เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 28, 2024, 02:54:13 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 14 15 16 [17] 18 19 20 ... 68
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ซึ่งวิถี " ๑ คัน ๑ กระบอก กับ ๑ ชีวิตที่อิสระ "  (อ่าน 264080 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 36 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
vinchy
มโนธรรม คือ มิตรแท้เตือนใจ
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 125
ออฟไลน์

กระทู้: 554


« ตอบ #240 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 11:04:39 AM »

        ขอคุยเรื่องเดินทาง แล้วนำเอาอาวุธปืนคู่กายติดไปด้วยครับ เป็นเทคนิคของแต่ละท่านว่าจะ
เอาไปแบบไหน ซุกตรงไหน ซ่อนตรงไหน ต้องหาวิธีกันเอาเองครับ เป็นเรื่องเฉพาะตัว

แต่หากเราต้องติดไปเพื่อป้องกันตัวกันจริงๆ ก็ขอแนะนำให้ นำใบอนุญาต แบบ ป.๔ ฉบับจริง(เน้นฉบับจริงนะครับ)
ไปด้วย แม็กกาซีนสำรองหากมีจำนวนมากๆหลายๆอัน แนะนำให้แยกกันไว้กับจุดที่เก็บปืน

เพราะเวลาเจ้าหน้าที่ตรวจค้น หากพบแม็กกาซีนที่บรรจุกระสุนเต็มหลายๆอัน เช่น ๔ อันขึ้นไป
อาจทำให้ดูน่าสนใจกว่าปกติ

ควรคิดแผนการว่าหากถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในข้อหา มีอาวุธปืนติดตัว
โดยไม่ได้รับอนุญาต/ไม่มีเหตุอันควร/เหตุอื่นที่กฎหมายยกเว้นให้มีอาวุธปืนติดตัวได้
จะให้ใครคุย ใครประกันตัว หรือประกันตัวเอง ควรหาข้อมูลไว้ด้วยครับ

ที่เน้นย้ำใบอนุญาต แบบ ป.๔ ฉบับจริง เพราะอาจจะตัดข้อหา มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ออกไปได้ง่าย กรณีที่มีเพียงแค่ สำเนาใบอนุญาต ป.๔ จะถูกตั้งข้อหานี้เพิ่มมาด้วย
ซึ่งมีผลกับยอดเงินที่เราต้องใช้ประกันตัว(กรณีใช้เงินสด)
Cheesy
บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #241 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 04:39:12 PM »

        ขอคุยเรื่องเดินทาง แล้วนำเอาอาวุธปืนคู่กายติดไปด้วยครับ เป็นเทคนิคของแต่ละท่านว่าจะ
เอาไปแบบไหน ซุกตรงไหน ซ่อนตรงไหน ต้องหาวิธีกันเอาเองครับ เป็นเรื่องเฉพาะตัว

แต่หากเราต้องติดไปเพื่อป้องกันตัวกันจริงๆ ก็ขอแนะนำให้ นำใบอนุญาต แบบ ป.๔ ฉบับจริง(เน้นฉบับจริงนะครับ)
ไปด้วย แม็กกาซีนสำรองหากมีจำนวนมากๆหลายๆอัน แนะนำให้แยกกันไว้กับจุดที่เก็บปืน

เพราะเวลาเจ้าหน้าที่ตรวจค้น หากพบแม็กกาซีนที่บรรจุกระสุนเต็มหลายๆอัน เช่น ๔ อันขึ้นไป
อาจทำให้ดูน่าสนใจกว่าปกติ

ควรคิดแผนการว่าหากถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในข้อหา มีอาวุธปืนติดตัว
โดยไม่ได้รับอนุญาต/ไม่มีเหตุอันควร/เหตุอื่นที่กฎหมายยกเว้นให้มีอาวุธปืนติดตัวได้
จะให้ใครคุย ใครประกันตัว หรือประกันตัวเอง ควรหาข้อมูลไว้ด้วยครับ

ที่เน้นย้ำใบอนุญาต แบบ ป.๔ ฉบับจริง เพราะอาจจะตัดข้อหา มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ออกไปได้ง่าย กรณีที่มีเพียงแค่ สำเนาใบอนุญาต ป.๔ จะถูกตั้งข้อหานี้เพิ่มมาด้วย
ซึ่งมีผลกับยอดเงินที่เราต้องใช้ประกันตัว(กรณีใช้เงินสด)
Cheesy

ขอบคุณ คุณ vinchy และทุกท่านที่ร่วม แชร์ กระทู้ มาก นะครับ .. จะได้มีแนวทาง ไว้เผื่อเป็นประโยชน์ ในกาลเทศะ ที่เหมาะสม ข้างหน้า.  ไหว้     Cheesy
บันทึกการเข้า

Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #242 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 05:33:06 PM »


เมื่อมีเวลา ให้ต้องคิดถึงตัวเอง..  จะต้องวกเข้าหาเรื่องผจญภัย เดินทางท่องเที่ยว พเนจร  ไปให้ได้เพื่อใช้ วิถีชีวิตที่อิสระ ตามใจ กับเพื่อนแท้ ๑ สำลอง ๑ ที่คบอยู่
ไปในที่ใด ๆ ที่สนุกกับการเดินทางด้วยการขับรถ ..แล้วหยุดอยู่ตรงนั้น ปักเต็นท์เงียบ ๆ ทำกิน อ่านหนังสือ ทิ้งเวลา ชาร์ตแบตฯให้ตัวเอง สัก ๒ - ๓ วัน   Grin

