@@@@ AirArms EV2 และ???ในตอนต้น @@@@

[ดร.ธนาสิทธิ์]

ตั้งแต่วานนี้ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๔ ผมโดยหางเลขของน.ส. Irene ตวัดผ่าน แรงลมประมาณ 80 กม/ชม แถมด้วยน้ำฝนที่หลั่งไหลอย่างไม่ลืมหูลืมตาทั้งวันทั้งคืน ผลก็คือรอบนอกเมืองน้ำท่วม ทั้งถนนหนทางและสายน้ำใหญ่น้อยที่พาดผ่านเมือง รถเมล์ รถไฟหยุดการสัญจร แต่ที่หนักที่สุดคือกระแสลมที่กระหน่ำจนต้นไม้โค่นล้มระเนระนาด ณ.ที่วณอุทธยานแห่งหนึ่ง ต้นไม้ถูกถอนรากถอนโคนไปเกือบ 200 ต้น ส่วนที่อื่น ๆ ถ้าบังเอิญต้นไม้ล้มไปโดนสายไฟฟ้าเข้า ไฟก็จะดับไปทั้งแถบ สรุปชาวบ้านนับแสนไม่มีไฟฟ้าใช้ และจะยังคงต้องรอไปอีก 7-10 วัน ทั้ง ๆ ที่เจ้าหน้าที่ถึง 4 พันคนกำลังออกซ่อมแซมกันอย่างจ้าละหวั่น 4 พันคนที่ว่าหมายถึงเฉพาะพนักงานจากบริษัทไฟฟ้าเท่านั้น ไม่นับรวมคนงานของหลวงที่ออกไปป้องกัน ช่วยเหลือและแก้ไขสถานการณ์อีกหลายพันคน บางเขตุหลวงสั่งอพยพชาวบ้านทั้งหมดรวมทั้งหมาแมวไปยังศูนย์หลบภัย ร้านรวงต่าง ๆ ก็ปิดตัวกันหมด หลาย ๆ แห่งที่ใกล้พายุก็ต้องนำไม้อัดมาตีปิดประตูหน้าต่างกันเอาไว้  ของที่ขายดีแบบเทน้ำเทท่าได้แก่ ถ่านไฟฉาย, ไฟฉาย, เทียน, เครื่องปั้มน้ำ, เครื่องปั่นไฟ และก็ของบริโภคพื้นฐานทั้งหลายอันได้แก่ น้ำ, นม, ขนมปัง, อาหารกระป๋อง ฯลฯ  ผมเองอยู่กลางเมืองไม่มีอะไรเสียหาย นอกจากน้ำฝนที่เล็ดลอดช่องลมลงมาบ้าง

ไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมกำลังซักผ้าในห้องน้ำชั้นสาม จู่ ๆ น้ำก็กระเพื่อมไหว โคลงเคลง ต่อมาบานกระจกห้องน้ำสั่นซ้ายขวา ซึ่งตามปกติถ้ามีรถบรรทุกขนาดใหญ่ตกหลุม ก็จะมีการกระเทือนแบบขึ้นลง ผมวิ่งออกมามองไปนอกบ้านก็ไม่เห็นอะไรแปลกตา แต่พอเหลือบไปมองที่ห้องนั่งเล่น...ตู้และชั้นวางของโอนเอน จนของบางอย่างตกลงมา ผมก็รีบโทรหาพรรคพวก ปรากฏว่าทั้งโทรศัพท์บ้านและมือถือใช้การไม่ได้ ผมเปิดทีวีดูก็ไม่เห็นข่าวอะไร จนราว 15 นาทีผ่านไปถึงได้รู้ว่า แผ่นดินไหวขนาด 5.9  มาตอนหลังได้คุยกับเพื่อน ๆ หลายคนที่อยู่ชั้นล่างกลับคิดไปว่าตัวเองเวียนหัวจะเป็นลม...555  จบข่าวต่างประเทศ









