เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 23, 2024, 09:33:31 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 671 672 673 [674] 675 676 677 ... 942
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: IPSC ;TODAY....  (อ่าน 1359343 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 38 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Uncle
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10095 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2007, 10:49:01 AM »

เป็นประสบการ์ที่ผมถือว่ามีประโยขน์มากครับ  อ.ใหม่  ผมขออนุญาตsaveไว้นะครับ Smiley Smiley Grin

ผมเห็นคล้อยตามที่ว่า หลักการถือเป็นเบสิค สุดท้ายแล้วเราต้องหาจุดที่เหมาะสมให้กับตัวเราเอง

ผมขออนุญาตแชร์ตามที่ผมค้นมาเล็กน้อยนะครับ

เกี่ยวกับเฟิร์มแต่ไม่เกร็งนั้นEnos สาธยายรายละเอียดไว้(ไม่ใช่ในหนังสือที่เขาแต่ง)ว่า...
Brian Enos: "I've found over the years that the stronger I grip the gun as long as I'm still able to manipulate the trigger precisely, the better I shoot. In my book I talk about 'relaxing' when I shoot, and that's caused a lot of confusion.I wasn't saying you shouldn't grip the gun firmly; I was talking about my overall attitude while shooting.   What you want is a really firm, fluid hold on the gun.
 
แถมอีนอสแกมีอะไรแผลงอีกอย่างในการกริ๊ฟคือ แกแยกประสาทให้ มือแน่นแต่แขนไม่เกร็ง ได้อีกด้วย!  ดูภาพมือคู่ด้านซ้ายที่ผมโพสไว้ก่อนนี้ครับ นั่นคือมืออีนอสครับเห็นเอ็นโปนมือกำเฟิร์มเลย(ตามที่อีนอสเห็นว่าเฟิร์ม)

 Smiley Smiley Grin



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 12, 2007, 10:56:06 AM โดย SUER » บันทึกการเข้า
mai_ipsc
Full Member
***

คะแนน 13
ออฟไลน์

กระทู้: 475


« ตอบ #10096 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2007, 10:59:22 AM »

หนังสือของ Brian Enos เป็นหนังสือที่คุ้มค่าจริงๆครับ ผมซี้อมา 3-4 ปีแล้วมั้ง ยังอ่านไม่จบเลย เฉลี่ยค่าอ่านต่อปีแล้วถูกมาก

เป็นหนังสือดีจริงๆนะ แต่ศัพย์ ภาษา อ่านยากบรมเลย
บันทึกการเข้า
Phoenix
Hero Member
*****

คะแนน 81
ออฟไลน์

กระทู้: 3617


« ตอบ #10097 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2007, 11:09:41 AM »

เป็นประสบการ์ที่ผมถือว่ามีประโยขน์มากครับ  อ.ใหม่  ผมขออนุญาตsaveไว้นะครับ Smiley Smiley Grin

ผมเห็นคล้อยตามที่ว่า หลักการถือเป็นเบสิค สุดท้ายแล้วเราต้องหาจุดที่เหมาะสมให้กับตัวเราเอง

ผมขออนุญาตแชร์ตามที่ผมค้นมาเล็กน้อยนะครับ

เกี่ยวกับเฟิร์มแต่ไม่เกร็งนั้นEnos สาธยายรายละเอียดไว้(ไม่ใช่ในหนังสือที่เขาแต่ง)ว่า...
Brian Enos: "I've found over the years that the stronger I grip the gun as long as I'm still able to manipulate the trigger precisely, the better I shoot. In my book I talk about 'relaxing' when I shoot, and that's caused a lot of confusion.I wasn't saying you shouldn't grip the gun firmly; I was talking about my overall attitude while shooting.   What you want is a really firm, fluid hold on the gun.
 
