sig_surath7171
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2011, 03:17:14 PM » |
|
ประวัติของโรงพยาบาลสวนสราญรมย์
โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ สุราษฎร์ธานี เป็นโรงพยาบาลจิตเวชแห่งแรกในส่วนภูมิภาค และเป็นแห่งที่สองที่จัดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลท่าข้าม อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลักษณะของพื้นที่ที่ตั้งโรงพยาบาลเป็นเนินเตี้ย ๆ บริเวณนี้เรียกตามภาษาพื้นเมืองทางใต้ว่า ควนท่าข้ามเป็นที่สงบเงียบร่มรื่นอยู่ห่างจากตลาดท่าข้าม และตัวอำเภอ 1 กิโลเมตรเศษ พื้นที่เป็นป่าโปร่งและป่าละเมาะโดยทั่วไปเป็นที่อาศัยซุกซุมของสัตว์ป่านานาชนิด ร่มรื่นไปด้วยไม้เบญจพรรณ เช่น ต้นขนุน ต้นมะเนียง และที่มีมากที่สุดคือ ต้นขี้เหล็ก จนมีบางคนเรียกควนนี้ว่าควนขี้เหล็กต่อมาเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2458 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสมณฑลปักษ์ใต้ ได้ทรงใช้สถานที่นี้เป็นพลับพลาประทับแรม (ยังคงมีซากพลับพลาหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน) และได้ทรงเห็นว่าเป็นที่ร่มรื่นน่าอยู่จึงพระราชทานนามควนนี้ว่า สวนสราญรมย์ พ.ศ. 2478 เป็นปีที่ทางราชการเริ่มวางโครงการสร้างโรงพยาบาลโรคจิตภาคใต้ซึ่งขณะนั้นงานสาธารณสุขขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทย ดังที่นายแพทย์แสง สุทธิพงษ์ ซึ่งเป็นผู้หนึ่งในคณะอนุกรรมการ ก.พ. ได้มาเยี่ยมโรงพยาบาลแห่งนี้เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2507 บันทึกไว้ว่า นับ แต่ พ.ศ. 2478 ข้าพเจ้าได้มีโอกาสรับคำสั่งจากกระทรวงมหาดไทย ให้มาพิจารณาหาที่ดินสำหรับสร้างโรงพยาบาลโรคจิตทางภาคใต้ ข้าพเจ้าได้ตรวจพิจารณาหาที่ดินตั้งแต่จังหวัดเพชรบุรี ลงมาทางใต้จนถึงจังหวัดปัตตานี ได้เปรียบเทียบความสำคัญในอันที่จะได้ที่ดินอันเหมาะสมหลายแห่ง ในที่สุดด้วยการชี้แจงแนะนำของเพื่อนข้าราชการหลายท่าน ตลอดจนท่านเจ้าคุณธรรมปรีชา อุดม อดีตเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานีให้ข้าพเจ้าไปสำรวจดูที่ดินบนควนท่าข้าม ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 พระราชทานชื่อควนนั้นว่า สวนสราญรมย์ ที่ดินแห่งนี้ ท่านเจ้าคุณธรรมปรีชา อุดม ได้กรุณานำข้าพเจ้าและนายแพทย์สกนธ์ โสภโณ เดินสำรวจจนทั่ว ข้าพเจ้าก็ได้ตัดสินในรายงานผู้บังคับบัญชาว่า ที่ดินตรงนี้ดีและเหมาะสมกว่าที่อื่น พ.ศ. 2479 ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งกว่าจะเสร็จใช้เวลาประมาณ 1 ปี อาคารที่ก่อสร้างมี ตึกอำนวยการ 1 หลัง (ปัจจุบันสงวนไว้เป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อเป็นอนุสรณ์) เรือน คนไข้ชาย 3 หลัง คือ เรือนเพชรบุรี ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นเรือนสามัคคี (รื้อแล้วและสร้างตึกชาย 1 แทนเมื่อปี 2505) เรือนนครศรีธรรมราช ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นเรือนสราญรมย์ (รื้อแล้วและสร้างตึกชาย 2 แทนเมื่อปี 2509) เรือนชุมพร ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นเรือนพักฟื้น (รื้อแล้วและสร้างตึกชาย 5 แทนเมื่อปี 2513) ต่อมาได้สร้างเรือนคนไข้ชายไม่สงบ 2 หลัง มีชื่อเรียกว่า เรือนสงขลา 1 และเรือนสงขลา 2 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นเรือนอนุบาลกรณีย์ 1 และเรือนอนุบาลกรณีย์ 2 (รื้อแล้วและสร้างตึกชาย 3 แทน) นอกจากนี้ยังได้สร้างเรือนคนไข้หญิง 2 หลัง คือ
