จากไทยรัฐ ครับ
http://www.thairath.co.th/today/view/31173โผล่แล้ว จระเข้เขาใหญ่ ไม่สนคน
พบแล้วจระเข้เขาใหญ่ โผล่ขึ้น มาลอยคอตากแดดให้นักท่องเที่ยวเห็นจะจะกับตา หัวหน้าอุทยานฯจัดกำลังเฝ้าติดตามพฤติกรรมไม่ให้คลาดสายตา เชื่อเป็นจระเข้พันธุ์น้ำจืดที่ไม่ดุร้าย แต่ไม่ประมาทสั่งเจ้าหน้าที่คุมเข้มห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำเด็ดขาด ขณะที่นักท่องเที่ยวบอกคุ้นเคยกันดี พบเห็นบ่อยๆตั้งแต่ตัวเล็กๆจนโต คาดยังจะมีอยู่อีกหลายตัว ด้านอธิบดีกรมอุทยานฯ เตรียมลงพื้นที่สำรวจด้วยตนเอง หากจับได้และเป็นตัวผู้สายพันธุ์ ไทยแท้ จะนำไปปล่อยที่แก่งกระจาน ให้ผสมพันธุ์กับจระเข้ ตัวเมียเจ้าถิ่น
กลายเป็นข่าวฮือฮาโด่งดังไปทั่วประเทศ เมื่อมีนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา พบเห็นจระเข้ขนาดใหญ่ 2 ตัว ขึ้นมานอนอาบแดดบนขอนไม้ใกล้กับน้ำตกเหวสุวัต หลังจุดกางเต็นท์ผากล้วยไม้ จึงถ่ายภาพแล้วนำไปโพสต์ไว้บนเว็บบอร์ดทางอินเตอร์เน็ต กระทั่งมีข่าวปรากฏออกไปทางสื่อมวลชน ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานฯก็ยอมรับว่ามีจระเข้อาศัยอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จริง พร้อมนำคลิปภาพจากโทรศัพท์มือถือที่ถ่ายไว้ขณะจระเข้กำลังเขมือบปลาช่อนอยู่ในแอ่งน้ำมายืนยัน แต่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยที่สูญหายไปจากแหล่งน้ำธรรมชาติ หรือเป็นจระเข้พันธุ์อื่นที่มีผู้นำมาปล่อยไว้ตั้งแต่เล็กๆจนเติบโตขึ้นกันแน่
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 5 ก.ย. ขณะที่นายมาโนช การพนักงาน หัวหน้าอุทยาน แห่งชาติเขาใหญ่ พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานฯประชุมวางแผนการทำงาน เพื่อวางมาตรการป้องกันรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว ไม่ให้เข้าไปในบริเวณที่พบจระเข้ พร้อมเฝ้ารอการเดินทางมาถึงของเจ้าหน้าที่และเรือยางติดเครื่องยนต์ ที่ถูกส่งมาจากอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด จ.ระยอง เพื่อช่วยในการเฝ้าติดตามพฤติกรรมจระเข้ แต่เจ้าหน้าที่และเรือยางยังเดินทางมาไม่ถึง
ระหว่างนั้นได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่เฝ้าประจำจุดอำนวยความสะดวกแก่ นักท่องเที่ยว บริเวณหลังจุดกางเต็นท์ผากล้วยไม้ว่า มีนักท่องเที่ยวพบเห็นจระเข้ลอยคอตามน้ำไหลอยู่บริเวณดงบอนจุดที่นักท่องเที่ยวเคยพบเห็นจระเข้มาแล้ว หลังรับแจ้ง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 10 นาย และคณะสื่อมวลชน ต่างรีบเดินทางเข้าไปยังจุดดังกล่าว ซึ่งอยู่ห่างจากจุดกางเต็นท์ผากล้วยไม้ ประมาณ 2 กม. ปรากฏว่าพบเห็นจระเข้ขนาดใหญ่ ตัวยาวประมาณ 2 เมตรเศษ ลอยคอตากแดดอยู่ในลำน้ำข้างป่าบอน ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไม่สนใจเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงสั่งให้จัดกำลังเฝ้าดูแบบไม่ให้คลาดสายตา
