เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 30, 2024, 07:27:47 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 59 60 61 [62] 63 64 65 ... 177
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: น้ำขึ้น...ให้รีบบอก  (อ่าน 542254 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 37 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
kensiro
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #915 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 06:36:02 AM »

พิจิตร อำเภอเมือง หมดจากการเป็นน้ำท่วมแล้ว น้ำต่าง ที่เหลืออยู่เป็นเพียงน้ำที่ระบายไม่ได้เท่านั้นเอง
บันทึกการเข้า
kensiro
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #916 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 07:49:20 AM »

งานนี้มีโจทย์หลายล้านคน ประกอบด้วยคนสารพัด ๑ในนั้นน่าจะมีผู้กล้าฟ้อง รมว.กระทรวงเกษตรบ้างล่ะครับ

รูปถ่ายเมื่อวันที่ 19 /10/2554

ต้นที่โตเต็มที่ สร้างรายได้ ให้ ต้นละ 7000-15000 บาท ต่อปี การที่จะปลูกได้ขนาดนี้กี่ปี ตอนนี้ชาวนาพิจิตร เริ่มหว่านข้าวใหม่กันแล้ว

แต่ชาวสวน นั่งมองต้นไม้ตาย ผม ทำทั้งนาและสวน นา จ้างเขา สวนก็ทำเองบ้างจ้างเขาบ้างเป็นบางส่วน

ผม ไม่ได้พูดเพราะผมเสียหาย แต่ผมพูด ในส่วนที่เสียหายทั้งประเทศ ผมทำแค่ส่วนเล็กน้อย แต่มีเจ้าที่ทำเป็น ร้อยไร่ หรือเป็นสวนใหญ่

ตายขนาดนี้ ปลูกใหม่รอไปอีก 3-8 ปีกว่าจะได้ต้นที่เห็นในภาพ


ในที่ไปจากเหนือ มีแต่สารเคมีที่ชะล้างไปจากทางเหนือ ทางที่ดีก็อย่าไปเล่นน้ำนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 22, 2011, 07:53:46 AM โดย โรจน์ คนพิจิตร--รักในหลวง » บันทึกการเข้า
OO BUCK
Sr. Member
****

คะแนน 146
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772



« ตอบ #917 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 08:31:38 AM »

http://www.facebook.com/numdunnum#!/protectbangkok

ร่วมกันสนับสนุนธรรมศาสตร์โมเดล ใช้น้ำดันน้ำ ป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพชั้นใน

เชื่อหรือไม่ ธรรมศาสตร์รังสิตเป็นที่เดียวที่ทำคันกั้นน้ำแบบใช้ความรู้ทางวิศวกรรมจริงๆ
มีตอกเข็มยูคาฯด้วย  ที่อื่นที่พังไป ทั้งที่ลงทุนเป็น10ล้าน  ไม่มีเข็มแม้แต่ต้นเดียว

http://www.youtube.com/watch?v=JKCNcnK1JbI&feature=player_embedded#!

คลิปวีดีโอเสนอแนวทางวิธีป้องกัน/การจัดการน้ำท่วม และการพังทลายของเขื่อน/คันกั้นน้ำในพื้นที่กทม. อธิบายโดยคุณอภิชาติ สุทธิศิลธรรม


...อธิบายละเอียดยิบ ...กำลังดู ครับ ...  Grin Grin Grin

     คันกั้นน้ำพัง 2 จุด น้ำทะลักเข้า ม.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต

     http://www.thairath.co.th/content/region/211082

    ไม่เหลืออะไรเป็นโมเดลแล้วครับ...พังเรียบร้อย  หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

โจ ™
สมาชิกลำดับที่: 41
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 219
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8187


รวมเวลาที่อยู่ในระบบ: 555 วัน 5 ชั่วโมง 55 นาที


เว็บไซต์
« ตอบ #918 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 08:59:08 AM »

รับแจ้งจากสถานีดับเพลิงบางอ้อ ขณะนี้ เขื่อนกั้นน้ำคลองวัดเพลง เขตบางพลัด ได้พังทลาย น้ำทะลักเข้ามาแล้วครับ
บันทึกการเข้า

บางโพ 5
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #919 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 09:01:05 AM »

รับแจ้งจากสถานีดับเพลิงบางอ้อ ขณะนี้ เขื่อนกั้นน้ำคลองวัดเพลง เขตบางพลัด ได้พังทลาย น้ำทะลักเข้ามาแล้วครับ

