toonbook
ชาว อวป.
Jr. Member
คะแนน 6
ออฟไลน์
กระทู้: 97
|
|
« ตอบ #210 เมื่อ: สิงหาคม 14, 2011, 01:51:05 PM » |
|
รอติดตามผลงาน พี่โรดครับ อ่านแล้วนึกถึงอดีตครับ คนพร้อมเพื่อนพร้อมไปกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
soveat ชุมไพร
มือสังหารคันคากหมุ่น พรานปลาวัด พราน28k สมช. เลขที่ 1475
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 3429
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 30132
เลือดกรุ๊ป โอละนออออออออออออ
เว็บไซต์
|
|
« ตอบ #211 เมื่อ: สิงหาคม 14, 2011, 05:06:28 PM » |
|
อิจฉาคนได้ 870 8 นัดฟรีๆจังเล้ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
|
|
|
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 4088
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20186
1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน
|
|
« ตอบ #212 เมื่อ: สิงหาคม 14, 2011, 11:13:51 PM » |
|
วันที่ ๑๒ ไปถวายเพลพระ ที่ดำเนินสะดวก ราชบุรี .. รุ่งขึ้น เดินทางไป ร่วมงานสังสรร พี่น้อง ชาวมานีกันส์ ที่ พิษณุโลก
"หนึ่งคัน หนึ่งกระบอก กับหนึ่งชีวิตที่อิสระ".. ขาขึ้นเหมือนเดิม แต่ขาล่อง ได้เพื่อนเป็น Remington ๘๗๐ Express Tactical ๑๘.๕ นิ้ว ๘ นัด ที่พี่ตา-พี่แต๋ว เจ้า่ของร้่าน ปืนมานี พิษณุโลก นำมาเป็นของรางวัลการจับฉลาก สำหรับลูกค้าร้าน อีก ๑ ครับ .
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 14, 2011, 11:15:25 PM โดย Ro@d - รักในหลวง »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
vichy
Full Member
คะแนน 35
ออฟไลน์
กระทู้: 389
|
|
« ตอบ #213 เมื่อ: สิงหาคม 15, 2011, 07:16:42 PM » |
|
วันที่ ๑๒ ไปถวายเพลพระ ที่ดำเนินสะดวก ราชบุรี .. รุ่งขึ้น เดินทางไป ร่วมงานสังสรร พี่น้อง ชาวมานีกันส์ ที่ พิษณุโลก
"หนึ่งคัน หนึ่งกระบอก กับหนึ่งชีวิตที่อิสระ".. ขาขึ้นเหมือนเดิม แต่ขาล่อง ได้เพื่อนเป็น Remington ๘๗๐ Express Tactical ๑๘.๕ นิ้ว ๘ นัด ที่พี่ตา-พี่แต๋ว เจ้า่ของร้่าน ปืนมานี พิษณุโลก นำมาเป็นของรางวัลการจับฉลาก สำหรับลูกค้าร้าน อีก ๑ ครับ . สวัสดีครับพี่ ต่อไปก็มี 870 เป็นเพื่อนติดรถอีกลำแล้วครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 3692
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 62457
|
|
« ตอบ #214 เมื่อ: สิงหาคม 15, 2011, 09:06:49 PM » |
|
การระเบิดยางที่นิยมในบ้านเราเท่าที่เห็นต้องถอดล้อออกมาแล้วทำความสะอาดขอบยางในส่วนไกล้กระทะล้อก่อน แล้วราดน้ำมันเบนซินไปรอบยางส่วนที่ว่าแล้วจุดไฟ ...... มันก็จะเบิร์น (ไหม้) ตัวเองแล้วเกิดแรงดันลมยางพอใช้งานได้ชั่วคราว (แรงดันในลมยางไม่มากนัก) สำหรับแบบคลิปที่น้านิกส์357 กรุณานำมาให้ชมถือเป็นแนวทางและหลักการใหม่ที่ยังไม่เคยพบ ขอเก็บไว้เป็นความรู้เผื่อมีโอกาสได้ใช้ต่อไป ขอบคุณครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายรัก-รักในหลวง-
