เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 28, 2024, 02:50:02 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ๑๑๑๑ ตกลงขับรถทางไกล เปิดหรือปิดแอร์จะประหยัดน้ำมันกว่ากัน ๑๑๑๑  (อ่าน 5520 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #30 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2011, 03:58:35 PM »

ขอบคุณมากครับ  ในความเห็นที่มีประโยชน์

ส่วนตัว ถ้าผมขับรถเปิดหน้าต่าง จะปิดแอร์ เหมือนความเร็วที่ สูง เพราะาาเสียงดังจากลมปะทะ
จึงต้องลดความเร็วลงเหลือ ๗๐ - ๘๐ ความรู้สึกจะเปลี่ยน เป็นแบบสบายใจ ไม่เครียด
และมักจะเป็นช่วง กลางคืน ดึก ๆ  เดือนกำลังส่วาง ในเส้นต่างจังหวัด ไม่เคยคิดเรื่องเซฟ เชื้อเพลิง เลย ครับ  Grin   

สาเหตุ คือ ช่วยให้ตาสว่างขึ้น การขับรถทางไกล อาจเกิดก๊าซ คาร์บอนด์มอนออกไซด์ ไม่มีกลิ่นไม่มีสี ที่หมุนเวียน อยู่ใน ห้องโดยสาร
เมื่อหายใจเข้าไป จะไปจับ อ๊อกซิเจน กลายเป็น ก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ .. ซึ่งอันตรายมาก   

คาร์บอนด์มอนออกไซด์ เป็นสาเหตุ ของการหลับ แล้วตายในรถ โดยไม่รู้ตัว ถ้าเปิดแอร์ปิดหน้าต่างสนิท
นอนในรถ แล้วเครื่องดับ   

อาการที่ มีคาร์บอนด์มอนออกไซด์ มาก สังเกตุได้ที่่ จะเกิดอาการง่วง บ่อย ๆ นั้นเพราะอาจขาดออกซิเจน หมุนเวียน ก็ได้ครับ
เปิดหน้าต่าง ให้อากาศภายนอกเข้ามาไล่อากาศเสีย .. จะช่วยให้ตาสว่าง ขึ้น   Grin

บันทึกการเข้า

ดร.ธนาสิทธิ์
Full Member
***

คะแนน 117
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313


« ตอบ #31 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2011, 06:37:22 PM »

ขออธิบายดังนี้นะครับ  เนื่องด้วยจากว่า Compressor แอร์ปัจจุบันจะเป็นระบบโรตารี่ทั้งหมด ไม่เป็นแบบลูกสูปตามสมัยก่อนซึ่งกินแรงเครื่องมาก การตัดสินใจว่า เราจะเปิดหรือปิดแอร์ขับรถทางไกล โดยหวังผลเพียงการประหยัดน้ำมันอย่างเดียวละก็ แยกเป็น 2 กรณีคือ

1. ถ้าคุณขับช้าไม่เกิน 70 กม/ชม ละก็ควรจะปิดแอร์ เพราะด้วยความเร็วต่ำขนาดนี้ อากาศพลศาสตร์ หรือ aerodynamic ยังไม่สำแดงผล คือมวลอากาศที่ต้านรถ ทำให้เครื่องรถต้องทำงานหนักต่อสู้มุ่งหน้าไปยังมีผลน้อย เปิดแอร์ก็จะเปลืองน้ำมันเพิ่ม

2. ถ้าขับด้วยความเร็วสูง ถ้าปิดแอร์ผมก็คิดว่าต้องเปิดหน้าต่างกินลม กรณีนี้ได้มีการทดสอบกันแล้ว ผลออกมาว่า เปิดแอร์ปิดกระจกจะประหยัดน้ำมันกว่า ปิดแอร์แล้วเอากระจกลง.....เพราะแรงต้านของอากาศจากการเอากระจกลง มีผลทำให้เครื่องยนต์ทำงาน "มากกว่า" การเปิดแอร์แล้วปิดกระจก

อนึ่ง ท่านที่ปิดแอร์ตลอด..ขอแนะนำว่า ทุก ๆ 3-5 เดือน ควรจะเปิดแอร์สัก 10-15 นาที เพื่อให้น้ำยาแอร์ ซึ่งมีส่วนผสมของน้ำมันหล่อลื่นได้มีการหมุนเวียน โดยเฉพาะบริเวณลูกปืนของ compressor ถ้าคอมฯไม่ได้ทำงานนาน ๆ เป็นไปได้ว่า น้ำมันหล่อลื่นที่ค้างอยู่ในซีลของลูกปืน เสื่อมประสิทธิภาพ ผลคือน้ำยาอาจรั่วออกมาทางนั้นได้ นอกจากนี้ยังมีจุดอื่นคือ ระบบวาล์วที่มีรูขนาดเล็ก ถ้าน้ำยาเสื่อมเนื่องจากขาดการหมุนเวียน จะตกตะกอนหรือมีอาการ contamination อาจไปอุดตันวาล์วดังกล่าวได้

