เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 09, 2024, 12:48:23 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขอความรู้ ปืนซับคอมแพ็คขนาด 9mm Vs 11 mm  (อ่าน 8321 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 6 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
cadet38 -รักในหลวง-
God of games
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 54
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 571


I believe I can fly.


« ตอบ #15 เมื่อ: กันยายน 08, 2011, 10:46:32 AM »

9mm Hydra ก็พอที่จะหยุดทุกคนแล้วครับ
บันทึกการเข้า

I love Doraemon.
xxx
Full Member
***

คะแนน 33
ออฟไลน์

กระทู้: 455


« ตอบ #16 เมื่อ: กันยายน 08, 2011, 08:44:13 PM »

เวลาดวลปืน 11มม มีลูกอยู่ 7-8 นัด กล้าไปดวลกับพวก 9 ลูกดกๆมั้ยล่ะครับ ลองถามตัวเองดู

ถ้าฝีมือพอกันหรืออีกฝั่งด้อยกว่า ตัวต่อตัวผมกล้านะ อย่างมากก็โดนคนละนัด

แต่ถ้าถามกลับว่า ถ้าโดนกันคนละ1- 2 นัด คุณคิดว่าถ้าเลือกได้อยากโดนอันไหน ระหว่าง 9 กับ 11 น่าคิดไหมครับ  

หรือถ้าให้เห็นภาพเข้าไปอีก ถ้าคุณมี 9 ลูกดกในมือ ดวลกับ ลูกซอง 5นัด คุณคิดว่าไงครับ  เป็นผม  ผมวิ่งครับไม่อยู่ดวลด้วยหรอกครับ


แต่ถ้าเจอสถานการณ์ อีกฝั่งคนมากกว่า อาวุธครบ ก็คงเลือก 9ลูกดกครับ ไม่ได้กะยิงเขาหรอกครับ เอาลูกดกไว้ยิงเบิกทางหาจังหวะหนีมากกว่าครับ

ที่ตอบแบบนี้ไม่ได้กวนนะครับ แต่ขึ้นอยู่ว่า โอกาสเจอแบบไหนมีมากกว่ากัน  ปัจจุบันผมเองก็เหน็บ 9 มม 15+ 1นัด กับ .38 อย่างละ 1 เพราะเท่าที่เจอมา  มักเจอหมาหมู่ประจำ เลย ต้องนัดเยอะไว้ก่อน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 08, 2011, 08:47:38 PM โดย xxx » บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #17 เมื่อ: กันยายน 08, 2011, 09:40:33 PM »

คือเวลาเคลื่อนที่เราสาดกระสุนไม่ใช่เพื่อหวังผลให้โดนเป้าครับ แต่เพื่อกดหัวไม่ให้มันโผล่มายิงเรา, สมมติว่าเป็น .45 ซับคอมแพคมันมีกระสุนแค่ 6 - 7 นัด โผวิ่งสองสามทีหากยังไม่ถึงรถยนต์แล้วขับไปได้ ลูกก็เหลือน้อยแล้วครับ... แต่มันก็พัลวัลพัลเกอีก คือ 1911 ก็เหมาะที่สุดสำหรับยิงใส่เป้าโดยหวังผลได้ แม้ขณะที่ตัวเรากำลังวิ่งอยู่, หลายคนก็เลยยอมเหน็บ 1911 ตัวเต็มพร้อมแม็กรอบเอวครับ...
บันทึกการเข้า
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #18 เมื่อ: กันยายน 08, 2011, 09:48:33 PM »

คือเวลาเคลื่อนที่เราสาดกระสุนไม่ใช่เพื่อหวังผลให้โดนเป้าครับ แต่เพื่อกดหัวไม่ให้มันโผล่มายิงเรา, สมมติว่าเป็น .45 ซับคอมแพคมันมีกระสุนแค่ 6 - 7 นัด โผวิ่งสองสามทีหากยังไม่ถึงรถยนต์แล้วขับไปได้ ลูกก็เหลือน้อยแล้วครับ... แต่มันก็พัลวัลพัลเกอีก คือ 1911 ก็เหมาะที่สุดสำหรับยิงใส่เป้าโดยหวังผลได้ แม้ขณะที่ตัวเรากำลังวิ่งอยู่, หลายคนก็เลยยอมเหน็บ 1911 ตัวเต็มพร้อมแม็กรอบเอวครับ...

