การพนันอยู่ในสายคนไทยเรื่องจริงที่ไม่มีใครกล้าพูด ไม่มีใครกล้ายอมรับ และรับไม่ได้
งานศพที่วัดหลายแห่งใน ตจว. มักมีการเล่นไพ่ ไฮโล กำถั่ว และการพนันอย่างอื่นๆ
อ้างว่าอยู่เล่นเป็นเพื่อนศพ และมีการกินเหล้ายันแจ้ง
ใครไม่รู้ก็หัดรู้เสียบ้าง.....เรื่องจริง ไม่ได้โม้...
เห็นตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ไม่ว่างตอบครับ ตอนเช้าเข้าสวน ตอนบ่ายประชุม ว่างแล้วเอาซักหน่อย
ประโยคที่บอกว่า
"การพนันอยู่ในสายคนไทยเรื่องจริงที่ไม่มีใครกล้าพูด ไม่มีใครกล้ายอมรับ และรับไม่ได้" เป็นเรื่องที่คนฝักใฝ่การพนันพูดเข้าข้างตัวเองครับ
ไม่มีใครเกิดมาแล้วอมลูกเต๋าไฮโลออกมาจากท้องแม่หรอกครับ หรือคนฝักใฝ่การพนันคนไหนเกิดแล้วอมลูกเต๋าออกมาด้วยช่วยบอกให้ผมทราบด้วยครับ
เผื่อผมจะได้เปิดหูเปิดตาบ้างครับ เด็กเกิดมาก็เหมือนผ้าขาวส่วนสิ่งดีหรือสิ่งไม่ดีเรามารับเอาภายหลังทั้งสิ้น เรื่องนี้อยู่ที่ตัวบุคคลและพื้นฐานทางครอบครัว
ด้วยครับ หากพี้นฐานของครอบครัวดีเด็กก็มีตัวอย่างที่ดีให้เอาเป็นแบบอย่าง พื้นฐานของครอบครัวดีไม่ใช่หมายถึงร่ำรวย แต่ในที่นี้หมายถึงพ่อแม่อบรมเลี้ยงดูให้
รู้ถึง
คุณและโทษของอบายมุข (อบายมุขไม่มีคุณ) พ่อแม่ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ไม่ใช่วัน ๆ ลูกก็เห็นแต่พ่อตีไก่ กัดปลา เล่นไฮโล ส่วนแม่ก็ซื้อหวย เล่นไพ่
พื้นฐานทางครอบครัวแบบนี้ยากครับที่เด็กจะไม่ฝักใฝ่อบายมุข นอกเสียจากเด็กคนนั้นจะสำนึกได้ด้วยตัวเองครับ
ถ้ารัฐไม่ห้ามแต่สนับสนุนการพนันเสียเอง ก็เท่ากับทั่วทั้งประเทศมีแต่ตัวอย่างเรื่องการพนันให้เด็กดู เราจะไม่สามารถอธิบายให้เด็กเห็นได้ว่า เล่นแล้วตำรวจจะมาจับ
เล่นแล้วผิดกฎหมาย (กฎหมายคือกฎที่ทุกคนในสังคมต้องปฏิบัติตาม) เล่นแล้วมีโทษ.....ฯลฯ...... ผมจะไม่พูดถึงผู้ใหญ่เพราะผู้ใหญ่ที่ฝักใฝ่การพนันแก้ไม่หายครับ
คนพวกนี้จะพาการฝักใฝ่การพนันไปจนตัวตายครับ (แถวบ้านผมเรียก เล่นพาตายครับ) ผมขออย่างเดียว คือ ให้การตายครั้งนี้เป็นตัวอย่างแก่คนรุ่นหลังบ้างครับ
ส่วนประโยค
"งานศพที่วัดหลายแห่งใน ตจว. มักมีการเล่นไพ่ ไฮโล กำถั่ว และการพนันอย่างอื่นๆ อ้างว่าอยู่เล่นเป็นเพื่อนศพ และมีการกินเหล้ายันแจ้ง" เห็นแบบนี้แล้วยกมาเป็นเหตุผล ยกมาเป็นข้ออ้าง ขอบอกว่า "โง่" ครับ เรื่องดี ๆ ทำไมไม่เอามาเป็นตัวอย่าง กับเรื่องไม่ดีแล้วรับมาใส่ตัวทันทีโดยไม่คิด วิเคราะห์ .......
ถ้าลูกของท่านสอบได้ที่ ๓๕ แล้วมาบอกท่านว่ายังมีเพื่อนสอบได้ที่ ๓๖ อีกคน ท่านจะดีใจหรือ? ท่านจะบอกว่าให้ลูกท่านดูตัวอย่างเด็กที่สอบได้ที่ ๓๖
หรือท่านจะแนะนำให้ลูกท่านดูตัวอย่างของเด็กที่ขยันเรียนสอบได้ที่ ๑ ล่ะครับ ...... เรื่องบางเรื่องเอามาเป็นตัวอย่างได้ เอามาเป็นข้ออ้างได้ แต่สำหรับเรื่องบางเรื่อง
ไม่สมควรที่จะเอามาเป็นตัวอย่าง ไม่สมควรที่จะเอามาอ้าง หรือแม้แต่จะคิดให้เปลืองสมองครับ
สุดท้าย
" ใครไม่รู้ก็หัดรู้เสียบ้าง.....เรื่องจริง ไม่ได้โม้..." อันนี้ก็เป็นเรื่องจริงครับ แต่จริงในเรื่องชั่ว ๆ ครับ เรื่องอบายมุข รู้แล้ว ทราบแล้ว ไม่จำเป็นต้องรับเอามาทำตามครับ
หากใครทำตามแสดงว่าคนนั้น "โง่" ครับ ถ้าถามว่าโง่แบบไหน ? ก็ตอบว่า "โง่" แบบที่เอาตัวอย่างโง่ ๆ มาปฏิบัติครับ