การสัมพัน กับคนจำนวนมาก มีปัญหาร้อยแปด ที่คาดไม่ถึง และน่าเบื่อหน่าย จะเข้าใจหรือไม่ ก็ยังยุ่งยากส์ ผิดจาก อุดมคติสมัยเป็นนักศึกษา
หลักของปัญหา อาจอยู่ที่ตัวเราเองนี่ละ เพราะมีผลกระทบต่อตัวเรา เมื่อเราคิดถึงมันอยู่อีก
เราอาจต้องจัดการบางปัญหา ด้วยตัวเราเอง ถ้ายังเป็นความรับผิดชอบของเรา.. ถ้าไม่อยู่ในความรับผิดชอบ ก็ควรปล่อยวางเสียบ้าง
เพราะ คนที่ต้องรับผิดชอบต้องมี และหนีไม่่พ้นความรับผิดชอบ นั้น
ครั้งเมื่อผม มีอายุ ๓๐ ปี เพื่อนทนาย ลงคะแนนโหวตเลือกผม เป็นประธานคณะอนุกรรมการทนายความ ประจำจังหวัดพิจิตร (ปัจจุบันเรียกประธานทนายความประจำจังหวัด)
เมื่อ อายุ ๓๒ ผมได้รับการโหวตให้ เป็นประธานจัดงาน รามคำแหงพิจิตร.. งานราตรี วงสุนทราภรณ์ (คณิศรณ์) ๑๒๐ โต๊ะ
และ เมื่ออายุ ๓๔ ผมเป็นประธานจัดงานสัมนาทนายความ ภาค ๕ - ๖ ทนายความภาคเหนือ ๑๖ จังหวัด มาสัมนาร่วมกันที่ พิจิตร
มี อ.ศักดิ์ กอแสงเรื่อง - อ.ณรงค์ ชโลปถัมภ์ อ.วันชัย - อ.ประมาณ ที่อยู่ในส่วนกลาง มาร่วมสนับสนุนการจัดงาน
ทั้งที่ผมเป็นคนฝั่งธนฯ ขึ้นไปอยู่ พิจิตร เมื่ออายุ ๒๕ และพิจิตร ถือเป็นบ้านหลังที่สอง
ในงานส่วนรวม เป็นงานอาสาสมัคร ต้องอาศัยน้ำใจคน และต้องการหัวเรือ เมื่ออยู่ท่ามกลางการทำงาน ถ้าตัวเราเป็นคนหนึ่งที่ลงมือทำ ส่วนใครจะทำหรือไม่
อย่าไปสน ถ้าสนนัก เราอาจได้รับความเครียดยย้อนใส่ อีกบาน
เมื่อเริ่มทำงาน มันจึงมีที่สิ้นสุดได้.. และตลอดเส้นทางนั้น ตัวเราจะได่รับการจดจำเป็นแบบอย่าง ด้านบวก ถูกกล่าวถึง ไม่รู้จบ
ท่านที่ผ่านมาอ่านอย่าเพิ่งเอียน นะครับ นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้น และอย่างน้อย เพื่อนของท่านอีกคนหนึ่ง ก็ยังมีอะไรแปลก ๆ มาเล่าให้ฟังได้บ้าง
ด้วยเส้นทางเดินของแต่ละท่าน ต่างกัน ท่านก็มีเรื่องเล่าที่ดีของท่าน เพียงแต่ผมมี เวที มาบอกกล่าวเท่านั้น และถือเป็นส่วนหนึ่่งของบันทึก
ส่วนตัวผมด้วย นะครับ .