เรือนภูเก็ต ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นเรือนอนุบาลหญิง หรือเรือนนารีพยาบาล (รื้อ และสร้างตึกหญิง 3 แทน เมื่อปี 2511) เรือนปัตตานี ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นเรือนจิตไมตรี (รื้อแล้ว) โรงเลี้ยงอาหารชาย 2 หลัง บ้านพักผู้ช่วยพยาบาลหญิง 6 ห้อง 1 หลัง บ้านพักผู้ช่วยพยาบาลชาย 6 ห้อง 1 หลัง บ้านพักผู้ช่วยพยาบาลชาย 20 ห้อง 1 หลัง บ้านพักนายแพทย์ผู้อำนวยการ 1 หลัง
เนื้อที่ของโรงพยาบาล ในขณะนั้นมี 300 ไร่ ได้ทำพิธีเปิดรับคนไข้ครั้งแรก เมื่อ วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2480 ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ แรม 4 ค่ำ เดือน 4 ปีฉลู จ.ศ. 1299 อธิกมาศ และได้ชื่อขณะนั้นว่าโรงพยาบาลโรคจิตสุราษฎร์ธานี ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลโรคจิตภาคใต้และเปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลพุนพิน (ตามชื่ออำเภอ) จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2497 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ อันเป็นมงคลนามเพื่อความเป็นสิริมงคลและความเหมาะสมตามชื่อของสถานที่ดังกล่าว นายแพทย์ผู้อำนวยการคนแรก คือ นายแพทย์ขจร อ้นตระการ (พ.ศ. 2480 2483) และมี นายแพทย์สกนธ์ โสภโณ เป็นผู้ช่วย อัตรากำลังครั้งนั้น มีนายแพทย์ 2 คน พยาบาล 6 คน ข้าราชการสามัญ 1 คน ข้าราชการวิสามัญ 20 คน จำนวนคนไข้ที่รับครั้งแรกมีจำนวน 31 คน ในจำนวนนี้เป็นคนไข้ที่รับจากเรือนจำ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 12 คน และรับโอนคนไข้ชาวใต้จากโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา 19 คน การดูแลรักษาตามอาการเป็นส่วนมาก และมีการฝึกให้คนไข้ทำงานอีกตามสมควร
ใน พ.ศ. 2483 นายแพทย์สกนธ์ โสภโณ (พ.ศ. 2483 พ.ศ. 2509) ได้เป็นผู้อำนวยการ โรงพยาบาลคนที่ 2 และนับว่าเป็นผู้อำนวยการที่ทำประโยชน์ให้แก่โรงพบาบาลนี้มากที่สุดและนานที่สุดเป็นเวลาถึง 26 ปี โดยได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านสถานที่ อัตรากำลัง ตลอดจนการบริการต่าง ๆ ให้แก่คนไข้ได้พิจารณาเห็นว่าโรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลที่จะต้องรับภาระในการรักษาคนไข้ โรคทางจิตเวช ของภาคใต้ รวม 14 จังหวัด และมีสถิติคนไข้ขึ้นเรื่อย ๆ จึงได้อนุมัติขยายพื้นที่ของ โรงพยาบาลออกไปอีก คือ อาณาเขตทิศเหนือ ซึ่งเดิมมีเนื้อที่เพียงแต่ริมควน จึงได้ขยายจากริมควนออกไปจนจดริมถนนท่าข้าม บ้านดอน รวมเป็นเนื้อที่ 20 ไร่ และขอที่ทางแม่น้ำตาปี รวมเนื้อที่ 2 ไร่ 1 งาน ตัดถนนเล็ก ๆ ตรงไปยังแม่น้ำตาปี เรียกถนนสายนี้ว่าถนนสวนสราญรมย์เพื่อทำท่าเรือของโรงพยาบาลและใช้เป็นสถานที่ขนส่งอาหารและพัสดุครุภัณฑ์ ของโรงพยาบาล จากทางเรือ และขอขยายที่ที่ว่างเปล่าทาง ทิศตะวันตก จากต่อเขตวัดตรณารามออกไปจดเขตที่ขององค์การรถไฟรวมเนื้อที่ 180 ไร่ ทำให้โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ ในขณะนั้นมีเนื้อที่รวม 522 ไร่ กับ 1 งาน ในปี พ.ศ. 2518 ได้มีการออกพระราชบัญญัติที่ ราชพัสดุให้กรมธนารักษ์รับผิดชอบดูแลที่ดินของส่วนราชการ และได้มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2523 ให้หน่วยราชการต่างๆ คืนกับ ราชพัสดุที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ คืนกับราชพัสดุให้ราชพัสดุดูแลจึงทำให้เนื้อที่ของโรงพยาบาลถูกตัดออกไปและทำให้โรงพยาบาลมีเนื้อที่เหลืออยู่ในปัจจุบันเพียง 412 ไร่ 2 งาน 87 ตารางวา
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2485 พ.ศ. 2490 ได้เพิ่มอาคารโรงเลี้ยงอาหารหญิง 1 หลัง ที่เก็บศพ 1 หลัง โรงจักสาน 1 หลัง โรงเยี่ยมญาติ 1 หลัง และจำนวนคนไข้ก็ได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนมีถึง 150 คน
ในปี พ.ศ. 2491 ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกันสร้างเรือนคนไข้ชาย 1 หลัง เรียกว่า เรือน สุราษฎร์อุทิศ (รื้อแล้วและไม่ได้สร้างขึ้นใหม่) และในปีนี้ยังมีผู้อุทิศสร้างโรงเลี้ยงอาหารคนไข้ชายไม่สงบ 1 หลัง ด้วย
