จะขายส่งขนมต้องเริ่มอย่างไรครับ

[นายกระจง]

เข้ามาให้กำลังใจครับ

[naisomchai]

ขนมแบบนี้ในวงการขนมเราเรียกว่า  ขนมสด   ขายส่งเสี่ยงมากครับเพราะเสียจะเป็นของเรา   เพราะการขายส่งขนมเราจะต้องส่งให้ร้านก่อนในรอบแรก  รอบต่อไปเราจะต้องไปส่งของใหม่พร้อมกับเก็บของเก่าที่เหลือกลับ  เราจะได้เงินเฉพาะในส่วนที่ขายได้  ตรงนี้คือขาดทุนกำไรไปส่วนหนึ่งแล้วนะครับ  ทำขนมแรกๆดูเหมือนจะกำไรมาก  แต่ถ้าคิดต้นทุนทุกอย่างแล้วกำไรไม่มากเท่าไหร่   การขายส่งขนมมีสองแบบครับ  คือเราไปส่งให้กับร้านค้าปลีกโดยตรงอันนี้จะต้องวิ่งหาตลาดเก่งๆเพราะเราจะส่งไม่ได้มากในแต่ละร้าน  แต่เราจะได้กำไรมากและการเปลี่ยนมีน้อย  กับอีกแบบหนึ่งเราไปส่งให้กับร้านค้าส่งซึ่งจะมีลูกค้าของร้านมารับไปขายปลีกอีกทอดหนึ่ง  เราจะส่งขนมได้มากแต่จะได้กำไรน้อยลง  และโอกาสเปลี่ยนมีสูงมาก 
คำแนะนำครับ   ขนมแบบนี้จะต้องส่งให้กับร้านค้าปลีกโดยตรง  คุณต้องออกสำรวจตลาดก่อนครับยังไม่ต้องติดต่อส่งนะครับ  เช่นร้านค้าปลีกตามหมู่บ้าน  ร้านกาแฟ  ดูร้านประเภทที่มีขนมแบบนี้วางขาย  โดยเฉพาะร้านมินิมาร์ทและร้านอาหารตามปั๊มน้ำมันหาให้ได้หลายๆร้าน  เซเว่นและร้านที่ใช้ระบบบาร์โค้ดอย่าเพิ่งเข้าเพราะเรื่องมาก  เอาในรัศมีที่คุณคิดว่าวิ่งส่งไหว  และสังเกตุว่าขนมแต่ละชนิดที่เป็นขนมสดแบบนี้วางไว้จำนวนเท่าไร  จะเป็นตัวชี้วัดยอดการจำหน่ายของร้านนั้นๆ  เมื่อได้แล้วก็มาหาจำนวนขนมที่จะต้องทำไปส่งให้ร้าน  กำหนดราคาขายปลีกให้ร้าน   แล้วเราก็มาลดเป็นราคาส่งให้กับร้าน  ตรงนี้สำคัญต้องคำนวนให้ดีนะครับว่าเราขายส่งแล้วนำมาหักต้นทุนทั้งหมดรวมค่าขนส่งจะเหลือเป็นกำไรของเราเท่าไรจะคุ้มไหม  และอย่าลืมคิดรวมค่าขนมเปลียนเผื่อไว้ด้วยนะครับสัก 10 %  เมื่อพร้อมลุยครับ  รถพร้อมขนมและบิลส่งของชนิดใช้กระดาษคาร์บอน  ไปแต่เช้าครับอย่าไปติดต่อตอนเที่ยงวันเพราะร้านเขาจะยุ่งจะไม่มีเวลามาคุยกับเรา  นำขนมไปติดต่อขอส่งขนมกับเจ้าของร้าน  ให้เขาเห็นสินค้าและให้เขาลองชิมดูสัก 1 ชิ้น  ถ้าตกลงได้อย่าวางมากทดลองตลาดก่อน  พอครบกำหนดที่ขนมจะอยู่ได้เราก็ไปพร้อมกับขนมรอบใหม่  เตรียมใจกับการเปลี่ยนขนมกลับด้วยนะครับและอย่าท้อ  เมื่อผ่านไปได้สักสองสามรอบบิล  เราก็จะมองเห็นเองว่าควรจะทำอะไรไปส่งเพิ่ม  ขอให้โชคดีนะครับ   

นี่คือสรุปย่อกรรมวิธีวิจัยตลาดของสินค้าประเภทนี้เลยนะครับ, อ่านแล้วก็พอรู้ว่าเคยทำมาก่อน(หรือไม่ก็กำลังทำอยู่)... นายสมชายว่าคุณณัฐฯ หาจ้างที่ปรึกษาดีกว่าครับ เลือกที่ปรึกษาดีๆได้ดูงานของจริงที่สำเร็จมาแล้ว จะประหยัดเวลาลองผิดลองถูก...