แถมอีนอสแกมีอะไรแผลงอีกอย่างในการกริ๊ฟคือ แกแยกประสาทให้ มือแน่นแต่แขนไม่เกร็ง ได้อีกด้วย!  ดูภาพมือคู่ด้านซ้ายที่ผมโพสไว้ก่อนนี้ครับ นั่นคือมืออีนอสครับเห็นเอ็นโปนมือกำเฟิร์มเลย(ตามที่อีนอสเห็นว่าเฟิร์ม)

 Smiley Smiley Grin





พี่เสือการกริปแบบนี้พี่จะเห็นจากพวกที่ยิง Open เป็นส่วนใหญ่ครับแน่นแต่ไม่เกร็ง...ผมเข้าใจตรงนี้เพราะผมเคยมีปัญหากับมันครับ...แยกรายละเอียดดังนี้ครับ
แน่นหรือเฟิม...คือการกริปปืนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมคือไม่ปล่อยปืนเตะมากจนเกินไปและสามารถบังคับศูนย์หรือด๊อทกลับลงที่เดิม
เกร็ง...คือการกริปที่เกินไปตอนนี้เห็นว่าเจ้าลิงกงัส์มีปัญหานี้ครับ..การเหนี่ยวนัดต่อไปจะช้าลงหรือนิ้วมือมันไม่ฟังหรือเรียกว่า Trigger Freeze ครับ
ดังนั้นนักกีฬาที่ยิงปืน Open ต้องกริปปืนแน่นแต่ไม่เกร็งครับ...พี่เคยสังเกตุตัวเองเวลายิงปืนต่อเนื่องอยู่แล้วพอเจอนัดที่สับไม่แตกจะเห็นว่าเรากดปืนลงต่ำคล้ายๆกระตุกไกหรือไม่....ถ้าเคยนั่นคือกำลังที่เรากริปปืนเราให้เฟิมระหว่างยิงซึ่งต้องใช้แรงบังคับรีคอยลืของปืนแต่พอนัดนั้นด้านกำลังที่เรากดปืนหรือกริปปืนนั้นมันไม่รีคอยลืมาต้านทำให้ดูเหมือนเรากระตุกไกปืนเลยหรือถ้าพี่ผลักอะไรที่มีแรงต้านอยู่พอแรงนั้นหายไปพี่จะถลำตัวไปข้างหน้า...นั่นก็เป็นแบบเดียวกันครับ
ผมคิดว่าน่าจะเป็นแบบนี้ครับ...เป้นความเข้าใจส่วนตัวนะครับ...น้ำกำลังล้นแก้วแล้วครับ... Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

Uncle
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10098 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2007, 11:14:22 AM »

หนังสือของ Brian Enos เป็นหนังสือที่คุ้มค่าจริงๆครับ ผมซี้อมา 3-4 ปีแล้วมั้ง ยังอ่านไม่จบเลย เฉลี่ยค่าอ่านต่อปีแล้วถูกมาก

เป็นหนังสือดีจริงๆนะ แต่ศัพย์ ภาษา อ่านยากบรมเลย

เคยเห็น(ตัวอย่าง)ตำราของ Saul Kirsch บางส่วน  ใช้ภาษาไม่ยาก พื้นๆเข้าใจง่ายครับ(ทั้งๆที่ผมไม่เก่งอังกฤษ)  แต่ที่ผมลองประเมินดูจากภาษาที่เขาใช้ ผมเชื่อว่าKirschเรียนสูงกว่า Enos ..ผมเดานะครับเพราะไม่รู้ประวัติของทั้งสองคน Smiley Smiley Grin)
บันทึกการเข้า
Uncle
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10099 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2007, 11:18:15 AM »

เป็นประสบการ์ที่ผมถือว่ามีประโยขน์มากครับ  อ.ใหม่  ผมขออนุญาตsaveไว้นะครับ Smiley Smiley Grin

ผมเห็นคล้อยตามที่ว่า หลักการถือเป็นเบสิค สุดท้ายแล้วเราต้องหาจุดที่เหมาะสมให้กับตัวเราเอง

ผมขออนุญาตแชร์ตามที่ผมค้นมาเล็กน้อยนะครับ

เกี่ยวกับเฟิร์มแต่ไม่เกร็งนั้นEnos สาธยายรายละเอียดไว้(ไม่ใช่ในหนังสือที่เขาแต่ง)ว่า...
Brian Enos: "I've found over the years that the stronger I grip the gun as long as I'm still able to manipulate the trigger precisely, the better I shoot. In my book I talk about 'relaxing' when I shoot, and that's caused a lot of confusion.I wasn't saying you shouldn't grip the gun firmly; I was talking about my overall attitude while shooting.   What you want is a really firm, fluid hold on the gun.
 