เลือด สี น้ำ เงิน
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 203
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1646
จงภูมิใจในความเป็นตัวของตัวเอง
|
|
« ตอบ #215 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2011, 02:03:49 PM » |
|
การระเบิดยางที่นิยมในบ้านเราเท่าที่เห็นต้องถอดล้อออกมาแล้วทำความสะอาดขอบยางในส่วนไกล้กระทะล้อก่อน แล้วราดน้ำมันเบนซินไปรอบยางส่วนที่ว่าแล้วจุดไฟ ...... มันก็จะเบิร์น (ไหม้) ตัวเองแล้วเกิดแรงดันลมยางพอใช้งานได้ชั่วคราว (แรงดันในลมยางไม่มากนัก) สำหรับแบบคลิปที่น้านิกส์357 กรุณานำมาให้ชมถือเป็นแนวทางและหลักการใหม่ที่ยังไม่เคยพบ ขอเก็บไว้เป็นความรู้เผื่อมีโอกาสได้ใช้ต่อไป ขอบคุณครับ ได้ความรู้อีกแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"สี่คนหาม สามคนแห่ หนึ่งคนนั่งแคร่ สองคนพาไป"
|
|
|
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 4088
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20186
1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน
|
|
« ตอบ #216 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2011, 06:17:59 PM » |
|
ปากช่อง - เขาใหญ่ - ภูกระดึง - ปากช่อง - อุดร - หนองบัวลำภู-ภูกระดึง ๔. บน ภูกระดึง
ราว ๖ โมงเช้า ผมออกจากบ้านพัก ของ อช. เดินอ้อมไปด้านหลัง ก็มองเห็น เต็นท์สีเขียวหม่น ๆ ๓ – ๔ หลัง มีเพื่อนบางคน ตื่นมาก่อกองไฟเล็ก ๆ .. ไม่นานนัก เมื่อหลายคนในเต็นท์ได้ยืนเสียงพูดคุย ก็โผล่ มาทีละคน
ก่อนที่ ไอ้เพื่อนบางคนจะด่าผม .. ก็ถูกตัดบทด้วย ไปล้างหน้าอาบน้ำ ในบ้าน กันก่อน แล้ว ค่อยคุยกัน อากาศตอนนั้น หนาว แต่ตอนนี้ จำความรู้สึกไม่ได้แล้ว ว่าขนาดไหน..
ครั้งนั้นการท่องเที่ยว ไกลๆ จะถูกกำหนดด้วย อาหารการกิน ที่ต้องตระเตรียม ไปทำกินกันเอง แต่ตอนนั้นยังถือว่าโชคดีมากที่มีโรงงครัวของ อช. เปิดโล่ง ที่พวกเราพอไปอาศัย ซื้อของกิน ที่พอเหลือส่วนหนึ่ง จากการจัดให้กับ นักศึกษาอาชีวะ ฯ..
เช้าวันนั้น ผมกับหยี และเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักเช็คแฮนด์ กับฝรั่ง ๒ คนและ solong ลาจากกันชั่วนิรันตร์ ผมก็ไม่ทราบว่าสัญชาติใด และแยกย้ายกัน แต่ กำหนด มาโนช ,หยี ฯลฯ ปากก็คาบบุหรี่ ฟรี มาคนละมวน.
หลังมื้อเช้า เราตกลงเดินไปตามทาง จากศูนย์พิทักษ์ป่าวังกวาง ที่เขียนบอก ด้านทิศตะวันตก.. น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกโผนพบ น้ำตกเพ็ญพบใหม่ พวกเราเดินไปตามทางด่าน ตัดเข้าไปในดงไผ่.. เป็นทางยาว ลัดเลาะไป จนพบน้ำตกเพ็ญพบ -น้ำตกโผนพบ แต่น้ำน้อย ยังไม่เห็นความสวยเลยครับ จึงต่อไปในเส้นทางที่บอก น้ำตกเพ็ญพบใหม่ .