เสียเงินค่าที่ปรึกษาจะคุ้มค่ากว่าจ่ายค่าลองผิดลองถูก ซึ่งนอกจากขาดทุนช่วงแรกแล้วยังเสียเวลา... ซึ่งการเสียเวลานี่บั่นทอนกำลังใจตัวเอง แล้วสมาชิกในครอบครัวจะหงุดหงิด เดี๋ยวก็ลามปามไปเรื่องอื่นอีก...

[Nat_usp]

  ขอบคุณทุกๆท่านครับผม ซึ้งในน้ำใจจริงๆครับ ทั้งหน้เวบฯและทางPM 

สายๆจะคุยกับน้องแล้วก็ภรรยาครับ

เงินสำรองก็เอาไปซื้อที่ดินแล้ว ( ล้านแปดแสนกว่าๆ )

เหลือเงินสดอีกประมาณ7-8แสน , ทองคำอีกพอสมควร

เดี๋ยวต้องประกาศขายบ้านครับเพราะต้องเอาเงินไปปลูกบ้านที่เชียงดาว

แต่ต้องทำมาหากินตรงนี้ไปก่อน ^_^"

[ไพโรจน์]

          ร้านค้า หรือ กิจการที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน ล้วนต้องผ่านการทดสอบความอดทน อดกลั้น ทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสมาแล้วทั้งนั้น   ไม่เคยมีความสำเร็จใดโรยด้วยกลีบกุหลาบ  มีแต่โรยด้วยกิ่งกุหลาบ 

           เคยอ่านเจอในหนังสือเล่มหนึ่งเขียนไว้ว่า ผู้ที่ลงไปค้าขายส่วนตัว..ใน 100 คนจะประสบความสำเร็จประมาณ 15 คน  ขออวยพรให้คุณนัทเป็น 1 ใน 15 ครับ...โชคดี 

[เบิ้ม]

          ร้านค้า หรือ กิจการที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน ล้วนต้องผ่านการทดสอบความอดทน อดกลั้น ทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสมาแล้วทั้งนั้น   ไม่เคยมีความสำเร็จใดโรยด้วยกลีบกุหลาบ  มีแต่โรยด้วยกิ่งกุหลาบ 
           เคยอ่านเจอในหนังสือเล่มหนึ่งเขียนไว้ว่า ผู้ที่ลงไปค้าขายส่วนตัว..ใน 100 คนจะประสบความสำเร็จประมาณ 15 คน  ขออวยพรให้คุณนัทเป็น 1 ใน 15 ครับ...โชคดี 

ชอบจังครับเพิ่งเคยได้ยิน  +

[carrera]

สู้ สู้

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

ขอบคุณทุกๆท่านครับผม ซึ้งในน้ำใจจริงๆครับ ทั้งหน้เวบฯและทางPM 

สายๆจะคุยกับน้องแล้วก็ภรรยาครับ

เงินสำรองก็เอาไปซื้อที่ดินแล้ว ( ล้านแปดแสนกว่าๆ )

เหลือเงินสดอีกประมาณ7-8แสน , ทองคำอีกพอสมควร

เดี๋ยวต้องประกาศขายบ้านครับเพราะต้องเอาเงินไปปลูกบ้านที่เชียงดาว

แต่ต้องทำมาหากินตรงนี้ไปก่อน ^_^"

Ha Ha HA  ฮา  "ฮั่นแน่"   พี่ Nattapol_  มาช้าไปนิ๊ดดดนุง อ่ะคร๊า
ถ้ายายรู้เรื่อง  "ซื้อที่ดิน"  เชียงดาว  ยายจะแนะนำ "ไม่ให้ซื้อ"  อ่ะคร๊า
เป็นการลงทุน ระยะยาว  แล้วเสียโอกาสในการบริหาร "เงินสด"  คร๊า

