เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 29, 2024, 10:43:02 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3 4
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แฉแล้วไง ขุดคุ้ยแล้วได้อะไร !!!  (อ่าน 5675 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
bigbang
จงใช้สติก่อนใช้ปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1018
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6603


รูปจากเวปผู้จัดการครับ


« ตอบ #15 เมื่อ: มกราคม 23, 2012, 09:00:01 AM »

บางครั้งไม่ต้องแฉหรือขุดคุ้ย กรรมชั่วมันก็โผล่เองครับ
อย่างเรื่อง บ่อน เอาเรื่องนี้มาไล่อดีต ผบตร แต่สุดท้ายบ่อนเล็กๆ มันก็โผล่มา
แต่ผบตร ปัจจุบันไม่ยักโดนไล่ หรือพิจารณาตนเอง
ส่วนเรื่อง ปราบยาเสพติด เห็นปราบหนัก โชว์ผลงานบ่อยๆ แต่ยาเสพติดมันก็
ยังระบาดหนัก แถมหนักกว่าเดิม เพราะราคาแพงขึ้น ยังไม่พอคนบริสุทธิ์พลอย
ซวยต้องเดือดร้อน ถูกลากเข้าไปตัดตอนเพื่อแย่งผลงาน หรือกำจัดฝ่ายตรงข้าม
ทั้งนี้มันเกิดจากยุคกฎหมายและอำนาจมันอยู่ในมือของพวกคนชั่ว
พอเรื่องชั่วๆที่พวกมันทำโผล่ มันยังหน้าด้านอ้างว่าเป็นการใส่ร้าย ของฝ่ายการเมือง
ไปนั้น 
จริงอยู่ว่าอะไรไม่ได้แต่เชื่อว่าผลกรรมที่พวกมันทำไว้จะย้อนเข้าไปเล่นงาน
พวกมันและครอบครัวที่พวกมันรัก อย่างสาสมที่ทำไว้กับคนอื่น
บันทึกการเข้า

อเสวนา จะ พาลานัง
chatphisit
my heart is broken in a million pieces
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 50
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 243


The greatest loss and despair.


« ตอบ #16 เมื่อ: มกราคม 23, 2012, 10:17:55 AM »

Re: แฉแล้วไง ขุดคุ้ยแล้วได้อะไร !!!

แฉให้สังคมสนใจ คงเป็นเป้าหมายปลอมของการเมืองที่ไม่ได้คิดจะทำอะไรจริงจังครับ
ที่จริงควรไปแก้กฏหมายให้เจ้ามือบ่อน หวย ถูกยึดทรัพย์ด้วยครับ
จะได้เอาเงินของประชาชนคืนกลับไปให้ประชาชน คนจนยังมีอีกเยอะ Grin




บันทึกการเข้า
กรรมกร
+แล้วนะคับ ... อย่าลืมทอนด้วยนะคับ 555
Hero Member
*****

คะแนน -964
ออฟไลน์

กระทู้: 1293



« ตอบ #17 เมื่อ: มกราคม 23, 2012, 05:38:11 PM »

Re: แฉแล้วไง ขุดคุ้ยแล้วได้อะไร !!!

แฉให้สังคมสนใจ คงเป็นเป้าหมายปลอมของการเมืองที่ไม่ได้คิดจะทำอะไรจริงจังครับ
ที่จริงควรไปแก้กฏหมายให้เจ้ามือบ่อน หวย ถูกยึดทรัพย์ด้วยครับ
จะได้เอาเงินของประชาชนคืนกลับไปให้ประชาชน คนจนยังมีอีกเยอะ Grin






ผมคิดว่านี่แหล่ะ คือวิธีแก้ปัญหาที่อยากจะเห็น แต่คิดว่าชาตินี้คงไม่ได้เห็น คงไม่มีใครจะ " เอามีดแทงพุงตัวเอง"
ทุกวันนี้ คนที่มีอำนาจหน้าที่ ให้คุณ ให้โทษ หรือชี้เป็นชี้ตายได้ จำนวนไม่น้อย ก็อาศัยช่องว่าง ช่องโหว่ และ การไม่มีการเอาผิดลงโทษจริงจังนี่แหล่ะ เป็นเครื่องมือทำมาหากินสร้างความร่ำรวยกันอยู่