เดินจนเมื่อย มาก ๆ และไกลพอสมควร เมื่อไปถึงอยู่ข้างบนน้ำตก ต้องไต่ลงไปข้างใต้ น้ำมีไม่มาก น้ำที่ฐานน้ำตก เป็นสีชา และไหลลงที่ต่ำ .. เรานั่งพักแช่น้ำ ทั้งรองเท้า .. ได้ไม่นานเท่าไร
พวกเราจำได้ หรือจะประมาณคาดเดากันเองว่า น้ำจะต้องไหลผ่านไปจน ตกต่อที่น้ำตกโผนพบ. ขากลับ เราจึงไม่ย้อนทางเดิม แต่เดินตามธารสีน้ำชา บางตอนก็เป็นช่องแสง สะท้อน เป็นเงา กับแสงแดด ธารน้ำ ไม่ได้ ล่องลงที่ต่ำ เป็นเส้นตรง ซะเมื่อไหร่.. การวก-วน จึงชักชวน ให้พวกเรา ที่ไม่รู้อะไรเลย หวังแต่จะเดิน ก็ได้เดินลุยน้ำ สมใจ เมื่อลงไปแล้วตลิ่ง มันอยู่สูง จึงถูกบังคับ ให้กระโดด ไปตามโขดหิน และลุยน้ำชา ไปเรื่อย ๆ ๆ ๆ
บ่ายวันนั้น เราถึงเต็นท์ และย้ายเต็นท์ไปในที่ร่ม ที่พอกันแดด ได้บ้าง ตกลงว่า พรุ่งนี้ ตี ๕ เราจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ ผานกแอ่น (ที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ แต่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ที่ดี ที่สุด ) แล้วก็ หมดแรง เต็นท์ใครเต็นท์มัน
ราว ตี ๕ ครึ่ง เราใช้เวลาเดินมาราว ๔๕ นาที มีนักท่องเที่ยวอยู่ที่นั่นก่อนเราไปถึง ๑๐ กว่าคน พอช่วง พระอาทิตย์กำลังขึ้น จุดที่พวกเราเลือกว่าเหมาะที่สุด กลายเป็น มีคนมาตีตั๋วยืน บังเราไปซะฉิบ..
ขากลับเราไม่ตรงกลับ เต็นท์ แต่เลาะไปทางทิศใต้ ทางเดินเป็นทราย เป็นหินตะปุ่มตะป่ำ มีกุหลาบหินแซมมากับตะไคร่เขียว .. และที่นี่เราพบ ต้นหม้อข้าว หม้อแกงลิง กับตา เป็นครั้งแรก ก่อนหน้ามีแต่ในหนังสือเรียน
เราพบรอย เท้ากีบ ใหญ่ ๆ หลายรอย บน พื้นทรายแห้ง แต่ไม่พบเจ้าของรอย แต่มาทราบจากที่ไหน และจากใครก็จำไม่ได้แล้วว่า เป็นวัว หรือควายของชาวบ้าน ที่นำขึ้นไปเลี้ยง คงเป็นทางที่เป็นป่าปิด ที่ใดสักแห่ง ที่สัตว์ป่าใช้อาศัยขึ้นลงจากภู
นักศึกษาอาชีวะ รุ่นพี่ ลงไปเมื่อตอนสาย ครัวปิดแล้วละ นักเรียนทั้งหลาย นี่คือคำบอกจาก พี่แม่ครัว. กับ มื้อสุดท้าย ที่พี่แม่ครัว จะรับรองพวกเรา ก็จำต้องเป็นมื้อสุดท้าย บนภูฯ ของพวกเรา เหมือนกัน ถอนเต็นท์ ราว บ่ายโมง สะพายเป้หลัง เดินเล่นอ้อยสร้อย ตรงไปหลังแป ที่อยู่สุดทิศตะวันออกของภูฯ ภูกระดึง เป็นที่ที่สูงที่สุดสำหรับพวกเรา ที่มาประทับรอยเท้า แบบขาขวิดขา ร่วมกันเอาไว้ .. เราทำลายสถิติ ในพื้นที่สูงของตัวเอง ๒ ครั้ง ในการออก Trip ในครั้งนี้
การลงจากภูกระดึง แม้เป็นทางลง แต่ทรมานแข้งขา - เท้า มาก ๆ ขาขึ้นอาจจะเหนื่อยเพราะปีน และแบกของ แต่ขาลง กึ่งเดินกึ่งวิ่ง เหมือนเดิม จึงมีแรงส่งไปเพิ่มน้ำหนักที่เท้า จะเจ็บที่ นิ้วเท้าอย่างมาก .. มาโนช สะดุดรากไม้ ร่างเขาพุ่งไปข้างหน้า ราว ๗ -๘ เมตร ยังดีที่ เป็นพื้นดินต่างระดับ ไม่ใช่ทางหิน และเป้หลัง รับร่างเอาไว้
