เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 28, 2024, 03:39:04 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โทษประหาร...  (อ่าน 4894 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manus รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 36
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 408


^^ไอยะะละกะ^^


« เมื่อ: ธันวาคม 09, 2011, 10:36:28 AM »

สงสัยครับ สงสัยจริงๆ...... Huh Huh Huh

ศาลพิพากษาตัดสินโดนประหารชีวิตไปแล้ว....

ใช้เวลานานกี่วันกี่เดือนครับครับถึงจะประหารจริงๆ...

ที่ถามแบบนี้ผมดูข่าวที่ว่า นักโทษได้รับการพระราชทานอภัยโทษ

โดยที่ในนั้นมีนักโทษประหารชีวิต แล้วได้ลดหย่อนเป็นจำคุกตลอดชีวิต

ต่อมาก็ได้ลดหย่อนอีกเหลือ 50 ปี แบบนี้ครับ

ก็เลยสงสัยว่า การตัดสินประหารชีวิต ทำไมพอตัดสินแล้ว ถึงไม่ประหารเลย...

หรือให้เวลาทำใจสักอาทิตยืสักเดือน ก็นานสุด...

แบบนี้แล้วจะตัดสินประหารทำไมครับ...เพราะว่าถึงขั้นประหารแล้ว..

แสดงว่านักโทษคนนั้นต้องชั่วสุดๆแล้วครับ....

 ไหว้ ไหว้ ไหว้

บันทึกการเข้า
...อภิสิทธิ์ ...
จะรักและซื่อสัตย์ต่อลูกโม่ S&W ตลอดไปชั่วฟ้าดินสลาย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 652
ออฟไลน์

กระทู้: 3595



« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2011, 11:18:10 AM »

เห็นข่าวว่าผู้พันตึ๋งอีก 13ปี ก็จะได้ออกมาแล้วครับ  ไม่นานมานี้เห็นโดนพิพากษาตัดสินประหารชีวิตนี่ครับ
บันทึกการเข้า

There are experienced shooters who are just die-hard fans of revolvers. They do practice regularly and have had plenty of training, and for whatever reason they just prefer revolvers over semi-autos. And for the record, no, not all of them are dudes with gray hair.
Manus รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 36
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 408


^^ไอยะะละกะ^^


« ตอบ #2 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2011, 11:50:43 AM »

นั่นซิครับ..และอีกหลายๆคน....

เลย งง ครับ...

ว่าตัดสินประหารแล้ว อีกนานกี่วันถึงจะประหารจริงๆ...

หรือว่าจำคุกแล้วดุพฤติกรรมก่อน...ว่าทำตัวดีหรือเปล่า อันดีผมเดาเอาเองครับ....

แล้วอย่างคนที่ตัดสินถึงที่สุดให้จำคุก...ทำไมต้องเข้าคุกทันทีละครับถ้าแบบนั้น...

ยิ่งพูดยิ่งทำให้งงไปใหญ๋...

แล้วแบบนี้ ญาตพี่น้องผู้เสียหายไม่ตกใจแย่หรือครับ...
บันทึกการเข้า
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12903



« ตอบ #3 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2011, 11:54:37 AM »

ว่ากันด้วยหลักวิชาการนะครับ
โทษประหารช่วยในเรื่องความสะใจของประชาชนเท่านั้นเอง  แต่การกำจัดคนไปไม่กี่คน ไม่ได้ทำให้สังคมปลอดภัยมากขึ้น  เพราะคนที่ตัดสินใจทำผิด คิดว่าทำไปแล้วจะหนีรอดไปได้  วิธีที่ได้ผลมากกว่าก็คือต้องให้คนทำผิดถูกดำเนินคดีให้ได้มากที่สุด

ในอดีต ได้คิดวิธีประหารชีวิตที่ทารุณโหดร้าย มากขึ้น ๆ  ฆ่าแบบประจานหรือให้ตายช้า ๆ จนถึงขนาดฆ่าล้างตระกูล  อย่างเช่นข้อหากบถ หรือพวกมอญที่ถูกเกณฑ์มารบกับไทย  ก่อนเคลื่อนทัพ พม่าจะขุดหลุมใหญ่แล้วขังครอบครัวไว้ในหลุม  เตรียมเชื้อไฟกองไว้ให้ดู  เตือนให้รู้ว่าถ้ารบแพ้หรือทรยศก็เผาทั้งเป็น