ดูท่านปลัดฯ มาให้การคณะกรรมการฯวันนี้เป็นต้น  เวลาผ่านมาตั้งเป็นเดือนๆ ท่านปลัดฯ มีเวลาตระเตรียมทุกสิ่ง ทุกอย่าง (ผมเชื่ออย่างนั้น)

กว่าจะถึงวันที่ต้องให้การ มาวันนี้ ก็มา "ยืนยัน" ว่าโดนปล้นไปแค่ "ห้าล้าน" ที่เหลือไม่รู้โจรเอามาจากไหน  แบร่
บทสรุปจบเรื่องนี้ ผมกล้าเอาเงาหัวเป็นประกันเลยว่า "ลอยนวล" อีกแน่นอน  หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

ไร้คำกล่าว............................................
กรรมกร
+แล้วนะคับ ... อย่าลืมทอนด้วยนะคับ 555
Hero Member
*****

คะแนน -964
ออฟไลน์

กระทู้: 1293



« ตอบ #18 เมื่อ: มกราคม 23, 2012, 06:07:05 PM »

เมื่อตะกี้ดู ชูวิทย์มาให้สัมภาษณ์รายการสรยุทธ เรื่อง "บ่อนหวิว"   ขำก๊าก
ขนาด "ส.ส." เองยังบอกว่า "แก้ไม่ได้หรอก" เรื่องเล็กๆแบบนี้ เพราะบทลงโทษมันน้อยเหลือเกิน
จะเอาขึ้นมาไว้บนดินก็ คนคัดค้านมากมาย(ไม่รู้เคร่งในศีลธรรม หรือ เคร่งในผลประโยชน์) โดนชก
นี่ก็อีกหนึ่งตัวอย่าง "แฉแล้วไง !!!"  แบร่
บันทึกการเข้า

ไร้คำกล่าว............................................
JJ-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 386
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9425


« ตอบ #19 เมื่อ: มกราคม 23, 2012, 07:19:41 PM »

คนทำผิด ก็คิดว่าเงินสามารถซื้อทุกอย่างได้
แต่เงินซื้อกรรมที่จะตามทันตัวเองไม่ได้หรอกครับ
ความชั่ว ปิดยังงัยก็ไม่มิด ซักวันมันต้องโผล่แน่ๆ
บันทึกการเข้า
prawin -รักในหลวง-
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 273
ออฟไลน์

กระทู้: 1218



« ตอบ #20 เมื่อ: มกราคม 23, 2012, 08:50:43 PM »

ประชาชนคนธรรมดาในประเทศไทย คงหาความเป็นธรรมและความยุติธรรมได้ยากยิ่งขึ้นนับจากนี้ไป

และเราคงทำได้แค่เพียงขอให้เวรกรรมจงตามมันไป อยู่ที่ไหนซักวันคงตามทัน   อิอิ                 

ลูกหลานเราในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร? ไม่อยากคิดเลย    เศร้า                                                                                                                                                                                      
บันทึกการเข้า

คนดีไม่มีคำว่าเป็นกลาง เพราะคนดีแยกแยะความผิด ความชั่ว และความดีออกจากกันได้
เมื่อเราเป็นคนดี และเราเห็นอยู่แล้วว่าอะไรดี อะไรชั่ว  แล้วเราจะยืนอยู่เป็นกลางได้อย่างไร
การเป็นกลางในสภาวะที่แข่งกันระหว่างความดีและความชั่ว เรียกว่าความกลัวแห่งคนขี้ขลาด
หยุดกลัว หยุดขี้ขลาด

อ.เสรี วงษ์มณฑา 18/11/5
กรรมกร
+แล้วนะคับ ... อย่าลืมทอนด้วยนะคับ 555
Hero Member
*****