ท้ายสุด ควรหมั่นล้างทำความสะอาด หม้อน้ำและ cooling condenser  ของแอร์ที่อยู่ด้านหน้าหม้อน้ำด้วย จะให้ดี ใช้น้ำยาขจัดคราปสกปรก ฉีดทิ้งไว้ แล้วฉีดล้างให้สะอาด  ท่านที่ขับทางไกลกลางคืน ควรหาตาข่ายมาปิดด้านหน้าไว้ ไม่งั้นแมลงหรือใบไม้ เศษฝุ่นจะมาอุดตันได้

ดร. ธนาสิทธิ์

ปล. ท่านใดสนใจปืนลม โดยเฉพาะที่ใช้แข่ง FT (Field Target) ละก็ ตามไปอ่านที่ผมได้ลงไว้ใน AIRGUN CORNER   เช่น

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=102731.0

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=92195.0



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 07, 2011, 06:42:37 PM โดย ดร.ธนาสิทธิ์ » บันทึกการเข้า
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #32 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2011, 06:45:17 PM »

+1ครับ

ปกติผมขับที่60-80 กลางคืนเปิดหน้าต่างขับตลอดครับ ไหว้ ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
Bird
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 600
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1743


Ordinary Man on Earth


« ตอบ #33 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2011, 07:27:37 PM »

ขอบคุณครับ ดร.ธนาสิทธิ์

รถยนต์ยุคใหม่เกือบทั้งหมดจะถูกออกแบบโดยหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งอากาศจะไหลผ่านแนวตัวถังรถตลอดแนวเมื่อมีความเร็วช่วงหนึ่งขึ้นไป ดังนั้นเมื่อเปิดกระจก กระแสอากาศที่ต้องไหลเลียดกระจกก็จะหลุดลอดเข้าไปในตัวรถ เกิดแรงต้านและกินน้ำมันมากขึ้น ..
คำถามนี้จึงตอบแบบฟันธงไม่ได้ตั้งแต่ต้น .. อย่างที่ผมคิดไว้ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อเปรียบเทียบคือ ความเร็วที่ใช้ , Loadของคอมเพรสเซอร์ , แนวอากาศพลศาสตร์ของรถคันนั้น และการตั้งอุณหภูมิแอร์ที่แตกต่างจากอุณหภูมิภายนอกมากน้อยเพียงใด ...

ผมเข้าใจจุดประสงค์ของเจ้าของกระทู้ครับ ว่าตั้งใจจะให้ใช้ความคิดบริหารสมอง แลกเปลี่ยนเกร็ดความรู้  ไม่ได้หวังจะรณรงค์เรื่องประหยัดพลังงานแต่อย่างใด ...
โอกาสหน้าขอ ดร. หาประเด็นน่าสนใจมาแชร์กันอีกนะครับ หลายเรื่องที่ผมไม่รู้ และไม่เคยคิด จะได้เป็นประโยชน์แก่ผมต่อไป .. ทำนองรู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม ..  ไหว้
บันทึกการเข้า

สู้กับผู้อื่นให้น้อยลง ......สู้กับจิตตนให้มากขึ้น
Bird
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 600
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1743


Ordinary Man on Earth


« ตอบ #34 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2011, 07:38:21 PM »


ส่วนตัว ถ้าผมขับรถเปิดหน้าต่าง จะปิดแอร์ เหมือนความเร็วที่ สูง เพราะาาเสียงดังจากลมปะทะ
จึงต้องลดความเร็วลงเหลือ ๗๐ - ๘๐ ความรู้สึกจะเปลี่ยน เป็นแบบสบายใจ ไม่เครียด
และมักจะเป็นช่วง กลางคืน ดึก ๆ  เดือนกำลังส่วาง ในเส้นต่างจังหวัด ไม่เคยคิดเรื่องเซฟ เชื้อเพลิง เลย ครับ  Grin   

สาเหตุ คือ ช่วยให้ตาสว่างขึ้น การขับรถทางไกล อาจเกิดก๊าซ คาร์บอนด์มอนออกไซด์ ไม่มีกลิ่นไม่มีสี ที่หมุนเวียน อยู่ใน ห้องโดยสาร
เมื่อหายใจเข้าไป จะไปจับ อ๊อกซิเจน กลายเป็น ก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ .. ซึ่งอันตรายมาก   

คาร์บอนด์มอนออกไซด์ เป็นสาเหตุ ของการหลับ แล้วตายในรถ โดยไม่รู้ตัว ถ้าเปิดแอร์ปิดหน้าต่างสนิท
นอนในรถ แล้วเครื่องดับ   

