เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 28, 2024, 02:55:53 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 17 18 19 [20] 21 22 23 ... 68
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ซึ่งวิถี " ๑ คัน ๑ กระบอก กับ ๑ ชีวิตที่อิสระ "  (อ่าน 264118 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 33 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #285 เมื่อ: กันยายน 12, 2011, 02:45:05 PM »

ไม่น่าจะได้ครับพี่ฐา ว.แดง ความถี่ CB-245 MHz เครื่องดำ VHs 144-146 MHZ
                     ว.ดำ (VHS)   มีความถี่ตลอดย่านที่  136.000-174.000 MHz. ครับ 

                     แต่อนุญาตย่านสมัครเล่นก็แค่ 2 MHz. คือ 144-146 ที่เหลือให้ข่ายราชการใช้

                     ตอนนี้ดูเหมือนจะเพิ่มย่าน UHS ให้ด้วยแต่ผมไม่ได้สนใจติดตามความคืบหน้า



                    เครื่องแดงซึ่งเป็นเครื่องที่ใช้ความถี่แถวๆ ๒๔๕ MHz (๒๔๔-๒๔๕ MHz) ซึ่งมีช่วงคลื่นแค่ ๑ MHz
แต่ก็มีการซอยย่อยช่องได้เป็น ร้อย เหมือนกัน แต่ถ้าใช้ช่องใกล้ๆกันมาก อาจมีการรบกวนกันได้ง่ายๆ ครับ
อาจจะมีข้อดีที่ใช้เสาได้สั้นกว่าเครื่องดำ

เครื่องดำ ซึ่งใช้อยู่ในความถี่ ๑๓๖-๑๗๔ MHZ(ย่านสมัครเล่น ๑๔๔-๑๔๖ MHz) แต่หากมีกรณีฉุกเฉินจริงๆ
เครื่องดำจะเอื้อประโยชน์มากกว่าครับโดยเฉพาะในต่างจังหวัด เพราะหน่วยราชการทุกๆหน่วยถึงแม้จะใช้ความถี่
อื่นๆแต่ก็ต้องมีความถี่แถวๆ ๑๓๖-๑๗๔ MHz เสมอ ทำให้ง่ายต่อการขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน (เมเดย์) ครับ

ซักสิบกว่าปีก่อนเคยมีสื่อมวลชนไปถ่ายสารคดีกลางป่า รอ ฮ. มารับแล้วคาดกัน ทำให้ติดอยู่ในป่า
ก็ได้วิทยุเครื่องดำ ยี่ห้อ สแตนดาส รุ่นC-150  ติดต่อขอความช่วยเหลือผ่านความถี่ของป่าไม้/กู้ภัย
ให้ติดต่อ ฮ. มารับกลับจนได้ทั้งๆที่แบตเตอร์รี่หลักหมดไปแล้ว แต่อาศัยรังถ่านเปล่าที่เอาถ่าน AAจากแฟรชกล้อง
มาใส่เพื่อใช้งานต่อได้ และวิทยุรุ่น C-150 ได้ชื่อว่ามีวงจรประหยัดพลังงานมากที่สุด ในยุคนั้นด้วย

สำหรับเมืองไทย ผมคิดว่า วิทยุสื่อสารเครื่องดำ( VHF ย่าน ๑๔๔ MHz)ใช้งานได้หลากหลายกว่าเครื่องแดง( VHF ย่าน ๒๔๕ MHz) ครับ
หากท่านไม่ใช่ข้าราชการแต่เป็นนักวิทยุสมัครเล่น(มีใบอนุญาติ ๑๔๔-๑๔๖ MHz) ก็ไม่เป็นไร เพราะในทางเทคนิค เครื่องดำ
มันเปิดปิดแบรนหน้าจอได้อยู่แล้ว และทุกวันนี้ คงไม่ได้เข้มงวดกันเหมือนสมัยก่อน สำหรับเรื่องเปิดแบรน
และเครื่องดำในบางรุ่น แบรนกว้างกว่า ๑๓๖ -๑๗๔ MHz ครับ บางรุ่นใช้ได้ตั้งแต่ ๑๒๘ -๑๘๖ MHz ครับ

การเดินทางเป็นทีม(หรืออาจจะเดินทางเดี่ยวๆ) ยังไงมีเครื่องวิทยุสื่อสารย่านใดย่านหนึ่งประจำรถก็เป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ครับ เยี่ยม


ขากลับจาก แม่ขมิ้น เข้าท่ากระดาน ก่อนถึงเอราวัญ มีรถชาวบ้าน ตกเหว บางคนตะกายขึ้นมา แต่พอมองเห็น มี คว่ำหน้า ๑ ราย