๑. Jeep พาหนะที่ใช้เป็นม้าไปได้ในทุกที่ ที่เป็นทางดำ หรือ ทางที่รถไถไปได้..  ก็มีพร้อมแล้ว   +
๒. ตังค์ที่ซุกลืมไว้ใน Jeep เผื่อไว้เป็นค่าใช้จ่าย (เชื้อเพลิง ค่าอาหาร ๒๐,๐๐๐.-)  +

๓. อุปกรณ์ Camping กล้อถ่ายรูป กล้องบันทึกวีดีโอ เ็ต็นท์ เครื่องครัว ข้าวสาร อาหารแห้ง ชา-กาแฟ
ชุดแปลงไฟรถยนต์ เป็นไฟบ้าน (Inverter) พัดลม ที่ต้องใช้ช่วงหัวค่ำ กย ๑๕  พร้อมในกล่อง เงียบ ๆ   +

๔. กึ่งออโต .๔๐ (M&P40,G23)ที่จับ คู่กับ ๙ พารา (G 26) + กระสุนสำลอง ๘๐ นัด +/-
๕. สถานที่ ตามที่หลายท่านพูดถึง.. ตามเทศกาล ว่าถูกจริต ตัวเองบ้างไหม . +

๖. สำคัญที่สุด.. คน คือตัวข้าพเจ้า..ว่ามีความอยากเดินทาง..   มีเวลาไหม  ๕ วัน +/-   (ไป-กลับ ๒ วัน รากงอกได้ ๓ วัน)           





บันทึกการเข้า

vinchy
มโนธรรม คือ มิตรแท้เตือนใจ
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 125
ออฟไลน์

กระทู้: 554


« ตอบ #243 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2011, 09:54:56 PM »

        ผมเสียดายการเดินทางหลายๆเที่ยวของผม ที่ไม่สามารถนำมาเล่าแชร์ให้สมาชิกอ่านกันได้
เพราะการเดินทางของผมที่ผ่านมาส่วนมากถึง ๙๐ เปอร์เซนต์ เป็นเรื่องการไปทำงานแบบซอกแซก
ไปในหลายๆที่ ส่วนมากก็แวะท่องเที่ยวตามจุดที่น่าสนใจด้วย(อยากเล่าเหมือนกันแต่ขอเล่าหลังจากนี้ซัก ๒๐ ปี+)
ตั้งแต่เริ่มรับราชการมาได้เดินทางมากกว่าก่อนหน้านั้นที่ยังเป็นนักศึกษารามฯ มากนัก กว่าครึ่งเป็นการเดินทางคนเดียว
ครับ

แต่การเดินทางช่วงที่รับราชการแล้วผมก็ได้พื้นฐานมาจากการชอบตะลอนไปทั่วๆ หาเพื่อนที่ไปเรียนอยู่ตามมหาวิทยาลัยตามต่างจังหวัดบ้าง
ไปตามที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ ที่ลงในหนังสือ อสท บ้าง ตามแต่จะมีกำลังทรัพย์ไป บางครั้งเคยโบกรถข้ามภาค
ของประเทศก็มี สมัยก่อนเวลามีเหลือเฟือครับ แต่ไม่ค่อยมีตังค์ ทุกวันนี้พอมีตังค์ แต่ไม่ค่อยมีเวลา


            ผมขอเล่าเรื่องการเดินทางเบาๆสมัยเป็นนักศึกษารามฯ ปี ๑ พ.ศ. ๒๕๔๐ ให้อ่านกันนะครับ
ช่วงนั้นคิดถึงเพื่อนที่เคยร่วมก๊วนกันตั้งแต่ประถมถึงมัธยมปลายมากๆเพราะต้องแยกกันไปเรียนตามวิถีทางทางของแต่ละคน
เพื่อนรักคนหนึ่งไปเรียนอยู่ แม่โจ้ ผมหาโอกาสรวมกลุ่มไปเยี่ยมเยือนเพื่อนมาหลายวันก็ยังไม่พร้อมกันซะที
จนวันหนึ่งออกจากที่พักหน้ารามฯ มาเดินเล่นๆอยู่แถวบ้านหม้อ(ใกล้ๆวังบูรพา)เพื่อหาซื้อ อุปกรณ์วิทยุสื่อสาร
ซึ่งสมัยนั้นในกลุ่มผมจะชอบเล่นวิทยุสมัครเล่นกัน

ตอนนั้นประมาณบ่ายสองโมงกว่ากำลังจะนั่งรถไปเอกมัยนั่งรถเมล์ผ่านหัวลำโพง ความคิดแว๊บเข้ามาว่า
ไปหาเพื่อนที่เชียงใหม่ดีกว่าจึงลงรถเมล์เดินเข้าไปดูเวลารถขึ้นเชียงใหม่ ช่วงที่เดินเข้าไปในหัวลำโพง
หาเสบียงหิ้วติดมือไปรองท้องบนรถ มีน้ำเปล่า ๑ ขวด ซาลาเปาไส้หมูแดง ๒ ลูก +หนังสือบางกอก
โดดขึ้นรถไฟไปหน้าตาเฉยครับ นั่นเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมมาเชียงใหม่

พอเริ่มมืด ช่วงรถจอดแวะสถานีรายทางผมก็เดินไถลไปที่ตู้เสบียงครับ สั่งข้าวผัดมาเป็นมื้อค่ำ
อิ่มแล้วก็เดินไปยืนเล่นรับลมอยู่ตู้สุดท้าย คุยกับนักเดินทางอีก ๒ คนที่มายืนสูบบุหรี่อยู่ก่อนแล้ว

