
ก่อนวันเข้าประจำการของผม (2527) แม่ ญาติพี่น้อง เปิดบ้านฉลอง เลี้ยงเหล้ายาด้วยความยินดี... แม่บอกว่า เสียเวลาเรียนไป ก็ช่างมัน ปลดทหารค่อยมาเรียนต่อ
ตอนนี้ ไปฝึกให้เป็นผู้เป็นคนก่อน
10 สัปดาห์ในหน่วยฝึก ...โดนลงโทษหนักๆ แรงๆ แถมถูกแกล้งสารพัด...ตอนโดน ก็แช่งชักหักกระดูกครูฝึก จากนั้น ก็ลืม...ฝึกจบ ขึ้นกองร้อย ก็สบายหน่อย...จากนั้นทางกองร้อยจะคัดคนเพื่อไปทำหน้าที่ต่างๆตามความเหมาะสม ความสามารถและความสมัครใจ เช่น ประจำ บก.ร้อย บก.พัน สำหรับพวกมีความรู้ ฉลาด ทำหน้าที่รับส่งหนังสือ เอกสาร ผู้ช่วยสิบเวร ... ตอนสูทกรรม ทำกับข้าวให้เพื่อนกิน ...ตอนยานยนต์ ที่มีหน้าที่ดูแลรถยนต์ ยานพาหนะต่างๆ...สื่อสาร...เสนารักษ์ ฯลฯ.. ทหารเหล่านี้ จะถูกจำหน่ายออกจากกองร้อย ไม่ได้เข้าเวรยาม เมื่อมีการฝึกต่างๆ ก็ไม่หนักหนาเหมือนพวกอยู่กองร้อย...ออกภารกิจนอกที่ตั้ง ก็อยู่ข้างหลังเพื่อน เสี่ยงน้อยหน่อย
มีส่วนหนึ่ง คือ ทหารประจำตัว หรือที่มีโพสตามเนต.เรียกว่า ทหารรับใช้....โพสอย่างมันปาก ทั้งที่ตาไม่เคยเห็น ได้ยินเขาเล่ามา ว่า ทหารพวกนี้ ถูกส่งไปรับใช้นาย ถูบ้าน ซักรีดผ้า แม้กระทั่งกางเกงในให้นายและครอบครัว รองรับอารมณ์นาย ไม่มีศักดิ์ศรี ...แต่ในความจริงแล้ว ในรุ่นของผม มีคนที่สมัครเป็นทหารประจำตัวถึง1/4ของรุ่น ได้ไปเพียง 3 คน ...สองในสาม ออกแต๋วหน่อย..พวกนี้ จะไปอยู่กับนายในบ้านพัก ดูแลรับใช้ ...หากนายโสด ก็อยู่ในบ้าน กวาดถูบ้าน ล้างรถ...ถ้านายมีครอบครัวก็ได้อยู่กระท่อม มีเครื่องอำนวยความสะดวกพอสมควร
พวกนี้มีอาหารดีๆกิน ทำงานบ้านนิดหน่อยแล้วก็นอน เวลานายกลับจากพัก ได้ของฝาก ของกิน เสื้อผ้าดีๆ ..ตกเย็น คอยชงเหล้าให้นายและเพื่อน (ไม่ลืมที่จะเผื่อตัวเอง)...
เรื่องที่โพสกันในเนตแรงๆนั้น ผมไม่เคยเห็น...โดยเฉพาะนายที่มาจาก จปร. ...ของใช้ส่วนตัว เสื้อผ้า ถ้าไม่ส่งร้านซักรีด ก็จะซักรีดเอง รองเท้า ถุงเท้า เครื่องหมายต่างๆ ต้องขัดเอง ติดเอง จะไม่ให้พลทหารยุ่งเด็ดขาด...งานที่หนักที่สุดคือ หิ้วปีกนายเข้าห้องนอนในเวลาเมา แล้วรีบมาเก็บโต๊ะ ถ้วยจานให้เรียบร้อย...เพื่อนคนนึงเป็นทหารประจำตัว แต่ได้กลับไปอยู่บ้าน สิ้นเดือน มารับเงินเดือนเบี้ยเลี้ยง เพราะพ่อป่วยเรื้อรัง พี่ชายดูแลครอบครัวคนเดียว ...
จากคำบอกเล่าของคนใกล้ชิด เขาว่ากันว่า ..หลังปลดประจำการ ผมกลายเป็นคนละคน...จากคนไม่เอาถ่าน กลายเป็นคนมีความรับผิดชอบ มีวินัย ความอดทน มุ่งมั่น ยับยั้งชั่งใจ ...เปลี่ยนไปอย่างคาดไม่ถึง...ทุกวันนี้ ยังนึกอยู่เลยว่า ถ้าไม่ได้ใบแดง ผมก็คงเลี้ยงควายอยู่บนภูพานบ้านเกิด
ที่โพสมาซะยาวยืด เพราะเห็นโพสกันตามเนตกันมากมาย ในเรื่องเกียติ ศักดิ์ศรี ของพลทหารประจำตัว โดยที่ไม่รู้จริง ...โดยความจริงแล้ว ทหารประจำตัว เป็นที่ไฝ่ฝันของพลทหารจำนวนมาก
ถ้าถูกเกณฑ์ทุกคน ย่อมเป็นที่แน่นอนว่า ทุกคนเสียเวลาทำงาน หรือเวลาเรียนไปสองปี....ลองคิดอีกมุมหนึ่ง...นอกจากทุกคนจะได้ทำหน้าที่ลูกผู้ชายของตัวเองแล้ว ยังได้ฝึกระเบียบ วินัย ความกล้าหาญ ความรับผิดชอบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ผมเชื่อว่า จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะประคับประคอง ผลักดัน ให้บ้านเมืองเรารุ่งเรื่อง เทียบเท่า หรือมากกว่าเพื่อนบ้านครับ