ได้อาศัย Standard  C 168  สแกนความถี่ไปพบ จนท.ป่าไม้  กำลัง ว. 4  กันอยู่  แจ้งเหตุผ่านให้ จนท.ป่าไม้  ช่วยประสางานให้
และหลายครั้ง ครับ ที่แจ้งเข้าไปในช่อง มูลนิธิ ฯ ประสานงานได้ รวดเร็วมาก  Cheesy
บันทึกการเข้า

vinchy
มโนธรรม คือ มิตรแท้เตือนใจ
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 125
ออฟไลน์

กระทู้: 554


« ตอบ #286 เมื่อ: กันยายน 12, 2011, 02:45:48 PM »

ว.แดง ที่มีความถี่ตายตัวและกำหนดช่อง ไว้แล้ว..  ว.ดำ ที่ปลดล็อกความถี่ จะสแกนความถี่ลงไปหา ได้ ไหมครับ

และความถี่ ว.แดง ประมาณเท่าไร ครับ.  Grin


    พี่โร๊ด ไม่รู้จริงๆ เหรอครับ Grin Grin Grin  ไหว้

ช่วงก่อนที่ เจ้าหน้าที่จับ คนใช้เครื่องดำที่เป็นประชาชนเต็มขั้นกันหนักๆ
ยังมีคนหัวใสบางคนเอา เอาใส้เครื่องดำไปยัดใส่บอดี้เครื่องแดงแหกตา
เจ้าหน้าที่บ่อยๆ ครับ เพราะเครื่องบางรุ่นมีโหมดไม่แสดงความถี่ แต่แสดงเป็น
CH. หรือ ให้ตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษสั้นๆกันเอง

ปล. บางท่านอาจจะงงวิทยุสื่อสาร เครื่องดำ เครื่องแดง คืออะไรกัน
       ขออธิบายสั้นว่า เครื่องแดง คือ ประชาชนซื้อแล้วขออนุญาตใช้ได้เลย
       ขอตั้งสถานีก็ได้ โดยเสียค่าธรรมเนียม
     เครื่องดำนั้น จะอนุญาตเฉพาะประชาชนที่สอบผ่านเป็นนักวิทยุสมัครเล่นขั้นต้นก่อน
       จึงจะสามารถยื่นขอรับใบอนุญาตใช้และตั้งสถานีได้
      โดยอนุญาตให้ใช้ความถี่ ๑๔๔ - ๑๔๖ MHz และตัวเคื่องก็จะเป็นรุ่นเดียวกับที่ทางราชการใช้
       แต่นำมาจำกัดความถี่ลงให้ใช้ได้เท่าที่อนุญาตเพื่อป้องกันการไปใช้รบกวนความถี่ของทางราชการ

       แต่ปัจจุบันเครื่องดำในบ้านเราแพร่หลายมาก การใช้ของหลายๆหน่วยงาน ก็คาบเกี่ยวกับหน่วยราชการ
      เช่น กู้ภัย อาสาสมัคร ต่างๆ ทำให้เกิดการอนุโลม แบบผิดแต่ไม่พูดถึง ในเรื่องนี้ ครับ ไหว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 12, 2011, 02:48:58 PM โดย vinchy » บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #287 เมื่อ: กันยายน 12, 2011, 02:49:18 PM »

....   คิก คิก 

ไม่ทราบเลย ครับ กับเรื่อง ว. แดง  Grin 


บันทึกการเข้า

PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #288 เมื่อ: กันยายน 12, 2011, 03:36:07 PM »


                        ช่วงนี้รถพร้อม คนพร้อม แต่เงินกะเวลาไม่พร้อม ...... เลยห่างเหินทริปไปหน่อย

                        ลุงโร้ดหรือท่านอื่นมีทริปอับเดทปัจจุบันหรือเร็วๆนี้ไม่เกินปี-สองปีบ้างเปล่าครับ

บันทึกการเข้า

                
Ultraman Taro #รักในหลวง#
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 195
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1624



« ตอบ #289 เมื่อ: กันยายน 13, 2011, 12:21:08 PM »

เห็นกระทู้พูดถึงเรื่อง ว.

ขอถามหน่อยครับ
ถ้าต้อง เลือกระหว่าง CB(ว แดง) กับ VHF(ว.ดำ)  แค่เครื่องเดียว จะเลือกอะไรดี แบบว่าได้ประโยชน์สูงสุด

 ไหว้
บันทึกการเข้า

"อย่าแก่เพราะกินข้าว อย่าเฒ่าเพราะอยู่นาน" 
โบราณว่า อย่าถือสาคนบ้า อย่าว่าคนเมา ใจเย็นเข้าไว้
vinchy
มโนธรรม คือ มิตรแท้เตือนใจ
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 125
ออฟไลน์

กระทู้: 554


« ตอบ #290 เมื่อ: กันยายน 13, 2011, 01:00:20 PM »

เห็นกระทู้พูดถึงเรื่อง ว.