วันนี้ขอพูดถึง ปืนลมกระบอกหนึ่งที่ผมเขียนเอาไว้ แต่ไม่มีโอกาสถ่ายภาพประกอบ คือ
AirArms EV2  ค่ายจากประเทศอังกฤษที่ได้ผลิกโฉมการออกแบบปืนลม PCP อย่างที่ใคร ๆ ไม่คาดคิดมาก่อน  รุ่นแรกของผมนั้น stock เป็นไม้ทาสีเทา มีประทับแก้มที่ปรับได้ทั้งสูง/ต่ำ และเอียงซ้าย/ขวา butt hook เป็นอะลูมิเนียม 2 ง่ามที่สามารถปรับได้ 4 ทิศทาง  ใต้ด้ามจับมีฐานรองมือ  palm shelf ด้านหน้าปรับขึ้น/ลงได้  ของเล่น 3 อย่างที่ต่างจากปืนอื่นคือ เหนือไกด้านซ้ายมีตารางสำหรับจดข้อมูลของการตั้งกล้อง ตัวต่อมาคือมาตรน้ำวัดระดับที่ติดอยู่บรเวณโคนลำกล้อง สามารถพับเก็บได้ เวลากางออกใช้ตาซ้ายชำเลืองเอา ส่วนชิ้นสุดท้ายติดอยู่กับปลายถังลมด้านหน้า คือแกนสำหรับติดอุปกรณ์ดูทิศทางลม จะใช้อะไรก็แล้วแต่ความชอบ อาทิ ขนนกผูกกับเส้นด้าย หรือจะเป็นไหมพรมสีสด ๆ ก็ได้ พับเก็บได้เช่นกัน  ส่วนเกจ์วัดความดันท่อเก็บลมนั้น อยู่ด้านใต้ ระหว่างรองมือกับด้ามปืนดังรูป

EV = Evolution หรือก้าวล้ำนำยุคอะไรทำนองนี้  รุ่นนี้เป็นแบบ 12 ft-lb หรือแรงต่ำนั่นเอง  ช่วงแรกผมได้ลองใช้แข่งโดยไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร  ปรากฏว่าแรงน้อยเกินไป พอเปลี่ยนระยะยิงจาก 15 หลา เป็น 50 หลา ก็ต้องบิดตัวปรับระดับความสูงของกล้องตั้ง 3-4 รอบ ลำบากแก่การจดจำ และที่สำคัญยื้อแย่งสมาธิในการยิงไปพอสมควร 










ตอนแรกลองใส่กล้องสีเงินดูเฉย ๆ

ต่อมาจึงได้นำไปปรับแต่งดังนี้คือ เริ่มจากตัว regulator เจ้าพ่อ regulator นามว่า Joe Korick เป็นผู้ผลิต regulator ให้กับปืน PCP หลายยี่ห้อ ผมได้คุยกับเขา ได้ความว่าเขากำลังโมของเขาเองอยู่พอดี แต่ปัญหาคือ ลำกล้องเดิมนอกจากจะสั้นเกินไปแล้ว ยังไม่แม่นยำพอที่จะผ่านมาตรฐานของเขา  แต่เขาบอกว่า เพราะเขาไม่ได้ใช้แข่งขัน ถ้าผมสนใจเขาจะเอาลำกล้องของเขาที่ผ่านการคัดเลือกแล้วให้ผมแทน  นอกจากนี้ผมยังเลือกเปลี่ยนท่อลมอะลูมิเนียมเดิมเป็นไทเทเนี่ยมเสียเลย  จะได้ไม่ต้องห่วงเรื่องการตรวจสภาพทุก ๆ 3-5 ปี  นอกจากนี้ยังต้องปรับแต่งตัว flip compensator เสียใหม่



















ผมตั้งสำหรับยิง Crosman Premier heavy ที่ 835 fps. แต่เวลาเล็ง จะรู้สึก “หน้าเบา” จึงต้องหาทางแก้ไข ซึ่งอาจทำได้ 2 ทางคือ ถ่วงหน้า หรือ ลดหลัง แต่เนื่องด้วยปืนกระบอกนี้ค่อนข้างเบา และการจะลดหลังนั้นค่อนข้างจะยาก ผมจึงออกแบบตุ้มน้ำหนักถ่วงหน้า 3 ตัว  ๆ ละ 8 ออนซ์ เสียบบนแกนที่ยึดติดกับฝาของถังลม ดังที่เห็นจากรูป