พี่สมชายเลือกแบบไหนครับ   Grin หลงรัก
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #19 เมื่อ: กันยายน 08, 2011, 09:55:28 PM »

อย่างหลังครับ... แฮ่ๆ...
บันทึกการเข้า
xxx
Full Member
***

คะแนน 33
ออฟไลน์

กระทู้: 455


« ตอบ #20 เมื่อ: กันยายน 08, 2011, 11:35:44 PM »

บางครั้ง ยามคับขัน ยิงกันไม่ว่าจะเบิกทางหนีหรือต่อสู้ เชื่อได้เลยว่าหลายคนคงคุมสติลำบาก ไหนจะหลบลูกปืนฝั่งตรงข้าม ไหนจะมองหาทางหลบหลีกเคลื่อนที่ คงไม่มีสติพอที่จะนับกระสุนที่ยิงออกไป ถ้าระหว่างยิงเบิกทางไปเพื่อหนี รัวไปมากระสุนหมดพอดีระหว่างวิ่ง เปลี่ยนแม็กระหว่างวิ่ง ถ้าไม่ได้ฝึกมาอย่างดี ขลุกขลักใช้เวลา อาจแค่ 2 วินาที ห่ากระสุนคงปลิวมาแบบหลบไม่ทันแน่ๆครับ

ดังนั้นก่อนเบิกทางถ้าเป็นไปได้ ควรทำกระสุนให้มากที่สุดด้วยการเปลี่ยนแม็กหรือถ้ามีเวลา ก็ปลดแม็กออกมานับดูก่อนเคลื่อนตัวออกจากที่กำบัง และต้องคำนวนดูว่า ระยะทางจากที่กำบังนึง ไปอีกที่นึงไกลแค่ไหน กระสุนพอจะกดไม่ให้อีกฝ่ายโผล่มาชัดเราหรือไม่ ตรงนี้สำคัญ เพราะถ้าระยะทางที่วิ่งไกลเกินไปเมื่อคำนวนระยะเวลาและกระสุนที่ยิงหรือวิ่ง ไม่ทัน โอกาสโดนระหว่างเคลื่อนที่มีสูงมากครับ

วิธีฝึกแบบประหยัด ก็ให้ ลองเล่นปืนสั้น บีบีกัน แบบ CQB ดู ครับ หาปืนที่เหมือนที่เราพกนั่นแหละแล้วให้ใส่ลูกให้เท่ากับปืนจริง ลองเล่นกับเพื่อนดู เคลื่อนตัวจาก กำบังนึงไปอีกกำบังนึง แล้วจะเข้าใจ พอจับจังหวะกะจำนวนกระสุนและความเร็วในการวิ่ง ครับ

ฝึกบ่อยๆให้ชำนาญ  ผมเชื่อว่าเมื่อเจอเหตุการณ์จริง สิ่งที่เราฝึกฝนมา จะทำให้เราคุ้นเคยและสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องโดยอัตโนมัติครับ

หลายคนอาจ ยิงแข่งรณยุทธเป็นประจำ เคลื่อนที่เข้าจู่โจม ได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว แต่นั่นเป็นกีฬาและเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกฝนให้ใช้ปืนและอุปกรณ์ได้อย่างคล่องแคล่ว  แต่ถ้าฝึกให้เป้ายิงสวนออกมาได้ด้วย แบบ บีบี กัน  ก็ยิ่งจะทำให้สมจริงมากที่สุด

ดังนั้นผมเชื่อว่าถ้าเราฝึกยิงปืนจริงเพื่อสร้างความคุ้นเคยและฝึกคุมปืนเมื่อยิงออกไป  และฝึกเล่น บีบีกัน เพื่อหลบหลีกและหาจังหวะยิงให้ใกล้เคียงสถานการณ์จริง  ฝึก 2อย่างให้ชำนาญ ผมเชื่อว่าสถานการณ์จริง คุณคงไม่ด้อยไปกว่าอีกฝ่ายแน่ (เว้นแต่เจออาวุธสงคราม )ครับ  บู่

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 08, 2011, 11:39:10 PM โดย xxx » บันทึกการเข้า
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1204
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #21 เมื่อ: กันยายน 09, 2011, 10:04:47 AM »

เวลาดวลปืน 11มม มีลูกอยู่ 7-8 นัด กล้าไปดวลกับพวก 9 ลูกดกๆมั้ยล่ะครับ ลองถามตัวเองดู

ถ้าใช้ตรรกะนี้ตัดสิน... ป่านนี้ลูกโม่สูญพันธุ์ไปหมดแล้วครับ... ผมว่ามันขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์... และความถนัดแต่ละบุคคล...