แต่เมื่อบ้านเมืองเจริญขึ้น หลักวิชาทางสถิติบอกว่าโทษประหารใช้ไม่ได้ผล  หลายประเทศจึงเลิกใช้ และประเทศที่ยังต้องใช้อยู่ ก็พัฒนาวิธีการไม่ให้ทารุณ  พวกที่ก้าวหน้าไปมากกว่านั้นก็ใช้หลักการ "แก้ไข ไม่ใช่แก้แค้น"  คือให้มีพิพากษาลงโทษจำคุกค่อนข้างนาน  แต่เปิดโอกาสให้ให้ออกมาได้ก่อน ถ้าประเมินได้ว่าแก้ไขได้แล้ว  สำหรับพวกที่แก้ไขไม่ได้จริง ๆ (สมควรถูกประหาร) ก็อาจถูกส่งตัวเข้าไปเก็บไว้ในคุกตลอดชีวิต หรือขังในโรงพยาบาลบ้าแบบไม่ได้กลับออกไปอีกเลย  ซึ่งแย่กว่าถูกประหารเสียอีก
บันทึกการเข้า
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #4 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2011, 01:08:42 PM »

อภัยโทษ ช่วยให้ระยะสั้นลง อย่างนี้จะดีหรือครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 09, 2011, 01:57:31 PM โดย carrera » บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
bigbang
จงใช้สติก่อนใช้ปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1018
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6603


รูปจากเวปผู้จัดการครับ


« ตอบ #5 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2011, 01:36:05 PM »

ผมคิดว่า การ "โบย" แบบที่สิงคโปร์  ก็น่าจะนำมาใช้กับพวกกระทำผิดโทษรุนแรง แม้จะได้ลดโทษจากประหารชีวิต
เพื่อให้หราบจำสำนึกบ้าง กับเป็นการปรามพวกที่คิดจะกระทำผิด อย่างน้อยสังคมและญาติพี่น้องผู้เสียหายคงได้พอใจ
ดีกว่าติดคุกไม่นานก็ปล่อยออกมาแบบสบายตัว
บันทึกการเข้า

อเสวนา จะ พาลานัง
Manus รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 36
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 408


^^ไอยะะละกะ^^


« ตอบ #6 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2011, 02:20:01 PM »

ญาติพี่น้องของผู้ที่เสียชีวิต ....

ก็อยากเห็นผู้กระทำผิดได้รับโทษอย่างสาสมนะครับ....

ถ้าเหมือนทำให้ผู้อื่นตายอย่างไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า...

ญาติพี่น้องก็อยากให้ตายตกไปตามกันนะครับผมว่า...
บันทึกการเข้า
สหายอ๋อง เซียนปลาซิว
จริงใจ บริสุทธ์ใจ แล้วจะแคล้วคลาด จากภัยทั้งปวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 657
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9377


คบหมาเป็นเพื่อน ดีกว่าคบเพื่อนหมาๆ


« ตอบ #7 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2011, 04:46:56 PM »

21วิธีประหารในสมัยกรุงศรีอยุธยา

ในสมัยกรุงศรีอยุธยา อาณาจักรที่รุ่งเรืองที่สุดอีกยุคสมัยหนึ่งของไทยเรา พบว่า มีการตราบทลงโทษขั้นรุนแรงที่สุดคือ...
โทษ ประหารชีวิตเอาไว้ในพระไอยการกระบถศึก ซึ่งเป็นกฎหมายที่ตราขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 และมีการแก้ไขเพิ่มเติมในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ก่อนจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมอีกครั้งในสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ แต่กฎหมายฉบับนี้มิได้มีการแก้ไขในบทลงโทษความผิดขั้นประหารชีวิตและวิธี การประหารชีวิตเลยแม้แต่น้อย
คือยังคงลักษณะเดิมไว้แต่ครั้งการตราขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 ทุกประการ