คะแนน -964
ออฟไลน์

กระทู้: 1293



« ตอบ #21 เมื่อ: มกราคม 23, 2012, 09:20:54 PM »

การรอให้ "กรรมตามทัน" เป็นอีกเหตุผลทีทำให้พวก "ไม่กลัวกรรม" มันสวาปามกันโดยที่คน "กลัวบาปกรรม" ได้แต่มองตาปริบๆ  น้ำลายหก
บันทึกการเข้า

ไร้คำกล่าว............................................
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #22 เมื่อ: มกราคม 24, 2012, 08:59:02 AM »

บอกแล้วไง... ในสังคมไทยคนโง่มันแยะ วิธีอยู่ให้มีความสุขต้องทำ 2 อย่าง...

1) อาศัยช่องว่างจากคนโง่มาทำมาหาเงิน, 2) หาวิธีกันคนโง่ให้อยู่ห่างๆตัวเองและครอบครัว... เราเลยได้คำตอบว่าทำไมหมู่บ้าราคาคาแพงโคตรๆ(เช่นหลังละ 10 ล้านขึ้นไป)ถึงได้ขายดิบขายดี... โหย...

ก็เพราะยอมเสียเงินแยะเพื่อเลือกเพื่อนบ้าน(หวังว่า)ที่ดีๆ... แต่ก็ไม่แน่ อาจเจอคนเอาเปรียบเก่ง ไปสุมหัวกันอยู่ในนั้น... ฮา...

เนี่ยนะ, หากกฎหมายศักดิ์สิทธิ์ เรื่องมันก็เป็นอีกแบบนึง... แต่ประเด็นคือกฎหมายบังคับไม่ไหว เพราะคนโง่มันแยะเกิ๊นนน... ฮา...
บันทึกการเข้า
กรรมกร
+แล้วนะคับ ... อย่าลืมทอนด้วยนะคับ 555
Hero Member
*****

คะแนน -964
ออฟไลน์

กระทู้: 1293



« ตอบ #23 เมื่อ: มกราคม 24, 2012, 09:29:58 AM »

ประเทศที่มีแต่คนโง่ๆ ... และบริหารโดยคนเห็นแก่ตัว ... Thailand only   หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

ไร้คำกล่าว............................................
prawin -รักในหลวง-
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 273
ออฟไลน์

กระทู้: 1218



« ตอบ #24 เมื่อ: มกราคม 24, 2012, 09:54:39 AM »

ถามพี่สมชายครับ อิอิ

ในบ้านเราไม่มีวิธีที่จะทำให้คนไม่รู้กลับมาเป็นคนรู้แจ้งได้เลยเหรอครับ ?  เศร้า

-คนไม่รู้เขาจะมีเงินมาจับจ่ายซื้อของพอที่จะให้เราพอเก็บหรือ? เหมือนรีดเลือดกับปูยังไงก็ไม่รู้ แต่ก็นะเอ็นดูเขาเอ็นเราจะขาด อิอิ
-ไม่มีเงินจะไปซื้อบ้านราคาขนาดนั้น (แต่พี่คงหมายถึงหมู่บ้านที่อยู่ในเมืองใหญ่) แต่ชีวิตจริงก็ต้องตื่นมาเจอคนไม่รู้อีกมากมายในตอนกลางวันเหนื่อยเหมือนเดิม  Grin

ถ้าในวันนี้สังคมยังเป็นแบบนี้...แล้วในอนาคตลูกหลานเราจะอยู่กันอย่างไร? แต่ก็หวังลึกๆว่าก่อนเราจะเจ็บคนไม่รู้ก็จะต้องเจ็บก่อนเรา แล้วก็คงจะกลับมาคิดได้ คิดเป็น สาธุ  เยี่ยม