ยายประเมินว่า  "ทรัพย์" ที่ถืออยู่  ถ้าขยำ รวมกันแล้ว น่าจะ  ห้าล้าน +/- คร๊า
ถ้าห้าล้าน  อยากจะลงทุน แล้วไม่เสี่ยง  ยายมีวิธีแนะนำ คร๊า

เรื่องที่ถาม  จะทำ "เบเกอรรี่"  ขาย  อาชีพนี้ คนที่เข้าวงการใหม่  เลือดเข้าตาคร๊า
ถ้าช่องทางการขาย  ยังไม่เคลีย์ ไม่แน่ชัด  ต้อง หกเดือนคร๊า กว่าจะจับทางได้
อาชีพนี้ต้องทนคร๊า  กว่าที่จะเข้าไปลุย  แล้วแย่งส่วนแบ่งของคนอื่นมาได้

ยังจำได้ไหมคร๊า  "เซียนหุ้น"  ต้องมาขาย "แซนด์วิช"  อ่ะ
ตลาดที่ดีที่สุด  ในช่วงแรก  คือ  แบกกระบะ  หรือตั้งแสตน ขายหน้า ออฟฟิศคร๊า
แถวสีลม  อโศก  เพลินจิต  แถวที่มีคนทำงาน เยอะๆ คร๊า

[carrera]

ขนมแบบนี้ในวงการขนมเราเรียกว่า  ขนมสด   ขายส่งเสี่ยงมากครับเพราะเสียจะเป็นของเรา   เพราะการขายส่งขนมเราจะต้องส่งให้ร้านก่อนในรอบแรก  รอบต่อไปเราจะต้องไปส่งของใหม่พร้อมกับเก็บของเก่าที่เหลือกลับ  เราจะได้เงินเฉพาะในส่วนที่ขายได้  ตรงนี้คือขาดทุนกำไรไปส่วนหนึ่งแล้วนะครับ  ทำขนมแรกๆดูเหมือนจะกำไรมาก  แต่ถ้าคิดต้นทุนทุกอย่างแล้วกำไรไม่มากเท่าไหร่   การขายส่งขนมมีสองแบบครับ  คือเราไปส่งให้กับร้านค้าปลีกโดยตรงอันนี้จะต้องวิ่งหาตลาดเก่งๆเพราะเราจะส่งไม่ได้มากในแต่ละร้าน  แต่เราจะได้กำไรมากและการเปลี่ยนมีน้อย  กับอีกแบบหนึ่งเราไปส่งให้กับร้านค้าส่งซึ่งจะมีลูกค้าของร้านมารับไปขายปลีกอีกทอดหนึ่ง  เราจะส่งขนมได้มากแต่จะได้กำไรน้อยลง  และโอกาสเปลี่ยนมีสูงมาก 
คำแนะนำครับ   ขนมแบบนี้จะต้องส่งให้กับร้านค้าปลีกโดยตรง  คุณต้องออกสำรวจตลาดก่อนครับยังไม่ต้องติดต่อส่งนะครับ  เช่นร้านค้าปลีกตามหมู่บ้าน  ร้านกาแฟ  ดูร้านประเภทที่มีขนมแบบนี้วางขาย  โดยเฉพาะร้านมินิมาร์ทและร้านอาหารตามปั๊มน้ำมันหาให้ได้หลายๆร้าน  เซเว่นและร้านที่ใช้ระบบบาร์โค้ดอย่าเพิ่งเข้าเพราะเรื่องมาก  เอาในรัศมีที่คุณคิดว่าวิ่งส่งไหว  และสังเกตุว่าขนมแต่ละชนิดที่เป็นขนมสดแบบนี้วางไว้จำนวนเท่าไร  จะเป็นตัวชี้วัดยอดการจำหน่ายของร้านนั้นๆ  เมื่อได้แล้วก็มาหาจำนวนขนมที่จะต้องทำไปส่งให้ร้าน  กำหนดราคาขายปลีกให้ร้าน   แล้วเราก็มาลดเป็นราคาส่งให้กับร้าน  ตรงนี้สำคัญต้องคำนวนให้ดีนะครับว่าเราขายส่งแล้วนำมาหักต้นทุนทั้งหมดรวมค่าขนส่งจะเหลือเป็นกำไรของเราเท่าไรจะคุ้มไหม  และอย่าลืมคิดรวมค่าขนมเปลียนเผื่อไว้ด้วยนะครับสัก 10 %  เมื่อพร้อมลุยครับ  รถพร้อมขนมและบิลส่งของชนิดใช้กระดาษคาร์บอน  ไปแต่เช้าครับอย่าไปติดต่อตอนเที่ยงวันเพราะร้านเขาจะยุ่งจะไม่มีเวลามาคุยกับเรา  นำขนมไปติดต่อขอส่งขนมกับเจ้าของร้าน  ให้เขาเห็นสินค้าและให้เขาลองชิมดูสัก 1 ชิ้น  ถ้าตกลงได้อย่าวางมากทดลองตลาดก่อน  พอครบกำหนดที่ขนมจะอยู่ได้เราก็ไปพร้อมกับขนมรอบใหม่  เตรียมใจกับการเปลี่ยนขนมกลับด้วยนะครับและอย่าท้อ  เมื่อผ่านไปได้สักสองสามรอบบิล  เราก็จะมองเห็นเองว่าควรจะทำอะไรไปส่งเพิ่ม  ขอให้โชคดีนะครับ   