                               ขอบคุณครับน้าโจ  .......   เตรียมช่วยเหลือตัวเองกันไว้จะได้ไม่ต้องออกมาโวยวายเหมือนข่าวหน้าจอ

บันทึกการเข้า

                
พรานบุญ หลงกรุง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2884
ออฟไลน์

กระทู้: 7243



« ตอบ #920 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 09:32:02 AM »

หลักสี่-ทุ่งสองห้อง น้ำเอ่อขึ้นมาในหมู่บ้านของการเคหะฯ  เมื่อตอนตี 3
ชาวบ้านกำลังอรหม่าน...... ถึงวาระของคนหลักสี่แล้ว
บันทึกการเข้า

naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #921 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 09:51:11 AM »

งานนี้มีโจทย์หลายล้านคน ประกอบด้วยคนสารพัด ๑ในนั้นน่าจะมีผู้กล้าฟ้อง รมว.กระทรวงเกษตรบ้างล่ะครับ
รูปถ่ายเมื่อวันที่ 19 /10/2554

ต้นที่โตเต็มที่ สร้างรายได้ ให้ ต้นละ 7000-15000 บาท ต่อปี การที่จะปลูกได้ขนาดนี้กี่ปี ตอนนี้ชาวนาพิจิตร เริ่มหว่านข้าวใหม่กันแล้ว

แต่ชาวสวน นั่งมองต้นไม้ตาย ผม ทำทั้งนาและสวน นา จ้างเขา สวนก็ทำเองบ้างจ้างเขาบ้างเป็นบางส่วน

ผม ไม่ได้พูดเพราะผมเสียหาย แต่ผมพูด ในส่วนที่เสียหายทั้งประเทศ ผมทำแค่ส่วนเล็กน้อย แต่มีเจ้าที่ทำเป็น ร้อยไร่ หรือเป็นสวนใหญ่

ตายขนาดนี้ ปลูกใหม่รอไปอีก 3-8 ปีกว่าจะได้ต้นที่เห็นในภาพ


ในที่ไปจากเหนือ มีแต่สารเคมีที่ชะล้างไปจากทางเหนือ ทางที่ดีก็อย่าไปเล่นน้ำนะครับ

ถ่ายรูปเอาไว้ครับ...

รูปที่ถ่ายต้องเผื่อเอาไว้สำหรับไปแสดงในศาลด้วย เช่นถ่ายให้เห็นสภาพแวดล้อมว่าที่ไหน โดยให้เห็นภาพรวม มีป้ายบอกเส้นทาง แล้วถ่ายย่อยลงมาจนกระทั่งถึงรายละเอียดความเสียหาย โดยให้มีความต่อเนื่องในแต่ละรูปด้วย เช่นสองรูปเห็นต้นไม้ต้นเดิม, เห็นเวลาที่ถ่าย เช่นเห็นมุมแสงจากดวงอาทิตย์, เห็นวันที่ที่ถ่าย เช่นเห็นกิจกรรมของทางราชการที่มีการบันทึกวันที่ เช่นเจ้าหน้าที่หลวงออกตรวจพื้นที่ ฯลฯ... สรุปคือวัน เวลา สถานที่ ประเด็นความเสียหายครับ...

ถึงแม้ไม่ได้ลากถึงขั้นขึ้นศาล แต่นายสมชายก็เชื่อว่าทำให้สามารถเป็นหลักฐานขอรับการช่วยเหลือจากทางราชการได้สะดวกขึ้นทั้งคนขอรับฯ เจ้าหน้าที่ทำเรื่องฯ และผู้อนุมัติครับ... หากได้ไม่คุ้มค่า ค่อยลากขึ้นศาล(ศาลปกครอง+ศาลแพ่งฯ)...
บันทึกการเข้า
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« ตอบ #922 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 09:53:46 AM »

ผมดูข่าวนักศึกษามหาวิทยาลัยแถวโคราช ออกแบบใช้ผ้าใบแบบคลุมสินค้ารถบรรทุก+ตาข่ายตาใหญ่ขนาดประตูฟุตบอล ห่อรถยนต์ทั้งคันให้ลอยน้ำได้ ทดลองให้ดูทางทีวี เห็นว่าน้ำต้องลึก 40 ซม.ขึ้นไป...ลอยได้จริงครับ  เยี่ยม เยี่ยม

 












