นิทานเรื่อง รัฐบาลจงใจปล่อยน้ำให้ท่วมเมืองหลวง: วิเคราะห์จากมุมมองของทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theoวันนี้ผมจะขอมาเล่านิทานตามแบบฉบับของทฤษฎีสมคบคิดให้ฟังครับ เป็นเรื่องของประเทศๆ หนึ่งซึ่งไม่ใช่ประเทศไทย แต่เป็นประเทศประหลาดในจักรวาลคู่ขนานที่รัฐบาลที่ชั่วร้ายพยายามปล่อยน้ำให้ท่วมเมืองหลวงของตัวเอง
สำหรับท่านที่ไม่คุ้นเคย ทฤษฎีสมคบคิด หรือ Conspiracy Theory คือความพยายามวิเคราะห์สาเหตุเบื้องหลังของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมากมักเป็นเหตุการณ์ที่มีลับลมคมนัย ไม่มีคำอธิบายอย่างเป็นทางการ นักคิดที่สร้างทฤษฎีจะพยายามเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง หลายๆ เหตุการณ์เข้ามาเรียงร้อยหาความสัมพันธ์ และอธิบายเหตุผลที่มาที่ไป บางครั้งทฤษฎึเหล่านี้ก็เป็นเพียงเรื่องเล่าให้ผู้ฟังได้เก็บไปคิด บางครั้งก็มีความน่าเชื่อถือจนคนนัมแสนนับล้านคนเริ่มคล้อยตามและเชื่อคำอธิบายเหล่านั้นมากกว่าคำอธิบายของทางการเสียอีก ตัวอย่างของทฤษฎีสมคบคิดที่มีคนเชื่อมากๆ เช่น การลงจอดบนดวงจันทร์ของยานอพอลโล 11 แท้จริงแล้วมนุษย์ไม่เคยไปดวงจันทร์ เป็นการจัดฉากเพื่อทำให้สหรัฐอเมริกาชนะการแข่งขันความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์กับสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามเย็น หรือเรื่องที่รัฐบาลสหรัฐเองที่เป็นผู้วางแผนเหตุการณ์ 9-11 ขับเครื่องบินชนตึกแฝด World Trade Centre และ Pentagon เพื่อสร้างความชอบธรรมในการรุกรานตะวันออกกลางโดยมีเป้าหมายเพื่อยึดครองแหล่งน้ำมันดิบมูลค่ามหาศาล หรือการปล่อยข่าวเรื่องจานบินตกที่ฐานทัพอากาศ Roswell เพื่อใช้เรื่องมนุษย์ต่างดาวกลบข่าวการทดลองทางวิทยาศาสตร์ของกองทัพสหรัฐ ทฤษฎีสมคบคิดเหล่านี้บางเรื่องก็น่าเชื่อถือ บางเรื่องก็แค่ฟังเล่นสนุกๆ ในลักษณะนิทาน
ดังนั้นผมจะขอเล่านิทานให้คุณผู้อ่านฟังซักเรื่องหนึ่งครับ ผมขอตั้งชื่อเรื่องนี้ว่า รัฐบาลจงใจปล่อยน้ำให้ท่วมเมืองหลวง ครับ เริ่มเรื่องเลยนะครับ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว A long time ago in a galaxy far, far away... นอกจากโลกใบนี้ที่เราอาศัยอยู่แล้วยังมีจักรวาลคู่ขนาน (Parallel Universe) ซึ่งมีลักษณะเกือบจะเหมือนกับโลกของเราทีเดียว ในดาวดวงนี้มีประเทศๆ หนึ่งมีกษัตริย์ที่คนในประเทศนั้นรวมใจกันเรียกว่า พ่อ เป็นประมุขของประเทศ แต่ประเทศนี้กลับถูกบริหารโดยรัฐบาลที่ชั่วร้าย รัฐบาลที่ชั่วร้ายนี้พยายามทำทุกวิถีทางที่จะสร้างประเทศนี้ขึ้นมาในระบอบใหม่ ที่จะทำให้หัวหน้าผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังของรัฐบาลชุดนี้มีอำนาจล้นฟ้า และความพยายามล่าสุดของรัฐบาลผู้ชั่วร้ายนี้ก็คือการปล่อยน้ำให้ท่วมเมืองหลวงของประเทศตัวเอง...
