เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงโฆษณาอะไรสักชิ้น ประมาณ ปี 38-40 ตอนนั้นสถานทูตยิวประท้วง ว่ามีเครื่องหมายนาซีและฮิตเลอ (แม้จะเป็นเวอชั่นขำ ๆ )
อาจารย์เขาอธิบายถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ว่าว่า "ยิวมีความพยามเป็นอยากมากที่จะไม่ให้คนในปัจจุบันกล่าวถึงเรื่องของฮิตเล่อ หรือนาซี เพราะเขาแค้นมาก" และ"ถ้าเรื่องคู่กรรม ให้พระเอกเป็นนาซีเยอรมัน ผมก็คิดว่า อย่าว่ามาเป็นละครเลย นิยายเรื่องนี้จะไม่มีอยู่ในห้องสมุดด้วยซ้ำ
โฆษณามันฝรั่ง Potato X ครับ
ออฟฟิศเก่าผมทำเอง เป็นฮิตเลอร์ตรวจแถวทหาร แล้วพอได้กินมันฝรั่งแผ่นก็อร่อยจัดจนสติหลุด ถอดเสื้อเครื่องแบบมากวัดแกว่งแบบสะใจรสชาติสุดๆ
ตอนนั้น MD ของผมเกือบหลุดจากตำแหน่งล่ะครับ เพราะว่าเมืองแม่ที่อเมริกา และออฟฟิศที่ยุโรปร้องด่ากันระงม เป็นข่าวดังไปทั่วโลก
ตัว MD เองก็คงเห็นหนังตอนที่มีเรื่องแล้ว เพราะในบริษัทจะมีทีมย่อยทำงานกันไปไม่ได้อัพเดทกันทุกเม็ด
ท้ายสุดต้องถอดหนังทิ้งครับ
ทีมครีเอทีฟที่ทำเป็นคนไทย ลูกค้าที่อนุมัติงานก็เป็นคนไทย
ไทยเราห่างไกลจากสิ่งชั่วร้ายที่ฮิตเลอร์ทำครึ่งโลก คนไทยที่ถึงแม้จะเรียนประวัติศาสตร์ เรียนเรื่องฮิตเลอร์ ก็ไม่รู้สึกรุนแรงเหมือนคนในโลกตะวันตกหรือคนยิว
คิดแค่ว่าหยิบมาทำขำๆ ไม่น่าจะมีใครซีเรียส
เผอิญผมไม่ได้อยู่ในทีมที่ทำ เลยไม่มีโอกาสท้วงก่อนผลิต รู้ตอนเป็นข่าวแล้วเหมือนกัน
มันเป็นหัวข้อที่ละเอียดอ่อนมากครับ คงต้องยกคำว่า รู้กาละเทศะ และคำว่า Taste มาเป็นอุทาหรณ์
คุ้นๆว่าเป็นบริษัท L ใช่ไหมครับพี่
ผมเคยทำงานบริษัทที่มีนายใหญ่เป็นคนอังกฤษ อดีตนาวิกโยธินอังกฤษ และมีลูกน้องที่เป็นผู้อำนวยการอีกแผนกหนึ่ง เป็นคนเยอรมัน
ตอนประชุมกัน หัวหน้าแผนกผมที่เป็นคนไทย โต้เถียงกับพี่เยอรมันคนนั้นในที่ประชุม แล้วนายเยอรมันไม่ฟังเสียงใครทั้งสิ้น หัวหน้าแผนกคนไทยจึงตอบสั้นๆว่า OK Hitler ผมสะดุ้งเลยครับ
นายเยอรมันคนนั้นหน้าแดงก่ำ เดินออกไปจากห้องประชุม
นายคนอังกฤษไม่ได้เข้าประชุมด้วยแต่รู้เรื่องทีหลัง ไม่ได้ว่าอะไรตอนคุยกัน แต่เขาบอกว่า เรื่องแบบนี้พูดไม่ได้เลยกับคนเยอรมัน
แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า นายคนอังกฤษเกิดคันปากอยากแซวทำนองนี้บ้าง
มีครั้งหนึ่งที่บริษัทจะวางตลาดสินค้าใหม่และมีแผนการจะเร่งกระจายสินค้า เพื่อให้มีสินค้าวางขายทั่วถึงก่อนโฆษณาทีวีจะออก เพื่อให้ผู้บริโภคที่เห็นโฆษณาแล้วสนใจ ได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ทันที ซึ่งทางการตลาดจะเรียกกิจกรรมนี้ว่า Blitz อันเป็นคำเดียวกับที่ใช้เรียกการทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ของกองทัพนาซีต่อฝ่ายอังกฤษในช่วงฤดูร้อนปี 1940 หลังจากฝรั่งเศสแตก
นายคนอังกฤษพูดในการประชุม blitz ว่า "I don't like this blitz thing. Reminds me of German bombing the hell out of London" ตามด้วยการยิ้มแบบกวนๆเป็นอย่างยิ่ง
นายเยอรมัน หน้าแดงตามฟอร์ม และก็ทำเป็นพูดเฉไฉไปเรื่องอื่น
ส่วนผมนั่งยิ้ม เพราะนายเยอรมันคนนี้ เป็นไม้เบื่อไม้เมากับผมในบริษัทเช่นกัน