พิเศษ วันนี้เล่าให้น้องเบิ้มและทุกท่านในกระทู้นี้ฟัง ( เมื่อวานพี่เล่าเรื่องนี้ให้ลูกสาว แฟนพี่และหลานสาวฟัง )
ตอนสัก 10 ขวบ พี่คิดถึงคำพูดของอาพ่อค้ารับซื้อของเก่าพเนจร
พี่อยู่ในโรงพักมาแต่เิกิด จะมีอาพ่อค้าอยู่คนหนึ่ง ทุกเสาร์-อาทิตย์ อาแกจะแบกเข่งขนาดใหญ่ พร้องตาชั่งตวงรุ่นเก่า
มารับซื้อที่โรงพัก พอเต็มอาแกก็เอาไปกองไว้ที่จุดรวมหน้าโรงพัก ( ข้างโรงสีข้าว )
คิดดูสิ่งต่างๆ เต็มเข่งหนักขนาดใหน
พี่นึกย้อนภาพออกเลย อาแกอายุสัก 20 ปี รูปร่างสูงใหญ่ราว 170 ซม. กล้ามเป็นมัดๆ
ด้วยที่พี่เป็นเด็ก ก็สงสาร แต่ขายขวด,กระดาษหรืออะไร ก็อยากได้ค่าขนม
แต่พ่อพี่บอกไม่ให้เอาตังค์ ให้เก็บไว้ให้อาแก เพราะเรามีกินใีใช้เพียงพอ
พี่ชอบพูดคุยกับอาแก และชอบเอาน้ำเย็นๆ จากตู้เย็นให้อาแกดื่มประจำ ( อย่าหวังว่าจะได้กินจากบ้านอื่น เห็นอาแกแค่คน... )
อาแกสนิทกับพี่มาก
วันสุดท้าย อาแกกินน้ำกับแตงโมอยู่หลังบ้านพี่
อาแกเอ่ยปากบอกว่า อาจะไปเป็นทหารพรานที่โคราชฯ แล้วนะ ไม่ได้เจออรรถแล้วนะ
อรรถเป็นเด็กดี มีน้ำใจ คุณพ่อก็เป็นคนดี อาเห็นอรรถแล้วอามีความสุข อารักอรรถและเคารพนับถือพ่ออรรถมาก
อรรถโตขึ้นอาทายไว้ได้เลยว่า เป็นคนดี ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ เงินทองไหลมาเทมา
อาแกให้เงินผมใบ 10 บาท
แล้วบอกว่า ให้อรรถไว้กินขนมตามใจอรรถ
พี่แลกเงินร้านค้า แบ่งให้น้องสาวพี่ 5 บาท แบ่งให้เพื่่อนน้องสาว 2 บาท 50 สตางค์ ที่เหลือพี่ก็เอาไปหยอดกระปุก
ราวปี พ.ศ. 2522 -2523
+ครับพี่อรรถ คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกทางเดินชีวิตได้ ทำไรก็ต้องทำเสียตอนยังหนุ่มสาวมีกำลังมีแรง ล้มลุกได้หลายครั้ง แต่ถ้าทำให้ดีขึ้นก่อนแก่ครับ แก่แล้วหมดทั้งไฟ ทั้งแรง ถ้าแก่แล้วโชคดีพึ่งลูกได้ก็มีบุญ แต่แก่แล้วไม่มีใครนี่ลำบากครับ