การลงจากที่สูง สวนกับเวลา เราจึงเดินเข้าหาความมืด ที่ต้องเร่งเวลา ไม่ให้มืดลงกลางทาง.. ซะก่อน และเมื่อ ๑๘.๐๐ น. เศษ เรามาอยู่พร้อมกัน ณ.ตีนภูฯ ในอาคารหลังคาคลุม พื้นคอนกรีต แต่เปิดโล่งรับลมทุกด้าน .. ถึงตอนนั้น ทุกคนทำได้เพียง พัก ทอดน่อง ให้หายปวดเมื่อย และหาที่นอนก็บนพื้นคอนกรีต ไม่มีไฟที่จะอาศัยแสง เพื่อช่วยกางเต็นท์ และก็ไม่มีใครอยากจะกางเต็นท์ ก็เพราะ ฝนตกหนัก ไม่นานนักหลังจาก ที่มาถึง
ไม่มีอะไรจะตกถึงกระเพาะ นอกจากน้ำฝนที่รองได้จากหลังคา ที่มืด ๆ ตรงนั้น ต้องหมดแรงข้ามต้ม กันอีกครั้ง .. และเป็นคืนที่หนาวที่สุด มากกว่าอยู่บนภูกระดึงซะอีก .. ยิ่งต้องมาห่มด้วยผ้าเต็นท์ที่เคยเป็นหลังคา เปื้อนฝุ่นดิน เมือเจอ ละอองฝน + ลม เราทำได้เพียงต้องทนห่ม เพื่ออาศัยบังลม-ละอองฝน และรอให้ถึงตอนเช้า เร็ว ๆ เท่านั้น เอง ละครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สหายอ๋อง เซียนปลาซิว
จริงใจ บริสุทธ์ใจ แล้วจะแคล้วคลาด จากภัยทั้งปวง
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 657
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 9377
คบหมาเป็นเพื่อน ดีกว่าคบเพื่อนหมาๆ
|
|
« ตอบ #217 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2011, 06:30:04 PM » |
|
ตอนนี้ได้แต่นอนฝันว่า ทำโครงการฯให้เด็กๆในหมู่บ้านเสร็จ ก็จะไปตามฝันตัวเอง ซัก 2-3 เดือน แบบไม่แวะรบกวน สมช.
หรืออาจจะไปเร่ขายเกิบ ตามงานประจำปีจังหวัด แล้วค่อยแว๊บไปเยี่ยมเยียน ที่ที่เคยไปผูกเปลนอน ฝันอันสูงสุด
โน๊ตบุ๊ค 1 เครื่อง เป้หนึ่งใบ + เปล สนามอีกหนึ่ง ทุก อย่างพร้อมแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 4088
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20186
1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน
|
|
« ตอบ #218 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2011, 06:57:55 PM » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 21, 2011, 03:50:38 PM โดย Ro@d - รักในหลวง »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 4088
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20186
1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน
|
|
« ตอบ #219 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2011, 07:16:34 PM » |
|
พระนคร - กุมภวาปี - ประตูชัย กำแพงนครเวียงจันทน์ - กุมภวาปี การบอกเล่านี้ อาจมีเพื่อนในชั้นเรียนสักคน ผ่านมาพบ ก็ได้ครับ .
