ส่วนในสมัยจอมพล ป. เป็นช่วงที่ต้องการให้คนไทยรักชาติ ก็ต้องมีการเน้นเรื่องความยิ่งใหญ่ของชนชาติไทยในอดีต ซึ่งต่อมาก็พบว่าไม่ตรงกับเอกสารที่พ่อค้าชาวต่างชาติ หรือพวกบาทหลวงบันทึกไว้ แม้แต่เอกสารของทางฝ่ายพม่า ที่อังกฤษส่งมาให้ในสมัยรัชกาลที่ 4 ก็ยังถวายพระเกียรติให้กับอดีตพระมหากษัตริย์ของไทยมากกว่าเอกสารของคนไทยเราเอง ที่เราต้องการโยนรับความผิดชอบทั้งหมดในกรณีเสียกรุง
อย่าไปคิดว่าเป็นเรื่องการหลอกลวงเลยครับ เรื่องบางเรื่องอาจถูกแต่งด้วยเหตุผลทางการเมืองระหว่างประเทศในยุคสมัยนั้นๆ เพียงแต่คนยุคหลังๆควรจะรู้จักศึกษาที่มาที่ไปอย่างมีสติครับ
ขออนุญาตขยายความต่อจาก ผู้การสุพินท์ นะครับ
ที่ผ่านมา การผ่ายแพ้อย่างย่อยยับของฝ่ายไทยในสงครามปี พ.ศ. 2309 -10 ถูกเข้าใจว่าเป็นผลสืบเนื่องจากความอ่อนแอเหลวไหลของผู้ปกครองที่มุ่งแต่จะต่อสู้แย่งชิงอำนาจกันเอง พร้อมไปกับการแสวงหาความฟุ้งเฟ้อสนุกสนานส่วนตัวแม้ในยามหน้าศึกคับขันก็ไม่ละเว้น ความเข้าใจตามกล่าวไม่สอดคล้องกับหลักฐานข้างพม่า .....คือผู้ปกครองอยุธยาเองได้เตรียมการวางแผนป้องกันพระนครอย่างเข้มแข็ง รัดกุมขณะที่การพ่ายแพ้ครั้งนั้นเป็นการพ่ายแพ้ในด้านยุทธศาสตร์การทหาร มากกว่าจะเป็นผลสืบเนื่องจากความ"เสื่อมทราม" ของนักการทหารไทย
คัดลอกมาจาก
สงครามคราวเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2310 ศึกษาจากพงศาวดารพม่าฉบับราชวงค์คองบอง
สุเนตร ชุตินธรานนท์