ช่วงนั้นอากาศค่อนข้างเย็นเพราะเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ผมใส่เสื้อยืดคอกลมสีดำตราห่าน
สวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวม้วนแขนมาถึงศอกลายสก๊อตสีน้ำเงิน/ขาว เริ่มรู้สึกหนาว จึงเดินกลับมาหาที่นั่งในตู้

ในตู้รถไฟ มีคนไม่มากนัก เพราะไม่ใช่ช่วงเทศกาล เก้าอี้นั่งยาวๆตัวหนึ่งนั่งที่ละคนยังเหลือ ผมถอดเสื้อมาพับแทนหมอนหนุนหัว
หลับไปง่ายๆ มาตื่นเอาตอนตี ๓ ใกล้ๆเข้าลำปาง มีตำรวจรถไฟแต่งเครื่องแบบ ๒ นาย มาเรียกปลุกให้ตื่นทั้งตู้
ขอตรวจบัตรประชาชนกับกระเป๋าและสัมพาระ ทุกคน โดยไม่บอกว่าตรวจเรื่องอะไร คนตรวจยศจ่าสิบตำรวจ
ส่วนอีกคนยศดาบตำรวจคอยยืนคุมเชิง

เมื่อตรวจจนมาถึงผม ผมก็ยื่นบัตรประชาชนให้ดูแต่ตำรวจรถไฟขอดูกระเป๋าสัมพาระ
ผมตอบว่า ไม่มี เขาไม่เชื่อ พยายามหากระเป๋าที่วางอยู่บนชั้นที่ไม่มีเจ้าของ แต่ทุกใบมีคนแสดงตัวเป็นเจ้าของหมด
สุดท้าย ถามผมตรงๆ เลยว่า เป็นคนไทยรึเปล่า ผมก็ยืนยันและส่งบัตรประชาชนให้ดูอีกครั้ง

แต่ดูเหมือนเขาไม่ค่อยเชื่อว่าเป็นบัตรของผมเอง พยายามพูดกับผมด้วยภาษาที่ผมไม่เคยได้ยิน
(น่าจะเป็นภาษาชาวเขาประมาณนั้น) แต่ผมก็ก็ยังเฉย สุดท้าย ขอค้นตัวผมอย่างละเอียด

ทั้งเนื้อทั้งตัว มีบัตรประชาชน+บัตรเอทีเอ็ม+เงินสดอีกไม่เกินพันบาท+มีดพับเล็กๆยาว ๓ นิ้วเศษๆ ยี้ห้อ บั๊ค
ที่ผมเพิ่งซื้อมาจากร้านแถวๆวังบูรพา สุดท้ายทางตำรวจก็ยึดมีดพับผมไปดื้อๆ เพราะบอกว่าเป็นอาวุธได้
ผมก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร เพราะมีความรู้สึกอยากให้ตรวจผ่านเราไปไวๆ

สุดท้ายก็มาถึงเชียงใหม่ตอนเกือบสว่าง อากาศหนาวมาก ผมเดินไปร้านมินิมาร์ทแถวๆนั้นหาอะไรอุ่นๆรองท้องก่อน
พอเช้าก็หาตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญโทรไปที่หอพักเพื่อนถามทาง เมื่อได้ข้อมูลเพิ่มเติมแล้วก็หารถสองแถวนั่งไปแม่โจ้
ครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 30, 2011, 10:09:04 PM โดย vinchy » บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #244 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2011, 11:08:25 PM »

ตอนเริ่มทำงาน ถ้ามีรถไฟไปถึง ผมก็ชอบ เดินทาง ด้วยรถไฟ.. ประหยัด ปลอดภัย ลุกนั่งเดินยืดเส้้น คลายเมื่อยได้
และข้าวผัดรถไฟ เป็นอาหาที่อร่อย มาก ๆ ๆ   Cheesy

ติดใจการเดินทางด้วยรถไฟมาจนบัดเดี๋ยวนี้.. ยังอยากนั่งรถไฟเที่ยวเย็นจากเชียงใหม่  ที่มองเห็นแก่งซ้ายมือแสงแดดอ่อนล้า ทัศนียภาพ น่ารื่นรมย์ จริง ๆ 

ยังอยากนั่งสายอีสานเหนือ.. แล้วข้ามไป นครเวียงจันทน์ อีกครั้ง ถ้าไม่มีเพื่อนนำเที่ยว คงต้องกลับมานั่งรับลมเย็น ย่ำค่ำ  ริมน้ำโขง ฝั่งหนองคาย  Grin
เดินทางแบบนี้ จัดสรรตัวเอง ง่าย ๆ กึ่งออโต .๔๐ ก็ไม่ต้องมีติดไปให้กังวล. นาฬิกาก็ผูก Bulova สายหนังเก่า ๆ ผลิตร่วมสมัย WWII แทน Daytona

เป้ มีเสื้อผ้า ๒ ชุด NB. หนังสืออ่าน ๑ เล่ม กล้อง  น้ำหนักราว  ๖ กก+/-  ก็ปลีก สันโดษ ได้แล้ว ละครับ  แต่จะเป็นเมื่อไร  ดีน้า.   ยิ้มีเลศนัย

 
บันทึกการเข้า

PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #245 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2011, 09:59:54 AM »

ยังอยากนั่งสายอีสานเหนือ.. แล้วข้ามไป นครเวียงจันทน์ อีกครั้ง ถ้าไม่มีเพื่อนนำเที่ยว คงต้องกลับมานั่งรับลมเย็น ย่ำค่ำ  ริมน้ำโขง ฝั่งหนองคาย  Grin
เดินทางแบบนี้ จัดสรรตัวเอง ง่าย ๆ กึ่งออโต .๔๐ ก็ไม่ต้องมีติดไปให้กังวล. นาฬิกาก็ผูก Bulova สายหนังเก่า ๆ ผลิตร่วมสมัย WWII แทน Daytona