มทส. คิดวิธีห่อรถด้วยตาข่ายและผ้าใบ ลอยน้ำหนีน้ำท่วม แก้ปัญหารถจมน้ำและไม่มีที่จอดรถ
.โดย Suranaree University of Technology เมื่อ 21 ตุลาคม 2011 เวลา 5:01 น..มทส. คิดวิธีห่อรถด้วยตาข่ายและผ้าใบ ลอยน้ำหนีน้ำท่วม

แก้ปัญหารถจมน้ำและไม่มีที่จอดรถ

 ตามที่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ของประเทศไทย หลายพื้นที่ต้องประสบกับน้ำท่วมสูงมิดหลังคารถยนต์    ทำให้ต้องจ่ายเงินค่าซ่อมรถยนต์ 10,000-100,000 บาท หลังน้ำลด การห่อรถลอยน้ำ จึงเป็นทางเลือกที่ดี ทั้งไม่มีปัญหาต้องซ่อมรถหลังน้ำท่วม และไม่ต้องวุ่นวายหาที่จอดรถในที่สูงเพื่อหนีน้ำ โดยอาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้คิดค้นหาวิธี และทดสอบจนมั่นใจ ห่อรถยนต์ลอยน้ำหนีน้ำท่วมได้จริง

 จากสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงและมีระดับน้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ นอกจากปัญหาเรื่องเครื่องอุปโภคบริโภค อาหารน้ำดื่ม และสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นขาดแคลน ปัญหาอีกอย่างหนึ่งของผู้ประสบภัยคือการไม่มีที่จอดรถยนต์ที่ปลอดภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ต้องประสบกับน้ำท่วมสูงเกินหลังคารถ ซึ่งจะทำให้รถยนต์พังเสียหาย และต้องเสียค่าซ่อมหลังน้ำลดเป็นเงินจำนวนมาก อาจารย์และนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.ทวิช จิตรสมบูรณ์ (เจ้าของความคิดประดิษฐ์เรือน้ำใจปีบทอง) และอาจารย์ธีทัต ดลวิชัย สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล จึงได้คิดค้นวิธีการ  “รถลอยน้ำด้วยตาข่ายและผ้าใบ” ซึ่งเป็นวิธีการในการใช้ตาข่ายและผ้าใบคลุมรถ เพื่อให้รถยนต์ลอยขึ้นจากน้ำ โดยได้ทำการทดสอบ และสร้างต้นแบบเพื่อให้ประชาชนที่สนใจนำไปจัดทำเองได้ ใช้วัสดุที่หาได้ง่าย และใช้งานจริงได้ทันที

 รองศาสตราจารย์ ดร.ทวิช จิตรสมบูรณ์ กล่าวว่า “ผมได้คิดไว้ก่อนหน้าแล้วว่า จะหาทางช่วยรถไม่ให้จมน้ำ เช่น รถที่จอดไว้ในที่จอดรถของบ้าน เจ้าของอาจวิตกว่าน้ำจะท่วมรถยนต์เสียหาย หากเอาไปจอดไว้ที่อื่นก็ไม่สะดวก ไม่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับรถยนต์จำนวนมาก และปัญหาความปลอดภัยอาจจะถูกงัดแงะโจรกรรม วันนี้ผมเดินทางลงใต้เพื่อไปเป็นที่ปรึกษา รพ.กระบี่ และประชุมวิชาการ จึงได้ขอให้ อ.ธีทัต ดลวิชัย ได้ทำการทดลองที่ผมได้คิดค้นไว้ คือ เอาตาข่ายแข็งแรงมาหุ้มรถแบบตึงๆ เอาเชือกร้อยรัดให้แน่นเข้ากับหลังคารถ จากนั้นเอาผ้าใบหุ้มอีกชั้น มัดหลวมๆ  ซึ่งจะทำให้รถลอยน้ำได้เมื่อน้ำท่วม โดยผ้าใบและตาข่ายจะทำหน้าที่รับน้ำหนักรถที่ล้อทั้งสี่ล้อ แล้วกระจายเฉลี่ยไปยังตาข่ายด้านในไม่กระทำเป็นจุด  ผ้าใบและตาข่ายจะไม่ฉีกขาด และรับน้ำหนักรถให้รถลอยน้ำได้ทั้งคัน”