รุ่นนี้ตอนหลังมีปัญหาคือด้ามมักจะแตกหรือร้าว ต่อมาทาง AirArms จึงเปลี่ยนเป็นใช้ไม้อัดแทน หรือที่เรียกว่า laminated stock นอกจากนี้ รุ่นล่าสุดที่มีรหัส MK II ยังได้ปรับปรุงที่ปรับประทับบ่าและแก้ม โดยการใช้ลูกหมาก หรือ ball joints แทน เพื่อเพิ่มมิติในการปรับ คือสามารถปรับซ้าย/ขวาเพิ่มขึ้นมาได้ด้วย

ปี 2010 ที่ผ่านมา AirArms EV2  ซึ่งเป็น flag ship ของค่ายได้กวาดรางวัลการแข่งขัน FT ในยุโรป อังกฤษ และอเมริกาใต้มากมาย แต่ด้วยที่ว่าเป็นปืนแรงต่ำ จึงไม่ปรากฏเป็นที่นิยมในอเมริกาเท่าที่ควร  ทั้งนี้และทั้งนั้น ทาง AirArms เองก็ตระหนักดีว่า กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของเขานั้นจะอยู่ในโซนยุโรป เขาจึงออกแบบ AirArms EV2  ขึ้นมา โดยเปรียบเทียบกับรถ formula 1 คือเปิดกล่องออกมาก็ใช้แข่งขันได้เลย โดยมีจุดเด็ดที่สำคัญคือ ระบบไกสามารถปรับได้ถึง 19 จุด โดยมี trigger pull ที่สามารถตั้งได้ต่ำกว่า 2 ออนซ์

จุดอ่อนของ AirArms EV2  คือระบบขึ้นลำส่งลูก ที่ผมเคยพูดถึงไปแล้วว่า เป็นระบบแบบเปลือยคือไม่มีอะไรมาหุ้มแบบยี่ห้ออื่นที่เขาทำกันทั่วไป แต่นั่นหาใช่ปัญหาหลัก ถ้าไม่มีอะไรมากระทบกระแทก แต่เนื่องด้วยการออกแบบกลไกค่อนข้างซับซ้อน คือขึ้นลำและเปิดลูกเลื่อนในเวลาเดียวกัน  การเปิดลูกเลื่อนให้ถอยหลังมาสำหรับใส่ลูกกระสุนก็ไม่มีปัญหา แต่บางครั้งไกไม่ยอมขึ้น เหตุการณ์นี้ เจ้าของ AirArms EV2  หลายคนเจอมาแล้ว บางคนโชคร้ายหน่อยคือ ตั้งแต่ซื้อมาใหม่ ๆ ยิงไปได้เพียง 7 นัด แล้วไกก็ไม่ยอมขึ้นอีกเลย  ส่วนของผม AirArms EV2  ไม่มีปัญหา มีแต่รุ่นก่อนนี้ที่ใช้ระบบไกเดียวกัน คือง้างข้างแล้ว ลูกเลื่อนเปิด ใส่ลูก กดไก แต่ไม่ลั่น ต้องทำใหม่ โดยเฉพาะตอนอากาศหนาว แต่มีวิธีแก้ไข”ชั่วคราว”คือ ตอนขึ้นลำ ให้ดันไกไปข้างหน้าเบา ๆ พร้อม ๆ กัน