วิธีการประหารชีวิตตามพระไอยการกระบถศึก บันทึกและอธิบายเอาไว้อย่างละเอียดถึงวิธีการลงโทษประหาร 21 วิธีหรือ 21 สถาน ดังนี้

- สถาน 1 คือ ให้ต่อยกระบานศีศะ (กบาลศีรษะ) เลิกออก (เปิดออก) เสียแล้ว เอาคีมคีบก้อนเหล็กแดงใหญ่ใส่ลงไปในมันสะหมอง (มันสมอง) ศีศะพลุ่งฟู่ขึ้นดั่งม่อ (หม้อ) เคี่ยวน้ำส้มพะอูม

- สถาน 2 คือ ให้ตัดแต่หนังจำระ (จาก) เบื้องหน้าถึงไพรปากเบื้องบนทั้งสองข้างเป็นกำหนด ถึงหมวกหู (ใบหู) ทั้งสองข้างเป็นกำหนด ถึงเกลียวคอชายผมเบื้องหลังเป็นกำหนด (หนังบริเวณคอถึงท้ายทอย) แล้วให้มุ่นกระหมวดผมเข้าทั้งสิ้น (ม้วนเข้าหากัน) เอาท่อนไม้สอดเข้าข้างละคน โยกคลอนสั่นเพิกหนังทั้งผมนั้นออกเสียแล้วเอากรวดทรายหยาบขัดกระบาน ศีศะชำระให้ขาวเหมือนพรรณศรีสังข์

- สถาน 3 คือ ให้เอาขอเกี่ยวปากให้อ้าไว้ แล้วให้ตามประทีบ (ดวงไฟ) ไว้ในปาก ไนยหนึ่ง (นัยหนึ่ง) เอาปากสิวอันคมนั้นแสะแห*ผ่าปากจนหมวกหู (ใบหู) ทั้งสองข้าง แล้วเอาขอเกี่ยวให้อ้าปากไว้ให้โลหิตไหลออกเต็มปาก

- สถาน 4 คือ เอาผ้าชุบน้ำมันพันให้ทั่วร่างกายแล้วเอาเพลิงจุด

- สถาน 5 คือ เอาผ้าชุบน้ำมันพันนิ้วทั้งสิบนิ้วแล้วเอาเพลิงจุด

- สถาน 6 คือ เชือดเนื้อให้เป็นแรงเป็นริ้วอย่าให้ขาดจากกัน ตั้งแต่ใต้คอลงไปถึงข้อเท้าแล้วเอาเชือกผูกจำ ให้เดินเหยียบริ้วเนื้อริ้วหนังแห่งตน ให้ฉุดคร่าตีจำให้เดินไปกว่าจะตาย

- สถาน 7 คือ เชือดเนื้อให้เนื่องด้วยหนังเป็นแร่งเป็นริ้ว ตั้งแต่ใต้คอลงมาถึงเอวและให้เชือดตั้งแต่เอวให้เนื่องด้วยหนังเป็นแร้ง เป็นริ้วลงมาถึงข้อเท้ากระทำหนังเบื้องบนให้คลุมลงมาเหมือนนุ่งผ้า

- สถาน 8 คือ ให้เอาห่วงเหล็กสวมข้อศอกทั้งสองข้าง ข้อเข่าทั้งสองข้างให้มั่นแล้วเอาหลักสอดในวงเหล็กแย่งขึงตรึงลงไว้กับแผ่น ดินอย่าให้ไหวตัวได้ แล้วเอาเพลิงรน (ลน) ให้รอบตัวจนกว่าจะตาย

- สถาน 9 คือ ให้เอาเบ็ดใหญ่ที่มีคมสองข้างเกี่ยวทั่วร่างเพิก (เปิด) หนังเนื้อและเอ็นน้อยใหญ่ให้หลุดขาดออกมาจนกว่าจะตาย

- สถาน10 คือ ให้เอามีดที่คมเชือดเนื้อให้ตกออกจากกายแต่ทีละตำลึง(นำเนื้อมาชั่งให้ได้ น้ำหนักหนึ่งตำลึง:มาตราวัดสมัยโบราณ) จนกว่าจะสิ้นมังสา (เนื้อ)