ผมมีเหตุผลสนับสนุนว่ารัฐบาลผู้ชั่วร้ายนี้มีแผนปล่อยให้น้ำท่วมเมืองหลวงของตัวเองดังนี้ครับ
1. ในอดีต ประเทศสมมตินี้เป็นประเทศในเขตร้อนชื้น มีฝนตกต้องตามฤดูกาล ปริมาณน้ำฝนในปีที่ผ่านๆ มาก็ไม่ได้แตกต่างจากในปีที่เกิดเรื่อง จำนวนพายุที่พัดเข้าสู่ประเทศนี้ในปีที่เกิดเรื่องก็ไม่ได้แตกต่างจากในปีที่เกิดเรื่อง แต่การที่น้ำท่วมในลักษณะของมหาอุทกภัย Tsunamiน้ำจืด ที่เกิดกับประเทศสมมตินี้ก็เพราะมีคนในคณะของรัฐบาลผู้ชั่วร้ายพยายามกักเก็บน้ำไว้ในเขื่อนใหญ่ของประเทศนี้ โดยไม่ปล่อยน้ำออกมาในเวลาที่ควรปล่อย ที่ทำแบบนี้ในตอนแรกก็เพียงเพราะต้องการให้ที่นาของหัวหน้าใหญ่ของตนซึ่งรวมลงทุนโดยนักลงทุนจากประเทศอื่นๆ รวมทั้งที่นาของเหล่าหัวคะแนนฐานเสียงของตนสามารถเก็บเกี่ยวข้าวในพื้นที่ของตนเอง และนำเอาข้าวเหล่านั้นมาขายให้กับรัฐบาลตามนโยบายที่ตนเองเคยใช้หาเสียงไว้ โดยรัฐบาลชั่วร้ายนี้ตั้งราคารับซื้อข้าวไว้ในราคาที่สูงเกินกว่าความเป็นจริงอย่างมหาศาล
2. เมื่อฝนตก เมื่อเกิดพายุ เมื่อน้ำมา ประเทศสมมตินี้จึงไม่มีเขื่อนที่จะเก็บน้ำอีกต่อไป ทำให้ต้องปล่อยน้ำออกมาจำนวนมหาศาล ทั้งที่ถ้าก่อนหน้านี้ทยอยปล่อยน้ำเสียแต่เนิ่นๆ ประเทศสมมตินี้ก็จะมีเขื่อนที่มีความสามารถกักเก็บน้ำในช่วงที่พายุพัดเข้ามา แต่รัฐบาลชุดนี้ก็ไม่ทำแบบนั้น ดังที่ได้เล่าไปแล้วในข้อที่ 1 ความจริงการกักเก็บน้ำไว้ในเขื่อนโดยตั้งใจเพื่อที่จะทำให้น้ำท่วมและใช้พลังจักรวาลนั่นคือพลังน้ำทำลายศัตรูทางการเมืองเคยเกิดขึ้นมาแล้ว ตำราพิชัยสงครามสามก๊กก็มีตัวอย่างในกรณีที่ ขงเบ้งกลวางอุบายขนหินปิดแม่น้ำแป๊ะเฉีย เพื่อปล่อยน้ำทำลายทัพข้าศึกที่เข้ายึดครองเมืองอยู่
3. เมื่อปล่อยน้ำจำนวนมหาศาลออกมา น้ำก็ท่วมพื้นที่ภาคกลางของประเทศนี้ บางจังหวัดน้ำท่วมสูงถึง 2 3 เมตร ภาวะน้ำท่วมมิดหลังคาจึงเกิดขึ้น รัฐบาลผู้ชั่วร้ายที่จ้องทำลายประมุขของประเทศก็กลับใช้เหล่าลิ่วล้อที่เป็นพวกไพร่ของตนไปปล่อยข่าวว่าที่ปีนี้น้ำมากผิดปกติเพราะ ฟ้าสร้างฝนเทียมขึ้นมาหวังจะให้น้ำท่วมบ้านเรือนไร่นาของพวกไพร่ที่เลื่อมใสในระบบของรัฐบาลผู้ชั่วร้าย เห็นมั้ย ชื่อของเขื่อนที่ปล่อยน้ำออกมาก็เป็นตัวบอกแล้วว่าใครอยู่เบื้องหลัง