เป้ มีเสื้อผ้า ๒ ชุด NB. หนังสืออ่าน ๑ เล่ม กล้อง  น้ำหนักราว  ๖ กก+/-  ก็ปลีก สันโดษ ได้แล้ว ละครับ  แต่จะเป็นเมื่อไร  ดีน้า.   ยิ้มีเลศนัย
 


                            ทริปนี้ขอติดสอยห้อยตามไปด้วยอยากมานานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสเลยครับลุง   หลงรัก หลงรัก  ตืนเต้นอีกแล้ว   Grin

                            ชีวิตนี้เคยนั่งรถไฟครั้งเดียวจริงๆ เย็นจากหัวลำโพงไปสว่างปลายทางที่เชียงใหม่ คืนนั้นกินนอนสนุกในห้องเสบียงกับ จนท.เขาอัธยาศัยดีมาก  เยี่ยม
บันทึกการเข้า

                
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #246 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2011, 11:43:35 AM »

ยังอยากนั่งสายอีสานเหนือ.. แล้วข้ามไป นครเวียงจันทน์ อีกครั้ง ถ้าไม่มีเพื่อนนำเที่ยว คงต้องกลับมานั่งรับลมเย็น ย่ำค่ำ  ริมน้ำโขง ฝั่งหนองคาย  Grin
เดินทางแบบนี้ จัดสรรตัวเอง ง่าย ๆ กึ่งออโต .๔๐ ก็ไม่ต้องมีติดไปให้กังวล. นาฬิกาก็ผูก Bulova สายหนังเก่า ๆ ผลิตร่วมสมัย WWII แทน Daytona

เป้ มีเสื้อผ้า ๒ ชุด NB. หนังสืออ่าน ๑ เล่ม กล้อง  น้ำหนักราว  ๖ กก+/-  ก็ปลีก สันโดษ ได้แล้ว ละครับ  แต่จะเป็นเมื่อไร  ดีน้า.   ยิ้มีเลศนัย
 


                            ทริปนี้ขอติดสอยห้อยตามไปด้วยอยากมานานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสเลยครับลุง   หลงรัก หลงรัก  ตืนเต้นอีกแล้ว   Grin

                            ชีวิตนี้เคยนั่งรถไฟครั้งเดียวจริงๆ เย็นจากหัวลำโพงไปสว่างปลายทางที่เชียงใหม่ คืนนั้นกินนอนสนุกในห้องเสบียงกับ จนท.เขาอัธยาศัยดีมาก  เยี่ยม


แค่ทราบว่า มีคนคอเดียวกัน สนใจวิถีแบบเดียวกัน ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง..  ก็ Happy แล้ว ละครับ  Grin
บันทึกการเข้า

Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #247 เมื่อ: กันยายน 04, 2011, 02:37:01 PM »

ช่วงชีวิต ที่อยากบอกเล่าเพื่อให้เห็นเป็นแนวทาง ที่อาจดูได้จากตัวผม ที่มีวิถีชีวิตส่วนตัวที่ค่อนข้างสุด ๆ  ผลที่มากระทบ จึงค่อนข้างมาก ตามมาด้วย

๒๐ - ๓๐   สภาพร่างกาย แข็งแรง กล้าท้าทาย กับสิ่งแปลกใหม่ แบบใครรี รอ ไม่กล้าตัดสนใจ ผมจะแซงขึ้นไปจัดการเอง  
               ร่างกายมีความพร้อมมาก  ไม่มีท้อ ถดถอย นอนดึก หรืออดนอน ๒ - ๓ วัน สบายมาก
               แต่การนอนดึก จะส่งผลเสียในระยะยาวตาม มาครับ ..ผมเป็นคนนอนราว ตี ๑  +/-  ตื่น ๖ โมงเช้า ตั้งแต่เริ่มทำงาน
               ไปสะสม และลดทอนสุขภาพ ตอน ๔๐ ไปแล้ว

๓๐ - ๔๐   สภาพร่างกาย ถือว่า Peak สุด ๆ ร่างกายกำลังทรง ที่จะทำตามสิ่งที่ อิสระตามใจชอบ ได้ยาว ๆ อีกช่วงหนึ่งยิ่งถ้ามีเงินมาก ๆ  จะยาว เลยละครับ  คิก คิก

๔๐ - ๕๐   สภาพร่างกายทรง และเริ่มไปทางขาลง ทรุดลงอย่างช้า ๆ  สายตาเริ่้่มเสื่อมอ่านหนังสือต้องพึ่งแว่นสายตายาว ถ้าได้มีการออกกำลังกาย สภาพภายนอก
                อาจยังดูไม่ออกว่ากำลังทรุด เพราะดูไม่เปลี่ยน

๕๐ - ๕๕  เป็นระยะที่ ร่างกาย ความแข็งแรง ทรุดลงเร็วกว่าเดิม โรคภัย จากในรางกายเริ่มปรากฎ  เหนื่อยง่ายขึ้น ปวดเมื่อย บ่อยขึ้น
                หน้า่ตา หลังมือ อาจมีการเปลี่ยนแปลงให้เห็น การออกกำลังกายอาจช่วยชลอได้..  