- สถาน 11 คือ ให้แล่สับทั่วร่างแล้ว เอาแปรงหวีชุบน้ำแสบกรีดครูดขูดเสาะหนังและเนื้อแลเอ็นน้อยใหญ่ให้ลอกออก ให้สิ้นให้อยู่แต่ร่างกระดูก

- สถาน 12 คือ ให้นอนลงโดยข้างๆ หนึ่งแล้วให้เอาหลาวเหล็กตอกลงไปโดยช่องหูให้แน่นกับแผ่นดินแล้วจับขาทั้ง สองข้างหมุนเวียนไปดังบุคคลทำบังเวียน (เวียนเทียน)

- สถาน 13 คือ ทำมิให้หนังพังหนังขาด แล้วเอาลูกสีลา (ลูกหิน) บดทุกกระดูกให้แหลกย่อย แล้วรวบผมเข้าทั้งสิ้น ยกขึ้นหย่อนลงกระทำให้เนื้อเป็นกองเป็นลอม
แล้วพับห่อเนื้อหนังกับทั้งกระดูกนั้นทอดวางไว้ดั่งตั่งอันทำด้วยฟางซึ่งเอาไว้เช็ดเท้า

- สถาน 14 คือ ให้เคี่ยวน้ำมันให้เดือดพลุ่งพล่าน แล้วลาดสาดลงมาแต่ศีศะ (ศีรษะ) จนกว่าจะตาย

- สถาน 15 คือ ให้กักขังสุนัขร้ายทั้งหลายไว้ อดอาหารหลายวันให้เต็มอยากแล้วปล่อยให้กัดทึ้งเนื้อหนังกินให้เหลือแต่ร่างกระดูกเปล่า

- สถาน 16 คือ ให้เอาขวานผ่าอกทั้งเป็นแหกออกดั่งโครงเนื้อ

- สถาน 17 คือ ให้แทงด้วยหอกทีละน้อยๆ จนกว่าจะตาย

- สถาน 18 คือ ให้ขุดหลุมฝังเพียงเอว แล้วเอาฟางปกลงคลุมร่างก่อนคลอกด้วยเพลิงพอหนังไหม้แล้วไถด้วยไถเหล็ก ให้เป็นท่อนน้อยท่อนใหญ่เป็นริ้วน้อยริ้วใหญ่

- สถาน 19 คือ ให้เชือดเนื้อล่ำออกทอดด้วยน้ำมัน เหมือนทอดขนมให้กินเนื้อตัวเองจนกว่าจะตาย

- สถาน 20 คือ ให้ตีด้วยตะบองสั้นตะบองยาวจนกว่าจะตาย

- สถาน 21 คือ ตีด้วยหวายที่มีหนามจนกว่าจะตาย


ที่มาครับ

http://atcloud.com/stories/29382
บันทึกการเข้า
แปจีหล่อ
Hero Member
*****

คะแนน 6324
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8251



« ตอบ #8 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2011, 05:00:48 PM »

อ่านไม่จบครับหวาดเสียว ตกใจหน้าซีด
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #9 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2011, 05:21:31 PM »

สงสัยครับ สงสัยจริงๆ...... Huh Huh Huh

ศาลพิพากษาตัดสินโดนประหารชีวิตไปแล้ว....

ใช้เวลานานกี่วันกี่เดือนครับครับถึงจะประหารจริงๆ...

ที่ถามแบบนี้ผมดูข่าวที่ว่า นักโทษได้รับการพระราชทานอภัยโทษ

โดยที่ในนั้นมีนักโทษประหารชีวิต แล้วได้ลดหย่อนเป็นจำคุกตลอดชีวิต

ต่อมาก็ได้ลดหย่อนอีกเหลือ 50 ปี แบบนี้ครับ

ก็เลยสงสัยว่า การตัดสินประหารชีวิต ทำไมพอตัดสินแล้ว ถึงไม่ประหารเลย...

หรือให้เวลาทำใจสักอาทิตยืสักเดือน ก็นานสุด...

แบบนี้แล้วจะตัดสินประหารทำไมครับ...เพราะว่าถึงขั้นประหารแล้ว..

แสดงว่านักโทษคนนั้นต้องชั่วสุดๆแล้วครับ....

