ทริปแก่งกระจาน ครับ
๑.เสือดำ kona เพื่อนร่วมอาชีพ ครูดนตรีด้วยกัน ผู้คลั่งไคล้ใน ๒ ล้อเหมือนกัน
(แต่มักจะขอหนังสือเดินทางแล้ว ผบ.ทบ.ไม่อนุมัติ....พยายามจะยึดอำนาจการปกครอง
แต่ปฏิวัติไม่สำเร็จเลยเป็นกบฏ โทษรอลงอาญาไม่มีกำหนด...ฮา)
แกมาที่บ้านเลยอาสาไปส่งที่สถานีรถไฟบางแก้ว แล้วรีบบึ่งรถเข้าบ้านที่เขาชัยสน
(เพราะกลัวจะเข้าบ้านไม่ตามเวลากำหนด....ฮา...อีกรอบ) ผมนอนชั้นองปรับอากาศเตียงบนหลับเต็มอิ่ม
เข็ด ตั้งแต่ทริปนครสวรรค์ไปชั้นสาม ไม่ได้หลับเต็มอิ่มงีบแค่ชั่วโมงสองชั่วโมง ผลก็คือไม่มีแรงปั่น เหนื่อยแทบตาย
ตื่นเช้าอาบน้ำทำภาระกิจบนรถไฟเสร็จสรรพ ลงสถานีฯเพชรบุรี
วานผู้อาวุโสที่กำลังออกกำลังกายแถวนั้นช่วยถ่ายภาพให้(ไอ้เสือฯไม่มีขาตั้งกล้อง)
อาหารเช้าที่เพชรบุรี ลิ้นไอ้เสือฯมันคุ้นกับอาหารใต้แบบชนิดกู่ไม่กลับเสียแล้ว
(กลับไปกินข้าวที่บ้านเกิด นั่งทำท่าแบบกลืนลงคอฝืด ๆ แม่ว่ามึงเป็นอะไรของมึง)
แกงป่ากลายเป็นจืดชืด ปลาทูตัวเขื่องราดพริกก็กลายเป็นหวานจ๋อยจนเลี่ยน แต่ก็เกลี้ยง...ฮา
จากนั้นออกปั่นไปเรื่อย ๆ ตามถนนที่ผ่านหน้าค่ายทหาร
เจอสี่แยกจอดข้างพี่จราจรเลยสอบถามเส้นทางพี่แกก็อธิบายอย่างดีชี้มือชี้ไม้
เพื่อนแกขี้รถมาพอดีเลยชะลอถาม เฮ้ยแกคุยกับเขารู้เรื่องเหรอว๊ะ
แกตอบกลับไอ้ บ้า คนไทย โว๊ยผมเจอเหตุการณ์อย่างนี้ประจำ
ถ้าคลุมหน้ามิดชิดอาจจะด้วยว่าผมตัวโตและประกอบกับการปั่นคันเดียวข้าวของพะรุงพะรัง
จังหวะนั้นชำเลืองดูอาวุธประจำกายเป็น สิบเบ็ดมอมอยี่ห้อ โคลท์ ซีรี่ ๘๐
แต่อนิจจาที่หลังด้ามตรงหลังอ่อนสนิมขึ้นเขรอะ นี่เครื่องในไม่รู้จะสกปรกขนาดไหน
นี่ถ้ามีเวลาไอ้เสือฯจะอาสาจับ(ปืน)ถอดเป็นชิ้น ๆ อาบน้ำปะแป้งให้ฟรี ๆ
ไม่ใช่อะไรดูรูปการแล้วกลัวว่าแกชักอาวุธออกมาต่อสู้แล้วจะใช้การไม่ได้(รวมทั้งอาวุธในกุงเกง...ฮา)
แวะถามหาซื้อขาตั้งกล้องร้านบอกว่ามีขายที่เดียวคือในบิ๊กซี ก็เลยตัดสินไปปั่นไปเรื่อย ๆ
จนออกจาก อ.บ้านลาดเห็นวิวทุ่งนา-ต้นตาล สุดลูกหูลูกตา อยากจะถ่ายภาพแต่มันลำบาก
อย่ากระนั้นเลย ไอ้เสือฯตัดสินใจปั่นกลับเข้าตัวเมืองมุ่งตรงไปบิ๊กซี ได้ขาตั้งกล้องสมใจ
แต่ตะเกียงแก๊ส หาซื้อไม่ได้ ไม่เป็นไร ไอ้เสือฯพึมพำในใจและปลอบใจตนเอง กับได้หนังสือ ๑ เล่ม
ฉวยได้จักรยานมุ่งหน้ากลับเข้าไปทาง อ.บ้านลาดใหม่อีก ครั้ง ไม่ผิดหวังที่ยอมเหนื่อยและเสียเวลาปั่นย้อนกับไปซื้อขาตั้งกล้อง
เพราะเหนื่อยเมื่อไรก็เล่นมุขจอดถ่ายรูป...ฮา