แถมอีนอสแกมีอะไรแผลงอีกอย่างในการกริ๊ฟคือ แกแยกประสาทให้ มือแน่นแต่แขนไม่เกร็ง ได้อีกด้วย!  ดูภาพมือคู่ด้านซ้ายที่ผมโพสไว้ก่อนนี้ครับ นั่นคือมืออีนอสครับเห็นเอ็นโปนมือกำเฟิร์มเลย(ตามที่อีนอสเห็นว่าเฟิร์ม)

 Smiley Smiley Grin





พี่เสือการกริปแบบนี้พี่จะเห็นจากพวกที่ยิง Open เป็นส่วนใหญ่ครับแน่นแต่ไม่เกร็ง...ผมเข้าใจตรงนี้เพราะผมเคยมีปัญหากับมันครับ...แยกรายละเอียดดังนี้ครับ
แน่นหรือเฟิม...คือการกริปปืนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมคือไม่ปล่อยปืนเตะมากจนเกินไปและสามารถบังคับศูนย์หรือด๊อทกลับลงที่เดิม
เกร็ง...คือการกริปที่เกินไปตอนนี้เห็นว่าเจ้าลิงกงัส์มีปัญหานี้ครับ..การเหนี่ยวนัดต่อไปจะช้าลงหรือนิ้วมือมันไม่ฟังหรือเรียกว่า Trigger Freeze ครับ
ดังนั้นนักกีฬาที่ยิงปืน Open ต้องกริปปืนแน่นแต่ไม่เกร็งครับ...พี่เคยสังเกตุตัวเองเวลายิงปืนต่อเนื่องอยู่แล้วพอเจอนัดที่สับไม่แตกจะเห็นว่าเรากดปืนลงต่ำคล้ายๆกระตุกไกหรือไม่....ถ้าเคยนั่นคือกำลังที่เรากริปปืนเราให้เฟิมระหว่างยิงซึ่งต้องใช้แรงบังคับรีคอยลืของปืนแต่พอนัดนั้นด้านกำลังที่เรากดปืนหรือกริปปืนนั้นมันไม่รีคอยลืมาต้านทำให้ดูเหมือนเรากระตุกไกปืนเลยหรือถ้าพี่ผลักอะไรที่มีแรงต้านอยู่พอแรงนั้นหายไปพี่จะถลำตัวไปข้างหน้า...นั่นก็เป็นแบบเดียวกันครับ
ผมคิดว่าน่าจะเป็นแบบนี้ครับ...เป้นความเข้าใจส่วนตัวนะครับ...น้ำกำลังล้นแก้วแล้วครับ... Grin Grin Grin

เป็นประสบการณ์ที่มีประโยชน์มากจากอีกท่าน  ผมขออนุญาตSAVEนะครับ Smiley Smiley หลงรัก
บันทึกการเข้า
mai_ipsc
Full Member
***

คะแนน 13
ออฟไลน์

กระทู้: 475


« ตอบ #10100 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2007, 11:43:00 AM »

สวัสดีครับ อ.ใหม่คับลักษณะของการฝึกซ้อมโดยมากแล้วผมจะออกไปทางยิงจริงซะส่วนใหญ่ เพราะช่วงนี้
 การบ้านเยอะไม่ค่อยได้ dry fire ซักเท่าไหร่ อ.ใหม่ช่วยแนะนำว่าควรจะ dryfire เป็นกี่%ของการฝึกซ้อมดีครับ
 เมื่อวานไปยิงปรากฏเข้า A เพียบเลยแต่ A อยู่ที่ตัวขาวๆคับ หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน

Dry fire 75%, ยิงจริง 5% , นินทานักยิงปืนคนอื่นๆ 25%  อ้าวรวมไปรวมมาเกิน 100

เอางี้นะ
ดรายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้โดย ไม่เสียงานหลัก ไม่เสียสุขภาพ ดรายอย่างมีสมาธิเพื่อเรียนรู้ และหาทางแก้ไขข้อบกพร่องจากการดรายให้ได้
แต่ละครั้งที่เข้าสนาม ยิงลูกจริงให้น้อยที่สุดโดยยังได้รับความสุขจากมันเต็มอิ่ม หรือเอาแค่เกือบเต็มอิ่มเพื่อจะได้กระเหี้ยนกระหือรืออยากกลับมายิงอีกในอาทิตย์ต่อๆไป

หลักการนี้น่าจะเหมาะสำหรับผู้ที่ยิงปืนเป็นงานอดิเรก เป็นความสุข
แต่ถ้ามีจุดมุ่งหมายจะเอาเป็นอาชีพ จะเป็นแชมป์โลกคงใช้ไม่ได้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 12, 2007, 11:53:10 AM โดย mai_ipsc » บันทึกการเข้า
Phoenix
Hero Member
*****