ขอถามหน่อยครับ
ถ้าต้อง เลือกระหว่าง CB(ว แดง) กับ VHF(ว.ดำ)  แค่เครื่องเดียว จะเลือกอะไรดี แบบว่าได้ประโยชน์สูงสุด

 ไหว้

             ในความคิดของผมเองนะครับ ผมเห็นว่า เครื่องดำ VHF ๑๔๔ MHz ใช้งานได้กว้างกว่า เครื่องแดง VHF ๒๔๕ MHz เหตุผลคือ
เครื่องดำ..... เป็นเครื่องที่ทุกหน่วยงานราชการใช้งานอยู่เดิมแล้ว เช่น ทหาร ตำรวจ องค์การส่วนท้องถิ่น หน่วยบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ
รวมทั้งนักวิทยุสมัครเล่น ทั้งสมัครเล่นแบบสอบผ่านถูกต้องตามกฎหมายและสมัครเล่นแบบแอบๆใช้กันเอง

ความถี่ของเครื่องดำ ปกติ ๑๓๖.๐๐๐-๑๗๔.๐๐๐ MHz ซึ่งมีช่วงคลื่นถึง ๓๘ MHz ทำให้สามารถกำหนดช่องได้มาก
เมื่อเกิดเหตุด่วนจริงๆ เราสามารถสแกนหาความถี่ที่กำลังมีการใช้อยู่และขอแทรกเพื่อให้ประสานความช่วยเหลือได้ง่าย
กว่าโดยเฉพาะในต่างจังหวัด เครื่องที่พกอยู่ที่เอว ทหาร ตำรวจ ข้าราชการทุกหน่วย รวมทั้งอาสาต่างๆ กว่า ๙๐ เปอร์เซนต์ในประเทศไทย
เป็นเครื่องดำครับ

เพียงแต่ว่าเครื่องดำมีกฎหมายควบคุมอยู่มากกว่าเครื่องแดง หากท่านเป็นข้าราชการก็ใช้ได้ง่ายหน่อย เพราะอนุโลมไม่ถูกจับกุม
เรื่องครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต(ในทางปฏิบัตินะครับ) แต่ถ้าเป็นประชาชนเต็มขั้นจริงๆ ก็ขอให้สอบเป็นนักวิทยุสมัครเล่น
เพื่อขอรับใบอนุญาตใช้เครื่องวิทยุสื่อสารอย่างถูกต้องไว้

ก็จะทำให้รอดจากการถูกจับกุมได้ เพียงแต่เครื่องที่อนุญาตให้นักวิทยุสมัครเล่นใช้นั้น จะจำกัดความถี่ให้แค่ช่วงคลื่น  ๒ MHz (๑๔๔-๑๔๖ MHz)
แต่ในทางปฏิบัติทุกวันนี้ เครื่องดำแทบทุกรุ่นมีโหมดเปิดขยายความถี่หน้าจอได้เลยไม่ต้องไปแก้ไขวงจรเหมือนสมัยก่อน ทำให้ใช้จาก ๑๔๔-๑๔๖ MHz เป็น ๑๓๖-๑๗๔ MHz
ได้ไม่ยาก

ส่วนเครื่องแดง..... นั้น จากการขยายตัวของการพัฒนาประเทศ จำเป็นต้องให้ภาคเอกชนสามารถใช้วิทยุสื่อสารได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
และลดปัญหาการลักลอบใช้เครื่องดำในทางธุรกิจจนถูกจับกุม และรบกวนข่ายราชการ/ข่ายสมัครเล่นที่อนุญาตถูกต้อง
ทางราชการจึงได้ออกกฎหมายอนุญาตให้ประชาชน/ภาคเอกชน ใช้ได้โดยขออนุญาตใช้ได้เลย หากมีการต่อเสาภายนอกอาคารหรือเสาติดรถยนต์
ก็ให้ขออนุญาตเพิ่มได้ เพียงแต่อนุญาตให้ใช้เพียงแค่ความยาวคลื่น ๑ MHz (๒๔๔.๐๐๐-๒๔๕.๐๐๐ MHz) เท่านั้น