 ไหว้ ไหว้ ไหว้



็Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"    พี่  "สูแนม"  จะรู้ไปทำมัยอ่ะ  ฮา
ถ้าคดี  ยังไม่ถึง "ฎีกา"  หลวงเขาก็เลี้ยงไว้  ให้เปลือง "ข้าวสุก"  อ่ะ  ฮา
แต่ถ้า "ฎีกา"  ตกมาถึงแล้ว  ว่าต้องเอาไป "ฆ่า" ใครตาย
เขาก็เขียนหนังสือ  ร้องขอ "ให้ไว้ชีวิต"  ต่อพระเจ้าแผ่นดิน อ่ะ

แต่ถ้าไม่เป็นผล  ก็ต้องเตรียม "ศาลา"  เอาไว้อ่ะ ฮา
พอตอนถึงบ่ายๆ  เขาก็จัดเตรียมอาหาร  ที่อยากจะกิน ไว้ต้อนรับอ่ะ
พอกินเสร็จ  เขาก็อนุญาตให้พบ  พระสงฆ์  มานั่งถก "กถาธรรม" ให้ฟังอ่ะ

พอฟังเสร็จ  เขาก็จูงไปขึ้นเตียง  ฉีดยาเข็มแรกก่อน  เพื่อให้เคลิ้ม อ่ะ
พอเคลิ้มมีความสุข ไม่ทุกข์  เขาก็ฉีดยาเข็มที่สอง 
คราวนี้ หัวใจเต้นเบาลง  แล้วตายสนิท อ่ะ ฮา

ถ้าอยากจะรู้ว่า   "เคลิ้ม"  อย่างไร ฮา
ไปทดลอง ดูก็ได้  อ่ะ  ฮา
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
วุธ อุดร -รักในหลวง~
เชื่อเขา เราเจริญ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 198
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2896



« ตอบ #10 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2011, 06:19:31 PM »

โทษประหารชีวิตได้รับการอภัยโทษ น่าจะให้ถูกจำคุกก่อนสักยี่สิบปีแล้วค่อยพิจารณาลดโทษ
ส่วนโทษประหารชีวิตตัดสินเด็ดขาด..น่าจะเปลียนมาเป็นฉีดยาให้วิกลจริต Grin
บันทึกการเข้า

ลูกต้นแม่น้ำเจ้าพระยา  มาติดปลาร้าอยู่อุดร
Manus รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 36
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 408


^^ไอยะะละกะ^^


« ตอบ #11 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2011, 06:31:37 PM »

สงสัยครับ สงสัยจริงๆ...... Huh Huh Huh

ศาลพิพากษาตัดสินโดนประหารชีวิตไปแล้ว....

ใช้เวลานานกี่วันกี่เดือนครับครับถึงจะประหารจริงๆ...

ที่ถามแบบนี้ผมดูข่าวที่ว่า นักโทษได้รับการพระราชทานอภัยโทษ

โดยที่ในนั้นมีนักโทษประหารชีวิต แล้วได้ลดหย่อนเป็นจำคุกตลอดชีวิต

ต่อมาก็ได้ลดหย่อนอีกเหลือ 50 ปี แบบนี้ครับ

ก็เลยสงสัยว่า การตัดสินประหารชีวิต ทำไมพอตัดสินแล้ว ถึงไม่ประหารเลย...

หรือให้เวลาทำใจสักอาทิตยืสักเดือน ก็นานสุด...

แบบนี้แล้วจะตัดสินประหารทำไมครับ...เพราะว่าถึงขั้นประหารแล้ว..

แสดงว่านักโทษคนนั้นต้องชั่วสุดๆแล้วครับ....