                อาหารการกิน เป็นสิ่งสำคัญ เพราะโรคภัยไข้เจ็บ ต่าง ๆ อาจเข้ามาทางปาก
                หวาน - เค็ม - มัน   L กอ ฮอ- ควันบุหรี่เข้าปอด ..   อันตรายนัก

                สิ่งที่ได้ในช่วงนี้ คือระบบความคิด และจิตใจที่แกร่งกว่า มองอะไรได้ทะลุ คนอื่นจะมาหลอกนั้นยาก แต่ถ้าไม่ระวังอาจถูกระบบคิดของตัวเองมาหลอกตัวเองได้
                ช่วงเวลาที่ผ่านมา จะเกิดกับผมในช่วงอายุ ๔๕  จิตใจ จะวิ่งสวนกับสภาพร่างกาย

                ถ้ามีสิ่งกระทบทางอารมณ์ไปในทางลบ ต้องรีบตัด และคืนสภาพจิตใจโดยเร็ว ไม่อย่างนั้นอาการซึมเศร้า จะเข้ามายึดครอง
                ก็เท่ากับ เข้ามาแทนที่ ความรู้สึกที่ดีที่เคยมีมาตลอดนั้นซึ่งจะมีผลต่อร่างกายโดยรวม..  
                
                ถึงตอนนี้ สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ สำคัญมาก.. ไม่ใช่ใช้วัตถุมายึดเหนี่ยว นะครับ
                แต่้เปื่นเรื่องคำสอนของทุกศาสนา..  สำหรับผม ธรรมะ คำสั่งสอนขององค์พระพุทธเจ้า ช่วยได้มากที่สุด ครับ.  ไหว้     Cheesy      


บันทึกการเข้า

สหายอ๋อง เซียนปลาซิว
จริงใจ บริสุทธ์ใจ แล้วจะแคล้วคลาด จากภัยทั้งปวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 657
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9377


คบหมาเป็นเพื่อน ดีกว่าคบเพื่อนหมาๆ


« ตอบ #248 เมื่อ: กันยายน 05, 2011, 10:45:30 PM »

10  เม.ย.  2539  4  คน  แบกเป้คนละใบ  จะไปงานผ้าป่า  ที่ครบุรี  นั่งรถเมล์  จากวัดศระเกส  ภูเขาทอง  ไปลงหมอชิต  นั่งรถจากหมอชิต  ไปลง  โคราช  ไปถึง  บ่ายโมงกว่า  ถามเขามั่วไปหมดว่า  วัด  บ้านใหญ่  ครบุรี  ไปทางใหน  จนมี  หลวงพี่ท่านนึงฝากรถให้  ไปถึงวัด  เกือบค่ำ  ((  รถแวะตลอดทาง  ))จักร  กะพวกก็นั่งเมาไปกับลุงคนที่นั่งข้างหลังไปตลอดทาง  ไปถึง  หลวงพี่กรุงฯที่ให้ใบฎีกา  ท่านออกมารับ  นอนที่นั่น เช้ามา ไปเดินเล่นในหมู่บ้าน  สาวน้อยคนนึง ( ทับทิม )ออกมาทักหนุ่ม(ที่มาอาศัย)บางกอก  แทนที่จะมาทำบุญ  พ่อของ  ทับทิมเอาอีแก๊บออกมา  เลยออกไปหายิงนกในทุ่ง  ได้มาหลายตัว  แกล้ม  กะ  สาโท  ตกค่ำ  12  เม.ย.  พรรคพวก  จาก  บางกอก  มาสมทบอีกหนึ่งคันรถบัส  คืนนั้น  แอบพาทับทิมไปนั่งคุยที่เถียงนาน้อย  แล้วพากันกลับมาลุยงานผ้าป่าที่วัด  ตักใข่ปลาหมดไป  200กว่าบาท  ได้  เกิบ  มาสองคู่  แล้วไปเต้นหน้าวงหมอลำ  โดยมี  คนของผู้ใหญ่บ้านคอยดู  ห่างๆ  เช้ามา 13  เม.ย.  เอาอีแต๋น  ของพ่อทับทิมไปเที่ยวกัน  ไปใหว้หลวงพ่อนิล  ไปวัด  จระเข้หิน  ฯลฯ  ยังจำรสชาติ  สาโท  ที่นั่นได้ดี  ตอนขากลับ  อาศัยรถที่มาทำบุญ  จาก กทม.  กลับ  ประหยัดค่ารถได้โข
บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #249 เมื่อ: กันยายน 06, 2011, 02:42:49 PM »

นับ ๑ กับ ล้อหมุน เข้าป่า ด้วยรถ Off-Ro@d   Wink
ความสนใจในรถ 4x4 เกิดเพราะความอยากจะเข้าไปในป่าลึก ล้อทับไปในรอยเกวียน ในรถลากไม้

ครั้งที่ ร้านบุญนิธิ ที่ วุฒิ หรือตาวุฒิ คนเกิดปีไก่ ๒๕๐๐ ทำรถด้วย-เข้าป่าด้วย  ร้านอยู่ด้านหลัง VVP ริมถนนศรีนครรินทร์   
ตอนนี้ บุญนิธิ อยู่แห่งที่ใด.. ท่านใดทราบ ช่วยแจ้งข่าวด้วย ครับ.