  อาจารย์ธีทัต ดลวิชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล ซึ่งเป็นผู้ควบคุมดูแล การจัดทำ และการทดสอบร่วมกับนักศึกษา กล่าวว่า “วัสดุอุปกรณ์ในการจัดทำรถลอยน้ำประกอบด้วย ตาข่าย ผ้าใบชนิดหนาพิเศษ และเชือกสำหรับมัด โดยจะคลุมเรือด้วยตาข่าย มัดและดึงให้แน่นก่อน แล้วคลุมด้วยผ้าใบอีกชั้นเพื่อกันน้ำ โดยใช้ผ้าใบขนาดประมาณ 4x7 เมตร เจาะตาไก่ร้อยเชือกคลุมเกือบทั้งคันหลวมๆ เมื่อระดับน้ำขึ้นสูง รถยนต์ทั้งคันจะลอยน้ำขึ้นมา ไม่ต้องกลัวปัญหารถจมน้ำ และลดปัญหาการหาที่จอดรถตามสะพาน หรือตึกสูง เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วม และบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย โดยวิธีการในการทำไม่ยากสามารถทำเองได้ โดยมีต้นทุนไม่เกิน 5,000 บาท”

 ผู้สนใจนำแบบ วิธีการจัดทำ รถลอยน้ำ ไปใช้ สามารถติดต่อได้ที่ สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา โทรศัพท์ 0-4422-4410-1 หรือรองศาสตราจารย์ ดร.ทวิช จิตรสมบูรณ์ โทร. 085-9033882 E-mail : tabon@sut.ac.th

 

ชมวิดีทัศน์อธิบายการทำงาน

http://www.youtube.com/watch?v=iM2zZYbHt34

 

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

ข่าว+ภาพ : วราวุฒิ DPR.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 22, 2011, 09:58:14 AM โดย pasta » บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #923 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 10:19:19 AM »

สุดยอดครับ... ห่อรถลอยน้ำ แล้วผูกเอาไว้กับเสารั้วบ้าน...
บันทึกการเข้า
kensiro
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #924 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 10:21:23 AM »

ผมดูข่าวนักศึกษามหาวิทยาลัยแถวโคราช ออกแบบใช้ผ้าใบแบบคลุมสินค้ารถบรรทุก+ตาข่ายตาใหญ่ขนาดประตูฟุตบอล ห่อรถยนต์ทั้งคันให้ลอยน้ำได้ ทดลองให้ดูทางทีวี เห็นว่าน้ำต้องลึก 40 ซม.ขึ้นไป...ลอยได้จริงครับ  เยี่ยม เยี่ยม

 












มทส. คิดวิธีห่อรถด้วยตาข่ายและผ้าใบ ลอยน้ำหนีน้ำท่วม แก้ปัญหารถจมน้ำและไม่มีที่จอดรถ
.โดย Suranaree University of Technology เมื่อ 21 ตุลาคม 2011 เวลา 5:01 น..มทส. คิดวิธีห่อรถด้วยตาข่ายและผ้าใบ ลอยน้ำหนีน้ำท่วม

แก้ปัญหารถจมน้ำและไม่มีที่จอดรถ

 ตามที่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ของประเทศไทย หลายพื้นที่ต้องประสบกับน้ำท่วมสูงมิดหลังคารถยนต์    ทำให้ต้องจ่ายเงินค่าซ่อมรถยนต์ 10,000-100,000 บาท หลังน้ำลด การห่อรถลอยน้ำ จึงเป็นทางเลือกที่ดี ทั้งไม่มีปัญหาต้องซ่อมรถหลังน้ำท่วม และไม่ต้องวุ่นวายหาที่จอดรถในที่สูงเพื่อหนีน้ำ โดยอาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้คิดค้นหาวิธี และทดสอบจนมั่นใจ ห่อรถยนต์ลอยน้ำหนีน้ำท่วมได้จริง

 จากสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงและมีระดับน้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ นอกจากปัญหาเรื่องเครื่องอุปโภคบริโภค อาหารน้ำดื่ม และสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นขาดแคลน ปัญหาอีกอย่างหนึ่งของผู้ประสบภัยคือการไม่มีที่จอดรถยนต์ที่ปลอดภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ต้องประสบกับน้ำท่วมสูงเกินหลังคารถ ซึ่งจะทำให้รถยนต์พังเสียหาย และต้องเสียค่าซ่อมหลังน้ำลดเป็นเงินจำนวนมาก อาจารย์และนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.ทวิช จิตรสมบูรณ์ (เจ้าของความคิดประดิษฐ์เรือน้ำใจปีบทอง) และอาจารย์ธีทัต ดลวิชัย สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล จึงได้คิดค้นวิธีการ  “รถลอยน้ำด้วยตาข่ายและผ้าใบ” ซึ่งเป็นวิธีการในการใช้ตาข่ายและผ้าใบคลุมรถ เพื่อให้รถยนต์ลอยขึ้นจากน้ำ โดยได้ทำการทดสอบ และสร้างต้นแบบเพื่อให้ประชาชนที่สนใจนำไปจัดทำเองได้ ใช้วัสดุที่หาได้ง่าย และใช้งานจริงได้ทันที