 ไหว้ ไหว้ ไหว้



็Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"    พี่  "สูแนม"  จะรู้ไปทำมัยอ่ะ  ฮา
ถ้าคดี  ยังไม่ถึง "ฎีกา"  หลวงเขาก็เลี้ยงไว้  ให้เปลือง "ข้าวสุก"  อ่ะ  ฮา
แต่ถ้า "ฎีกา"  ตกมาถึงแล้ว  ว่าต้องเอาไป "ฆ่า" ใครตาย
เขาก็เขียนหนังสือ  ร้องขอ "ให้ไว้ชีวิต"  ต่อพระเจ้าแผ่นดิน อ่ะ

แต่ถ้าไม่เป็นผล  ก็ต้องเตรียม "ศาลา"  เอาไว้อ่ะ ฮา
พอตอนถึงบ่ายๆ  เขาก็จัดเตรียมอาหาร  ที่อยากจะกิน ไว้ต้อนรับอ่ะ
พอกินเสร็จ  เขาก็อนุญาตให้พบ  พระสงฆ์  มานั่งถก "กถาธรรม" ให้ฟังอ่ะ

พอฟังเสร็จ  เขาก็จูงไปขึ้นเตียง  ฉีดยาเข็มแรกก่อน  เพื่อให้เคลิ้ม อ่ะ
พอเคลิ้มมีความสุข ไม่ทุกข์  เขาก็ฉีดยาเข็มที่สอง 
คราวนี้ หัวใจเต้นเบาลง  แล้วตายสนิท อ่ะ ฮา

ถ้าอยากจะรู้ว่า   "เคลิ้ม"  อย่างไร ฮา
ไปทดลอง ดูก็ได้  อ่ะ  ฮา

ไม่อยากทดลองหรอกครับยาย  อ๋อย อ๋อย

ที่อยากรู้ก็เพราะว่า เห็นข่าวพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องขัง..

เห็นรายชื่อผู้ที่ถูกประหารชีวิตอยู่หลายราย...

แสดงว่า... คนเราเมื่อทำความผิดร้ายแรงถูกต้องโทษประหาร...

ก็มีสิทธิ์ไม่ต้องถูกประหารได้เมื่อเราประพฤติตัวดีในคุกใช่หรือเปล่าครับ...

ต่อไปคนทำผิดเข้าคุกถ้าประพฤติตัวดีลดโทษเหรอครับ....

ทำตัวดีเฉพาะในคุกออกมาก็เหมือนเดิมเยอะแยะครับ ผมว่านะ....
บันทึกการเข้า
สหายอ๋อง เซียนปลาซิว
จริงใจ บริสุทธ์ใจ แล้วจะแคล้วคลาด จากภัยทั้งปวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 657
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9377


คบหมาเป็นเพื่อน ดีกว่าคบเพื่อนหมาๆ


« ตอบ #12 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2011, 06:41:06 PM »

คนได้รับการลดโทษ แล้วคนดีๆ  ที่โดนถูกใส่ร้ายละครับ  Huh Huh Huh Huh Huh

 Huh Huh Huh Huh Huh Huh Huh
บันทึกการเข้า
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2011, 07:01:26 PM »

ตะรุเตาครับน่าจะดีสุดเท่าที่เคยได้คุยกับพวกที่ติดคุกมา ถ้าไม่ได้เลวโดยสันดารเข้าไปอยู่แล้วเหมือนตกนรกครับ  แต่ถ้าเลวจัดๆปล่อยเกาะน่าจะดีสุดครับ ประหารมันตายสบายไป ไม่สาสมกับโทษที่ทำ  ไหว้ ไหว้  ความตายไม่ได้น่ากลัวเท่ากับการอยู่อย่างทุกข์ทรมาน
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12903



« ตอบ #14 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2011, 09:05:58 PM »

อภัยโทษ ช่วยให้ระยะสั้นลง อย่างนี้จะดีหรือครับ

เป็นความจำเป็นครับ
บ้านเรามีคุกน้อยกว่าสภาพความเป็นจริงประมาณ 50 เท่า   และถ้าจะเพิ่มให้ได้ตามมาตรฐาน ก็เจอเรื่องที่ต้องตัดสินใจว่าควรเพิ่มโรงเรียนหรือเพิ่มคุก ดีกว่ากัน
ในเมื่อคุกแออัด  ความมั่นคงก็ลดลง นักโทษหลบหนีได้ง่าย  ความหวังที่จะได้รับการลดโทษ เป็นมาตรฐานป้องกันการหลบหนี รวมทั้งช่วยป้องกันการก่อเหตุวุ่นวายได้วิธีหนึ่ง
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.11 วินาที กับ 22 คำสั่ง