ในชั้นเรียน มัธยมศึกษาปีที่ ๕ ห้อง ๕๐๑ สายวิทย์ และเป็นห้อง King เป็นห้องเบอร์หนึ่ง ของ โรงเรียนวัด ประดู่ในทรงธรรม เมื่อ ๓๖ ปีก่อน พวกเรากำลังโต.. เลือกการท่องเที่ยว แทนการเที่ยวเล่น
ความรับผิดชอบ ในสังคมรอบตัว กึกก้อง สมฯ ถูกกำหนดให้ลงเลือกตั้ง และได้รับเสียงโหวตให้เป็นประธานนักเรียน ธรรมศักดิ์ นาฯ เป็นประธานชมรมสันทนาการ จัดพานักเรียนในโรงเรียน ไปท่องเที่ยว ทัศนะศึกษา ในต่างจังหวัด และหาเงินไว้ให้รุ่นน้อง ทำกิจกรรมต่อ ส่วนตัวผม ได้รับการโหวตอย่างเอกฉันท์ ให้เป็นหัวหน้าห้อง ๕๐๑
สมัยเป็นเด็กวัยรุ่นกำลังโต วันเวลาช่างผ่านไปอย่างชักช้า และเราก็ใช้เวลาที่ผ่านทำกิจกรรมร่วมกันได้อย่างคุ้มที่สุด นั่นคือการท่องเที่ยวไปตามใจ กิจกรรมส่วนรวม จะขึ้นกับ วันหยุดยาวตามเทศกาล
แต่เมื่อใด ที่เพื่อน คนใด มีแหล่งที่ให้ไปเที่ยว จะต้องมาสะกิด บอกกัน.. และงานนี้ เพื่อนที่ชื่อกำหนด บอก รถจะออก หน้าตลาดสำเหร่ วันศุกร์ ๔ ทุ่ม ไปทอดผ้าป่า หรือกฐิน ที่อุดรราชธานี กลับวันอาทิตย์ มืด ๆ
รถไปถึงวัด ใน อำเภอกุมภวาปี ลึกเข้าไปราว ๗ กม และผมจำป้ายงานวัด ปากทางเข้า ไว้อย่างแม่นยำ ... หลังกินข้าวเที่ยง รถบัส พาคณะผู้ใจบุญ ไปเที่ยวริมโขง ที่ หนองคาย .. ตรงด่านท่าเสด็จ กึกก้อง เดชา และผม ๓ คน พอเสียตังค์ ก็รีบลงเรือข้าม ไปฝั่ง สปป.ลาว ซึ่งเพิ่งจะสงบจากสงครามกลางเมื่อง สัก ๑ ปีมาแล้ว .. และยังจำว่า คนขับบอกรถจะกลับวัด ๑๗.๓๐ น.
เรา ๓ คน ข้ามโขง และผ่านเข้าเหยียบพื้นดิน ของ กำแพงนครเวียงจันทน์ ราว ๑๖.๐๐ น... เสื้อนักเรียนสีขาว ปักหน้าอกซ้าย ปท. (วัดประดู่ในทรงธรรม) และได้ใช้นอกประเทศ ที่ ชาวลาวมอง ว่า อ้อ เด็กพวกนี้ มาจาก ประเทศไทย .. ขึ้นจากเรื่อ ก็ต้องทำบันทึก และชำระค่าธรรมเนียมผ่านเข้าประเทศ.. และพวกเรา เลือกเลี้ยวขวา เดินตาม คนข้างหน้าเราไปเรื่อย ๆ
