เขามีคลีนิคนิรนามนะ
ผมว่าคลีนิคนี้ตรงประเด็นนะผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนก็ได้
... สนับสนุนแนวทางนี้ ครับ ................................. ตัวผมเองกับภรรยา ก็ไปตรวจมาแล้วเมื่อตอนก่อนจะแต่งงาน ............ คิดไว้ในใจ 50-50 เป็นไงเป็นกัน (แบบว่า เคยมีอะไรกุ๊กกิ๊ก ซุกซน บ้างเป็นบางครั้ง
)...
... ไปครั้งแรก ... ผมไปคนเดียว ... ปรากฎว่าหาคลีนิคนิรนามไม่เจอครับ ... เิดินวนอยู่หลายรอบ... จนในที่สุดตัดสินใจเดินไปถามที่ประชาสัมพันธ์ว่า คลีนิคนิรนามอยู่ไหน .......................... พี่คนนั้น แก ไม่ถามอะไรสักคำ แกบอกว่ารอเดี๋ยวนะคุณหมอไม่อยู่ ไปพบคนไข้ข้างนอก ... สักประมาณ 13.00 น. น้องมากลับมาใหม่แล้วเดินไปที่ห้องตรวจหมายเลข xxx เลย ...........
... 13.00 น. ผมกลับมาใหม่อีกครั้ง ... ตรงดิ่งไปที่ห้องตรวจ ไปนั่งคุยกับคุณหมอ ... คุณหมอแกก็ไม่ถามชื่อแซ่ ไม่ถามข้อมูลภูมิลำเนา อะไรเลย ... นั่งคุยกันอยู่สัก 30 นาที ........คุณหมอคุยดีมาก ให้ความรู้เรื่องเอดส์ พร้อมกับให้คำแนะนำที่มีประโยชน์มากมาย(มาถึงตอนนี้ ผมอุ่นใจขึ้นเยอะ) ............. และสุดท้าย แนะนำว่า ... ถ้าคิดว่าเมื่อทราบผลตรวจแล้ว จะทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนไปก็ไม่ต้องตรวจ ... แต่ต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ อย่าไปทำอะไรที่คิดว่าเสี่ยงกับใครอีก ................ แต่ ... ผมบอกว่า ถึงผมจะติดเชื้อเอดส์ ... ผมก็ยังเป็นของผมเหมือนเดิมนี่แหละครับ ... คงไม่มีอะไรเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง ...
... แต่แล้ว ..... คุณหมอ ก็ ยังไม่ตรวจให้ ... จนกระทั่งแกได้ถามเลยไปถึงเรื่องคู่สมรส และ แนะนำใ้ห้ผมมาใหม่อีกครั้งพร้อมกับ ว่าที่ภรรยา ............................. " เอาก็เอาสิ ในเมื่อจะแต่งงานอยู่กินด้วยกันแล้วไปตลอดชีวิต ... มันก็ไม่มีอะไรจะปิดบังกันอีกแล้ว ... อย่างมากถ้าเราติดเชื่อเอดส์ ก็ เลิกกัน .... ให้เค้าไปหาคนใหม่ ... ดีกว่าจะมาดักดานอยู่กับเราแบบนี้ " ...
... วันต่อมา ผมไปพร้อมกับว่าที่ภรรยา ........ คุณหมอก็ชวนคุยแบบเมื่อวาน ... แต่วันนี้ ได้พูดคุยและอธิบายให้ว่าที่ภรรยาของผมฟังด้วยกัน (เค้าเลยรู้หมดเลยว่าผมไปกุ๊กกิ๊กซุกซนอะไรยังไงมาบ้าง
) ... และสุดท้ายถามเราทั้งคู่ว่า ... ถ้าฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง ติดเอดส์ ... คุณสองคนจะทำยังไง ................ ผมตอบว่า ถ้าผมติดเชื้อ ผมจะเลิกกับแฟน ... แต่ถ้าแฟนติดเชื้อ ผมจะแต่งงานและดูแลเค้าต่อไปเหมือนเดิม ........... แฟนผมบอก ว่าถ้าผมติดเชื้อ ก็คงต้องเลิกล้มการแต่งงาน แต่ก็ยังคงเป็นคนรู้จักกันเหมือนเดิม .................................
... มาถึงตอนนี้ คุณหมอจึงยอมตรวจให้ ... พร้อมกับสอบถามและบันทึกข้อมูลส่วนตัว ... และนำเอกสารการเก็บข้อมูลเป็นความลับมาให้เซนต์ ... โดยระบุประมาณว่า ทางคลีนิคนิรนามจะไม่ทำการอันใดอันเป็นการเปิดเผย ข้อมูลเหล่านี้ ... และถ้าหากข้อมูลถูกแพร่งพรายออกไป ... เราสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีกับคุณหมอและหน่วยงานได้ ... โดยในใบนำส่งตรวจเลือด จะบอกแค่ รหัสของเรา ซึ่งคุณหมอเป็นคนเดียวที่มีข้อมูลนี้ ...
... โดยในการตรวจ จะทำด้วยกันทั้งสิ้น 3 วิธี ... จากอุปกรณ์และวิธีตรวจของ 3 บริษัท .............. หากมีผลออกมาไม่ตรงกันทั้ง 3 ครั้ง ... จะต้องทำการตรวจใหม่ จนกว่าผลที่ได้จะตรงกัน ...(พนักงานสองคนที่เจาะเลือดผมกับภรรยา สวยน่ารักมาก
) ...
... ในที่สุด อีก 2 วัน ถัดมา เมื่อไปดูผลตรวจเลือดตามนัด ... ผลที่ออกมา เราผ่านทั้งคู่ ... ดีใจครับ(แต่ต้องโดนว่าที่ภรรยา สอบสวนอยู่หลายวันว่าไปทำอะไรไว้ที่ไหนมาบ้าง
) ...
... ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ................ ผมก็ไม่เคยนอกใจภรรยาผมอีกเลย...(กลัวติดเอดส์ครับ กว่าจะรอดสถานการณ์นี้มาได้ ต้องปลุกใจตัวเองให้สู้ๆ ตั้งหลายครั้ง
)
.. อ้อ ....ลืมบอกไป .....................เดี๋ยวนี้ คลีนิคนิรนาม ไม่ได้ติดป้ายโจ่งแจ้งเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะครับ ...............คือ เค้ากลัวว่า คนจะไม่กล้าไปปรึกษา/ไปตรวจ ... แต่เขาจะมีแพทย์ที่คอยดูแลทางนี้โดยเฉพาะและอยู่ห้องตรวจทั่วไป ... ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าเราจะไปตรวจอะไร ... สบายใจได้ ...