 รองศาสตราจารย์ ดร.ทวิช จิตรสมบูรณ์ กล่าวว่า “ผมได้คิดไว้ก่อนหน้าแล้วว่า จะหาทางช่วยรถไม่ให้จมน้ำ เช่น รถที่จอดไว้ในที่จอดรถของบ้าน เจ้าของอาจวิตกว่าน้ำจะท่วมรถยนต์เสียหาย หากเอาไปจอดไว้ที่อื่นก็ไม่สะดวก ไม่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับรถยนต์จำนวนมาก และปัญหาความปลอดภัยอาจจะถูกงัดแงะโจรกรรม วันนี้ผมเดินทางลงใต้เพื่อไปเป็นที่ปรึกษา รพ.กระบี่ และประชุมวิชาการ จึงได้ขอให้ อ.ธีทัต ดลวิชัย ได้ทำการทดลองที่ผมได้คิดค้นไว้ คือ เอาตาข่ายแข็งแรงมาหุ้มรถแบบตึงๆ เอาเชือกร้อยรัดให้แน่นเข้ากับหลังคารถ จากนั้นเอาผ้าใบหุ้มอีกชั้น มัดหลวมๆ  ซึ่งจะทำให้รถลอยน้ำได้เมื่อน้ำท่วม โดยผ้าใบและตาข่ายจะทำหน้าที่รับน้ำหนักรถที่ล้อทั้งสี่ล้อ แล้วกระจายเฉลี่ยไปยังตาข่ายด้านในไม่กระทำเป็นจุด  ผ้าใบและตาข่ายจะไม่ฉีกขาด และรับน้ำหนักรถให้รถลอยน้ำได้ทั้งคัน”

  อาจารย์ธีทัต ดลวิชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล ซึ่งเป็นผู้ควบคุมดูแล การจัดทำ และการทดสอบร่วมกับนักศึกษา กล่าวว่า “วัสดุอุปกรณ์ในการจัดทำรถลอยน้ำประกอบด้วย ตาข่าย ผ้าใบชนิดหนาพิเศษ และเชือกสำหรับมัด โดยจะคลุมเรือด้วยตาข่าย มัดและดึงให้แน่นก่อน แล้วคลุมด้วยผ้าใบอีกชั้นเพื่อกันน้ำ โดยใช้ผ้าใบขนาดประมาณ 4x7 เมตร เจาะตาไก่ร้อยเชือกคลุมเกือบทั้งคันหลวมๆ เมื่อระดับน้ำขึ้นสูง รถยนต์ทั้งคันจะลอยน้ำขึ้นมา ไม่ต้องกลัวปัญหารถจมน้ำ และลดปัญหาการหาที่จอดรถตามสะพาน หรือตึกสูง เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วม และบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย โดยวิธีการในการทำไม่ยากสามารถทำเองได้ โดยมีต้นทุนไม่เกิน 5,000 บาท”

 ผู้สนใจนำแบบ วิธีการจัดทำ รถลอยน้ำ ไปใช้ สามารถติดต่อได้ที่ สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา โทรศัพท์ 0-4422-4410-1 หรือรองศาสตราจารย์ ดร.ทวิช จิตรสมบูรณ์ โทร. 085-9033882 E-mail : tabon@sut.ac.th

 

ชมวิดีทัศน์อธิบายการทำงาน

http://www.youtube.com/watch?v=iM2zZYbHt34

 

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

ข่าว+ภาพ : วราวุฒิ DPR.


