พรุ่งนี้จะยื่นอุทธรณ์คำสั่งนายทะเบียน

[พราน]

แฟนผมได้ยื่นขอรับโอนอาวุธปืนขนาด.45โคลท์ S70 นายทะเบียนแจ้งไม่อนุญาตเพราะเป็นประชาชนธรรมดาอาวุธปืนดังกล่าวอนุญาตเฉพาะทหารและตำรวจเจ้าหน้าที่ถามว่าทำไมไม่โอนเป็นชื่อผม ผมก็เลยแจ้งเขาไปว่าถ้าเป็นชื่อผมแฟนผมก็ไม่มีสิทธิใช้ปืนกระบอกดังกล่าวผมขออุทธรณ์คำสั่งจะไปยื่นหนังสือพรุ่งนี้ขอเรียนปรึกษาท่านสุพินท์ผมร่างหนังสืออุทธรณ์ดังนี้ถ้าบกพร่องขอคำแนะนำด้วยครับจะได้แก้ไขก่อนไปยื่น
                 
 มกราคม   2549
เรื่อง   อุทธรณ์คำสั่งนายทะเบียนอาวุธปืน

เรียน   รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย(ผ่านนายทะเบียนอาวุธปืน.........)

อ้างถึง   แบบ ป.1ฉบับลงวันที่  26   ธันวาคม   2548

1. ข้อเท็จจริง
1.1 ตามเอกสารที่อ้างถึง เมื่อวันที่  26  ธันวาคม  2548 ข้าพเจ้าได้ยื่นคำร้องขอซื้ออาวุธปืน ซึ่งนายทะเบียนอาวุธปืนอำเภอ......ได้พิจารณาคำขอและมีคำสั่งไม่อนุญาตโดยอ้างเหตุผลว่า”ปืนที่ขออนุญาตเป็นขนาดที่ใหญ่เกินไปจะอนุญาตให้กับข้าราชการฝ่ายปราบปราม(ทหาร,ตำรวจ)เท่านั้นไม่อนุญาตให้กับประชาชนธรรมดา”
1.2 อาวุธปืนที่ขอรับซื้อเป็นอาวุธปืนที่นายทะเบียนสามารถออกใบอนุญาตให้ได้ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯและกฎกระทรวงฉบับที่ 11และเป็นอาวุธปืนซึ่งมีใบอนุญาตให้มีและใช้อยู่แล้ว
1.3 นายทะเบียนอาวุธปืนอำเภอสารภีไม่ได้แจ้งการปฏิเสธคำขอของข้าพเจ้าเป็นหนังสือตามที่พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯมาตรา 63 กำหนดไว้และไม่ได้แจ้งกรณีที่อาจอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองตลอดจนระยะเวลาในการอุทธรณ์คำสั่งอันเป็นการฝ่าฝืนต่อมาตรา 40 แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539
2. ข้าพเจ้าขออุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตให้รับโอนอาวุธปืนของนายทะเบียนอาวุธปืนอำเภอ....เป็นคำสั่งที่มิชอบด้วยกฏหมายดังเหตุผลต่อไปนี้
2.1 เป็นคำสั่งทางปกครองที่ไม่ระบุข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญและไม่ระบุข้อกฏหมายที่อ้างอิงขัดต่อ พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 มาตรา 37
2.2 เหตุผลที่ระบุว่า” ปืนที่ขออนุญาตเป็นขนาดที่ใหญ่เกินไปจะอนุญาตให้กับข้าราชการฝ่ายปราบปราม(ทหาร,ตำรวจเท่านั้น)”มิใช่เหตุผลตามที่ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯบัญัติไว้จึงเป็นเหตุผลที่นายทะเบียนอาวุธปืนอำเภอ.....กำหนดขึ้นเองโดยปราศจากข้อกฎหมายรองรับโดยนัยตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่646-647/2510และนายทะเบียนอาวุธปืนไม่มีอำนาจกำหนดว่าอาวุธปืนใดร้ายแรงเกินกว่าที่ประชาชนจะได้รับใบอนุญาต เพราะเป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯมาตรา 6และมาตรา 55 ที่จะออกข้อจำกัดนี้เป็นกฎกระทรวงอีกทั้งอาวุธปืนที่ขออนุญาตก็เป็นอาวุธปืนที่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดของกฎกระทรวงฉบับที่ 11 ที่มีผลบังคับใช้อยู่ในปัจจุบันและปืนที่ขอรับโอนก็เป็นปืนที่มีใบอนุญาตอยู่แล้ว อนึ่งการที่บอกว่าอนุญาตให้เฉพาะข้าราชการฝ่ายปราบปราม(ทหาร,ตำรวจ)นั้นเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมเพราะโดยข้อกฎหมายข้าราชการที่ขออนุญาตซื้อปืนจะเป็นการขออนุญาตในฐานะประชาชนดังนั้นการอ้างเหตุดังกล่าวจึงเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมด้วยเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องสถานะของบุคคลขัดต่อรัฐธรรมณูญ มาตรา 30
2.3 การที่ข้าพเจ้าขอรับใบอนุญาตซื้อ/รับโอนอาวุธปืนขนาด.45เพื่อใช้ป้องกันตัวเนื่องจากเป็นกระสุนที่มีความแม่นยำสูง สามารถใช้ป้องกันตัวได้โดยไม่ผิดพลาดไปทำอันตรายผู้ไม่เกี่ยวข้อง และกระสุนขนาด.45 เป็นกระสุนหน้าตัดใหญ่แต่ความเร็วต่ำทำให้ข้าพเจ้าซึ่งเป็นผู้หญิงสามารถที่จะควบคุมอาวุธปืนขนาดดังกล่าวได้ดีกว่าขนาดอื่นส่วนกระสุนขนาดที่นายทะเบียนแนะนำให้ใช้คือขนาด 9 มม.เป็นกระสุนหน้าตัดเล็กแต่เป็นกระสุนความเร็วสูงทะลุเป้าหมายได้ง่ายและหากยิงพลาดไปถูกของแข็งจนหัวกระสุนแฉลบ หัวกระสุนที่เสียทิศทางไปแล้วก็ยังทำอันตรายถึงเสียชีวิตได้ นอกจากนั้นกระสุน 9 มม.ยังมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา นำติดตัวไปได้มากจึงเป็นกระสุนที่ทหารส่วนใหญ่เลือกใช้ประจำการในกองทัพ ส่วนข้าพเจ้าเป็นประชาชนธรรมดาต้องการอาวุธปืนที่บรรจุกระสุนได้เพียงห้าถึงเจ็ดนัดก็เพียงพอสำหรับการป้องกันตัวแล้ว อาวุธปืนขนาดที่นายทะเบียนอาวุธปืนแนะนำจึงควรเป็นอาวุธปืนสำหรับข้าราชการฝ่ายปราบปราม(ทหาร,ตำรวจ)
ข้าพเจ้าจึงขอความกรุณารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้โปรดพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ให้นายทะเบียนอาวุธปืนอำเภอ......ออกใบอนุญาตให้ข้าพเจ้าซื้อ/รับโอนอาวุธปืนตามที่ข้าพเจ้าร้องขอ


