เมื่อเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมาผมเดินทางไปต่างจังหวัด เส้นสระบุรี โดยขึ้นดอนเมืองโทลเวย์ ที่แยกรัชวิภา ใช้เวลาที่โทลเวย์ 2 ชั่วโมง พอลงจากโทลเวย์ ก็พอขยับได้ก่อนที่จะหยุดนิ่งเมื่อเลยประตูน้ำพระอินทร์ ติดอยู่นาน 2 ชั่วโมงกว่า มีคนโทรถาม จส.100 ได้รับคำตอบว่า
เส้นทางนี้ยังไม่ได้เปิดให้ใช้งานแต่ประชาชนไปใช้งานเองก็ต้องยอมรับสภาพ ผมจึงตัดสินใจกลับรถออกไปสายเอเชีย ผ่านอยุธยา พอถึงแยกอ่างทองก็เลี้ยวไปอำเภอดอนพุด ผ่านท่าเรื่อ ไปหน้าพระลาน เข้าแก่งคอย สรุปใช้เวลาเดินทาง กรุงเทพฯ-แก่งคอย เกือบ 7 ชั่วโมง
แต่ก็ยังถึงจุดหมายปลายทางที่สกลนครโดยดี ใช้เวลาเดินทางรวม 13 ชั่วโมงเศษ จากที่เคยเดินทางในสภาวะปกติประมาณ 8 ชั่วโมง ติดใจตรงที่ว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐแจ้งให้ประชาชนทราบว่าเส้นทางนี้(วังน้อย)ยังผ่านไม่ได้ หลาย ๆ ท่านย้อนกลับเข้ามาตั้งหลักใหม่ที่กรุงเทพฯ
ท่านใดจะเดินทางออกต่างจังหวัดช่วงนี้กรุณาศึกษาเส้นทางให้ดีก่อนนะครับ เดียวจะเจอแบบผม วันนั้นหากผมไม่กลับตัวทันคงจะติดอยู่ที่วังน้อยเกิน 10 ชั่วโมงแน่นอนครับ

เลขาฯ สำราญ ครับ
วันนี้ตอนบ่ายแก่ๆ ผมกลับจากบ้านที่ปากเกร็ด-สาธุประดิษฐ์(ด่วนชั้นที่-2) ใช้เวลา 2ช.ม.เศษ ครับ แต่เมื่อ 5วันที่แล้วผมใช้เวลาเพียง 1ช.ม.เศษเท่านั้น นี่ยังถือว่า จิบ จิบ..

.....เพราะว่าในระหว่างรถติดนั้น ผมได้เปิดฟังจ.ส.100 ตลอดทางและมีผู้หญิงท่านหนึ่งรายงานเข้าไปว่า"ไปดูบ้านที่ถูกน้ำท่วมแถวพุธมณฑลสาย 2 แล้วเดินทางกลับบ้าน พอมาถึง"
มหาวิทยาลัยสงฆ์"..ต้นทางไปจ.สระบุรี รถติดกันแบบไม่ขยับ 2-3 ช.ม.แล้วก็ใกล้จะค่ำแล้วด้วย

จากการติดตามข่าวต่อไป..พอจะทราบตามท่านเลขาฯสำราญแจ้งไว้"
รถเล็ก..ห้ามผ่าน"และยังมีปัญหาแทรกอีกคือ รถติดจนน้ำมันหมดถังหลายคันกับรถกระบะทรงเตี้ยลุยน้ำ..จอดเสียกลางถนนอีก จนหน่วยรถกู้..ไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ทัน จึงเป็นเหตุให้การจารจรติดขัดหยุดนิ่งมากๆ..อีกหนึ่งวัน ขอรับ

จบการรายงานข่าวจารจร...