ในปี พ.ศ. 2492 ได้มีผู้ศรัทธาบริจาคทรัพย์สร้างตึกคนไข้พิเศษหญิง 1 หลัง ชื่อเรือนร่วมมิตรต่อมาได้รื้อ และสร้างตึกหญิง 5 แทน เมื่อปี พ.ศ. 2513 นอกจากนั้นยังมีอุทิศบริจาคเงินสร้างสถานที่เก็บพัสดุ 1 หลัง สร้างโรงช่างไม้ 1 หลัง
เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เคยเสด็จมาประทับแรม ณ ควนท่าข้าม อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2458 ได้พระราชทานนามว่า สวนสราญรมย์ ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงพยาบาลสวนสราญรมย์ในปัจจุบัน ความดำริที่จะสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์แห่งล้นเกล้า ร 6. จึงเป็นความดำริชอบ และสภาจังหวัดได้ลงมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2513 เห็นควรสร้างอนุสาวรีย์ ร.6 ณ สวนสราญรมย์ และได้นำเรื่องเสนอผ่านกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ผ่านคณะรัฐมนตรีจนได้รับอนุมัติเห็นควรสร้างอนุสาวรีย์ แล้วจึงได้นำความกราบบังคมทูลพระราชทานพระบรมราชานุญาตตามลำดับ และได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สร้างได้ตามหนังสือลง วันที่ 22 มกราคม 2514 จึงได้จัดตั้งคณะกรรมการก่อสร้างอนุสาวรีย์ โดยมี ฯพณฯ พลตำรวจเอกประเสริฐ รุจิระวงศ์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในขณะนั้น เป็นประธานคณะกรรมการฯ ซึ่งมีกองหัตถศิลป กรมศิลปกร เป็นผู้ปั้นพระรูปให้ และกองสถาปัตยกรรม กรมศิลปกรได้กรุณาเขียนแบบแปลนแผนผังบริเวณที่จะก่อสร้างให้ ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างอนุสาวรีย์ทั้งหมด.-
ค่าปั้นหล่อพระบรมรูป และพุ่ม 2 พุ่ม เป็นเงิน 105,000 บาท ค่าก่อสร้างฐานพระบรมรูป ร.6 เป็นเงิน 140,000 บาท ได้รับเงินบริจาคสมทบจากผู้มีจิตศรัทธา เป็นเงิน 134,968.99 บาท และได้ทำพิธีอัญเชิญพระบรมรูป ร.6 ขึ้นประดิษฐ์ฐานบนพระแท่น ในวันที่ 17 มีนาคม 2521 ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2521 เป็นต้นมา ได้จัดให้มีการถวายบังคมพระบรมราชานุสรณ์ ร.6 เป็นประจำทุกปี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sig_surath7171
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2011, 03:19:31 PM » |
|
โรงบาลบ้าคนไข้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเครียด หมอที่นี่ก็เลยไม่เครียด ครับ อบอวลด้วยเสียงหัวเราะ 5555
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
RMAY
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2011, 03:20:00 PM » |
|
ผมเคยไปโรงพยาบาลบ้า(ไปกับเพื่อนตามเพื่อนไป ผมไม่ใช่ผู้ป่วย ) เคยเล่นหมากรุกกับคนบ้า ผมแพ้ 2 ตารวด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
RMAY
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2011, 03:22:18 PM » |
|
โรงบาลบ้าคนไข้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเครียด หมอที่นี่ก็เลยไม่เครียด ครับ อบอวลด้วยเสียงหัวเราะ 5555 มันมีหลายแบบครับพี่ซิก บางที ดูนานๆ เหมือนเ้ค้าไม่บ้า แต่ เหมือน บรือๆ ก็มี เพื่อนของเพื่อนผม มันซึมๆ เก็บกด พูดคนเดียว ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 10195
ออฟไลน์
กระทู้: 47057
M85.ss
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2011, 03:23:22 PM » |
|
ผมเคยไปโรงพยาบาลบ้า(ไปกับเพื่อนตามเพื่อนไป ผมไม่ใช่ผู้ป่วย ) เคยเล่นหมากรุกกับคนบ้า ผมแพ้ 2 ตารวด อาการหนักกว่าคนบ้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
RMAY
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2011, 03:24:47 PM » |
|