ผ่าน สถานทูตจีนประจำ นครเวียงจันทน์ ก็แวะก่อน เพื่อน ถูกห้ามไม่ให้ถ่ายรูป เป็นอาคารไม้ เงียบ ๆ แต่ในความรู้สึกสมัยนั้น ยิ่งใหญ่มาก เพราะถูกกล่าวขวัญถึง การมีส่วนช่วยในการปฎิวัติ ในลาว เขมร และญวน ..สำหรับเรา ๓ คน จึงแค่การผ่านทางไปพบเท่านั้น แล้วก็เดินต่อไป ยังวัดพระแก้ว ที่ พระแก้วมรกต เคยมาประดิษฐาน อยู่ด้านขวามือติดแม่น้ำโขง ตลอดทางเราผ่านแม่หญิงลาว ที่นุ่งผ้าถุง-เกล้าผม แต่งตัวสะอาด หน้าตาสะสวย แทบจะทุกคนที่หันมามอง แล้วยิ้มให้เรา
ถนนที่ผ่านไป คือถนนที่รถใช้วิ่ง แต่ตอนนั้น ไม่เหมือนถนนลาดยางหรือ คอนกรีต แต่เป็นถนนที่เสื่อมสภาพ เป็นหินกรวดลอย .. เราเดิน ผ่านต่อไป พอเลี้ยวซ้าย เป็นถนนกว้าง ตรงไปข้างหน้าราว ๒-๓๐๐ เมตร คือ ประตูชัย อยู่ตรงกลางถนน เป็นเหมือนวงเวียนให้รถวิ่งวน เหมือนประตูชัยที่ ปารีส แต่ย่อมกว่า และข้างบน ทำเหมือนซุ้มหลังคาวัด เป็นช่อ ๆ . . เรา ๓ คน ได้ถ่ายรูป มีประตูชัย เป็นพื้นหลังไว้ด้วย ภาพนี้ กึกก้องเก็บไว้ ผมได้เห็นอีกเมื่อ ราว ๕ ปี มาแล้ว
ตรงหัวถนน เราผ่านตลาดแลง .. มีผัก ปลา ขาย แบบตลาดในชนบท แต่วายแล้ว .. ทางที่เราเดิน คือริมถนน ส่วนมากจะเป็นจักรยานถีบ ส่วนรถยนต์ มีไม่มากนัก
๑ ชั่วโมง ริมโขง ฝั่งนครเวียงจันทน์ ผ่านไปเร็วมาก ได้ระยะเดิน เท่าที่เล่ามาครับ จำกัดด้วยเวลา จึงรีบต้องย้อนกลับ ก็ต้องกึ่งเดิน กึ่งวิ่งกันอีกแล้ว
๑๗.๐๐ น.นิด ๆ แต่คนที่รอผ่านด่าน ไม่นิดตามไปด้วย เสียเวลามาก + ความกระวนกระวายใจ และเราก็ข้ามมาอีกฝั่ง ก่อนเวลานัด ๑๗.๓๐ น. แต่รถบัสที่เรานั่งมาอันตรธานไปแล้ว และรถบัสหลายคัน ที่จอดกำลังทยอยออกไป
ช่วงนั้นเป็นช่วง งานบุญทอดผ้าป่า หรือกฐิน (จำไม่ได้) โชคจึงเป็นของเราบ้าง ได้มายืนบนรถบัสคันหนึ่ง และบอกพี่โชเฟอร์ จะอาศัยลง เมื่อ ถึงกุมภาวาปี โดยเรา ๓ คนช่วยกันดูป้ายบอกทาง และจะบอกขอให้รถจอดกันตรงนั้น เมื่อบอก คงจอดเลยมาก็คงไม่ไกลนัก
ตรงนี้ ถือเป็นการตัดสินใจ และต้องเชื่อมั่นตัวเอง จะผิดพลาดไม่ได้..รถบัส วิ่งไปในถนนที่มืดอาศัยแสงไฟหน้ารถ ส่องไปข้างหน้า เพื่อมองป้ายไฟ และปั้มน้ำมันที่อยู่ใกล้กันเป็นจุดสังเกต และเราก็ทำได้..