4. ทำไมหัวหน้าใหญ่ผู้ชั่วร้ายถึงต้องการทำลายสถาบัน บางกระแสกล่าวว่า เพราะคนรวยมักจะต้องแข่งกัน เช่นต้องมีรถยนต์รุ่นที่แพงที่สุด ต้องมีกระเป๋ารุ่นที่แพงที่สุด ต้องมีสนามกอล์ฟที่สวยที่สุด เพื่อเอามาอวดกัน เพื่อเอามาประดับบารมี แต่สิ่งหนึ่งซึ่งนายใหญ่ทนไม่ได้ก็คือ คนรวยระดับพันล้าน มันก็มีของพวกนี้เหมือนกันกับเราทั้งๆ ที่เรามีเงินเป็นแสนล้าน เราต้องมีอะไรก็ตามที่คนรวยคนอื่นๆ ในประเทศนี้มีไม่ได้ สิ่งนั้นก็คือ Absolute Power ในประเทศสมมติแห่งนี้
5. เมื่อน้ำที่ท่วมเริ่มอยู่ตัว เมื่อฝนเริ่มหยุดตกเพราะประเทศสมมติของเราเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว แทนที่รัฐบาลผู้ชั่วร้ายจะสั่งให้เขื่อนหยุดระบายน้ำ รัฐบาลผู้ชั่วร้ายกลับคิดว่าถ้าให้น้ำที่ท่วมอยู่ลดระดับลงในตอนนี้ ประชาชนในประเทศก็จะคิดได้ว่า ที่น้ำท่วมเป็นเพราะรัฐบาลบริหารจัดการน้ำไม่เป็นน่ะสิ ดังนั้นเราต้องให้เขื่อนหลักทั้งสองของประเทศปล่อยน้ำต่อไป เพื่อให้ประชาชนเห็นว่าน้ำท่วมมันเป็นเพราะปีนี้น้ำมากจริงๆ น้ำมากจนไม่สามารถควบคุมได้ ประชาชนของประเทศสมมตินี้มีพื้นฐานเป็นคนขี้สงสาร จะได้เชื่อตามและคิดว่าน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นภัยธรรมชาติ รัฐบาลทำดีที่สุดแล้ว แต่ไม่อาจต่อสู้กับธรรมชาติได้ แน่นอนประชาชนบางส่วนซึ่งเป็นพวกไพร่ก็ยังเชื่อฝังหัวอยู่ตามที่รัฐบาลผู้ชั่วร้ายวางแผนไว้ในข้อ 3 ดังนั้นต้องให้น้ำท่วมหนัก ต้องให้น้ำท่วมนาน เราจะเห็นได้ว่าแทนที่เขื่อนจะปล่อยน้ำที่ล้นออกทาง Spill Way (เหมือนช่องระบายน้ำที่อยู่ที่ขอบอ่างล้างหน้าด้านบนเพื่อกันน้ำล้นอ่าง) รัฐบาลกลับสั่งให้เขื่อนปล่อยน้ำออกทาง Emergency Gate ซึ่งอยู่ด้านล่างที่เป็นเหมือนสะดืออ่างของอ่างล้านหน้า ทั้งๆ ที่เขื่อนก็ไม่ได้มีแนวโน้มว่าแตกหรือมีรอยร้าว แสดงให้เห็นเจตนาว่าไม่ได้ต้องการระบายน้ำเพราะเขื่อนจะแตก แต่ต้องการระบายน้ำเพราะต้องการให้น้ำท่วมมากยิ่งขึ้น
6. ทำไมต้องทำให้น้ำท่วมมากขึ้น? เพราะเมื่อน้ำเริ่มเคลื่อนตัวลงมาจะท่วมเมืองหลวงของประเทศ รัฐบาลผู้ชั่วร้ายก็เลือกที่จะผันน้ำให้ไหลออกไปท่วมในทุกพื้นที่ของเมืองหลวง ยกเว้นพื้นที่ทางด้านตะวันออกของเมืองหลวงอันเป็นที่ตั้งของสนามบินแห่งชาติของประเทศสมมติแห่งนี้ในจักรวาลคู่ขนาน ทั้งๆ ที่เดิม พื้นที่ทางตะวันออกของเมืองหลวงเคยเป็นแก้มลิงตามธรรมชาติเป็นทางระบายน้ำตามธรรมชาติที่เรียกกันว่า หนองหมาเห่า หนองขนาดใหญ่แห่งนี้เดิมเป็นแหล่งกักเก็บน้ำที่ไหลมาจากตอนเหนือของประเทศไว้ในช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงทำให้ไม่สามารถระบายน้ำจากแผ่นดินลงทะเลได้ ประเทศแห่งนี้ก็เคยมีการวางผังเมืองไว้แล้วพื้นที่ในบริเวณนี้ต้องเก็บไว้เป็นทางระบายน้ำที่เรียกว่า Flood Way ตามธรรมชาติ แต่สมัยของหัวหน้าใหญ่ทำหน้าที่หัวหน้ารัฐบาลก่อนที่จะหลบหนีคดีออกไปนอกประเทศเพราะถูกจับได้ว่าโกงชาติ โกภาษี ปิดบังทรัพย์สิน และวางแผนคอรับชั่นเชิงนโยบายเพื่อประโยชน์ของตนเองและบริวาร แน่นอนหัวหน้าใหญ่และพวกพ้องเข้ามากว้านซื้อที่ดินในบริเวณนี้ และพยายามอย่างยิ่งที่จะเข็นให้สนามบินแห่งนี้สามารถสร้างแล้วเสร็จ ทั้งๆ ที่ประมุขของประเทศเคยทักท้วงแล้วว่าไม่สมควรทำลายแก้มลิงและทางระบายน้ำตามธรรมชาติแห่งนี้ เมื่อสนามบินแล้วเสร็จ บริวารของหัวหน้าใหญ่ก็พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงผังเมืองให้พื้นที่รอบๆ สนามบินแห่งนี้กลายเป็นพื้นที่อยู่อาศัย และพื้นที่อุตสาหกรรม หัวหน้าใหญ่เองก็พยายามอย่างยิ่งที่จะสร้างโครงการให้เมืองรอบๆ สนามบินแห่งนี้กลายเป็นเมืองหลวงใหม่ มีกฎหมายพิเศษ มีสิทธิพิเศษต่างๆ และทำให้ราคาที่ดินรอบๆ สนามบินแห่งนี้มีราคาสูงขึ้น แน่นอนเมื่อหัวหน้าใหญ่หนีคดีออกไปนอกประเทศ อภิมหาโครงการนครสนามบินก็ล้มพับไปชั่วคราว
7. แน่นอน เมื่อทุกพื้นที่ของเมืองหลวงน้ำท่วมทั้งหมด ยกเว้นพื้นที่รอบๆ สนามบินทางด้านตะวันออกของเมืองหลวง ราคาที่ดินในบริเวณก็จะเพิ่มสูงขึ้นมหาศาล เจ้าของที่ดินซึ่งก็คือครอบครัวและบริวารของหัวหน้าใหญ่ก็จะร่ำรวยเพิ่มขึ้น รวมทั้งการผลักดันโครงการเมืองหลวงใหม่นครสนามบินที่หัวหน้าใหญ่ผู้หนีคดีวาดฝันไว้ก็จะกลายเป็นจริง
8. ประโยชน์ทางอ้อมอื่นๆ ที่รัฐบาลผู้ชั่วร้ายจะได้รับจากการทำให้น้ำท่วมเมืองหลวง นอกเหนือจากได้สร้างกระแสล้มสถาบันอันเป็นที่รักของประชาชนในประเทศสมมติ ทรัพย์สินของตนเองเพิ่มมากขึ้นจากราคาที่ดินที่ตนเองซื้อเก็บไว้ที่ป้องกันไม่ให้น้ำท่วม ได้แก่ เนื่องจากคนในประเทศนี้บางพวกมีความทรงจำค่อนข้างสั้น ชอบเงินสด และมักจะโทษสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นเพราะกรรมเก่า โดยไม่ได้ไตร่ตรอง วิเคราะห์ถึงเหตุและผลของสิ่งที่เกิดขึ้น ดังนั้นคนพวกนี้ไม่ได้สนใจหรอกว่าน้ำท่วมเป็นเพราะรัฐบาลผู้ชั่วร้ายเป็นคนทำให้เกิดขึ้น หากแต่เป็นเพราะฟ้า-ฝน ดังนั้นเมื่อน้ำลดแล้วรัฐบาลเอาเงินมาให้ ทั้งๆ ที่เป็นเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศ แต่รัฐบาลผู้ชั่วร้ายก็มีวิธีการที่จะไปบอกกับคนเหล่านี้ว่านี้คือเงินของผู้นำรัฐบาลเอามาแจกให้เพื่อช่วยเหลือในยามที่คนเหล่านี้ทุกข์ยาก คนพวกนี้ก็จะรู้สึกว่ารัฐบาลผู้ชั่วร้ายนี้มีบุญคุณกับพวกเขา รัฐบาลเอาเงินมาให้ เลือกตั้งครั้งต่อไปเราก็ต้องเลือกพรรคนี้อีก เขาจะได้เอาเงินมาให้เราอีก