เมื่ออนุญาตแค่นี้ทางบริษัทผู้ผลิตเครื่อง ก็ทำความถี่ที่ใช้งานมาแค่นี้
ทำให้มีช่องจำกัด ก็มีการใช้แพร่หลายในระดับหนึ่ง เพราะใช้แล้วไม่ต้องกลัวถูกจับกุม ส่วนมากมักเป็นด้านธุรกิจเอกชน บริษัทต่างๆ
รปภ.เอกชน พนักงานห้างสรรพสินค้า
หน่วยราชการจะไม่ได้ใช้เครื่องแดงครับ อาจจะมีพวกอาสาแจ้งข่าวอาชญากรรม หรือ หน่วยกู้ภัยบางหน่วยใน กทม.ที่ใช้บ้าง แต่ก็น้อยสำหรับในต่างจังหวัด


ปล. ขออนุญาตพี่โร๊ด ตอบในเรื่องนี้นะครับ กลัวว่าจะไม่ตรงกับหัวข้อกระทู้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 13, 2011, 01:12:17 PM โดย vinchy » บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #291 เมื่อ: กันยายน 23, 2011, 04:45:35 PM »

มาต่อ ครับ..

จุดพักที่เสน่พ่อง ราว ๑ ทุ่ม วิรัช มากับเพื่อนอีกรวมเป็น ๒ คน กับ Jeep หน้ากบ ที่แต่ง ใหม่ทั้งตัว แต่ยังพ่นสีไม่เสร็จ ก็มาสมทบด้วย

เรานอนกันไม่ดึกนัก แต่ตื่นกันสายนิด.. กว่าจะกินข้าวเสร็จ ตอน ๐๙.๓๐ น. ก็มีขวบน ปลัด อบต.แห่งหนึ่งในสมุทรปราการ กับรถ Off-Ro@d เกือบ ๒๐ คัน
มาทราบว่า ตามหลังชุดผมมาเมื่อวาน แล้วพักอยู่ที่ ทำการหน่วยพิทักษ์ป่าเสน่พ่อง ใต้ลงไปราว ๒๐๐ เมตร

จากเสนห์พ่อง ไป ธิไล่ป้า.. ต้องวิ่งข้ามลำห้วยที่น้ำเชี่ยว ไหลแรง น้ำระดับแค่คันชนหน้าของรถที่สูงที่สุด  พอขึ้นจากน้า ๕ - ๖ ครั้ง
ก็ต้องลุยโคลน ระดับลึก พอกับลุยน้ำ เราต้องติดขบวน รถของ ปลัด อบต. กว่าขบวนของเราจะแซงขึ้นไปได้ ก็ต้องพับเวลาทิ้งไป กว่า ๒ ชม.

รถที่น้อยกว่า สภาพคนและรถ พร้อมกว่า เมื่อไปที่ใด จะไม่มีปัญหานัก ..
ที่ว่าพร้อมกว่า อย่างน้อย คือ ๑. เครื่องยนต์ปรับแต่งใส่ Turbo กำลัังเครื่องสูงขึ้น ๒. ยางดอก Mud ลุยโคลน ขนาดสูง ๓๑ - ๓๓ นิ้ว  และโซ่พันล้อ
๓. ช่วงล่าง ยก แสะเสริมก้่อนเพื่อยกแหนบให้สูง ขึ้น รับกับขนาดยาง  ๔. วินส์ ต้องมีครบทุกคัน ๕. คน ที่พร้อมช่วยเหลือ มาแชร์น้ำใจ กัน

ชุดผม กำนันแตง ย้อนกลับทางเดิม ไปส่งสาว ๆ กลับ กรุงเทพฯ  เมื่อมีวิรัช จึงเป็น ๘ คัน  แบ่งเป็น ๒ ชุด หาจังหวะและแซงขึ้นไป
ผมอยู่ชุดแรก  ที่พ้นไปได้ ไปเจอฝนตกเป็นเม็ดถั่วลิสง..  ต้องจอดรด จอดพักรถ จุดที่พักพืชไร่กระเหรี่ยงข้างทาง  
และวิทยุ บอกชุดหลัง ให้เร่ง ก่อน ที่ ขบวนของปลัดฯ จะมาทัน

ณ. จุดรอรถตรงนั้น พอมองเห็น ทางข้างหน้า เป็นเนินดินชัน.. บอกได้เลยว่า ต้องพันโซ่ เท่านั้น  .. ทุกคนรวมทั้งผม ไม่มีใครนึกถึงมื้อกลางวัน

น่าจะ ๑๕.๐๐ น.เศษ  เมื่อทุกคันมาพร้อม ขบวนของเราก็ไปต่อ เราวิ่งอยู่บนที่สูง สองข้างทางเป็นป่าดิบไม่สาหัสเหมือนเมื่อวาน  
บางช่วงเลาะไป ข้างเหว สลับ ป่าดิบ ป่าไผ่ นอกจากทางลื่น ที่เราจจะต้องอาศัยล้อหน้า ข้างใด  ข้างหนึ่ง จับล่องถนนเป็นหลักเอาไว้ ..