บันทึกการเข้า

คนดีไม่มีคำว่าเป็นกลาง เพราะคนดีแยกแยะความผิด ความชั่ว และความดีออกจากกันได้
เมื่อเราเป็นคนดี และเราเห็นอยู่แล้วว่าอะไรดี อะไรชั่ว  แล้วเราจะยืนอยู่เป็นกลางได้อย่างไร
การเป็นกลางในสภาวะที่แข่งกันระหว่างความดีและความชั่ว เรียกว่าความกลัวแห่งคนขี้ขลาด
หยุดกลัว หยุดขี้ขลาด

อ.เสรี วงษ์มณฑา 18/11/5
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #25 เมื่อ: มกราคม 24, 2012, 10:44:22 AM »

ถามพี่สมชายครับ อิอิ

ในบ้านเราไม่มีวิธีที่จะทำให้คนไม่รู้กลับมาเป็นคนรู้แจ้งได้เลยเหรอครับ ?  เศร้า

-คนไม่รู้เขาจะมีเงินมาจับจ่ายซื้อของพอที่จะให้เราพอเก็บหรือ? เหมือนรีดเลือดกับปูยังไงก็ไม่รู้ แต่ก็นะเอ็นดูเขาเอ็นเราจะขาด อิอิ
-ไม่มีเงินจะไปซื้อบ้านราคาขนาดนั้น (แต่พี่คงหมายถึงหมู่บ้านที่อยู่ในเมืองใหญ่) แต่ชีวิตจริงก็ต้องตื่นมาเจอคนไม่รู้อีกมากมายในตอนกลางวันเหนื่อยเหมือนเดิม  Grin

ถ้าในวันนี้สังคมยังเป็นแบบนี้...แล้วในอนาคตลูกหลานเราจะอยู่กันอย่างไร? แต่ก็หวังลึกๆว่าก่อนเราจะเจ็บคนไม่รู้ก็จะต้องเจ็บก่อนเรา แล้วก็คงจะกลับมาคิดได้ คิดเป็น สาธุ  เยี่ยม

มีวิธีครับ แต่อธิบายหลายชั้นหน่อยครับ... แฮ่ๆ...

ตรรกะมันเป็นแบบนี้ครับ... ต้องกฎหมายบังคับใช้ได้ผล แปลว่าประเทศสงบรุ่งเรืองน่าอยู่ เพราะกฎหมายคือผลสุดท้ายทีละขั้นตอนเบาไปหนักจาก ค่านิยม(Value) ปทัสถาน(Norm) และจารีตกับวิถีประชา(folkways)...

หรืออาจอธิบายแบบบ้านๆว่า สังคมจะบังคับกันเองให้อยู่ร่วมกันได้ ส่วนประกอบของสังคมต้องเรียนรู้วิธีอยู่ร่วมกัน และจะมีมาตรการบังคับกันเองเป็นชั้นๆ จนในที่สุดบังคับแรงสุดเพราะมีบทลงโทษด้วย... นั่นคือกฎหมายครับ, ดังนั้นกฎหมายคือผลสรุปรวบยอดขั้นสุดท้ายของวัฒนธรรม เพราะแต่ละคนไม่ต้องไปเริ่มคิดใหม่ เหมือนเรียนวิชาฟิสิคส์ไม่ต้องคิดหาสูตรนิวตั้นกันใหม่(ว่าทำไมแอปเปิ้ลตกใส่หัว)...

ทีนี้ประเทศไทยเรามีปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎหมายเพราะคนเจ้าอารมณ์... การบังคับใช้กฎหมายของประเทศไทยต้องมีการให้ความรู้ว่าเหตุผลที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ประชาชนถึงได้ยอมทำตาม, ตัวอย่างเช่นจะบังคับให้สวมหมวกกันน็อค ก็ต้องรณรงค์กันใหญ่โต ให้กลัวกันเสียก่อน ม่ายงั้นสิงห์มอเตอร์ไซค์จะยอมตายเพื่อไม่ใส่ฯ...

