บ่อนกาสิโนในมาเก๊า ยามค่ำ (ภาพเอเยนซี)
เอ เอฟพี - สำนักงานของรัฐบาลมาเก๊าเผยเมื่อวันอังคาร (4 ก.ย.) ว่า รายได้จากการพนันในมาเก๊ากระโดดขึ้นเป็น 39 เปอร์เซ็นต์ในเดือนกันยายน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดพนันใหญ่สุดของโลกแห่งนี้กำลังเติบโตไม่หยุด แม้ว่าจะมีเหตุหุ้นบริษัทกาสิโนตกลงมาบ้างก็ตาม
สำนัก ประสานงานและตรวจสอบธุรกิจกาสิโนในมาเก๊า (Macau Gaming Inspection and Co-ordination Bureau) เผยว่า รายได้จากการพนันแตะ 2,650 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้นมาจาก 1,909ล้านเหรียญฯ จากปีก่อนหน้า
รายได้ในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย. ปีนี้ เติบโตจากปีก่อนหน้าถึง 46 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นมูลค่า 24,243 ล้านเหรียญสหรัฐ
การเติบโตดังกล่าวเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาด แม้ว่าจะมีความวิตกเนื่องจากเศรษฐกิจจีนที่อยู่ในช่วงชะลอตัวอาจกระทบต่อ ตลาดหุ้นกาสิโนในมาเก๊าได้
หุ้นส่วนของบริษัท เอสเจเอ็ม โฮลด์ดิ้ง ของสแตนลีย์ โฮ ราชากิจการกาสิโนแห่งมาเก๊า ตกฮวบเกือบ 26 เปอร์เซ็นต์ ในวันจันทร์ที่ผ่านมา (3 ต.ค.) ซึ่งเมื่อวันอังคาร (4 ต.ค.) หุ้นปิดตลาดที่ 2.1 เปอร์เซ็นต์ กระเตื้องขึ้นมาบ้าง
ทัศนคติต่อเศรษฐกิจจีนในช่วงขาลงนี้อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ ในจีนเอง ซึ่งก็อาจกระทบต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุนที่จะนำเงินมาสู่ธุรกิจพนันในมา เก๊าได้
รายได้จากการพนันในมาเก๊าเดือนสิงหาคมสูง 57 เปอร์เซ็นต์ทุบสถิติ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงขึ้นมาได้ขนาดนั้นเพราะนักพนันจีนแห่กันเข้ามาในบ่อน พนันในมาเก๊า ซึ่งเปิดแบบมีใบอนุญาตจำนวน 6 แห่ง
นับแต่ภาคการพนันเปิดให้ต่างชาติเข้ามาร่วมได้ในปี 2545 รายได้ของมาเก๊าก็ได้กระโดดไปไกลทีเดียว ส่งผลให้รายได้สูงขึ้นต่อเนื่องแบบพุ่งแรงแซงลาส เวกัสไปแล้ว
อุตสาหกรรมพนันในเอเชียเติบโตแข็งแรงมาก เมื่อเทียบกับในอเมริกาอย่างลาส เวกัส ซึ่งแต่ก่อนใคร ๆ ก็ขนานนามว่า แดนแห่งการพนัน ทว่าเมื่อเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงขาลงก็ได้รับผลกระทบมิใช่น้อย
มาเก๊ากลับคืนสู่อ้อมอกจีนในปี 2542 และเป็นพื้นที่เดียวที่จีนอนุญาตให้มีการพนันได้
คนฉลาดมักหลงตัวเองว่าเก่งกว่าใคร ดูถูกคนอื่นว่าโง่
แท้จริงความหลงตนเอง ก็ทำให้ปิดหู ปิดตาตนเองเหมือนกัน แต่ไม่ยอมรับ
กรุณารับรู้เรื่องราวโลกกว้างบ้าง ลองเป็นกบนอกกะลาบ้างซิครับ