อาการที่ มีคาร์บอนด์มอนออกไซด์ มาก สังเกตุได้ที่่ จะเกิดอาการง่วง บ่อย ๆ นั้นเพราะอาจขาดออกซิเจน หมุนเวียน ก็ได้ครับ
เปิดหน้าต่าง ให้อากาศภายนอกเข้ามาไล่อากาศเสีย .. จะช่วยให้ตาสว่าง ขึ้น   Grin[/color]


ผมใช้วิธีคล้ายๆพี่ Ro@d  .. แต่ไม่ได้เปิดกระจกครับ  เพราะวิ่งทางไกลผมขับ 100 กว่าๆ เปิดกระจกแล้วเสียงมันดัง ฝุ่นก็เข้า เวลาต้องกลับไปเปิดแอร์ใหม่ ก็ต้องใช้เวลาอีกสักพัก กว่าจะเย็นทั่วรถ

วิธีผมคือคอยปรับสวิทช์รับอากาศภายนอก เอาอากาศใหม่เข้าทุกๆ 30-40 นาที (ถ้าไม่ลืม) ครับ ..
บันทึกการเข้า

สู้กับผู้อื่นให้น้อยลง ......สู้กับจิตตนให้มากขึ้น
ARTANY
Sr. Member
****

คะแนน 43
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 564



« ตอบ #35 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2011, 10:23:59 PM »

ขออธิบายดังนี้นะครับ  เนื่องด้วยจากว่า Compressor แอร์ปัจจุบันจะเป็นระบบโรตารี่ทั้งหมด ไม่เป็นแบบลูกสูปตามสมัยก่อนซึ่งกินแรงเครื่องมาก การตัดสินใจว่า เราจะเปิดหรือปิดแอร์ขับรถทางไกล โดยหวังผลเพียงการประหยัดน้ำมันอย่างเดียวละก็ แยกเป็น 2 กรณีคือ

1. ถ้าคุณขับช้าไม่เกิน 70 กม/ชม ละก็ควรจะปิดแอร์ เพราะด้วยความเร็วต่ำขนาดนี้ อากาศพลศาสตร์ หรือ aerodynamic ยังไม่สำแดงผล คือมวลอากาศที่ต้านรถ ทำให้เครื่องรถต้องทำงานหนักต่อสู้มุ่งหน้าไปยังมีผลน้อย เปิดแอร์ก็จะเปลืองน้ำมันเพิ่ม

2. ถ้าขับด้วยความเร็วสูง ถ้าปิดแอร์ผมก็คิดว่าต้องเปิดหน้าต่างกินลม กรณีนี้ได้มีการทดสอบกันแล้ว ผลออกมาว่า เปิดแอร์ปิดกระจกจะประหยัดน้ำมันกว่า ปิดแอร์แล้วเอากระจกลง.....เพราะแรงต้านของอากาศจากการเอากระจกลง มีผลทำให้เครื่องยนต์ทำงาน "มากกว่า" การเปิดแอร์แล้วปิดกระจก

อนึ่ง ท่านที่ปิดแอร์ตลอด..ขอแนะนำว่า ทุก ๆ 3-5 เดือน ควรจะเปิดแอร์สัก 10-15 นาที เพื่อให้น้ำยาแอร์ ซึ่งมีส่วนผสมของน้ำมันหล่อลื่นได้มีการหมุนเวียน โดยเฉพาะบริเวณลูกปืนของ compressor ถ้าคอมฯไม่ได้ทำงานนาน ๆ เป็นไปได้ว่า น้ำมันหล่อลื่นที่ค้างอยู่ในซีลของลูกปืน เสื่อมประสิทธิภาพ ผลคือน้ำยาอาจรั่วออกมาทางนั้นได้ นอกจากนี้ยังมีจุดอื่นคือ ระบบวาล์วที่มีรูขนาดเล็ก ถ้าน้ำยาเสื่อมเนื่องจากขาดการหมุนเวียน จะตกตะกอนหรือมีอาการ contamination อาจไปอุดตันวาล์วดังกล่าวได้

ท้ายสุด ควรหมั่นล้างทำความสะอาด หม้อน้ำและ cooling condenser  ของแอร์ที่อยู่ด้านหน้าหม้อน้ำด้วย จะให้ดี ใช้น้ำยาขจัดคราปสกปรก ฉีดทิ้งไว้ แล้วฉีดล้างให้สะอาด  ท่านที่ขับทางไกลกลางคืน ควรหาตาข่ายมาปิดด้านหน้าไว้ ไม่งั้นแมลงหรือใบไม้ เศษฝุ่นจะมาอุดตันได้

ดร. ธนาสิทธิ์

ปล. ท่านใดสนใจปืนลม โดยเฉพาะที่ใช้แข่ง FT (Field Target) ละก็ ตามไปอ่านที่ผมได้ลงไว้ใน AIRGUN CORNER   เช่น

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=102731.0

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=92195.0







ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ

ปล. ปืนสวยครับ
บันทึกการเข้า

"ผมจะเป็นคนดี"
หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.054 วินาที กับ 22 คำสั่ง