คะแนน 81
ออฟไลน์

กระทู้: 3617


« ตอบ #10101 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2007, 12:38:33 PM »

สวัสดีครับ อ.ใหม่คับลักษณะของการฝึกซ้อมโดยมากแล้วผมจะออกไปทางยิงจริงซะส่วนใหญ่ เพราะช่วงนี้
 การบ้านเยอะไม่ค่อยได้ dry fire ซักเท่าไหร่ อ.ใหม่ช่วยแนะนำว่าควรจะ dryfire เป็นกี่%ของการฝึกซ้อมดีครับ
 เมื่อวานไปยิงปรากฏเข้า A เพียบเลยแต่ A อยู่ที่ตัวขาวๆคับ หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน

Dry fire 75%, ยิงจริง 5% , นินทานักยิงปืนคนอื่นๆ 25%  อ้าวรวมไปรวมมาเกิน 100

เอางี้นะ
ดรายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้โดย ไม่เสียงานหลัก ไม่เสียสุขภาพ ดรายอย่างมีสมาธิเพื่อเรียนรู้ และหาทางแก้ไขข้อบกพร่องจากการดรายให้ได้แต่ละครั้งที่เข้าสนาม ยิงลูกจริงให้น้อยที่สุดโดยยังได้รับความสุขจากมันเต็มอิ่ม หรือเอาแค่เกือบเต็มอิ่มเพื่อจะได้กระเหี้ยนกระหือรืออยากกลับมายิงอีกในอาทิตย์ต่อๆไป

หลักการนี้น่าจะเหมาะสำหรับผู้ที่ยิงปืนเป็นงานอดิเรก เป็นความสุข
แต่ถ้ามีจุดมุ่งหมายจะเอาเป็นอาชีพ จะเป็นแชมป์โลกคงใช้ไม่ได้



ประโยคนี้สำคัญมากครับ...ผมเห็นด้วย 150% เลย..ผมเห็นคนในกลุ่มผมดรายกันแต่ไม่มีสมาธิและเรียนรู้จากสิ่งที่ทำเลย หลายๆครั้งที่ดรายมันชี้ให้เห็นสิ่งที่เราทำเรารู้แต่ลืมไปเพราะมองข้ามไปจนเป็นข้อบกพร่อง.
บันทึกการเข้า

Uncle
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10102 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2007, 03:06:30 PM »

ขอบคุณมากครับ อ.ใหม่....แต่ ปืนติดจุดแดง เป็นอย่างไร/หาซื้อได้ที่ไหนครับ  จะได้หาเอาไว้ซ้อมตามที่บอกมาน่ะครับ Smiley Smiley Grin

เดี๋ยวเอาไปให้ครับพี่เสือ... Grin Grin

เพิ่งได้ไปอ่านหัวข้อเกี่ยวกับปืนติดจุดแดงมาตะกี้นี่เอง     จึงรู้แล้วว่าคืออะไร Grin

ดังนั้นตอนนี้ไม่เอาก่อนนะครับท่านรอง  ไว้ผมถอยSTI .38 SUPERไปยิงโอเพ่นเมื่อไรค่อนว่ากันอีกที  ตอนนี้อยากรู้อะไรให้กระจ่างแต่อย่างเดียวแต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล คือ PDก่อนครับ  ยังไงก็ขอขอบคุณในเจตนาดีครับ:) Smiley Grin
บันทึกการเข้า
mai_ipsc
Full Member
***

คะแนน 13
ออฟไลน์

กระทู้: 475


« ตอบ #10103 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2007, 03:27:22 PM »

พี่เสืออาจเข้าเจตนาของผมผิดไป ที่พูดถึงปืนติด red dot นั้นไม่ได้หมายความว่าพี่เสือจะต้องไปยิงโอเพนนะครับ การใช้จุดแดงประกอบการฝึกซ้อมดรายไฟร์จะทำให้เราเห็นข้อผิดผลาดที่ศูนย์เปิดให้ไม่ได้

ตัวอย่างเช่นพี่เสือจะเห็นข้อบกพร่องในการซ้อมเดินยิง ที่เราเคยมองผ่านศูนย์เปิดแล้วคิดว่าศูนย์ใช่แล้วเล็งดีแล้ว พอเปลี่ยนมามองผ่านด๊อทเราจะเห็นเลยว่า โอ้โห ศูนย์มันเต้นไปเต้นมาขนาดนี้เลยหรือ เมื่อกลับไปใช้ศูนย์เปิดเราจะพัฒนาการเดินยิงได้ดีกว่าเดิมมากเลย
บันทึกการเข้า
Uncle
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10104 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2007, 03:51:02 PM »