จากปากทางที่มืด มาก ๆ ๆ ระยะทาง ๗ กม. เมื่อเจอทางแยกเราต้องเดาทาง และทบทวนความจำ กันอย่างมืด ๆ จะอาศัยดูรอยล้อรถ ก็มองไม่เห็น ตลอดทาง เราเดินตัวเปล่า แบบ ตัวปลิว และไม่มีรถวิ่งผ่านเลยสักคัน จนจะถึงทางเข้าวัดนั่นละ จึงเห็นแสงไฟ รถวิ่งตามหลัง
พ่อแก่ แม่แก่ ที่มาร่วมงานบุญ สำเนียงฟังยาก ยากกว่าพูดคุย กับแม่หญิงลาว ซึ่งคุยและฟังได้ง่ายกว่า แม่แก่ ทำหมอนหนุน สี่เหลี่ยม และสามเหลี่ยม ยัดนุ่น มาฝาก คนใจบุญ ที่มาจาก พระนคร แต่ เรา ๓ คน ก็ไม่มีโชค เพราะของทำมาน้อย และก็เหมาะกับคนรุ่นป้า ๆ ที่มาด้วย
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 19, 2011, 11:10:42 PM โดย Ro@d - รักในหลวง »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Yoshiki_Silencer - รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
คะแนน 278
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 597
ลูกศิษย์ครูหมู (ด้วยอีกคน)
|
|
« ตอบ #220 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2011, 11:19:25 PM » |
|
+ ให้เรียบร้อยแล้วครับ มาปูเสื่อรอฟังด้วยอีกคน ฟังพี่ Ro@d เล่าแล้วเหมือนได้นั่งฟังเรื่องเล่าประสบการณ์ชีวิตจากคุณลุง หรือคุณ อาซึ่งย่นย่อประสบการณ์ชีวิตของตนเองหลายสิบปีให้น้อง ๆ ได้ศึกษาผ่านตัวหนังสือโดยไม่ต้อง ไปหัวหกก้นขวิดหกคะเมนตีลังกาด้วยตัวเอง ตัวผมเองปกติก็เป็นคนที่ชอบเดินป่าแต่ติดตรงที่คนข้าง ๆ ไม่ชอบด้วย ได้อ่านเรื่องของพี่ Ro@d แล้วเลือดนักเดินป่าในตัวมันเริ่มอุ่น ๆ ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ปีหน้ามีโครงการว่าจะถอยฮอนด้า CR-V สงสัยคงต้องเปลี่ยนมาเป็นโตโยต้า Pre Runner แล้วมั้งครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่ว่าจะเกลียดขี้หน้าใครขนาดไหน... แต่ตราบใดที่เขายังถูกต้องตามหลักการ ก็จะต้องปกป้องเขา เพราะสิ่งที่ปกป้องมันมากกว่า บุคคล แต่มันคือหลักการที่จะทำให้ระบบดำเนินต่อไปได้
|
|
|
สหายอ๋อง เซียนปลาซิว
จริงใจ บริสุทธ์ใจ แล้วจะแคล้วคลาด จากภัยทั้งปวง
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 657
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 9377
คบหมาเป็นเพื่อน ดีกว่าคบเพื่อนหมาๆ
|
|
« ตอบ #221 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2011, 09:40:29 AM » |
|
ปกติ ชีวิตเด็กวัดสระเกศ แม้จะออกจากวัดมาอยู่ข้างนอกแล้วก็ตาม แต่ต้องหาโอกาศไปเยี่ยมเยียนพี่น้อง และหลวงพี่ที่วัด อย่างน้อยเดือนละครั้ง ผมอยู่วัดสระเกศ (ภูเขาทอง) คณะ 3 ปลายปี 42 วันนั้นคิดถึงเพื่อนที่วัดก็เข้าไปหา ไปนั่งแอบแดร๊กเหล้าหลังคณะ มีท่านมหาอยู่รูปนึง ผมเรียกท่านว่า มหาอ้วน ชวนไปธุระที่ วัดคลองฟันปลา อ.ประจันตคาม จ.