ครั้งนั้น ผมมี อีซูซุ โรดิโอ ซื้อมากลางปี ๓๘  กระโดกกระเดก-อืด  จึงจูง Jeep Cherokee 4.0L Limited. มาอีกเมื่อตุลาคม ๓๘ 


สังขละ-ทุ่งใหญ่นเรศวร-พุจือ(เหมืองเกาหลี)-ทิไรป้า-เขตกระัเหรี่ยงอิสระ-แม่น้ำสุริยะ-เบิ่งเคลิ่ง(ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง)  ล้อหมุนวันศุกร์์ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๓๙
เตรียมเอา Jeep ไปลุยกับเขาบ้าง.  แต่ ตาวุฒิ และเพื่อนบอก เอาโรดิโอ มาทำดีกว่า่ Jeep ป้ายยังแดง เสียดายรถ

วันอังคาร โรดิโอ ถูกนำเข้าไปปรับแต่ง ให้สำเร็จในวันพฤหัสเย็น เพื่อให้ทันเข้าร่วม Trip ในวันศุกร์ ที่ ๓๑
ช่วงล่าง เปลี่ยนโช๊ค เปลี่ยนกะทะล้อ+ยาง เป็น BF Mud 31 นิ้ว
เปลี่ยนตัวล็อคเฟืองหน้าจาก ออโต เป็น Hub Lock ที่บิดเปลี่ยนการจับเฟือง ด้วยมือ + โซ่พันล้อ ..
เครื่อง ๒๕๐๐ cc ติด ธอโบว์ Z Nissan ทำปลายท่อไอเสีย หนีน้ำ ติดกันแคร็ง สเตลเลส ใต้เครื่องยนต์

ติดกันชนหน้า-หลัง ลง Win Warn 8000 I ติดสปอร์ตไลน์ IPF ติดโลบาร์หลังกะบะ ..
บ่ายวันพฤหัส ไปรับโรดิโอ มีตังค์ไป ๒๐๐,๐๐๐.- เหลือติดกระเป๋า ๒๐,๐๐๐. -   คิก คิก  หัวเราะร่าน้ำตาริน

แค่อยากท่องเที่ยวตามใจ พอเริ่มต้น สำหรับผม ก็ประมาณ นี้ ละครับ .. 
วันศุกร์ ๔ ทุ่ม เรานัดกันที่ ปั้มเอสโซ่ แถวนครชัยศรีเลยทางเชื่อมถนนพุทธมณฑล ไปราว ๑ กม. โรดิโอ ของผมก็ยังเตี้ยต่ำที่สุด  คิก คิก

กว่าจะมากันครบคันที่นัดกัน ปรับจูน ว.ดำให้คลื่นตรงกัน.. จรจากจุดนั้นได้ ก็ เกือบ ตี ๑  ผมไปเพียงลำพัง กับ Sig ๒๒๖ เหมือนเดิม  Grin  คิก คิก 


บันทึกการเข้า

vinchy
มโนธรรม คือ มิตรแท้เตือนใจ
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 125
ออฟไลน์

กระทู้: 554


« ตอบ #250 เมื่อ: กันยายน 07, 2011, 03:00:37 PM »

      ร้านบุญนิธิ แถวๆถนนศรีนครินทร์ แต่งรถ 4x4 โดยเฉพาะ สมัยนั้นดังมากนะครับพี่โร๊ด
ผมอ่านหนังสือ อ๊อฟโร๊ดแมกกาซีน ตั้งแต่ฉบับปฐมฤกษ์ ได้เห็นรถที่แต่งจากร้านนี้มาลงให้ดูในหนังสือบ่อยๆ
ช่วงไปเรียนรามฯ ปี ๔๐ ก็นั่ง รถเมล์สาย ๒๐๗ ผ่าน หน้าร้าน V V P ประจำจะมีเจ้าตีนโตจอดโชว์ ตัวอยู่หน้าร้านตลอด

แต่ปัจจุบันผ่านไปแถวๆนั้น ไม่เคยสังเกตครับ ว่ายังอยู่หรือเปล่า มีอยู่ช่วงหนึ่งก็ไปรับ-ส่งเพื่อนๆ เขาชอบเอารถไป
แต่งแถวๆ นั้น แต่ไม่ใช่แนว 4x4 ครับ เป็นอีกแนว เป็น TRD ประมาณเตี้ยๆเร็วๆ มีน้องสาวหน้าตาจุ๋มจิ๋มนั่งคู่ไปด้วยครับ

ใจผมชอบรถ 4X4  แต่ในชีวิตจริงกลับใช้รถเก๋งคันเล็กๆ แทน เพราะไม่โดดเด่น กลมกลืน กับรถคนทำงานทั่วๆไป
ขนาดล้อแม็ก ยังเป็นแบบเดิมๆ จากโรงงงาน ครับ ซึ่งงานของผมต้องประมาณนี้ หากใช้ 4x4 ก็ต้องเดิมๆ ครับ
ไม่งั้น วิ่งเพ่นพ้านหลายๆรอบ จะทำให้ไก่ตื่นหมดครับ และที่สำคัญเดือนหนึ่งวิ่งเยอะครับ ถ้าเป็นรถเครื่องโตๆ
เงินเดือนนายสิบเด็กๆอย่างผม คงเป็นค่าอาหารหลัก อาหารเสริมของรถหมด ไม่เหลือซื้อข้าวรับประทานแน่นอนครับ

ส่วน ว.เครื่องดำ แบบพี่นั้น ตั้งแต่จำความได้ มันผูกพันกับผมมานาน
ตั้งแต่จำความได้ ก็เห็นพ่อเหน็บ ไอคอม สองเอ็น(เขี่ยหัว)+เสาสไลด์ ๑๐ ท่อนแล้ว
ที่บ้านก็มีอีกเครื่อง เป็น ไอคอม ศูนย์สองเอ็น ต่อสายอากาศไว้บนหลังคาบ้าน เป็น ๕/๘ แรมดร้า ๒ ชั้น เอาไว้ติดต่อกัน
ต่อมาก็พัฒนามาเป็น ไอคอม สองจี ไอคอม ๒๒๙เอช(โมบาย) สมัยนั้นเป็นที่นิยมตามบ้านข้าราชการมีทุกเกือบหลังครับ