การขับบนภู จุดที่ต้องระวังให้จงหนัก คือต้องดูทางข้างหน้า ห้ามเผลอกับธรรมชาติ  ถ้าล้อใด ปีนเนินข้างทาง ถ้าเบรคไม่ทัน รถจะไต่เนิน แล้วพลิกคว่ำทันที  
ใครเผลอเมื่อไหร่  ไม่มีทางรอดสักคัน  ตกใจ

การขับทางลื่นชัน ขึ้นเนิน ไม่น่ากลัวเท่าใดนัก ใช้ เกียร์ ๑ - ๒ จนพ้นทาง อย่าได้เปลี่ยนเกียร์ ระหว่างขึ้นเินิน เพราะกำลังจะตก หมดแรง ต้องปล่อยให้ล่วง ไหลลงเนิน
แล้วขึ้นใหม่  คันหน้าขึ้น คันหลังต้องหยุดรอ ให้คันหน้าพ้นเนินชันไปก่อน

เวลา ลงเนินที่ลื่น น่ากลัว มากกว่า มีหลัก คือ ขึ้นเกียร์ใด  ให้ลงเกียร์นั้น และต้องใช้เกียร์ต่ำช่วยเบรค  ต้องเข้าเกียร์ ห้ามเข้าเกียร์ว่าง เพราะรอบของเครื่องยนต์ คือแรงม้า
ที่จะใช้บังคับล้อคู่หน้า

เนินสุดท้าย ก่อนลงที่ราบ ที่ทุกคนต้องขนหัวลุก ชื่อ "เนินเทวดา"  สภาพ ด้านซ้ายผนังผา ด้านขวา เหวเตี้ยๆ สภาพทางทิ่มหัวลง แล้วหักศอกขวา  
ทางเปียกลื่น เรียบ ไม่มีร่องให้ล้อจับ  ต้องประคองเกียร์ ๑ ค่อย ๆ ไหล พอพ้นโค้ง ถึงจะเป็น อิสระได้อีก  และขบวนของเรา พ้น เนินเทวดา มาได้ก่อน ๖ โมงเย็น
แล้วเลี้ยวซ้าย   ขบวนอื่น ต้องเลี่ยวขวา ไปเหมืองพุจือ( เหมืือนเกาหลี) แล้ววนออกไปอีกทาง

แดง สังขละ ขอให้เรารออยู่ริมน้ำฝั่งไทย ตัวเขาข้ามฝั่งน้ำ ไป พบทหารกระเหรี่ยง  ทุกคนยกเลิก มื้อเย็น  แดง วิทยุ มาให้พวกเราข้ามห้วย เข้าเขตพื้นที่ กระเหรี่ยง
ที่เป็นฐานทหาร และชุมชุนกระเหรี่ยงเล็ก ๆ อยู่รวมกัน..   ผมดับเครื่องยนต์  และลดกระจกลงนิดๆ  ขึ้นลำ Sig ๒๒๖ เพื่อความอุ่นใจไว่้ก่อน
พอมองเห็น คนนุ่งสะโหร่ง ถืออาวุธปืนสงคราม  กึ่งวิ่ง กึ่งเดิน ๒ - ๓ กลุ่ม   ผ่านข้างรถด้าน.้าย

จน ๑๙.๓๐ น. ขบวนของเรา ที่ล้อแตะพื้นดินอีีกฝั่งของเขตแดน ก็หมุนต่อ ..  และ ตรงนี้ ละที่ โรดิโอของผม ที่ลืมขึงกระสอบกันโคลน แต่แรกที่ลงลุยโคลน มีปัญหา
พอใช้ความเร็วบนพื้นดินที่เปีบก แต่แน่น และราบ จึงทำความเร็วได้มากขึ้น โคลนที่อุดหม้อน้ำจึงแห้ง ความร้อนจึงพุ่ง.. ๕ นาที +/- จักต้องหยุดรถ และสาดน้ำเข้าหม้อน้ำ
เปิด ฝาหม้อน้ำ แล้วเติมน้ำ  ดีที่ระหว่างทางยังมีห้วยเล็ก ๆ ให้ลงไปแช่น้ำ

เจอ ด่านกั้นทางด้วยไม้ไผ่ ด่านที่ ๑ การเจรจา นอกจากหนังสือผ่านทาง แล้ว ยังต้องใช้เหล้าขาว ๑ ขวด  คันที่พ้นไปแล้ว ก็แ้ล้วไป  ต้องให้ทัน ไม่อย่างนั้น
ไม้ไผ่ลงมากั้น ต้อง เสียเหล้า อีก ๑ ขวด

ส่วนด่านที่ ๒ ผ่านโลด .. เพราะดึกมาก พ้นเที่ยงคืนมาแล้ว ทหารกระฯ  คงไม่อยากจะมาอะไรมาก.    และ ที่สุดเมื่อ ๐๒.๐๐ น. เราก็ต้องมาสุดทาง
ที่ใช้ความพยายามอย่างไร ก็ไปต่อไม่ได้  ไม่มีจุดให้จับวินส์ และ โคลนลึกขนาด แขวนท้อง รถคันที่สูงที่ สุด คือ Jeep ของวิรัช.  