ปราจีณบุรี เอาไปก็ไป รถไม่มีไปรถไฟ ลงจากรถไฟ ไปต่อสองแถว ไปลงปากทางเข้าวัด เดินเท้าต่อกันกับท่านมหา อีก เกือบ สอง กิโล ไปถึงวัดเกือบ 4 โมงเย็น ท่านมหาคุยธุระกะเจ้าอาวาส ส่วนผมนั่งคุยกะผู้ใหญ่บ้าน จน 5 โมงกว่า สำรวจเสบียง บุหรี่หมด เลยต้องเดินย้อนกลับมาปากทาง กะ หลานผู้ใหญ่บ้าน ได้หงส์มา 3 กลม บุหรี่มา 3 ซอง ถั่วเจดีย์ 1 โหล ข้าวสาร สองกิโล ฯลฯ ชนิดแทบจะเหมาร้านเลย ขากลับ โชคดี มีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านท่านขับรถผ่านมา เลยอาศัยรถแกกกลับวัด เอาของเก็บ แล้วหุงข้าว ผูใหญ่บอก ไม่ต้องทำกับข้าว เดี๋ยวไปปักเบ็ดกัน เดินข้ามฝายน้ำล้นไปปักกันตรงข้ามวัดนั่นแหละ ระหว่างนั่งรอ ก็โจ้น้องหงส์ กันไปเรื่อย หมดไปกลมครึ่ง ได้ทั้งไอ้ช่อน ทั้งชะโด เยอะโขอยู่ กลับมาถึงวัด 2 ทุ่ม ผมแกงส้มปักษ์ไต้ให้ผู้ใหญ่กับพักพวกแกลองกิน ไอ้จักรกลายเป็นเชป ใหญ่เลย ขมิ้นก็ขุดเอาของที่ท่านเจ้าอาวาส ท่านปลูกไว้เป็นสมุนไพร ส่วนชะโด ผู่ใหญ่แก ย่างแล้วทำน้ำจิ้มสูตรของแก อร่อยมากๆ ตกลงคืนนั้น หมดหงษ์ ต่อเหล้าต้ม นอนตีหนึ่ง อ้อเกิอบลืมปูเสื่อ นั่งโจ้กันริมคลอง ข้างวัด บรรยากาศ สุดยอดเลย ตอนเช้า ไปกู้ข่ายดักปลากัน ได้เยอะ 9 โมงเดินทางกลับโดยผู้ช่วยฯท่านขับรถมาส่งที่ สถานีรถไฟ ผู้ใหญ่ฯแกให้ ปลาแดดเดียวมาเกือบ 10 กิโล ความประทับใจคือเพิ่งรู้จักกันครั้งแรก แต่การต้อนรับ เยี่ยมมากๆ กะว่ามีโอกาสจะไปหาแกอีกสักครั้ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 4088
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20186
1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน
|
|
« ตอบ #222 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2011, 11:43:18 AM » |
|
+ แต้มที่ ๒๔๐ ครับ คุณ Yoshiki_Silencer - รักในหลวง
+ แต้มที่ ๒๐๐ ให้แล้วครับ สหายอ๋อง พรานปลาซิว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สหายอ๋อง เซียนปลาซิว
จริงใจ บริสุทธ์ใจ แล้วจะแคล้วคลาด จากภัยทั้งปวง
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 657
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 9377
คบหมาเป็นเพื่อน ดีกว่าคบเพื่อนหมาๆ
|
|
« ตอบ #223 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2011, 11:53:36 AM » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 21, 2011, 12:02:31 PM โดย สหายอ๋อง พรานปลาซิว »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
kensiro
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #224 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2011, 07:26:29 PM » |
|
ตอนนี้ได้แต่นอนฝันว่า ทำโครงการฯให้เด็กๆในหมู่บ้านเสร็จ ก็จะไปตามฝันตัวเอง ซัก 2-3 เดือน แบบไม่แวะรบกวน สมช.
หรืออาจจะไปเร่ขายเกิบ ตามงานประจำปีจังหวัด แล้วค่อยแว๊บไปเยี่ยมเยียน ที่ที่เคยไปผูกเปลนอน ฝันอันสูงสุด
โน๊ตบุ๊ค 1 เครื่อง เป้หนึ่งใบ + เปล สนามอีกหนึ่ง ทุก อย่างพร้อมแล้ว
ผม ก็เหมือนกันพี่ หมดนี่เมื่อไร ขอเวลา เป็นส่วนตัว สักเดือน ทำลายสถิติ การ เดือนเขา ตัวเอง ห่างเหิน มา เกือบ 10 ปี ตั้งแต่ แต่งงาน แม่คุณ ไม่ให้ผมไปใหนชวนไปก็ไม่ แม้แต่ออกกำลัง เขา ยังไม่ออก เลย มะเหมือนผม บ้า กีฬา ออกกำลังกาย ผมว่ามันป่วยยากนะ เมื่อวาน รู้สึกว่าตัวเอง จะเป็นไข้ จับไข้เลย ก็ว่า พอฝันตก มอเตอร์ ออกไปตากฝนสะ 30 กว่า เสื้อกล้ามตัวเดียว แทนที่ไข้จะหนัก มันกับหายไข้ 55555 เมื่อเราออกกำลังกาย ให้ร่้างกาย อยู่ตัว หรือเกิน ขีดความสามารถของร่างกายปกติ มันดีอย่างนี้นี่เอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|