ความแม่นยำของลำกล้องเดิม สำหรับปืน 12 ft-lb นั้นถือว่าใช้ได้ เจ้าของหลาย ๆ คนประทับใจและพอใจ  อนึ่งลำกล้องที่มาจากโรงงานเป็นแบบ free floating คือจะมีการยึดเพียงบริเวณโคนลำกล้องเท่านั้น ส่วนกลางและปลายลำกล้องจะปล่อยลอยตัวอยู่ ไม่ยึดติดหรือสัมผัสส่วนอื่นๆ ของตัวปืน ซึ่งเชื่อกันว่า มีส่วนเพิ่มความแม่นยำ เพราะจะช่วยลดความสั่นสะเทือนจากความถี่สูงของแรงลม ที่คั่งค้างในลำกล้อง สำหรับตัวผมเองก็ยังไม่เชื่อสนิทใจ กระบอกของผมนั้น ได้เปลี่ยนลำกล้องให้ยาวขึ้น และพบว่าบริเวณโคนลำกล้องนั้น มีส่วนที่ฝังอยู่ในฐานที่ยึดไม่ลึกนัก   จึงตัดสินใจไม่ใช้ระบบ free floating โดยเพิ่มตัวยึดที่ปลายลำกล้องด้านใต้เข้ากับปลายถังเก็บลมด้านบน โดยใช้แหวนรัดของแกนสำหรับติดอุปกรณ์ดูทิศทางลมด้านบนเป็นแท่นยึด







ผมเลือกใช้กล้อง Hawk 10-50x50mm ท่อขนาด 30 มม. focus ข้าง, military dot crosshair ไฟฟ้า 2 สี คือแดงหรือเขียว แต่ละสีปรับความสว่างได้ 5 ระดับ และเพิ่ม custom aluminum side wheel ขนาด 4.5 นิ้ว ขารัดกล้องแบบ dual strap ของ BKL ซึ่งตัวหน้าต้องใช้แบบ offset ดังรูป


รางวัลที่ได้ ตอนที่ยังไม่ได้แต่ง

โดยรวมผมคิดว่า AirArms ประสพความสำเร็จกับรุ่นนี้พอสมควร เพราะการออกแบบที่รอบครอบและรูปลักษณ์ที่ออกจะแหวกแนว AirArms กำลังคิดจะออกรุ่นสำหรับยิง 10 เมตรในเร็ว ๆ นี้

ธนาสิทธิ์ ศิริลักษณ์
๓๐ พ.ค. ๒๕๕๓

ปล. ทำไปทำมาลืมถ่ายรูปตัวเต็ม ๆ งั้นเอาภาพรวมข้างล่างไปละกัน...

[ดร.ธนาสิทธิ์]

ที่ผมห่างหายไปก็ด้วยเหตุผลที่ว่า ผมกลับไปเขียนกระทู้นาฬิกา รีวิวไปหลายเรือน และก็มีไฟฉายบ้าง ต่อมาก็เกิดไปติดพัน...ตามรูปข้างล่างนะครับ  ก็เลยต้องใช้เวลาไปพอสมควร









เสร็จแว้วว...

[karh]

สวัสดีครับอาจารย์ดร.ธนาสิทธิ์  ผมยังสงสัยอยู่ว่าอาจารย์หายไปไหน หรือว่ามีอะไรที่ไม่ถูกใจในเวปนี้ ดีใจที่อาจารย์กลับมาให้ความรู้และข้อมูลต่างๆที่น่าสนใจอีกครั้ง และขอให้ระมัดระวังตัวจากภัยพิบัติต่างๆ ด้วย เดี๋ยวนีโลกเราเปลี่ยนไปในทางที่แย่ๆมากขึ้นครับ ในเมืองไทยเราก็ถูกน้ำท่วมหนักเหมือนกันครับ คิดถึงครับผม

[Wanich/Soong]

พี่วิโรจน์มีรุ่นนี้1.กระบอก,..
..อ่านไปก็ยิ้มไปมั้ง

[sitta.]

เห็นปืนอัดลมของอาจารย์แล้วก็คิดไปว่าทำไมซื้อหาได้สะดวกโยธินเหลือเกิน
ส่วนทางชมรมคนรักปืนอัดลมที่อยู่ทางนี้ กว่าจะได้ปืนลมมาสักกระบอก
ก็ต้องเดินเรื่องทำปอ 2 ปอ 3 กันจ้าละหวั่นเลยครับ


อาจารย์ครับเครื่องบิน 4 ใบพัดแบบนี้เวลาเดินหน้าทำยังไงครับ ต้องเอียง ๆ ไปหรือเปล่าครับ
แล้วเวลาเลี้ยวทำยังไงครับ
แล้วตอนปรับระดับระนาบลำบากกว่าเครื่องบินแกนเดียวหรือเปล่าครับ

[sitta.]