จนอายุ ๑๕ ปี ก็มาสอบเป็น นักวิทยุสมัครเล่น จนทุกวันนี้มาทำงานที่ต้องใช้ ว.โดยตรง ในรถคันก่อนก็ยังมี
เครื่องโมบาย ติดรถ เป็น ยาอึสุ ๙๐๑๒

โม้มาเสียยืดยาวเลย ติดลมนิดหน่อยครับ ถือว่าเล่าสู่กันอ่านนะครับ  ไหว้Wink
    
    
บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #251 เมื่อ: กันยายน 07, 2011, 04:31:20 PM »

      ร้านบุญนิธิ แถวๆถนนศรีนครินทร์ แต่งรถ 4x4 โดยเฉพาะ สมัยนั้นดังมากนะครับพี่โร๊ด
ผมอ่านหนังสือ อ๊อฟโร๊ดแมกกาซีน ตั้งแต่ฉบับปฐมฤกษ์ ได้เห็นรถที่แต่งจากร้านนี้มาลงให้ดูในหนังสือบ่อยๆ
ช่วงไปเรียนรามฯ ปี ๔๐ ก็นั่ง รถเมล์สาย ๒๐๗ ผ่าน หน้าร้าน V V P ประจำจะมีเจ้าตีนโตจอดโชว์ ตัวอยู่หน้าร้านตลอด

แต่ปัจจุบันผ่านไปแถวๆนั้น ไม่เคยสังเกตครับ ว่ายังอยู่หรือเปล่า มีอยู่ช่วงหนึ่งก็ไปรับ-ส่งเพื่อนๆ เขาชอบเอารถไป
แต่งแถวๆ นั้น แต่ไม่ใช่แนว 4x4 ครับ เป็นอีกแนว เป็น TRD ประมาณเตี้ยๆเร็วๆ มีน้องสาวหน้าตาจุ๋มจิ๋มนั่งคู่ไปด้วยครับ

ใจผมชอบรถ 4X4  แต่ในชีวิตจริงกลับใช้รถเก๋งคันเล็กๆ แทน เพราะไม่โดดเด่น กลมกลืน กับรถคนทำงานทั่วๆไป
ขนาดล้อแม็ก ยังเป็นแบบเดิมๆ จากโรงงงาน ครับ ซึ่งงานของผมต้องประมาณนี้ หากใช้ 4x4 ก็ต้องเดิมๆ ครับ
ไม่งั้น วิ่งเพ่นพ้านหลายๆรอบ จะทำให้ไก่ตื่นหมดครับ และที่สำคัญเดือนหนึ่งวิ่งเยอะครับ ถ้าเป็นรถเครื่องโตๆ
เงินเดือนนายสิบเด็กๆอย่างผม คงเป็นค่าอาหารหลัก อาหารเสริมของรถหมด ไม่เหลือซื้อข้าวรับประทานแน่นอนครับ

ส่วน ว.เครื่องดำ แบบพี่นั้น ตั้งแต่จำความได้ มันผูกพันกับผมมานาน
ตั้งแต่จำความได้ ก็เห็นพ่อเหน็บ ไอคอม สองเอ็น(เขี่ยหัว)+เสาสไลด์ ๑๐ ท่อนแล้ว
ที่บ้านก็มีอีกเครื่อง เป็น ไอคอม ศูนย์สองเอ็น ต่อสายอากาศไว้บนหลังคาบ้าน เป็น ๕/๘ แรมดร้า ๒ ชั้น เอาไว้ติดต่อกัน
ต่อมาก็พัฒนามาเป็น ไอคอม สองจี ไอคอม ๒๒๙เอช(โมบาย) สมัยนั้นเป็นที่นิยมตามบ้านข้าราชการมีทุกเกือบหลังครับ

จนอายุ ๑๕ ปี ก็มาสอบเป็น นักวิทยุสมัครเล่น จนทุกวันนี้มาทำงานที่ต้องใช้ ว.โดยตรง ในรถคันก่อนก็ยังมี
เครื่องโมบาย ติดรถ เป็น ยาอึสุ ๙๐๑๒

โม้มาเสียยืดยาวเลย ติดลมนิดหน่อยครับ ถือว่าเล่าสู่กันอ่านนะครับ  ไหว้Wink
   
   


I COM 2 N เป็นเครื่องครูเลยครับ   02 N เริ่มสัมผัสกับการตั้งความถี่อัตโนมัติ และเมื่อถึง 2G แทบจะลงตัวที่สุด
ส่วน Standard C150  และ Yaesu หน้าจอเขียว ๆ  มาเงียบ ๆ  แต่น่าใช้มาก  Cheesy

ปัจจุบัน ผมเหลือมือถือ C150  ๒ เครื่อง  Mobile Standard C- 1208 DT และ Kenwood TM-261 ติดรถไว้ ใช้ในคราวจำเป็น  Grin
บันทึกการเข้า

สหายอ๋อง เซียนปลาซิว
จริงใจ บริสุทธ์ใจ แล้วจะแคล้วคลาด จากภัยทั้งปวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 657
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9377


คบหมาเป็นเพื่อน ดีกว่าคบเพื่อนหมาๆ


« ตอบ #252 เมื่อ: กันยายน 07, 2011, 06:36:45 PM »

ICoM  ผมเริ่มจาก   2N  มาถึง   02N  2S ET  จนมา   P TWo  ET
บันทึกการเข้า
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #253 เมื่อ: กันยายน 07, 2011, 09:53:59 PM »


                    ถึงวันนี้ ...... ว.แดง น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมแล้วครับ .....