นี่คือสรุปย่อกรรมวิธีวิจัยตลาดของสินค้าประเภทนี้เลยนะครับ, อ่านแล้วก็พอรู้ว่าเคยทำมาก่อน(หรือไม่ก็กำลังทำอยู่)... นายสมชายว่าคุณณัฐฯ หาจ้างที่ปรึกษาดีกว่าครับ เลือกที่ปรึกษาดีๆได้ดูงานของจริงที่สำเร็จมาแล้ว จะประหยัดเวลาลองผิดลองถูก...

เสียเงินค่าที่ปรึกษาจะคุ้มค่ากว่าจ่ายค่าลองผิดลองถูก ซึ่งนอกจากขาดทุนช่วงแรกแล้วยังเสียเวลา... ซึ่งการเสียเวลานี่บั่นทอนกำลังใจตัวเอง แล้วสมาชิกในครอบครัวจะหงุดหงิด เดี๋ยวก็ลามปามไปเรื่องอื่นอีก...

ถ้าจะจ้างจริง น่าจะจ้างท่านนี้ครับ คุณ p23-504  รักในหลวง

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

Ha Ha Ha  ฮา "ฮันแน่"   ถ้ายังไม่มีแผน ที่แน่ชัด  ยายไม่แนะนำให้ไป "เชียงดาว" คร๊า
ปลูกบ้าน  ก็หมดอีก เจ็ดแปดแสน  เงินจมอีกแล้วคร๊า  เงินไม่งอก
พอเงินไม่งอก  มันก็ร่อยหรอ  พอเงินขาดกระเป๋า  ก็เครียด  อ่ะคร๊า ฮา
เคยกินอยู่  เที่ยวแบบสบาย  ต้องไปทนอดอยากปากแห้ง  ชีวิตไม่มีความสุขคร๊า

ยายจะแนะนำให้  "ลุย"  ในเมืองใหญ่  หากินสะดวก กว่า "เมืองเล็ก"  คร๊า  ฮา

[เบิ้ม]

ขอบคุณทุกๆท่านครับผม ซึ้งในน้ำใจจริงๆครับ ทั้งหน้เวบฯและทางPM 

สายๆจะคุยกับน้องแล้วก็ภรรยาครับ

เงินสำรองก็เอาไปซื้อที่ดินแล้ว ( ล้านแปดแสนกว่าๆ )

เหลือเงินสดอีกประมาณ7-8แสน , ทองคำอีกพอสมควร

เดี๋ยวต้องประกาศขายบ้านครับเพราะต้องเอาเงินไปปลูกบ้านที่เชียงดาว

แต่ต้องทำมาหากินตรงนี้ไปก่อน ^_^"

Ha Ha HA  ฮา  "ฮั่นแน่"   พี่ Nattapol_  มาช้าไปนิ๊ดดดนุง อ่ะคร๊า
ถ้ายายรู้เรื่อง  "ซื้อที่ดิน"  เชียงดาว  ยายจะแนะนำ "ไม่ให้ซื้อ"  อ่ะคร๊า
เป็นการลงทุน ระยะยาว  แล้วเสียโอกาสในการบริหาร "เงินสด"  คร๊า

ยายประเมินว่า  "ทรัพย์" ที่ถืออยู่  ถ้าขยำ รวมกันแล้ว น่าจะ  ห้าล้าน +/- คร๊า
ถ้าห้าล้าน  อยากจะลงทุน แล้วไม่เสี่ยง  ยายมีวิธีแนะนำ คร๊า