พี่วิโรจน์มีรุ่นนี้1.กระบอก,..
..อ่านไปก็ยิ้มไปมั้ง

อาจารย์น่าจะเอารุ่น s400 มาลงมั๊ง ผมจะได้ยิ้มบ้างครับ

[ดร.ธนาสิทธิ์]

อาจารย์ครับเครื่องบิน 4 ใบพัดแบบนี้เวลาเดินหน้าทำยังไงครับ ต้องเอียง ๆ ไปหรือเปล่าครับ
แล้วเวลาเลี้ยวทำยังไงครับ
แล้วตอนปรับระดับระนาบลำบากกว่าเครื่องบินแกนเดียวหรือเปล่าครับ

การบังคับทั้ง 3 แกน ทำได้โดยการเปลี่ยนความเร็วของมอเตอร์ แต่ละตัว เช่น ถ้าจะลอยตัวอยู่เฉย ๆ ใบพัดทุกตัวจะหมุนเท่ากัน แต่ใบพัดนั้น 2 ใบจะเป็นแบบธรรมดา อีก 2 ใบจะเป็นแบบ pusher คือหมุนทวนทิศทางกับแบบธรรมดา แต่ลมไปทางเดียวกัน การหมุนทวนกัน เป็นการลบล้างแรงบิด เหมือนเฮลิคอปเตอร์ Chinook ที่มี 2 ใบพัด ไม่งั้นต้องมีใบพัดท้ายคอยคัดหางเสือ
ที่นี้พอจะเดินหน้า ใบพัดด้านหน้า 2 ใบจะหมุนเท่าเดิม แต่ 2 ตัวหลังจะหมุนเร็วขึ้น แต่ถ้าจะเร็วหนักเข้าไปอีก ใบพัดคู่หน้าจะลดความเร็วลง ในขณะที่คู่หลังเพิ่มความเร็วขึ้น แต่ไม่มากเกินจนทำให้หน้าคว่ำ  ส่วนการเอียงซ้าย/ขวาก็ทำนองเดียวกัน  แต่การหมุนรอบตัวนั้น ใบพัดตรงกันข้ามจะหมุนด้วยความเร็วที่ต่างกัน คือลดการลบล้างแรงบิด ให้หลุดจากจุดสมดุลย์
มีตัวควบคุม 3 แกน ให้เครื่องอยู่ในแนวระนาบตลอด แต่สามารถเปลี่ยนค่าได้
ตัวต่อไป ผมจะใส่ตัววัดทิศทาง ความดันอากาศ และจุดปล่อยตัว ทีนี้ มันจะบินเองได้ เหมาะสำหรับเอากล้องไปติด ถ่ายภาพทางอากาศ
ส่วน GPS ผมยังไม่เอา คิดว่าต้องศึกษาให้มากกว่านี้

[tui086]

  คิดถึงบทความของอาจารย์ครับ... ดีใจมากที่อาจารย์ มาให้ความรู้เพิ่มเติมอีกครับ....

[Exxx]

ขอบคุณอาจารย์สำหรับความรู้ครับ 

ผมมีเรื่องมาจับผิดครับ
อาจารย์อยู่เมืองนาน ใช้แต่ปี คศ. จนลืมปี พศ. ไปซะแล้ว
ปี พศ. ตอนนี้คือ 2554 หรือ ๒๕๕๔ ครับ 

ธนาสิทธิ์ ศิริลักษณ์
๓๐ พ.ค. ๒๕๕๓

หนีดีกว่า เดี๋ยวโดนอัด 

[AJ_6080]

ขอบคุณอาจารย์มากครับ..ที่กลับมาให้ความรู้กับสมาชิกคนรักปืนอัดลม

บทความและความรุ้ของอาจารย์น่าติดตามอย่างยิ่งครับ...

[AJ_6080]

พี่วิโรจน์มีรุ่นนี้1.กระบอก,..
..อ่านไปก็ยิ้มไปมั้ง

อาจารย์น่าจะเอารุ่น s400 มาลงมั๊ง ผมจะได้ยิ้มบ้างครับ

สงสัยพี่สิทธาคงจะไม่ได้เพียงคนเดียวเหมือนพี่วิโรจน์แน่ๆ....