ยกนิ้วให้ครับ นี่ละครับ รวมกันคิด ยุดยอดครับ
บันทึกการเข้า
kensiro
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #925 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 10:26:16 AM »

งานนี้มีโจทย์หลายล้านคน ประกอบด้วยคนสารพัด ๑ในนั้นน่าจะมีผู้กล้าฟ้อง รมว.กระทรวงเกษตรบ้างล่ะครับ
รูปถ่ายเมื่อวันที่ 19 /10/2554

ต้นที่โตเต็มที่ สร้างรายได้ ให้ ต้นละ 7000-15000 บาท ต่อปี การที่จะปลูกได้ขนาดนี้กี่ปี ตอนนี้ชาวนาพิจิตร เริ่มหว่านข้าวใหม่กันแล้ว

แต่ชาวสวน นั่งมองต้นไม้ตาย ผม ทำทั้งนาและสวน นา จ้างเขา สวนก็ทำเองบ้างจ้างเขาบ้างเป็นบางส่วน

ผม ไม่ได้พูดเพราะผมเสียหาย แต่ผมพูด ในส่วนที่เสียหายทั้งประเทศ ผมทำแค่ส่วนเล็กน้อย แต่มีเจ้าที่ทำเป็น ร้อยไร่ หรือเป็นสวนใหญ่

ตายขนาดนี้ ปลูกใหม่รอไปอีก 3-8 ปีกว่าจะได้ต้นที่เห็นในภาพ


ในที่ไปจากเหนือ มีแต่สารเคมีที่ชะล้างไปจากทางเหนือ ทางที่ดีก็อย่าไปเล่นน้ำนะครับ

ถ่ายรูปเอาไว้ครับ...

รูปที่ถ่ายต้องเผื่อเอาไว้สำหรับไปแสดงในศาลด้วย เช่นถ่ายให้เห็นสภาพแวดล้อมว่าที่ไหน โดยให้เห็นภาพรวม มีป้ายบอกเส้นทาง แล้วถ่ายย่อยลงมาจนกระทั่งถึงรายละเอียดความเสียหาย โดยให้มีความต่อเนื่องในแต่ละรูปด้วย เช่นสองรูปเห็นต้นไม้ต้นเดิม, เห็นเวลาที่ถ่าย เช่นเห็นมุมแสงจากดวงอาทิตย์, เห็นวันที่ที่ถ่าย เช่นเห็นกิจกรรมของทางราชการที่มีการบันทึกวันที่ เช่นเจ้าหน้าที่หลวงออกตรวจพื้นที่ ฯลฯ... สรุปคือวัน เวลา สถานที่ ประเด็นความเสียหายครับ...

ถึงแม้ไม่ได้ลากถึงขั้นขึ้นศาล แต่นายสมชายก็เชื่อว่าทำให้สามารถเป็นหลักฐานขอรับการช่วยเหลือจากทางราชการได้สะดวกขึ้นทั้งคนขอรับฯ เจ้าหน้าที่ทำเรื่องฯ และผู้อนุมัติครับ... หากได้ไม่คุ้มค่า ค่อยลากขึ้นศาล(ศาลปกครอง+ศาลแพ่งฯ)...

ผมออกมาไม่ได้เรียกร้องนะครับ น้าสมชาย ผม อยากให้คนที่รับผิดชอบ เอา สมองคิด อย่าเอาหัวแม่เท้าคิด

อยากอย่าให้ความเสียหายที่เกิดขึ้นในปีถัดๆ เลย ประเทศเรา กำลังจะด้อยกว่า ประเทศอื่นเขาแล้ว

ทำประเทศ เราให้เจริญ กว่าประเทศอื่นเขา แล้ว ใครจะกินจะโกยบนความเจริญ ก็ไม่มีใครเขาว่า

แต่นี่ยิ่งกินยิ่งต่ำลง   อภัยด้วยแรงไปนิดนะครับ น้าสมชาย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 22, 2011, 10:30:44 AM โดย โรจน์ คนพิจิตร--รักในหลวง » บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #926 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 10:34:15 AM »

ผมออกมาไม่ได้เรียกร้องนะครับ น้าสมชาย ผม อยากให้คนที่รับผิดชอบ เอา สมองคิด อย่าเอาหัวแม่เท้าคิด

อยากให้ความเสียหายที่เกิดขึ้นในปีถัดๆ เลย ประเทศเรา กำลังจะด้อยกว่า ประเทศอื่นเขาแล้ว

ทำประเทศ เราให้เจริญ กว่าประเทศอื่นเขา แล้ว ใครจะกินจะโกยบนความเจริญ ก็ไม่มีใครเขาว่า

แต่นี่ยิ่งกินยิ่งต่ำลง   อภัยด้วยแรงไปนิดนะครับ น้าสมชาย


แล้วทำไมไม่เรียกร้องเล่าครับ, คนดีคือคนที่เคารพกฎหมายครับ... หากเสียหายหนัก ต้องเรียกร้อง อย่าทำเฉย, การทำเฉยคือการไม่เคารพกฎหมาย ไม่เคารพสิทธิ์ของตนเอง และจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่ผู้อื่น...