เรื่องที่ถาม  จะทำ "เบเกอรรี่"  ขาย  อาชีพนี้ คนที่เข้าวงการใหม่  เลือดเข้าตาคร๊า
ถ้าช่องทางการขาย  ยังไม่เคลีย์ ไม่แน่ชัด  ต้อง หกเดือนคร๊า กว่าจะจับทางได้
อาชีพนี้ต้องทนคร๊า  กว่าที่จะเข้าไปลุย  แล้วแย่งส่วนแบ่งของคนอื่นมาได้

ยังจำได้ไหมคร๊า  "เซียนหุ้น"  ต้องมาขาย "แซนด์วิช"  อ่ะ
ตลาดที่ดีที่สุด  ในช่วงแรก  คือ  แบกกระบะ  หรือตั้งแสตน ขายหน้า ออฟฟิศคร๊า
แถวสีลม  อโศก  เพลินจิต  แถวที่มีคนทำงาน เยอะๆ คร๊า

ผมไม่อยากขัดคอนะครับ ผมก็คนค้าขายตัวเล็กๆ จะแนะนำก็ความรู้ไม่มาก แต่ถ้าจะขายของกิน พวกหนมปังนี่ผมไม่กล้าครับ คนไทยเดือนนึงกินหนมปังกี่ครั้ง แถมคู่แข่ง โอ้...บร๊ะจ้าว...มากมายเหลือคณานับ เซ่เเว่นทุกมุมเมือง ห้างค้าปลีกมากมาย ขนมล้นเหลือ แถมราคาติดดิน คือคู่แข่งมันมากมายเกินไป ต่อให้คิดจะปั้นแบรนด์สู้เค้าก็เลิกคิดดีกว่า เป็นผมขายโจ๊กดีกว่า กำไรพัน% ข้าวโลนึงขายได้หลายพันบาท ใครๆก็กินได้ครับ 

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

ผมไม่อยากขัดคอนะครับ ผมก็คนค้าขายตัวเล็กๆ จะแนะนำก็ความรู้ไม่มาก
แต่ถ้าจะขายของกิน พวกหนมปังนี่ผมไม่กล้าครับ คนไทยเดือนนึงกินหนมปังกี่ครั้ง
แถมคู่แข่ง โอ้...บร๊ะจ้าว...มากมายเหลือคณานับ เซ่เเว่นทุกมุมเมือง
ห้างค้าปลีกมากมาย ขนมล้นเหลือ แถมราคาติดดิน คือคู่แข่งมันมากมายเกินไป

ต่อให้คิดจะปั้นแบรนด์สู้เค้าก็เลิกคิดดีกว่า
เป็นผมขายโจ๊กดีกว่า กำไรพัน% ข้าวโลนึงขายได้หลายพันบาท ใครๆก็กินได้ครับ 

็Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  ความเห็นของพี่เบิ้ม ข้างบน  นี่แหละ คือประเด็นคร๊า  ฮา
ยายมองว่า  "มนุษย์เงินเดือน"  ความอดทน "ต่ำ"  คร๊า ฮา
เจอบทโหด  ของหิน  ถอดใจเร็วคร๊า  เพราะเป็นเงินที่ควักจาก "กระเป๋า"
ลองผิด  ลองถูก  เจ๊งหลายๆรอบไม่ได้คร๊า  ฮา

ไม่เหมือนกับ  ชีวิต "ลูกจ้าง"  ทำผิดอย่างไร  ก็ไม่เจ๊งคร๊า  เถ้าแก่เจ๊งแทน  ฮา

ลองบอก  พื้นฐานมาหน่อยคร๊า  ชอบ ไม่ชอบอะไร ชอบธุรกิจชนิดไหน
เพื่อนๆเขาอาจจะพอแนะนำ  ได้คร๊า  ฮา

อ่าน  ลายเซ็นต์ข้างล่าง  ของยาย หลายๆครั้งน๊ะคร๊า  ฮา

[bigbang]

เรื่อง ซื้อที่ดิน เชียงดาว  อันนี้เห็นด้วยกับ ยาย  แต่ไหนๆซื้อมาแล้วก็ขายภายหลังได้หากมีกำไร
แต่แนะนำให้  "ลุย"  ในเมืองใหญ่นั้น  แล้วมีธุรกิจอะไรที่น่าสนใจ จะแนะนำเขาบ้างละ
ในเมื่อบอก "เส้นทาง" เขาไปแล้ว   พื้นฐานที่เขาพร้อมก็เห็นอยู่แล้ว หรือจะให้ไปทำโรงกลึงเหล็ก
เหรอ คุณยายรู้ทุกเรื่อง 555