[Dunk]

กระจ่างกับปัญหาไกไม่ขึ้นแล้ว เป็นกันทั่วโลก ของพี่วิโรจน์ยิงใด้นัดเดียวเองนัดที่สองเจอเลย 
........ขอบคุณครับอาจารย์ รักษาสุขภาพด้วยครับ

[sitta.]

พี่วิโรจน์มีรุ่นนี้1.กระบอก,..
..อ่านไปก็ยิ้มไปมั้ง

อาจารย์น่าจะเอารุ่น s400 มาลงมั๊ง ผมจะได้ยิ้มบ้างครับ

สงสัยพี่สิทธาคงจะไม่ได้เพียงคนเดียวเหมือนพี่วิโรจน์แน่ๆ....

ก็จะยิ้มด้วยกันไงครับ

[sitta.]

อาจารย์ครับเครื่องบิน 4 ใบพัดแบบนี้เวลาเดินหน้าทำยังไงครับ ต้องเอียง ๆ ไปหรือเปล่าครับ
แล้วเวลาเลี้ยวทำยังไงครับ
แล้วตอนปรับระดับระนาบลำบากกว่าเครื่องบินแกนเดียวหรือเปล่าครับ

การบังคับทั้ง 3 แกน ทำได้โดยการเปลี่ยนความเร็วของมอเตอร์ แต่ละตัว เช่น ถ้าจะลอยตัวอยู่เฉย ๆ ใบพัดทุกตัวจะหมุนเท่ากัน แต่ใบพัดนั้น 2 ใบจะเป็นแบบธรรมดา อีก 2 ใบจะเป็นแบบ pusher คือหมุนทวนทิศทางกับแบบธรรมดา แต่ลมไปทางเดียวกัน การหมุนทวนกัน เป็นการลบล้างแรงบิด เหมือนเฮลิคอปเตอร์ Chinook ที่มี 2 ใบพัด ไม่งั้นต้องมีใบพัดท้ายคอยคัดหางเสือ
ที่นี้พอจะเดินหน้า ใบพัดด้านหน้า 2 ใบจะหมุนเท่าเดิม แต่ 2 ตัวหลังจะหมุนเร็วขึ้น แต่ถ้าจะเร็วหนักเข้าไปอีก ใบพัดคู่หน้าจะลดความเร็วลง ในขณะที่คู่หลังเพิ่มความเร็วขึ้น แต่ไม่มากเกินจนทำให้หน้าคว่ำ  ส่วนการเอียงซ้าย/ขวาก็ทำนองเดียวกัน  แต่การหมุนรอบตัวนั้น ใบพัดตรงกันข้ามจะหมุนด้วยความเร็วที่ต่างกัน คือลดการลบล้างแรงบิด ให้หลุดจากจุดสมดุลย์
มีตัวควบคุม 3 แกน ให้เครื่องอยู่ในแนวระนาบตลอด แต่สามารถเปลี่ยนค่าได้
ตัวต่อไป ผมจะใส่ตัววัดทิศทาง ความดันอากาศ และจุดปล่อยตัว ทีนี้ มันจะบินเองได้ เหมาะสำหรับเอากล้องไปติด ถ่ายภาพทางอากาศ
ส่วน GPS ผมยังไม่เอา คิดว่าต้องศึกษาให้มากกว่านี้

อาจารย์ครับ เครื่องบิน 4 ใบพัดแบบนี้โหลดของที่นอกเหนือจากน้ำหนักตัวมันเองกับแบตเตอรี่
จะโหลดน้ำหนักได้เต็มที่เท่าไหร่ครับ
แล้วถ้าโหลดของเต็มพิกัด จะบินได้กี่นาทีครับ

[ruger40 years]