...พก ๙ ลูกดกแบบไม่ขึ้นลำ... ชักออกมาดวลกับลูกโม่ .๓๕๗ บรรจุ ๕ นัด... ที่บรรจุกระสุนเต็มโม่... ใครมีโอกาสรอดมากกว่าครับ... ไหว้

...จำนวนกระสุนที่มากกว่า... ไม่ได้บ่งบอกถึงการอยู่รอด... แต่ก็เป็นความอุ่นใจครับ... เหตุการณ์สงบ... ยังเหลือกระสุน... ก็ดีกว่ากระสุนหมดตอนกำลังหน้าสิ่วหน้าขวานครับ... ไหว้

บันทึกการเข้า
crazy456
Jr. Member
**

คะแนน 6
ออฟไลน์

กระทู้: 45



« ตอบ #22 เมื่อ: กันยายน 09, 2011, 10:11:16 AM »

ถ้าใช้ปืนซับคอมแพ็คขนาด 9 mmที่มี 7 นัด
และถ้าปืนซับคอมแพ็คขนาด 11 mmก็มี 7 นัด
เท่ากันและขนาดลำกล้องไม่เกิน 3 นิ้วเท่ากัน
สองขนาดนี้ แบบไหนจะคุมปืนได้ดีกว่ากันขณะยิง
และจะยิงเข้าเป้าง่ายกว่ากัน ในขณะซ้อมยิงที่สนามฝึกหรือใช้งานจริงในสนามรบ
บันทึกการเข้า

"หน้าที่นั้นหนักกว่าขุนเขาความตายนั้นเบากว่าขนนก"

เพราะแสวงหามิใช่เพราะรอคอย >เพราะเชี่ยวชาญมิใช่เพราะโอกาศ> เพราะสามารถมิใช่เพราะโชคช่วย> ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #23 เมื่อ: กันยายน 09, 2011, 10:18:36 AM »

ถ้าใช้ปืนซับคอมแพ็คขนาด 9 mmที่มี 7 นัด
และถ้าปืนซับคอมแพ็คขนาด 11 mmก็มี 7 นัด
เท่ากันและขนาดลำกล้องไม่เกิน 3 นิ้วเท่ากัน
สองขนาดนี้ แบบไหนจะคุมปืนได้ดีกว่ากันขณะยิง
และจะยิงเข้าเป้าง่ายกว่ากัน ในขณะซ้อมยิงที่สนามฝึกหรือใช้งานจริงในสนามรบ

ไปยืนดูเขายิงที่หลังแนวยิงในสนามยิงปืนแค่สองโป้งก็รู้ครับว่า .45 ดีดแรงกว่าสูงกว่า เสียงดังแน่นกว่า, แต่ด้วยแรงดีดมันดูเหมือนเนิบๆกว่า คนยิงเองเลยรู้สึกว่ามันนุ่มมือกว่า... ที่บางคนบอกว่า 9 มม.ดีดแรงกว่านั้นอุปปาทานล้วนๆ แล้วคนไม่เคยยิงก็บอกต่อกันมาครับ...
บันทึกการเข้า
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #24 เมื่อ: กันยายน 09, 2011, 10:42:07 AM »

ปืนซับคอมแพ็ค ผมเลือก9มม.ครับ เหตุผลคือซ้ำได้เร็วกว่า.45ครับ  อีกอย่างผมหูตาไม่ค่อยดีแล้ว ขอดกๆไว้กันตกใจแล้วยิงพลาดครับ  ยิ่งในกรณีโดนรุมลูกดกย่อมอุ่นใจกว่าครับ ยังไม่รวมการยิงกดหัวหรือสุ่มยิงเข้าประตูที่ศัตรูหลบอยู่ด้วยครับ ประตูรถประตูบ้านธรรมดากันลูก9มม.FMJไม่ได้หรอกครับ
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8574