คืนนี้ ผมเอนพนักพิง และพับ หลับไปในรถ    Grin


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 23, 2011, 04:50:51 PM โดย Ro@d - รักในหลวง » บันทึกการเข้า

Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #292 เมื่อ: กันยายน 23, 2011, 04:46:44 PM »

มุมหนึ่งของการพักรอ  Grin
บันทึกการเข้า

Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #293 เมื่อ: กันยายน 23, 2011, 04:48:53 PM »

เมื่อคืน ๐๒.๐๐ น.  ต้องหยุด  และที่เห็น ราว ๗ โมงเช้า  ดูเกะกะ ไปหมด   Grin

ในภาพ รถคันซ้ายมือที่เปิดกระจก เป็นคันของผมเองครับ  .. และที่เห็น ถอดเสื้อนั้น คือ เด็กกระเหรี่ยง  เข้ามาเก็บ ของที่เราทิ้งแล้ว..

ของที่เก็บไป.. เพื่อความแน่ใจ เขาจะัสื่อ ให้เข้าใจก่อนว่า ไม่เอา แล้ว เขาถึงจะหยิบเอาไป   เยี่ยม 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 23, 2011, 09:05:41 PM โดย Ro@d - รักในหลวง » บันทึกการเข้า

kensiro
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #294 เมื่อ: กันยายน 23, 2011, 05:39:22 PM »

อยากไปอย่างนี้บ้างจัง ครับ แต่ผม ไม่ชอบไปเป็นทีม ครับ
บันทึกการเข้า
EG9
Jr. Member
**

คะแนน 8
ออฟไลน์

กระทู้: 50



« ตอบ #295 เมื่อ: กันยายน 23, 2011, 08:47:40 PM »

สวัสดีครับพี่โร๊ด  ขออนุญาตเข้ามาอ่านประสบการณ์ของพี่ด้วยคนนะครับ

ชอบครับ สนุกดี ไว้มีโอกาสที่เหมาะ ๆ จะขอร่วมทริปกับพี่ด้วยคนนะครับ  เยี่ยม เยี่ยม ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #296 เมื่อ: กันยายน 23, 2011, 08:56:39 PM »

สวัสดีครับพี่โร๊ด  ขออนุญาตเข้ามาอ่านประสบการณ์ของพี่ด้วยคนนะครับ

ชอบครับ สนุกดี ไว้มีโอกาสที่เหมาะ ๆ จะขอร่วมทริปกับพี่ด้วยคนนะครับ  เยี่ยม เยี่ยม ไหว้ ไหว้

สวัสดีี เอก อาจเป็น ปลายปี เราไป เยือน  อีสานเหนือ กันครับ.  Cheesy
บันทึกการเข้า

EG9
Jr. Member
**

คะแนน 8
ออฟไลน์

กระทู้: 50



« ตอบ #297 เมื่อ: กันยายน 23, 2011, 09:00:39 PM »

สวัสดีครับพี่โร๊ด  ขออนุญาตเข้ามาอ่านประสบการณ์ของพี่ด้วยคนนะครับ

ชอบครับ สนุกดี ไว้มีโอกาสที่เหมาะ ๆ จะขอร่วมทริปกับพี่ด้วยคนนะครับ  เยี่ยม เยี่ยม ไหว้ ไหว้


สวัสดีี เอก อาจเป็น ปลายปี เราไป เยือน  อีสานเหนือ กันครับ.  Cheesy

ยินดีอย่างยิ่งครับพี่โร๊ด  ไหว้ ไหว้ ไหว้

บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #298 เมื่อ: กันยายน 30, 2011, 06:52:34 PM »

คณะของ ปลัต อบต. เมื่อลงจาก เนินเทวดา ก็วกขวา ไปทางเหมือง พุจือ ผ่านโรงเรียนบ้านหินตั้ง และคงไป กางเต็นท์กันที่ ทำการ ทุ่งใหญ่นเรศวร

เช้าวันอาทิตย์ที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๓๙   ถ้า อยู่ กรุงเทพ ฯ จะต้องไปลงคะแนนเลือก นักเลือกตั้ง   แต่ขอไม่ไป และเลือกของเราอย่าง นี้ ละ