พี่วิโรจน์มีรุ่นนี้1.กระบอก,..
..อ่านไปก็ยิ้มไปมั้ง

สวัสดี ครับ อาจารย์ ดร.ธนาสิทธิ์ และท่าน ประธานชมรมฯ
   ผมพึงได้เปิดอ่านกระทู้ใหม่ของอาจารย์ ดร.ธนาสิทธิ์ เมื่อสักคู่นี้เอง ครับ จากการแนะของอาจารย์..ครั้งก่อน..เกี่ยวกับกระทู้ปืน"STETR-  LG100 VS AA -EV2" ผล..ปรากฎว่า ทำให้หลายคนมุ่งไปที่ปืน STETRกันหมดและบางท่านก็บอกว่า"โชดดีที่ไม่ได้จองไป"..จนเกิดการเปิดจองปืน STETRในลำดับต่อมา  และตัวผมเองก็เป็นเช่นเดียวกัน..เห็นว่ามีปืน EV2 MK4 อยู่ที่นายห้างฯ 1กระบอกเท่านั้น ทราบภายหลังว่ามีผู้มาจับจองไปแล้ว(เป็นคนนอกชมรมฯ)..ผมเลยไม่สนใจเช่นกัน
   ต่อมาราว 1เดือนครึ่ง..ผมได้รู้โดยบังเอิญที่สนามแข่งขันยิงปืนว่า..เจ้าปืน EV2 MK4..ตัวสีฟ้านั้นยังอยู่ที่ร้านปืน ผมเลยลองปรึกษากับท่านประธานฯของเราว่า..ผมน่าจะรับไว้เองดีไหม? เพื่อมันจะได้อยู่ในชมรมฯเราและพวกเราจะได้มีไว้ทดสอบยิงกัน  ท่านก็ตอบอย่างเคยว่า"จัดไป อย่าให้เสีย" จะดีหรือไม่..ค่อยปรับปรุงทีหลัง...ผมเลยรีบแจ้งจองปืนไปที่นายห้างฯ แล้วรอผล..เมื่อนายห้างฯ..แจ้ง OK..ป.3 ของผมก็พร้อม..เลยกลายเป็นเนื้อคู่กัน อย่างไม่คาดฝัน ครับ



...ท่านประธานฯบอกว่า "พี่วิโรจน์มีรุ่นนี้1.กระบอก,..
                                 ..อ่านไปก็ยิ้มไปมั้งอย่าง"
  
   การมีปืนกระบอกแรกของเมืองไทยนี้..ผมว่ามันเสี่ยงพอดู ครับ  ส่วน..จะยิ้มออกหรือไม่ ก็ต้องรอผลทดสอบ..ที่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นหัวหรือจะออกก้อย    จากการไปทดสอบครั้งแรกที่สนามราชนาวี โดยคุณ ตุ๊กับคุณ มนตรี ผล..ยิงนัดแรกเท่านั้น ลั่นไกครั้งที่ 2 ได้ดังเลยเป็นไปตามท่านอาจารย์ ดร.ธนาสิทธิ์ แจ้งเตือนไว้ในกระทู้นี้เลย ครับ ผมนี่โชคดีที่ 2ท่านแก้ไขปัญหาได้  .....
   นี่ถ้าผู้ซื้ออยู่ต.จ.ว. ผมว่าคงยุ่งยากมาก ปืนราคาก็แพง..ยิงได้นัดเดียว..โอ้ย ทำอะไรไม่ถูก..จะซ้อมเอง..เดียวก็กลายเป็นซ้อมเกิน จะส่งกลับที่กทม.แล้วไปเมือง UK คงเป็นแรมเดือนแน่นๆ..คิดถึงแย่เลย..คิดแล้วกลุ้ม" 8แสนกว่า..ยิงได้นัดเดียว" อย่างนี้ คงยิ้มไม่ออก..บอกไม่ถูก อาจถึงผูกคอตายได้ ครับ 
   ตอนนี้ผมยิ้มออกแล้ว ครับ ท่านประธานฯ   เหลือแต่ว่าจะขอปรึกษาอาจารย์..เพิ่มเติมว่า VERSION..MK4 นี่ ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงมากไหม? ครับ อย่างไร?
  ท้ายนี้ผมต้องขอบขอบคุณ อาจารย์  ดร.ธนาสิทธิ์ ท่าน ประธานชมรมฯ คุณ ตุ๊กับคุณ มนตรี มาณ.ที่นี้ ขอรับ