การทำเฉยคือการทำให้ผู้กระทำผิดได้ใจ แล้วต่อไปจะเกิดวัฒนธรรมที่ไม่ดี ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวข้องกับประโยชน์สาธารณะ นโยบายสาธารณะจะไม่ใส่ใจผลประโยชน์ของประชาชน... มองเผินๆเหมือนไม่มีอะไร แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง มันจะระเบิดออกมาเหมือนคนรากหญ้าเคยเผาเมืองนั่นแหละครับ...
บันทึกการเข้า
kensiro
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #927 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 10:38:06 AM »

ผมออกมาไม่ได้เรียกร้องนะครับ น้าสมชาย ผม อยากให้คนที่รับผิดชอบ เอา สมองคิด อย่าเอาหัวแม่เท้าคิด

อยากให้ความเสียหายที่เกิดขึ้นในปีถัดๆ เลย ประเทศเรา กำลังจะด้อยกว่า ประเทศอื่นเขาแล้ว

ทำประเทศ เราให้เจริญ กว่าประเทศอื่นเขา แล้ว ใครจะกินจะโกยบนความเจริญ ก็ไม่มีใครเขาว่า

แต่นี่ยิ่งกินยิ่งต่ำลง   อภัยด้วยแรงไปนิดนะครับ น้าสมชาย


แล้วทำไมไม่เรียกร้องเล่าครับ, คนดีคือคนที่เคารพกฎหมายครับ... หากเสียหายหนัก ต้องเรียกร้อง อย่าทำเฉย, การทำเฉยคือการไม่เคารพกฎหมาย ไม่เคารพสิทธิ์ของตนเอง และจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่ผู้อื่น...

การทำเฉยคือการทำให้ผู้กระทำผิดได้ใจ แล้วต่อไปจะเกิดวัฒนธรรมที่ไม่ดี ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวข้องกับประโยชน์สาธารณะ นโยบายสาธารณะจะไม่ใส่ใจผลประโยชน์ของประชาชน... มองเผินๆเหมือนไม่มีอะไร แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง มันจะระเบิดออกมาเหมือนคนรากหญ้าเคยเผาเมืองนั่นแหละครับ...

วันจันทร์ จะลองเข้าไปเกษตรจังหวัด ถามเรื่องต่างๆ เพราะเกษตร ผม ดูแลคอมเขาอยู่เกือบทั้งจังหวัด 
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #928 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 10:38:38 AM »

ผมออกมาไม่ได้เรียกร้องนะครับ น้าสมชาย ผม อยากให้คนที่รับผิดชอบ เอา สมองคิด อย่าเอาหัวแม่เท้าคิด

อยากอย่าให้ความเสียหายที่เกิดขึ้นในปีถัดๆ เลย ประเทศเรา กำลังจะด้อยกว่า ประเทศอื่นเขาแล้ว

ทำประเทศ เราให้เจริญ กว่าประเทศอื่นเขา แล้ว ใครจะกินจะโกยบนความเจริญ ก็ไม่มีใครเขาว่า

แต่นี่ยิ่งกินยิ่งต่ำลง   อภัยด้วยแรงไปนิดนะครับ น้าสมชาย


มีอีกเรื่องนึงครับ... ไม่ว่าจะเจริญหรือไม่เจริญ ก็ขี้โกงไม่ได้ครับ... เย้...
บันทึกการเข้า
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #929 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2011, 10:52:08 AM »

เขตคลองสามวา ถนนพระยาสุเรนท์ซอย 35 คลองลำกระโหลก(ต่อเนื่องจากคลองพระยาสุเรนท์) เวลา 07.00น. ระดับน้ำยังทรงๆสลับกับลดลงเล็ก

น้อย เยี่ยม
เวลา 10.40น. ยังคงเหมือนเดิมครับ เยี่ยม
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 ... 59 60 61 [62] 63 64 65 ... 177
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.087 วินาที กับ 22 คำสั่ง