เราทะยอยตื่น กันตั้งแต่ ๖ โมงเช้า.. หุงข้าว บ้างต้มน้ำชงกาแฟ .. ส่วนตัวผมเอง เพิ่งครั้งแรก ที่ดินทางแบบนี้
ได้แต่  นั่ง บนตอไม้ คลึงถ้วยกาแฟ  รอกินข้าวเช้า..  มอง ได้รอบบริเวณที่ ต้องสะดุด ไปต่อไม่ได้ เมื่อคืน เป็นเพราะอะไร

พอกินข้าวเสร็จ ก็มี ชาวกระเหรี่ยง เข้ามาหา โดยแดงสังขละ เป็นคน พูดคุย..  เขาบอกว่า ตามเส้นทางนี้ไปต่อได้  แต่รถไถเท่านั้น เป็นหล่มโคลนลึก จะเอารถไถ
มาช่วยลาก นี่คือน้ำใส ใจจริง ของชาวบ้านป่า  หรือถ้าไม่ลาก เขาก็อนญาต วิ่งตัดคันนา ผ่านนาข้าว ออกด้านหลังหมู่บ้าน แล้วไปเชื่อมทางเดิม. นี่ละครับน้ำใจ
คนป่า คอยดอย  ไหว้

คาริเบียน สีแดง  เป็นคันแรก ที่ตาวุฒิ ขับปีน คันนาสูง พยายามแล้ว แต่ไม่รอด .. ผมเป็นคันที่ ๒  เป็น ปิกอัพ ยาง ๓๑ นิ้ว ปีกนก ตั้งเพลา ขับ ๔ เตี้ยที่สุด
ปีนคันนาไปได้เพียง ล้อคู่หน้า แล้วแขวน คือ คันนาติดใต้ท้องรถ เป็นไม้กระดก ล้อคู่หน้าพ้นพื้น ล้อหลัง ติดพื้น หมดแรง ตะกุย เดี้ยงไปอีกคัน

ต้องใช้รถมาลากถอยหลัง ทะลักทุเล มาก จนกันแคร้งสเตลเลส ใต้เครื่องหน้า ราคา ๖,๐๐๐.- งอพับไปอีกด้าน .. ผล คือไปต่อไม่ได้ ต้องถอดลูกเดียว.

เวลาผ่านไปราว  ๓๐ กว่านาที รถผ่านไปได้ ๓ คัน กับยาง ๓๓ นิ้ว  กับอีก ๑๑ คน    อีก ๔ คัน กับเจ้าของรถ และช่าง ไม่ได้ไปด้วย ผม ได้นั่ง-นอนเล่น ใน
เขตกระเหรี่ยงอิสระ  อยู่กับชุดหลัง..

โรดิโอของผมต้องซ่อม  ถอดกันแคร้งหน้า ถอดหม้อน้ำ ออกมาทั้งยวง  แช่ ท้องร่อง ที่กักน้ำฝนใสแจ๋ว  เขย่าเอาโคลนดิน ออกจนหมด

ผมใช้ Mobile Standard C1208 DT  ติดต่อสื่อสารกับชุดที่ไป ได้ตลอดเส้นทาง ..  ๔ โมงเช้า ถึงฝั่งไทยที่ เบิ่งเคลิ่ง บ้านแม่จัน อ.อุ้มผาง ผ่าน ด่าน ตชด.
ราวบ่ายโมง เข้าตลาดกินข้าว หาซื้อน้ำมันดีเซลล์ สำรอง แล้วย้อนกลับออกมาราว บ่ายสองโมง.. ไปเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ว่า ได้ผ่านทะลุมาในเส้นที่ยากนักที่จะผ่านมาได้

แม่น้ำสุริยะ สุริยา อยู่ในฝั่งพม่า  ๓-๔  กม.จากชายแดน   กว้างราว ๕๐ เมตร พื้นเป็นกรวดทราย รถยนต์ พอผ่านได้
ขาไป ระดับน้ำราวคันชนหน้า.. แต่ขากลับนั้น ฝนตกหนัก เพียงแค่ รอความพร้อม ในการข้าม จาก คันแรก น้ำขึ้นถึงไฟหน้า  แต่พอคันที่ ๓ ขึ้นถึง ฝากระโปรงหน้า
เมื่อลงน้ำต้องหันหน้ารถสู้กับกระแสน้ำ  แล้วอาศัย กระแสน้ำ พัดให้ช่วยส่ง มาขึ้นอีกฝั่ง .. ถ้าขับอย่างปรกติ จะถูกน้ำพัด  ตกร่องน้ำ ย้อนขึ้นฝั่งไม่ได้อีก

ชุดที่ไปถ่ายรูป  และ นำกล้องถ่ายวิดีโอ ของผม บันทึกภาพเหตุการณ์ ตลอด.