ที่จริงตัวกฎหมายนั่นแหละคือเหตุผลให้"ต้องทำ" เพราะแปลว่าเรื่องราวทั้งหลายแหล่จะได้ไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่... เพราะการที่กฎหมายบังคับ(และมีโทษ) ทุกคนจะได้ไม่ต้องเริ่มคิดกันใหม่ แต่ให้ทำตามสูตรเลย อย่าไปพยายามคิดสูตรใหม่ด้วยตนเอง, กระบวนการ"คิดสูตรใหม่"นี้เปลืองพลังงานของสังคมมาก เพราะทุกคนจะลองผิดลองถูกกันถกเถียงตลอด แต่ในที่สุดก็ได้ผลลัพธ์เหมือนเดิม(แล้วจะเริ่มนับหนึ่งกันทำไม)...

ประเทศไทยเปลืองทรัพยากรมากเสียจนกระทั่งพัฒนาเรื่องใหม่ไม่ได้... คล้ายกับเราจะทำอะไรสักอย่างหนึ่งที่วางแผนเอาไว้แล้ว แต่เวลาเริ่มทำกลับไม่ทำตามแผน พยายามคิดใหม่ทำใหม่ แล้วก็ลองผิดลองถูกกันใหม่เหมือนกับเริ่มต้นใหม่...

นายสมชายสรุปว่าเริ่มต้นที่บังคับใช้กฎหมายให้ได้ผลครับ... เริ่มตรงนี้เลย แล้วทุกอย่างจะเป็นไปตามระบบ(ตามสูตรที่คิดไว้แล้ว) ผู้คนจะฉลาดขึ้นเพราะมีเวลาเหลือแยะ ไม่ต้องลองผิดลองถูก ไม่ต้องมาแก้ไขเมื่อเดินตกหลุมตกท่ออันเกิดจากทดลองเดินเส้นทางใหม่ที่ลองเดินฯ...

แล้วในที่สุดทุกองคาพยพของสังคมจะได้เวลา+ทรัพยากรที่เหลือไปเรียนรู้สิ่งใหม่ เพราะสังคมไม่ว่อกแวก... ผู้คนจะฉลาดขึ้น ทำนองเดียวกับลำดับขั้นการเรียนรู้คือ ศีล(ไม่ต้องคิดใหม่ แต่ให้ทำตามสูตร) สมาธิ(มีเวลา+ทรัพยากรเหลือไปพิจารณาเรื่องใหม่) ปัญญา(พบแสงสว่างแก้ปัญหา)...

นายสมชายอธิบายสรุปรวบยอดครับ, เรื่องนี้จะว่าไปแล้วมันคือ 3 หน่วยกิตในมหาลัยมาตรฐานครับ... หากสงสัยสามารถถามต่อได้ครับ... แฮ่ๆ...
บันทึกการเข้า
กรรมกร
+แล้วนะคับ ... อย่าลืมทอนด้วยนะคับ 555
Hero Member
*****

คะแนน -964
ออฟไลน์

กระทู้: 1293



« ตอบ #26 เมื่อ: มกราคม 24, 2012, 05:04:49 PM »