[โป้ง*กันบอย - รักในหลวง]

ขอบคุณทุกๆท่านครับผม ซึ้งในน้ำใจจริงๆครับ ทั้งหน้เวบฯและทางPM  

สายๆจะคุยกับน้องแล้วก็ภรรยาครับ

เงินสำรองก็เอาไปซื้อที่ดินแล้ว ( ล้านแปดแสนกว่าๆ )

เหลือเงินสดอีกประมาณ7-8แสน , ทองคำอีกพอสมควร

เดี๋ยวต้องประกาศขายบ้านครับเพราะต้องเอาเงินไปปลูกบ้านที่เชียงดาว

แต่ต้องทำมาหากินตรงนี้ไปก่อน ^_^"

สู้ๆครับพี่...แนวทางน่าคล้ายๆกันเลยเอามาให้ชมครับ

ผมไปแปดริ้วต้องโดนบังคับให้ซื้อมาให้ทุกที^^

http://www.aumbakery.com/

ส่วนที่ผมชอบมากก็คือ เค้กช็อกโกแล็ต อร่อย^^

[wiched]

พี่ครับอยากจะบอกว่า "Packaging" สำคัญมาก ๆ  ลองดูสินค้าที่รูปลักษณ์สวยงามต่างๆสิครับ

บางทีก็เหมือนกับชาวบ้านแหละแต่หีบห่อมันน่าสนใจ จริง ๆ นะพี่ รวยแน่ ๆ

[Nat_usp]

Ha Ha HA  ฮา  "ฮั่นแน่"   พี่ Nattapol_  มาช้าไปนิ๊ดดดนุง อ่ะคร๊า
ถ้ายายรู้เรื่อง  "ซื้อที่ดิน"  เชียงดาว  ยายจะแนะนำ "ไม่ให้ซื้อ"  อ่ะคร๊า
เป็นการลงทุน ระยะยาว  แล้วเสียโอกาสในการบริหาร "เงินสด"  คร๊า

ยายประเมินว่า  "ทรัพย์" ที่ถืออยู่  ถ้าขยำ รวมกันแล้ว น่าจะ  ห้าล้าน +/- คร๊า
ถ้าห้าล้าน  อยากจะลงทุน แล้วไม่เสี่ยง  ยายมีวิธีแนะนำ คร๊า

เรื่องที่ถาม  จะทำ "เบเกอรรี่"  ขาย  อาชีพนี้ คนที่เข้าวงการใหม่  เลือดเข้าตาคร๊า
ถ้าช่องทางการขาย  ยังไม่เคลีย์ ไม่แน่ชัด  ต้อง หกเดือนคร๊า กว่าจะจับทางได้
อาชีพนี้ต้องทนคร๊า  กว่าที่จะเข้าไปลุย  แล้วแย่งส่วนแบ่งของคนอื่นมาได้

ยังจำได้ไหมคร๊า  "เซียนหุ้น"  ต้องมาขาย "แซนด์วิช"  อ่ะ
ตลาดที่ดีที่สุด  ในช่วงแรก  คือ  แบกกระบะ  หรือตั้งแสตน ขายหน้า ออฟฟิศคร๊า
แถวสีลม  อโศก  เพลินจิต  แถวที่มีคนทำงาน เยอะๆ คร๊า

แหม...ตรงแป๊ะทุกอย่างเลยครับยาย ^_^"

ทีแรกว่าจะย้ายไปอยู่เลยแต่ทำไปทำมาไปไม่ได้

เพราะที่นู่นสังคมเขาช้าๆไม่ฟู่ฟ่า ไม่บริโภคนิยม

ผมเลยต้องมาตั้งหลักใหม่ครับ ส่วนที่ดินคงทำเป็นสวนเกษตรก่อน ก็จ้างคนที่รู้จักกันดูแลให้ครับผม

ผมกับแฟนก็จะไปหาทำอีกอย่าง แต่สำหรับน้องสาวก็เป็นความฝันของเขาครับ

คนเป็นพี่ก็ต้องช่วย


  ขอบคุณทุกๆท่านอีกครั้งครับผม