๑๑ คน กับ ๓ คัน กลับมายังจุดเดิม รวมกลุ่มได้อีก ครั้ง  แล้ว มุ่งตะวันตกเฉียงใต้ กลับทางเดิม  ..  ระหว่าง อยู่ที่ตรงนั้น มีเด็กกระเหรี่ยงมาหา เรามีพวกของกิน
ของแห้ง ขนม แบ่งปัน กันไปตามอัธยาศัย..  พวกขวดน้ำ ที่เป็นขยะ ก่อนจะเก็บใส่ถุงดำ  พวกเด็ก จะถือมา บอก "ว่า ลืมหรือเปล่า เขานำมาคืนให้" พอบอกว่า ไม่เอาแล้ว
เด็กพวกนั้น จึงหยิบเอาไป..  แสดงว่า มีการอบรม สั่งสอนกันไว้ดีมาก  และยังทราบอีกว่า  ถ้ามีการข่มขืนสตรี
หากทหารบ้านจับได้ จะให้ขุดหลุม หารากไม้ แล้วยิงท้ายทอย กลบฝังไปเลย

ชุดของเรา ต้องมืดกลางทางอีกแล้ว แต่โชคดี ที่เป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ บางจุดที่หยุดพักรถ จะเห็นแสงจันทร์สว่าง รอดผ่าน กิ่งไผ่ กิ่งไม้ และมีเมฆ พัดเข้ามาแจม. ขณะ
ที่เปิดเพลงของ เย็น ๆ  ของ.........  (ตอนนี้ ยังจำชชื่อนักร่องไม่ได้)    คลอไปด้วย  บรรยากาศ สุด ๆ เลยละครับ    

ขากลับ ผ่านด่านทหารกระเหรี่ยง  ยังหัวค่ำ ไม้กระดก ถูกยกไว้  ไม่ยุ่งยาก เหมือนขาไป  เราใช้ ว.ดำ หารือกันว่า  เมื่อข้ามแดนแล้วจะกลับทางเดิม หรือว่า
จะวนไปทางบ้านหินตั้ง -ที่ทำการทุ่งใหญ่ฯ  ข้ามห้วยดงวี่  แล้วไปออกทางห้วยเสือ ให้ครบเป็นวงรอบ  เพราะน้ำมันพออยู่แล้ว    เสียงแตกเป็น ๒ ฟาก

มีวิรัช กับ เฮียเส็ง ( Mr.Off Ro@d คนที่ ๕ ของนิตยสาร Off Ro@d แต่ตอนนั้นยังไม่มี)  ย้อนทางเดิม เพราะทางสั้นกว่า ต้องรีบกลับ กรุงเทพฯ

ที่เหลือ ตาวุฒิ ,เฮียซง ,ช่างตุ้ม,อาจารย์ต่อ (Mr.Off Ro@d คนที่ ๑  ของนิตยสาร Off Ro@d ) และตัวผม จะวนให้ครบรอบ. ทุงใหญ่นเรศวร ...  
สัก ๕ ทุ่ม เราข้ามแดน ด้วยการขับข้ามน้ำ แล้วขึ้นเนินสูง   แล้วพัก กันตรง ที่เก็บของ ของเหมืองพุจือ(เหมืองเกาหลี) ที่ทิ้งร้าง ..  
ผม คงนอนในรถเหมือนเดิม  เหตุเพราะพื้นแฉะ เต็นท์  กางและเก็บ ลำบาก .แค่เอนเบาะรถ แล้วถอยหลัง ก็หลับได้แล้ว ..
คืนนั้น ฝนตกลงมาอย่างหนัก สมกับ อยู่ในกลาง ป่า จริง ๆ ครับ   Cheesy
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 30, 2011, 08:14:31 PM โดย Ro@d - รักในหลวง » บันทึกการเข้า

สหายอ๋อง เซียนปลาซิว
จริงใจ บริสุทธ์ใจ แล้วจะแคล้วคลาด จากภัยทั้งปวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 657
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9377


คบหมาเป็นเพื่อน ดีกว่าคบเพื่อนหมาๆ


« ตอบ #299 เมื่อ: กันยายน 30, 2011, 07:56:28 PM »

30  กันยาฯ  ผมเป็นไทย  แล้วเจอกันครับ  น้า  Ro@d

เจอคนบ้าแบกเป้  ยืนโบกรถริมถนน จอดรับด้วยครับ

 ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 17 18 19 [20] 21 22 23 ... 68
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.082 วินาที กับ 21 คำสั่ง