หลักวิชาการ กับความเป็นจริงที่เป็นไปในสังคม ดูเหมือนมันไม่ค่อยจะไปด้วยกันเท่าไหร่
เรามีนักคิด นักวิชาการ นักวิจารณ์ รวมไปถึง นักคัดค้าน ที่ออกมานำเสนอในรูปแบบต่างๆมากมาย
สุดท้าย ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นแค่ลมปาก เป็นแค่ตัวหนังสือ เป็นแค่ข่าวรายวัน
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปประชาชนแค่ "ได้รับรู้" แต่ทำอะไรไม่ได้
ยกตัวอย่าง สิ่งที่อยากเห็นมากๆ แต่คงไม่มีทางได้เห็นแน่นอน
เรื่องการทุจริต คอรัปชั่น เป็นไปได้ไหม ว่าถ้ามีองค์กรที่เป็นกลางและอิสระ มีตัวแทนจากภาคส่วน สาขาอาชีพต่างๆ ไว้คอยจัดการ
เลือกกันมาเหมือนคณะลูกขุน ให้ทำหน้าที่แยกกันไปเป็นเรื่องๆ อาจจะมี 50 - 60 คณะ ก็ไม่เป็นไร เกิดคดีขึ้นมาก็คัดเลือก เลือกตั้งกันมา
ถ้าพิสูจน์แล้ว หรือมีหลักฐานชัดเจน ให้ติดคุกซัก 20 ปีก็ได้ ไม่ต้องถึงกับฆ่าแกงกัน แต่ต้อง 20 ปีเต็มนะ ไม่มีลด ไม่มีอภัย
เรื่องยาเสพติด เอาแบบสิงคโปร์มั้ย จับได้ 20 เม็ด หรือ 20 กรัมขึ้นไป ประหารสถานเดียว ไม่ต้องลด ไม่ต้องอภัย ดูซิใครจะกล้า วัดใจกันไปเลย
คนไม่ได้ทำ คนไม่เกี่ยวข้อง ผมว่าไม่มีใครคัดค้านหรอก กลัวแต่ไอ้พวก "ตัวใหญ่ๆ" ที่ใส่สูทเดินอยู่ในหมู่ผู้ทรงเกียรตินั่นแหล่ะมันจะไม่ยอม   โดนชก โดนชก โดนชก
บันทึกการเข้า

ไร้คำกล่าว............................................
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #27 เมื่อ: มกราคม 24, 2012, 05:18:45 PM »

หลักวิชาการ กับความเป็นจริงที่เป็นไปในสังคม ดูเหมือนมันไม่ค่อยจะไปด้วยกันเท่าไหร่
เรามีนักคิด นักวิชาการ นักวิจารณ์ รวมไปถึง นักคัดค้าน ที่ออกมานำเสนอในรูปแบบต่างๆมากมาย
สุดท้าย ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นแค่ลมปาก เป็นแค่ตัวหนังสือ เป็นแค่ข่าวรายวัน
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปประชาชนแค่ "ได้รับรู้" แต่ทำอะไรไม่ได้
ยกตัวอย่าง สิ่งที่อยากเห็นมากๆ แต่คงไม่มีทางได้เห็นแน่นอน
เรื่องการทุจริต คอรัปชั่น เป็นไปได้ไหม ว่าถ้ามีองค์กรที่เป็นกลางและอิสระ มีตัวแทนจากภาคส่วน สาขาอาชีพต่างๆ ไว้คอยจัดการ
เลือกกันมาเหมือนคณะลูกขุน ให้ทำหน้าที่แยกกันไปเป็นเรื่องๆ อาจจะมี 50 - 60 คณะ ก็ไม่เป็นไร เกิดคดีขึ้นมาก็คัดเลือก เลือกตั้งกันมา
ถ้าพิสูจน์แล้ว หรือมีหลักฐานชัดเจน ให้ติดคุกซัก 20 ปีก็ได้ ไม่ต้องถึงกับฆ่าแกงกัน แต่ต้อง 20 ปีเต็มนะ ไม่มีลด ไม่มีอภัย
เรื่องยาเสพติด เอาแบบสิงคโปร์มั้ย จับได้ 20 เม็ด หรือ 20 กรัมขึ้นไป ประหารสถานเดียว ไม่ต้องลด ไม่ต้องอภัย ดูซิใครจะกล้า วัดใจกันไปเลย
คนไม่ได้ทำ คนไม่เกี่ยวข้อง ผมว่าไม่มีใครคัดค้านหรอก กลัวแต่ไอ้พวก "ตัวใหญ่ๆ" ที่ใส่สูทเดินอยู่ในหมู่ผู้ทรงเกียรตินั่นแหล่ะมันจะไม่ยอม   โดนชก โดนชก โดนชก

ไม่ต้องคิดใหม่หรอกครับ... เอาตำรวจกับองค์กรที่มีอยู่นั่นแหละครับนั่นแหละจับให้หมด เรื่องบู๊ๆก็เอา สวป. วิ่งไล่จับ, เรื่องเศรษฐกิจก็เอาตำรวจเศรษฐกิจจับ, เรื่องคอมพิวเตอร์ก็เอาตำรวจคอมพิวเตอร์ไล่จับ, เรื่องคดีพิเศษก็เอา DSI จับ, ฯลฯ...