9. ในช่วงน้ำท่วม ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศสมมตินี้เป็นผู้ใจบุญ ดังนั้นเงินและสิ่งของบริจาคจำนวนมหาศาลก็จะถูกบริจาคเข้ามา รัฐบาลผู้ชั่วร้ายก็จะอ้างเอาเองโดยการเอาป้ายไปแปะ เอาชื่อของตนเอง ผู้สมัคร สส. หัวคะแนน ตลอดจนหัวหน้าใหญ่ไปแปะที่ของบริจาคทำทีเป็นว่าของบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหล่านี้มาจากเงินของตนเอง สร้างบุญคุณกับประชาชนผู้เดือดร้อน ทำตนไม่แตกต่างไปจากสัตว์นรกเปรตที่มีเบียดบังส่วนบุญมาแอบอ้างกุศลของผู้อื่น
10. แน่นอนในพื้นที่เมืองหลวง ประชาชนมีการศึกษา มีเทคโนโลยีในการรับข่าวสาร และมีความรู้เท่าทันนักการเมืองเลว มากกว่าประชาชนที่อยู่ในต่างจังหวัด คนเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะไม่เลือกตน แต่จะเลือกพรรคการเมืองฝั่งตรงข้าม ดังนั้นรัฐบาลผู้ชั่วร้ายต้องพยายามอย่างยิ่งที่จะทำลายตัวแทนของพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลท้องถิ่น วิธีการเช่น พยายามดิสเครดิตโดยการทำให้ประชาชนในเมืองหลวงเห็นว่าผู้ว่าเมืองหลวงทำงานไม่มีประสิทธิภาพ มีการใช้นักการเมืองในฝ่ายของตนซึ่งเป็นทีมกองโจรมีนายห่วยกรุณาเป็นหัวหน้ากองโจรออกไปสร้างกลุ่มมวลชนมาทำลายคันกั้นน้ำของเมืองหลวง เพื่อทำให้เห็นว่าผู้ว่าทำงานไม่ได้ ประชาชนเดือนร้อน ทำให้ประชาชนสองกลุ่มต้องเผชิญหน้ากัน รัฐบาลผู้ชั่วร้ายเช่นนี้มักจะเก็บนักเลงหัวไม่ไว้เป็นพวก เชิดชูคนเหล่านี้เอาไว้เพื่อทำงานสกปรกให้ตนเอง เราจะเห็นคนอย่างนายห่วยกรุณานี้กร่างอยู่เป็นประจำ เพราะเป็นทั้งคนเลวและมีอำนาจ แน่นอนรัฐบาลชั่วร้ายเองก็เตรียมวางตัวบริวารของตนเองเช่นผู้หญิงใส่แว่นไว้เป็นผู้ว่าเมืองหลวงเพื่อใช้เป็นฐานเสียงของตนในเมืองหลวงเอาไว้แล้ว