« ตอบ #25 เมื่อ: กันยายน 09, 2011, 11:46:52 AM »

ถ้าใช้ปืนซับคอมแพ็คขนาด 9 mmที่มี 7 นัด
และถ้าปืนซับคอมแพ็คขนาด 11 mmก็มี 7 นัด
เท่ากันและขนาดลำกล้องไม่เกิน 3 นิ้วเท่ากัน
สองขนาดนี้ แบบไหนจะคุมปืนได้ดีกว่ากันขณะยิง
และจะยิงเข้าเป้าง่ายกว่ากัน ในขณะซ้อมยิงที่สนามฝึกหรือใช้งานจริงในสนามรบ

เข้าสนามยิงปืน ดูเองเถอะครับ  จะเห็นได้ชัดเจน  หลายสนามมีปืนให้เช่ายิง ลองยิงดูครับ ทั้งสองคาลิเบอร์นั้นแหละ

คุมปืน  หมายถึงคุมแบบไหนครับ   คุมปืนยิงให้เข้าเป้า  , คุมให้ยิงซ้ำในนัดที่สองให้ไวขึ้นโดยกลุ่มกระสุนยังอยู่ในแนวเล็ง
อย่างแรก ง่ายๆ เด็กผู้หญิงอายุ 10 ขวบก็ทำได้ ทั้งสองคาลิเบอร์    อย่างหลัง ต้องฝึกกันหนักสำหรับการนี้เฉพาะ ไม่เช่นนั้นจะถูกเป้าหมายแค่นัดแรกแล้วนัดถัดไปจะขึ้นฟ้า  หรือทำไม่ได้เลยต้องยิงช้าอย่างเดียว  และกระสุนที่มีแรงรีคอยล์น้อยกว่ามักจะดึงปืนกลับมาสู่แนวเล็งได้ไว  กว่า  เสียเวลาในการฝึกเร็วกว่า ......สรุป อยู่ที่คนยิง  ทำได้ดีพอๆกันทั้งนั้น   ต่างแค่ ความยากง่ายในการฝึก 


ยิงให้เข้าเป้า  ความยากง่าย อยู่ที่การจัดศูนย์ ลั่นไก  มีแรงพอบีบไก ปลดเซฟ  กำปืนพอตึงมือ ก็ยิงให้เข้าเป้าได้แล้วครับ

บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
โอคุง
Jr. Member
**

คะแนน 6
ออฟไลน์

กระทู้: 62


« ตอบ #26 เมื่อ: กันยายน 09, 2011, 11:58:31 AM »

เวลาดวลปืน 11มม มีลูกอยู่ 7-8 นัด กล้าไปดวลกับพวก 9 ลูกดกๆมั้ยล่ะครับ ลองถามตัวเองดู

ถ้าใช้ตรรกะนี้ตัดสิน... ป่านนี้ลูกโม่สูญพันธุ์ไปหมดแล้วครับ... ผมว่ามันขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์... และความถนัดแต่ละบุคคล...


...พก ๙ ลูกดกแบบไม่ขึ้นลำ... ชักออกมาดวลกับลูกโม่ .๓๕๗ บรรจุ ๕ นัด... ที่บรรจุกระสุนเต็มโม่... ใครมีโอกาสรอดมากกว่าครับ... ไหว้

...จำนวนกระสุนที่มากกว่า... ไม่ได้บ่งบอกถึงการอยู่รอด... แต่ก็เป็นความอุ่นใจครับ... เหตุการณ์สงบ... ยังเหลือกระสุน... ก็ดีกว่ากระสุนหมดตอนกำลังหน้าสิ่วหน้าขวานครับ... ไหว้



อ่ะงานนี้ลูกโม่ไม่เกี่ยวครับ ผมพูดถึงแค่ 9 กับ 11 ไม่ได้รวมตรรกะนี้ไปถึงลูกโม่ครับท่านพี่

ถ้าทำให้เข้าใจผิดก็ขออภัยด้วยนะครับ
บันทึกการเข้า
xxx
Full Member
***

คะแนน 33
ออฟไลน์

กระทู้: 455


« ตอบ #27 เมื่อ: กันยายน 09, 2011, 12:14:21 PM »

เวลาดวลปืน 11มม มีลูกอยู่ 7-8 นัด กล้าไปดวลกับพวก 9 ลูกดกๆมั้ยล่ะครับ ลองถามตัวเองดู

ถ้าใช้ตรรกะนี้ตัดสิน... ป่านนี้ลูกโม่สูญพันธุ์ไปหมดแล้วครับ... ผมว่ามันขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์... และความถนัดแต่ละบุคคล...