นายมาโนช การพนักงาน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พร้อม น.สพ.ภัทรพล มณีอ่อน หรือหมอล็อต และทีมงานออกไปตรวจสอบทางกายภาพว่า สถานที่ที่พบจระเข้เหมาะสมหรือไม่ ความเป็นอยู่เป็นอย่างไร จากนั้นจะรายงานให้นายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นผู้ ตัดสินใจ ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งเบื้องต้นได้ รายงานการพบเห็นจระเข้ครั้งล่าสุดให้ทราบแล้ว
"หากในวันพรุ่งนี้เรือยางเดินทางมา ก็จะออกตรวจสอบทันที โดยเริ่มจากจุดที่พบจระเข้ไปตลอด 2 ฝั่งลำน้ำของลำตะคอง เพราะมีนักท่องเที่ยวแจ้งว่ายังมีจระเข้ที่เคยพบเห็นอีก 2-3 ตัว ซึ่งถ้ามีจริงก็แสดงว่าจุดดังกล่าวเป็นดงจระเข้ ในเบื้องต้นยังเชื่อว่าจระเข้กลุ่มนี้ไม่ดุร้าย เพราะพบเห็นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 จนปัจจุบันก็ยังไม่เคยสร้างปัญหาให้กับนักท่องเที่ยว แต่เราก็ไม่ ประมาท นอกจากจะทำป้ายประกาศเตือนแล้วก็ยังต้องจัดเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าเตือนด้วย" หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กล่าว
นายธนิต ทัศนพลพนิจ อายุ 42 ปี นักธุรกิจจากกรุงเทพฯกล่าวว่า เดินทางมาเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ปีละหลายครั้ง ชอบเดินเที่ยวชมธรรมชาติตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ โดยเฉพาะบริเวณผากล้วยไม้และน้ำตกเหวสุวัต เคยเห็นจระเข้ตัวนี้มาหลายปีแล้ว ตั้งแต่ตัวยังเล็กจนทุกวันนี้มีขนาดใหญ่ บางครั้งมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่พาลูกเล็กๆมาด้วย เมื่อเห็นจระเข้ก็ยืนดูเฉยๆไม่ได้ตกอกตกใจอะไร เพราะจระเข้ไม่ได้ดุร้าย และมันก็ไม่สนใจนักท่องเที่ยว คล้ายกับว่าต่างคนต่างอยู่ นักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านจุดที่เห็นจระเข้จะเรียกกันว่า ดงบอน เพราะมีต้นบอนขึ้นอยู่จำนวนมาก คาดว่าจะต้องมีจระเข้ขนาดใหญ่อยู่อีกหลายตัว เพราะบริเวณนั้นเป็นวังน้ำลึก
ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วันเดียวกัน นายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้จัดส่งเรือยางเพื่อใช้ติดตามพฤติกรรมของจระเข้ และตามจับจระเข้ไปที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แล้ว โดยตั้งเป้าขอให้ตามตัวให้เจอและหาวิธีการจับอย่างปลอดภัยทั้งตัวเจ้าหน้าที่และตัวจระเข้เอง เพื่อจะได้นำมาตรวจว่าเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่เจอในแก่งกระจาน และปางสีดาหรือไม่ หากเป็นพันธุ์เดียวกันและเป็นตัวผู้ก็น่าจะเป็นโอกาสดีที่จะนำไปปล่อยที่แก่งกระจานที่มีจระเข้น้ำจืดตัวเมียในธรรมชาติอยู่ ทั้งนี้ ในวันที่ 7 ก.ย.นี้ ตนจะนำสื่อมวลชนลงพื้นที่ บริเวณผากล้วยไม้และลำห้วยลำตะคอง ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะเดินทางไปยังน้ำตกเหวสุวัต ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และเป็นจุดที่พบจระเข้เพื่อติดตามการทำงานของทีมเจ้าหน้าที่ในการค้นหาจระเข้ครั้งนี้