11. น้ำท่วมสร้างประโยชน์ให้รัฐบาลผู้ชั่วร้ายในแง่ของการวางแผนกู้เงินมูลค่ามหาศาลมาทำโครงการต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในอนาคต ที่เรียกว่า รัฐใหม่ เงินกู้จำนวนมหาศาลที่จะเอามาใช้สร้างรัฐใหม่ จำนวนใกล้ๆ 1 ล้านล้าน จากประสบการณ์ในอดีตหัวหน้าใหญ่และรัฐบาลบริวารชั่วร้ายในอดีตเคยเรียกเก็บค่าหัวคิวที่ระดับ 30 35% ดังนั้นโครงการรัฐใหม่วงเงินใกล้ๆ 1 ล้านล้านก็เท่ากับจะมีเงินเข้าไปอยู่ในพุงหมาราวๆ 3 3.5 แสนล้าน ครอบครัวและบริวารของหัวหน้าใหญ่ก็รวยกันอีกเพียบ ดังนั้นในอนาคตเราจะเห็นได้แน่นอนว่า โครงการอย่างนครสนามบิน โครงการถมทะเล โครงการเมืองหลวงใหม่ จะกลับมา
12. รัฐบาลชั่วร้ายในอดีตเก่งมากเรื่องการใช้ข่าวกลบข่าว เช่น ต้องการดึงความสนใจของประชาชนจากเรื่องการอภิปรายแฉความชั่วร้ายของตนในสภา รัฐบาลชั่วร้ายก็ส่งคนไปซื้อทีมฟุตบอลชื่อดังในต่างประเทศไว้แล้ว รัฐบาลชั่วร้ายในปัจจุบันก็มีการสร้าง plot เพื่อที่จะทำเรื่องชั่วๆ ด้วยเช่นกัน เช่นล่าสุด สั่งให้หัวหน้าน้องสาวไปดูคนน้ำท่วมในต่างจังหวัดใกล้ๆ ดูคนน้ำท่วมจนค่ำ แล้วก็ทำฟอร์มว่ากลับเมืองหลวงไม่ได้ เพราะเฮลิคอปเตอร์ที่ใช้ในการเดินทางบินในเวลากลางคืนไม่ได้เพราะขาดอุปกรณ์นำทาง จำเป็นต้องค้างคืนในจังหวัดนั้น ทั้งๆ ที่ถ้าจะกลับจริงๆ ใช้รถยนต์ก็ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 2 ชั่วโมง แต่เมื่อหัวหน้าน้องสาวกลับไม่ได้ ก็ต้องให้ลิ่วล้อสารวัตรทำหน้าที่แทนในวันรุ่งขึ้น ซึ่งต้องมีการประชุมผู้บริหารประเทศสมมติ แน่นอนว่าในที่ประชุมวันรุ่งขึ้นเรื่องที่ต้องมีการอนุมัติคือการออกกฎหมายอภัยโทษ ซึ่งทำให้หัวหน้าใหญ่พี่ชายซึ่งหนีคดีอยู่ได้ประโยชน์ แต่การทำแบบนี้ก็จะหลีกเลี่ยงข้อกล่าวหาว่าน้องสาวช่วยพี่ชาย หรือหลีกเลียงปัญหา Conflict of Interest ผลประโยชน์ขัดแย้งไปได้เพราะน้องสาวไม่อยู่ในที่ประชุม ไม่รู้ไม่เห็น แล้วที่ต้องกระเหี้ยนกระหือรือรีบทำเรื่องนี้ทั้งหมดก็เพื่อจะให้หัวหน้าใหญ่ผู้ชั่วร้ายสามารถกลับมางานแต่งงานของลูกสาวผู้ฉาวโฉ่ของตนเองได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยกฎหมายนี้จะกำหนดคุณสมบัติใหม่ให้กับผู้ที่จะมีโอกาสขอรับพระราชทานอภัยโทษจากประมุขของประเทศได้ในวันเฉลิม แน่นอนพวกมันก็จะแก้กฎหมาย พอถึงวันเฉลิมมันก็จะขออภัยโทษ แนบไปกับรายชื่อของพวกไพร่ที่มันเคยล่ารายชื่อไว้ เป็นการกดดันว่าสถาบันจะดูแคลนรายชื่อคนจำนวนขนาดนี้ได้เลยหรือ ในเมื่อตอนนี้หัวหน้าใหญ่ผู้หนีคดีก็มีสิทธิตามกฎหมายที่จะมาขออภัยโทษได้แล้ว ดูพวกสัตว์นรกนี่มันทำ มันหาประโยชน์จากสถาบันที่มันต้องการทำลาย