บันทึกการเข้า

                
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #254 เมื่อ: กันยายน 07, 2011, 10:06:19 PM »

จากปั้ม นครชัยศรี มี คาริเบียน สีแดง นำหน้า Toyota SR5 - LN106 ๒ คัน โรดิโอ ๒ คัน รวม ๖ โดยผมเป็นคันปิดท้าย
เพราะชอบขับบสบายๆ ไม่ต้องระวังรถขับตามในขบวน  และไฟส่องหลัง

ตลอดเส้นทาง ตียาวเข้าเมืองกาญฯ แล้วแยกซ้ายมือตรงปากแพรก ไปเส้นไทรโยค  จะหยุดพัก ก็ตอนเติมน้ำมัน และอาศัยล้างหน้า  

ขับตามเป็นขบวน อาศัยเสียงพูดแหย่กันทาง ว.ดำ  ตัวผมเองเพิ่งจะรู้จัก อีก ๔ คัน .. ราว เกือบตี ๕ ขบวนมาถึงปั้ม ปตท. ขวามือก่อนถึงตัว อ.ทองผาภูมิ
จุดเติมน้ำมันแห่งสุดท้าย แต่ตอนนั้น ทำได้ คือ เครื่องดับ ผมเพียงลดกระจก และพับเบาะปรับเอน แล้วคนขับก็พับไปในรถ

เราหลับไปกันราว ๑ ชม. ก็ตื่นขึ้น ๖ โมงเศษ ล้างหน้า-ตา ตรวจสภาพรถ เติมนั้นมันเต็มถัง เต็มลงถังสำรอง ๒๐ ลิตร อีก ๒ ถัง
ราว ๗ โมงกว่า ล้อหมุนเข้าตลาด ทองผาภูมิ กินข้าวเช้า เข้าตลาด ซื้ออาหารสด.ไก่สด-ไก่ชิ้น-ไข่สด-ไส้กรอก
ข้าวสาร ผัก น้ำแข็งแช่ของสด ฯลฯ สำหรับ ๒๐ คน ๑๐ มื้อ ..ส่วนผมซื้อกระสอบใส่ท้ายรถ ไว้ ๑ ใบ + บุหรี่ + เบียร์ + เข้าเหนียวไก่ย่างไว้กินระหว่างเดินทาง

ก่อนโบกมือลา ทองผาภูมิ ก็มี คามิโอ ช่วงล่าง 4x4 แลนครุยเซอร์ ของกำนันแตง ของอำเภอหนึ่ง ที่บุรีรัมย์ กับสาว อีก ๔ คนเต็มคัน มาสมทบด้วย
แต่เวลากิน เวลาปักเต็นท์ แยกไปซะห่างเล้ย

แล้วขบวนของเรา ก็มุ่งหน้าเส้นสังขละ-เจดีย์ ๓ องค์..  สู่แยกองค์พระ ขวามือ.. ไต่ขึ้นเขาแดง ข้ามห้วยน้ำใสไหลแรง สู่ ประตูทุ่งใหญ่ที่ ด่าน พิทักษ์ป่า (จำชื่อไม่ไ้ด้แล้วครับ)
ลงชื่อขออนุญาตผ่านทาง .. การเดินทางครั้งนี้ มี แดง คนสังขละ ที่ค้าขายกับกระเหรี่ยง เป็นคนนำทาง
มีหนังสืออนุญาตจาก นายทหารกระเหรี่ยงที่รับผิดชอบพื้นที่รอยตะเข็บ เป็นฐานทหารกระเหรี่ยง อนุญาตให้ผ่านทางเข้าพื้นที่ในเขตพม่า

สภาพทางหลังจากนั้น ก็เจอทางขาด แต่ไม่มีปัญหา ใช้จอบปรับหน้าดิน และเอาบันไดเหล็กมาวางพาด 4x4 ก็เอาล้อซีกเขวาเกาะผ่านไปได้ไม่ยากนัก

หลังจากนั้น สภาพทางดินโคลน ลงข้ามห้วย ที่ต้องขับ ขึ้น-ลง ขึ้น-ลง เลี้ยงรอบ .. ผมได้รับคำเตือนให้เอากระสอบที่ซื้อมานั้น มาผูกตรงกระจังหน้า เพื่อดักโคลน
ไม่ให้เข้าตะแกรงระบายความร้อนของหม้อน้ำ  แต่ก็ลืม ทำได้ คือพันโซ่ ล้อคู่หลัง ..

ทางในป่า สนุกกับการขับรถ การลากวินส์ ขึ้น-ลงรถ  สภาพป่าดิบ มองมึดไปเหมือนกันไปหมด  ผมสังเกตดินโคลน และดินข้างทาง ยังไม่พบรอยตีนสัตว์
อาจเพราะพื้นที่ป่ากว้างใหญ่.. เมื่อมีฝนตกแล้ว ทุกที่จะอุดมไปด้วยหญ้า่ระบัด ไม่จำเป็นสัตว์ป่า จะไม่ลงมาในที่ใกล้เส้นทางของ มนุษย์ .......    Grin


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 08, 2011, 10:15:09 AM โดย Ro@d - รักในหลวง » บันทึกการเข้า

หน้า: 1 ... 14 15 16 [17] 18 19 20 ... 68
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.121 วินาที กับ 22 คำสั่ง