พี่เสืออาจเข้าเจตนาของผมผิดไป ที่พูดถึงปืนติด red dot นั้นไม่ได้หมายความว่าพี่เสือจะต้องไปยิงโอเพนนะครับ การใช้จุดแดงประกอบการฝึกซ้อมดรายไฟร์จะทำให้เราเห็นข้อผิดผลาดที่ศูนย์เปิดให้ไม่ได้

ตัวอย่างเช่นพี่เสือจะเห็นข้อบกพร่องในการซ้อมเดินยิง ที่เราเคยมองผ่านศูนย์เปิดแล้วคิดว่าศูนย์ใช่แล้วเล็งดีแล้ว พอเปลี่ยนมามองผ่านด๊อทเราจะเห็นเลยว่า โอ้โห ศูนย์มันเต้นไปเต้นมาขนาดนี้เลยหรือ เมื่อกลับไปใช้ศูนย์เปิดเราจะพัฒนาการเดินยิงได้ดีกว่าเดิมมากเลย

ขอบคุณครับอ.ใหม่  ....พอดีพวกจะให้ลูกเลเซ่อร์มาด้วยน่ะครับ  คิดว่าไม่น่าจะต่างกันเท่าไรครับ Smiley Smiley Grin
บันทึกการเข้า
Phoenix
Hero Member
*****

คะแนน 81
ออฟไลน์

กระทู้: 3617


« ตอบ #10105 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2007, 07:13:13 PM »

พี่เสืออาจเข้าเจตนาของผมผิดไป ที่พูดถึงปืนติด red dot นั้นไม่ได้หมายความว่าพี่เสือจะต้องไปยิงโอเพนนะครับ การใช้จุดแดงประกอบการฝึกซ้อมดรายไฟร์จะทำให้เราเห็นข้อผิดผลาดที่ศูนย์เปิดให้ไม่ได้

ตัวอย่างเช่นพี่เสือจะเห็นข้อบกพร่องในการซ้อมเดินยิง ที่เราเคยมองผ่านศูนย์เปิดแล้วคิดว่าศูนย์ใช่แล้วเล็งดีแล้ว พอเปลี่ยนมามองผ่านด๊อทเราจะเห็นเลยว่า โอ้โห ศูนย์มันเต้นไปเต้นมาขนาดนี้เลยหรือ เมื่อกลับไปใช้ศูนย์เปิดเราจะพัฒนาการเดินยิงได้ดีกว่าเดิมมากเลย

ขอบคุณครับอ.ใหม่  ....พอดีพวกจะให้ลูกเลเซ่อร์มาด้วยน่ะครับ  คิดว่าไม่น่าจะต่างกันเท่าไรครับ Smiley Smiley Grin

นั่นแหละครับที่ อ.ใหม่ หมายถึง...พี่ใช้ Laser Poiter ติดลงบนตัวปืนด้วยเทปหรืออะไรก็ได้...ถ้าจะให้ดีมีขายแบบใส่เข้าไปในลำกล้องปืนเลยครับ....พี่คิดไปถึงปืนโอเพ่นเลยหรือ.... Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

Uncle
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10106 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2007, 08:18:14 PM »

พี่เสืออาจเข้าเจตนาของผมผิดไป ที่พูดถึงปืนติด red dot นั้นไม่ได้หมายความว่าพี่เสือจะต้องไปยิงโอเพนนะครับ การใช้จุดแดงประกอบการฝึกซ้อมดรายไฟร์จะทำให้เราเห็นข้อผิดผลาดที่ศูนย์เปิดให้ไม่ได้

ตัวอย่างเช่นพี่เสือจะเห็นข้อบกพร่องในการซ้อมเดินยิง ที่เราเคยมองผ่านศูนย์เปิดแล้วคิดว่าศูนย์ใช่แล้วเล็งดีแล้ว พอเปลี่ยนมามองผ่านด๊อทเราจะเห็นเลยว่า โอ้โห ศูนย์มันเต้นไปเต้นมาขนาดนี้เลยหรือ เมื่อกลับไปใช้ศูนย์เปิดเราจะพัฒนาการเดินยิงได้ดีกว่าเดิมมากเลย

