้ เรามักใช้ประสบการณ์ จินตนาการ และอคติของเราไปตัดสินว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นเป็นอย่างไรอยู่เสมอ เช่น เมื่อดูภาพ แล้วบอกว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ดีเลย ปล่อยให้สามีซักผ้า หรือว่า ดูเขามีความสุขดีจังเลยนะ ทั้งหมดนี้คือความคิดของคนที่ดู ที่เห็นภาพ แล้วตัดสินคนในภาพว่าเขาเป็นอย่างไร
แต่ข้อเท็จจริงคือ เราเห็นแค่ ผู้ชายในมือมีของคล้ายผ้า และมีฟองสีขาว คล้ายกำลังซักผ้า ผู้หญิงนั่งอยู่ห่างออกไป
ในชีวิตจริง...หากแค่ดูละคร หรือดูภาพ แล้วเล่าต่อให้คนอื่นได้ฟัง ก็ดูเหมือนไม่มีอันตรายอะไร แต่บางครั้ง อ่านข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ และดูข่าวทางโรทัศน์ แล้วก็สลดใจยิ่งนัก เพราะเหตุแห่งการกระทำอันรุนแรง หลายครั้งเนื่องมาจาก เชื่อในสิ่งที่คนอื่นเล่า เชื่อในสิ่งที่ตนเองเห็น แล้วตัดสินว่าดี-ชั่ว ควร-ไม่ควร
เช่น "เมียขี้หึง ยิงดับสามีรักคาที่ทำงาน เพราะเห็นนั่งอยู่กับเลขาสาว" ทั้งๆที่ภาพที่เห็น ก็คือสามีและเลขา กำลังนั่งทำงานด้วยกัน และไม่ได้มีอะไรเกินเลยไป แต่พิษของความหึง และฟังคนอื่นเอามาเล่า ว่าสามีเธอมักไปไหนมาไหนกับเลขาสาวเสมอ(ทำงานด้วยกันก็ต้องไปไหนมาไหนด้วยกันบ้างเป็นธรรมดา) รวมทั้งคำอื่นๆที่ผู้พูดใส่ไข่เข้าไปอีก ก็ย่อมทำให้คนขี้หึงเกิดจุดเดือดของอารมณ์ได้ แล้วผู้พูดที่เก็บไปเล่าให้เขาฟัง จะได้คิดหรือเปล่าว่า สิ่งเล็กๆที่ตนเล่าไปด้วยความสุนุกนั้นสามารถปลิดชีวิตหรือทำลายครอบครัวของเขาได้
กรณีเล็กกว่านี้ แต่ก็เตือนสติได้ไม่น้อย : "เด็กชายเอ (นามสมมติ) ตั้งใจเรียน แต่ขาดเรียนเป็นประจำ หรือบางวันก็หายไปจากโรงเรียนตอนประมาณ 11.00 น. แล้วกลับมาอีกครั้งตอนบ่ายสอง ครูลงโทษที่เด็กชายเอ โดดเรียนด้วยการตี เพราะคิดว่าเด็กชายเอไม่ตั้งใจเรียน เพื่อนคนหนึ่งเห็นแอบไปเห็นเด็กชายเอที่หลังวัด ก็เก้บเอามาเล่าให้เพื่อนและครูฟังว่า "สงสัยเด็กชายเอ ต้องติดกาวแน่เลย ที่หายไปเพราะมัวแต่ไปแอบดมกาวอยู่" แต่จะมีใครรู้บ้างว่า พ่อทิ้งเขาไป แม่เป็นอัมพาต ไม่เคยได้ทานอาหารเช้า เขาต้องรีบมาวัดเพื่อจะได้เก็บข้าวก้นบาตรหลังพระฉันเพลไม่งั้นแม่ครัวอาจจะเทอาหารที่เหลือให้สุนัขและแมว ไม่อยากให้ใครเห็นว่าหนีเรียนมา ห่อข้าวก้นบาตรได้แล้ว ก็รีบออกไปหาที่นั่งใต้ต้นไม้ทานหลังวัด และแบ่งไว้ให้แม่ได้ทานด้วย เพราะครูสงสัย ครูจึงตามไปดู และพบกับความจริงของชีวิตเด็กชายเอ ก็เลยเกิดเป็นเรื่องวัลลี ..2 ..3 ..4 ...5 เด็กกตัญญู ในสื่อต่างๆมากมาย
ยังไม่ได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมด ก็อย่าเพิ่งไปด่วนสรุปว่าเป็นอย่างไร หรือตัดสิน ดี-ชั่ว งาม-ไม่งาม เพราะภาพที่เห็น อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดเสมอไป
คนนินทาคนอื่นในสังคม แล้วคนร่วมในวงนินทาก็เชื่อในสิ่งที่ได้ฟัง..ยังมีอยู่อีกมาก และดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์นะคะ ที่ไม่มีใครไม่ถูกนินทา และไม่มีใครที่ไม่นินทาผู้อื่น และในการนินทาก็มักจะแต่งเติมเสริมเรื่อง ตัดสิน ดี-ชั่ว ใส่ความคิดเห็นอยู่ในเรื่องที่เล่าเสมอ ....จนบางคนก็ได้ฆ่าตัวตายเพราะเครียดที่ทนฟังคนอื่นนินทาตนเองไม่ได้ ทั้งที่รู้ว่าเรื่องที่เขานินทาตนนั้น มันมีความจริงไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำไป แต่ก็เก็บมาคิด เครียด และตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงไป
สังคมที่อ่นแอ ทำให้จิตใจคนอ่อนแอลงไปด้วย...เราไม่รู้หรอกค่ะ ว่าใครมีจิตอ่อนแอหรือเข้มแข็งมากแค่ไหน แต่หากคุณมีจิตที่เข็มแข็ง ก็ย่อมมีความสามารถกรั่นกรอง และไม่ตกเป็นทาสของการทำร้ายคนอื่นด้วยการตัดสินคนอื่น
การที่เราไปตัดสินภาพที่เราเห็น แล้วนำไปเล่าต่อ จึงไม่ใช่แค่เรื่องสนุกๆของคนเล่าที่ไร้สติ ซึ่งอาจจะนำมาซึ่งความทุกข์อันใหญ่หลวง โดยที่คุณคาดไม่ถึงก็ได้