ผมเคยไปโรงพยาบาลบ้า(ไปกับเพื่อนตามเพื่อนไป ผมไม่ใช่ผู้ป่วย ) เคยเล่นหมากรุกกับคนบ้า ผมแพ้ 2 ตารวด อาการหนักกว่าคนบ้า ผมแพ้หมากรุกก็ไม่ได้หมายความว่าบ้านะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sig_surath7171
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2011, 03:31:15 PM » |
|
ผมเคยไปโรงพยาบาลบ้า(ไปกับเพื่อนตามเพื่อนไป ผมไม่ใช่ผู้ป่วย ) เคยเล่นหมากรุกกับคนบ้า ผมแพ้ 2 ตารวด อาการหนักกว่าคนบ้า ผมแพ้หมากรุกก็ไม่ได้หมายความว่าบ้านะครับ คนบ้าเขามีวิธิคิดที่ซับซ้อนกว่าบัง น่ะ บังเลยเล่นหมากรุกแพ้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 10195
ออฟไลน์
กระทู้: 47057
M85.ss
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2011, 03:32:53 PM » |
|
ผมเคยไปโรงพยาบาลบ้า(ไปกับเพื่อนตามเพื่อนไป ผมไม่ใช่ผู้ป่วย ) เคยเล่นหมากรุกกับคนบ้า ผมแพ้ 2 ตารวด อาการหนักกว่าคนบ้า ผมแพ้หมากรุกก็ไม่ได้หมายความว่าบ้านะครับ เอ็งนั่นแหละบ้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
RMAY
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2011, 03:34:30 PM » |
|
ผมเคยไปโรงพยาบาลบ้า(ไปกับเพื่อนตามเพื่อนไป ผมไม่ใช่ผู้ป่วย ) เคยเล่นหมากรุกกับคนบ้า ผมแพ้ 2 ตารวด อาการหนักกว่าคนบ้า ผมแพ้หมากรุกก็ไม่ได้หมายความว่าบ้านะครับ คนบ้าเขามีวิธิคิดที่ซับซ้อนกว่าบัง น่ะ เอ๊ะ มันหมือนจะเจ็บนะครับ เอ็งนั่นแหละบ้า อย่าปรักปรำกันดีกว่าครับ ผมไม่ได้บ้าไม่ เชื่อถามผม ซิว่า ผมบ้ามั้ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sig_surath7171
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2011, 03:45:01 PM » |
|
ออกทะเลกันได้ (ออกจาก โรงบาลบ้ากันก่อนคร้าบ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
YIMTHANOM
Hero Member
คะแนน 466
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2891
|
|
« ตอบ #40 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2011, 03:47:47 PM » |
|
ไต๋ก๋งเรือคนเก่งของเรา เตรียมสตาร์ทเครื่องแล้วครับ............ฮา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ปัญหาบางอย่าง แก้ได้ด้วยการนิ่งเฉย
|
|
|
Anuch@rt $. - รักในหลวง
ชาว อวป.
Full Member
คะแนน 63
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 227
|
|
« ตอบ #41 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2011, 03:50:45 PM » |
|
บัง.........
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Pandanus
Hero Member
คะแนน 6378
ออฟไลน์
กระทู้: 40175
เรื่องบังเอิญไม่มีจริง
|
|
« ตอบ #42 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2011, 03:52:17 PM » |
|
ผิดปากซะที่ไหน....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 6127
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 55373
Let us go..!
|
|
« ตอบ #43 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2011, 04:11:37 PM » |
|
ผิดปากซะที่ไหน....
ก่าเท่ซู่ร่าด มีโรงบาลคนบ้า คนซู่ร่าดคุยกันเรื่องโรงบาลคนบ้า ผิดตรงไหน คอนมีเหอ..โรง'บาลคนบ้าฮั้น... อิจฉาเพื่อน....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ
Thanut Wansuk
|
|
|
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 2953
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 23210
|
|
« ตอบ #44 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2011, 04:29:48 PM » |
|
ผิดปากซะที่ไหน....
ก่าเท่ซู่ร่าด มีโรงบาลคนบ้า คนซู่ร่าดคุยกันเรื่องโรงบาลคนบ้า ผิดตรงไหน คอนมีเหอ..โรง'บาลคนบ้าฮั้น... อิจฉาเพื่อน.... น้าซับเคยใช้บริการโรงบาลบ้าแล้วยังฮั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
|
|
|
|