ทุกเรื่องมีองค์กรรองรับหมดแหละครับ... ที่ว่า"เรื่องวิชาการกับความเป็นจริงไม่ค่อยจะไปด้วยกันเท่าไหร่"นี่แหละคือ"พยายามคิดสูตรใหม่"ที่ว่าแหละครับ...

เชื่อใหม่ หากมีคน 100 คนมานั่งคิด... เดี๋ยวมันจะมี 100 สูตร, แล้ว 100 สูตรที่ว่านั่นพอเรื่องซาลงไป มันก็จะมีสูตรใหม่อีก 100 สูตรนั่นแหละจากผู้คน"รอบใหม่"... ฮา...

เอาง่ายๆครับ, ประมวลกฎหมายอาญา กับกฎจราจร สองอย่างนี่เอาก่อนเลย... 2 เรื่องนี้สำคัญที่สุดแล้ว เพราะ 2 เรื่องนี้มัน"ถึงตายในชีวิตประจำวันครับ", ส่วนเรื่องอื่นรับรองว่าไกลตัวจากนี้ไปอีกชั้นหนึ่ง...
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #28 เมื่อ: มกราคม 24, 2012, 05:24:33 PM »

เรื่องยาเสพติดนี่ก็เหมือนกัน... กฎหมายที่มีอยู่นี่แหละ ไม่ต้องไปเลียนแบบสิงคโปร์หรอก เจอตัวเล็กจับตัวเล็ก เจอตัวใหญ่จับตัวใหญ่, จับสักพักเดียวมันเลิกกันหมดไปหาวิธีทำมาหากินวิธีใหม่(อาจตามจับวิธีใหม่อีกก็ได้)...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 24, 2012, 05:34:40 PM โดย นายสมชาย(ฮา) - รักในหลวง » บันทึกการเข้า
แอบดูที่รูเดิม
เกิดเป็นคน ควรรู้จักกตัญญู
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 622
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3747


ปลวกน้อยกัดกินบ้าน..นักการเมืองคอรัปชั่นกัดกินชาติ


« ตอบ #29 เมื่อ: มกราคม 24, 2012, 05:39:29 PM »

บอกแล้วไง... ในสังคมไทยคนโง่มันแยะ วิธีอยู่ให้มีความสุขต้องทำ 2 อย่าง...

1) อาศัยช่องว่างจากคนโง่มาทำมาหาเงิน, 2) หาวิธีกันคนโง่ให้อยู่ห่างๆตัวเองและครอบครัว... เราเลยได้คำตอบว่าทำไมหมู่บ้าราคาคาแพงโคตรๆ(เช่นหลังละ 10 ล้านขึ้นไป)ถึงได้ขายดิบขายดี... โหย...

ก็เพราะยอมเสียเงินแยะเพื่อเลือกเพื่อนบ้าน(หวังว่า)ที่ดีๆ... แต่ก็ไม่แน่ อาจเจอคนเอาเปรียบเก่ง ไปสุมหัวกันอยู่ในนั้น... ฮา...

เนี่ยนะ, หากกฎหมายศักดิ์สิทธิ์ เรื่องมันก็เป็นอีกแบบนึง... แต่ประเด็นคือกฎหมายบังคับไม่ไหว เพราะคนโง่มันแยะเกิ๊นนน... ฮา...

จริงครับ หนีไปไหนไม่พ้นง่ายๆหรอก สังคมไทยสอนกันว่าอย่าให้ใครเอาเปรียบ จนมันกลายเป็นไปเอาเปรียบคนอื่นเสียนี่
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.073 วินาที กับ 22 คำสั่ง