...พก ๙ ลูกดกแบบไม่ขึ้นลำ... ชักออกมาดวลกับลูกโม่ .๓๕๗ บรรจุ ๕ นัด... ที่บรรจุกระสุนเต็มโม่... ใครมีโอกาสรอดมากกว่าครับ... ไหว้

...จำนวนกระสุนที่มากกว่า... ไม่ได้บ่งบอกถึงการอยู่รอด... แต่ก็เป็นความอุ่นใจครับ... เหตุการณ์สงบ... ยังเหลือกระสุน... ก็ดีกว่ากระสุนหมดตอนกำลังหน้าสิ่วหน้าขวานครับ... ไหว้



เห็นด้วยครับ สำหรับบางคนที่ฝึกการใช้ลูกโม่มาอย่างดี ใช้สปีดโหลด หรือ เจ็ทโหลด ยังเร็วกว่า หลายๆคนที่ใช้ปืน เซมิออโต้ เปลี่ยนแม็กซะอีก   และเคยเห็นนักแข่งต่างชาติบางคน โหลดลูกใส่โม่ด้วยมือเปล่า เร็วกว่าบางคนที่เปลี่ยนแม็กในปืนเซมิออโต้ก็มี (ผมดูแล้วยังไม่อยากเชื่อเลยครับ)   ผมว่าทุกอย่างอยู่ที่ ความถนัดและการฝึกฝนจนชำนาญครับ
บันทึกการเข้า
chew - รักในหลวง
VOTE NO = ไม่เลือกควายตัวไหน และ สัตว์คอกใด ทั้งสิ้น
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1892
ออฟไลน์

กระทู้: 10589


เอาแผ่นดินของพ่อหลวงคืนมา เอาคนโกงชาติเข้าคุกไป


« ตอบ #28 เมื่อ: กันยายน 09, 2011, 02:08:22 PM »

แม่น vs ใช้ได้ดี  นี่มันคนละเรื่องเดียวกันนะครับ

แม่นเนื่องจากลูกกระสุนอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะต้องใช้ปืนยิง เอาว่าในปืนที่ยิงลูกขนาดไหนได้ดี  ก็แม่นใกล้เคียงกันสำหรับการใช้งานแบบนี้  คือไม่ปั้น X เพราะฉะนั้นปืน 2 ขนาดนี้อาจจะยิงกลุ่มกว้างกว่ากัน 3 นิ้วที่ 25 ม ซึ่งก็คือต่างกัน .50 นิ้วที่ 5 เมตร  ไม่ใช่เรื่องใหญ่

คนใช้ถนัดที่จะพกพาปืน และใช้ปืนขนาดไหน ในลักษณะการปฏิบัติการแบบไหนต่างหาก ที่เราต้องเอามาคิดดูครับ
ผมเอาตัวที่ใหญ่ที่สุดที่ผมมีและพกได้สะดวกที่สุดในสถานะการณ์ทั่วไปไว้ก่อน  ถ้าปืนลักษณะแบบเดียวกัน  เอาลูกใหญ่ที่สุดที่มันมี มี 12 -13 มม ก็จะเอาอันนั้นครับ ลูกน้อยในแม็กแรก  ก็ค่อยเอาแม็กอะไหล่ไปเสริมครับ  แต่หวังว่าระยะ 4-5 ม. โดนลูกใหญ่ของเราเข้า  คนที่โดนจะถอดใจ  หรือ ถอดวิญญาณ ไปก่อนก็จะดี
  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 09, 2011, 02:22:06 PM โดย chew - รักในหลวง » บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.17 วินาที กับ 22 คำสั่ง