ผมลาออกจากบริษัทมา 10 ปีแล้วครับ ตอนนั้น 26 ดูเขารวยช่วยเขาทำยังงัยก็ได้แต่เงินเดือน หากเป็นของเราเองทำมากก็ได้มาก
คิดได้ดังนั้นก็มองดูตัวเองประสบการณ์ก็พอตัว เลยตัดสินใจว่าถ้าไม่ทำตอนนี้จะรอไปเริ่มตอนอายุ 40 เหรอ สิบปีผ่านมาก็มีล้มมีลุก
จากคนไม่เคยเป็นหนี้ก็เป็น มีทังกำไรทั้งขาดทุนทั้งโดนโกงผสมปนกันไปทุกวันนี้ก็อยู่ได้ไปเรื่อยๆ เงินที่ได้มากกว่ามนุษย์เงินเดือน
แต่ความรับผิดชอบก็มากเป็นเงาตามตัว ลองคิดดูนะครับ สมมุติทำงานเงินเดือนสามหมื่น ปีหนึ่งสามแสนหก แต่สำหรับการทำธุรกิจเอง
เงินสามแสนหกอาจได้ภายในสามเดือน แต่ความเสี่ยงและการลงทุนก็ต่างกัน
ผมเห็นด้วยอย่างแรงครับ เพราะคนไม่ซ่ือตรง เลยล้มลุกคลุกคลานตลอด..
เดือนๆหมุนเงินเป็นล้าน แต่เหลือถึงครอบครัวไม่ถึงหมื่น... แล้วผมเจอโครงการณ์นึง สุดยอดของความ "หน้ามึน" ครับ เผื่อใครอยากรวยลองทำดู...
เปิดโครงการณ์บ้านเดี่ยว แต่ให้ผู้รับเหมาลงทุนให้... งวดแรกจ่ายแป๊ะ ทำงวด 2,3 จ่ายอีกที และทำ 4,5,6 จ่ายอีกที...
สรุปคือให้ผู้รับเหมาทำงานจนเสร็จ โอนบ้านได้แล้วค่อยจ่ายผู้รับเหมา... จ่ายให้เบิกแค่ "กันตาย" 3 เดือนได้เงินที เลวจริงๆ...
รู้หน้าไม่รู้ใจ หลังจากปีใหม่ผมคงต้องเลิกทำงานให้คนเลวๆรวย... ขาดทุนประมาณ 6 หมื่น แต่ต้องตัดใจเพื่อไม่ให้เป็นตัวถ่วงความเจริญหลังจากเคลียร์กันเมื่อวาน.. ถ้ากำไรแบ่งกันคนละครึ่งค่อยว่ากัน แต่กำไรของเจ้าของโครงการณ์กับผู้รับเหมาต่างชั้นกันเยอะ...
นี่ถ้าไม่ได้รับความรู้และการสั่งสอนจากในเวป อวป. ผมได้ลง "ไทยรัฐ" ไปนานแล้ว...
ทำไมมุกชั่วๆ ของพวกขี้โกงถึงไม่นำไปบรรจุในหลักสูตรการศึกษานะ... มีมุกใหม่มาเรื่ิอยๆ ยังคงต้องเสียค่าหน่วยกิต วิชาชีวิตไปเรื่ิอยๆ จนกว่าจะขาดสติ ตัดสินด้วยศาลเตี้ย...
ปีที่แล้ว เหลือเงิน 24,000 ปีนี้เหลือ 3 แสนกว่าในบัญชี แต่ไม่กล้าใช้... กลัวโดน "กับดัก" ชีวิตอีกรอบครับ....