ขอบคุณครับอ.ใหม่  ....พอดีพวกจะให้ลูกเลเซ่อร์มาด้วยน่ะครับ  คิดว่าไม่น่าจะต่างกันเท่าไรครับ Smiley Smiley Grin

นั่นแหละครับที่ อ.ใหม่ หมายถึง...พี่ใช้ Laser Poiter ติดลงบนตัวปืนด้วยเทปหรืออะไรก็ได้...ถ้าจะให้ดีมีขายแบบใส่เข้าไปในลำกล้องปืนเลยครับ....พี่คิดไปถึงปืนโอเพ่นเลยหรือ.... Grin Grin Grin

ปืนโอเพ่น..ใจมันคิดๆๆๆอยู่ครับ Smiley Smiley Grin
บันทึกการเข้า
Uncle
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10107 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2007, 07:16:58 AM »

สวัสดียามเช้า ก่อนจะ สนทนาภาษาปืนไอพี กันต่อ...นิทานสำหรับเด็กๆที่อาจจะเข้ามาอ่าน      ผู้ใหญ่ๆก็อย่าได้รำคาญ อย่าคิดมาก ตกใจ ..ผ่านๆไปนะครับ Smiley Smiley Grin

เรื่องหมาป่ากับคนเลี้ยงแกะ

     คนเลี้ยงแกะเห็นหมาป่าตัวหนึ่งมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆทุ่งหญ้าที่ตนนำแกะเลี้ยงจึงคอยระวังเพราะเกรงหมาป่าจะแอบมาขโมยจับแกะไปกิน แต่หมาป่ากลับมีท่าทีเป็นมิตรหมอบนอนดูฝูงแกะอย่างสงบ ไม่ได้แสดงอากัปกิริยาว่ามีความประสงค์ร้ายต่อแกะในฝูงแต่อย่างใดเมื่อเวลาผ่านไปหลายวัน คนเลี้ยงแกะเข้าใจว่ามันเป็นหมาป่าเชื่องๆไม่มีอันตรายอะไรทำให้คลายความระแวดระวัง จนวันหนึ่งเกิดมีความจำเป็นต้องเข้าไปธุระในเมืองจึงฝากหมาป่าให้ช่วยดูแลแกะของตนครั้นกลับมาเห็นแกะหลายตัวถูกหมาป่ากัดตาย คนเลี้ยงแกะได้แต่รำพึงกับตัวเอง “เรานี่โง่แท้ๆ ที่วางใจให้หมาป่าเฝ้าแกะ ให้แมวคอยดูปลาย่าง สมน้ำหน้านักเชียว”

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

ผู้ใดไว้ใจหรือคบหากับศัตรูหมู่คนพาลในไม่ช้าย่อมพบกับความพินาศ 
บันทึกการเข้า
sasawaii
Sr. Member
****

คะแนน 4
ออฟไลน์

กระทู้: 509



« ตอบ #10108 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2007, 11:34:38 AM »

 Grin Grin Grin Grin   แหมอ่านแล้ว นำลายไหลเลยครับพี่เสือ เห็นภาพแต่แกะย่างหอมๆ อิอิ... ได้สักชิ้นสองชิ้นหละก็แจ่มเลยครับ นำสีแดงๆสักแก้วสองแก้ว โอ้ว  เยี่ยมมาก    Grin Grin Grin Grin 
บันทึกการเข้า


Uncle
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10109 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2007, 12:52:48 PM »

Grin Grin Grin Grin แหมอ่านแล้ว นำลายไหลเลยครับพี่เสือ เห็นภาพแต่แกะย่างหอมๆ อิอิ... ได้สักชิ้นสองชิ้นหละก็แจ่มเลยครับ นำสีแดงๆสักแก้วสองแก้ว โอ้ว เยี่ยมมาก Grin Grin Grin Grin

น้องท็อปยังเป็นเยาวชนแน่เลยเพราะอ่านนิทาน  ตกใจ....เนื้อแกะ น้ำแดงๆ  แหม๋..วันนี้วันศุกร์เสียด้วยอยากให้ถึงตอนเย็นไวๆจัง  เดี๋ยวค่ำๆค่อยดูภาพที่safe house ..55 Smiley Smiley Grin

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 671 672 673 [674] 675 676 677 ... 942
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.099 วินาที กับ 23 คำสั่ง