13. ระหว่างที่น้ำท่วม รัฐบาลชั่วร้ายชุดนี้ได้แอบแต่งตั้งข้าราชการ ทั้งฝ่ายพลเรือน ตำรวจ และทหารไปตามที่ตนเองต้องการเพื่อเป็นมือเป็นเท้าของตนเองไปแล้วเรียบร้อย โดยที่ไม่มีใครออกมาวิพากษ์วิจารณ์เพราะทุกคนต่างก็กำลังจดจ่ออยู่กับเรื่องน้ำท่วม ระบบคุณธรรมในแวดวงข้าราชการได้ถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์แล้ว ค่าของคนไม่ได้อยู่ที่ผลของงานอีกต่อไป หากแต่ค่าของคนอยู่ที่คนของใคร
14. ระหว่างน้ำท่วมการแบ่งแยกความช่วยเหลือที่ให้กับประชาชนเป็นพื้นที่ที่เลือกตนเองเข้ามา กับพื้นที่ที่เลือกพรรคการเมืองฝั่งตรงข้าม หรือระหว่างประชาชนที่ไม่ได้อยู่ในขบวนการไพร่ของตนกับกลุ่มไพร่ในปกครอง ก็ทำให้คนบางคนยอมเปลี่ยนข้างยอมตัวไปเข้าข้างขบวนการไพร่เพื่อให้ได้ความช่วยเหลือ รัฐบาลชั่วร้ายก็มีฐานเสียงใหญ่ขึ้น
15. น้ำท่วมจะช่วยเสริมภาพของ นารีขี่ม้าขาวมากยิ่งขึ้น เพราะในอดีต ในประเทศสมมตินี้เคยมีพระเถระชั้นผู้ใหญ่พยากรณ์ไว้ว่า ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ ศิวิไลซ์จะบังเกิดใน... หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้ จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ ถ้าผู้อ่านได้เคยอ่านฉบับเต็มของคำพยากรณ์นี้ ก็จะเข้าใจว่าพระเถระรูปนั้นต้องการสื่อว่า นารีขี่ม้าขาวหมายถึง เจ้าหญิง ไม่ใช่น้องสาวผู้โง่เง่า แต่พรรคพวกของรัฐบาลผู้ชั่วร้ายพยายามอย่างยิ่งที่จะสร้างภาพว่าน้องสาวผู้โง่เง่าคือนารีขี่ม้าขาว น้ำท่วมเรื่องที่ประชาชนต้องระวัง แต่เมื่อน้ำลงน้องสาวผู้โง่เง่าจะเป็นผู้นำที่ทำให้ประเทศให้เกิดความเจริญรุ่งเรื่อง ในขณะที่คนชั่วคือคนที่รัฐบาลชั่วร้ายชุดนี้พยายามล้มล้างจะถูกปราบ
อย่างที่ผมเกริ่นไว้ตอนต้น เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่า เป็นนิทานนะครับ ไม่ใช่เรื่องจริง แม้แต่ตัวทฤษฎีสมคบคิดเองก็อาจจะไม่ได้เป็นเรื่องจริงก็ได้ แต่อย่างที่พวกเราทราบๆ กันก็คือ ถ้าไม่มีไฟย่อมไม่มีควัน และถ้าอยากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ใดๆ ก็ตามที่ไม่ใช่เหตุการณ์ตามธรรมชาติก็ให้ดูเอาครับว่าหลังเหตุการณ์แล้วใครเป็นคนที่ได้ประโยชน์ คนนั้นนั่นล่ะครับ คือคนที่วาง plot ทำให้เกิดเหตุการณ์นั้นๆ
-ขออภัยหากไม่เข้าประเด็น
ไม่เข้าประเด็นลบได้ครับ
ตามนี้ครับ
http://mblog.manager.co.th/piti31/Conspiracy-Theory/Tag: น้ำท่วม Flood สมคบคิด