ขอแสดงความนับถือ

                                                        (......................................)

[พราน]

ลืมบอกไปครับแฟนผมทำธุรกิจส่วนตัวยื่นหลักฐานทรัพย์สินในครอบครองแสดงต่อนายทะเบียนมูลค่า 10 ล้านบาท

[Don Quixote]

ส่วนตัวผมว่าในข้อสุดท้ายไม่ต้องเพิ่มไปก็ได้ครับ เพราะว่าเข้าทำนองเหตุผลส่วนตัวซึ่งอาจทำให้ถูกใช้อ้างอิงในการขอขนาด 9 มม. ต่อไป

[Desperado - รักในหลวง]

เป็นกำลังใจครับ รับโอนลอย .45 มาอยู่เหมือนกัน

[จอยฮันเตอร์]

สะใจดีครับ สงสัยนายทะเบียนรับคำร้องเสร็จ คงทำหน้าเจื่อนๆ ส่วนข้อสุดท้ายผมเห็นด้วยกับคุณ Law Enforcement

[สุพินท์ - รักในหลวง]

1. ข้อเท็จจริง
1.1 ตามเอกสารที่อ้างถึง เมื่อวันที่  26  ธันวาคม  2548 ข้าพเจ้าได้ยื่นคำร้องขอซื้ออาวุธปืน ซึ่งนายทะเบียนอาวุธปืนอำเภอ......ได้พิจารณาคำขอและมีคำสั่งไม่อนุญาตโดยอ้างเหตุผลว่า”ปืนที่ขออนุญาตเป็นขนาดที่ใหญ่เกินไปจะอนุญาตให้กับข้าราชการฝ่ายปราบปราม(ทหาร,ตำรวจ)เท่านั้นไม่อนุญาตให้กับประชาชนธรรมดา”
1.2 อาวุธปืนที่ขอรับซื้อเป็นอาวุธปืนที่นายทะเบียนสามารถออกใบอนุญาตให้ได้ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯและกฎกระทรวงฉบับที่ 11 และเป็นอาวุธปืนซึ่งมีใบอนุญาตให้มีและใช้อยู่แล้ว
1.3 นายทะเบียนอาวุธปืนอำเภอสารภีไม่ได้แจ้งการปฏิเสธคำขอของข้าพเจ้าเป็นหนังสือตามที่พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯมาตรา 63 กำหนดไว้และไม่ให้โอกาสข้าพเจ้าได้ทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอและมีโอกาสได้โต้แย้งและแสดงพยานหลักฐานของตน ตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 มาตรา 30 อีกทั้งไม่ได้แจ้งกรณีที่อาจอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองตลอดจนระยะเวลาในการอุทธรณ์คำสั่งอันเป็นการฝ่าฝืนต่อมาตรา 40 แห่งกฎหมายดังกล่าว   
2. ข้าพเจ้าขออุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตให้รับโอนอาวุธปืนของนายทะเบียนอาวุธปืนอำเภอ....เป็นคำสั่งที่มิชอบด้วยกฏหมายดังเหตุผลต่อไปนี้
2.1 เป็นคำสั่งทางปกครองที่ไม่ระบุข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญและไม่ระบุข้อกฏหมายที่อ้างอิงขัดต่อ พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 มาตรา 37
2.2 เหตุผลที่ระบุว่า” ปืนที่ขออนุญาตเป็นขนาดที่ใหญ่เกินไปจะอนุญาตให้กับข้าราชการฝ่ายปราบปราม(ทหาร,ตำรวจเท่านั้น)”   เป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ด้วยเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องสถานะของบุคคล  จึงเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ฝ่าฝืนต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 30 วรรคสาม   นอกจากนั้นยังมิใช่เหตุผลตามที่ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ บัญญัติไว้จึงเป็นเหตุผลที่นายทะเบียนอาวุธปืนอำเภอ.....กำหนดขึ้นเองโดยปราศจากข้อกฎหมายรองรับโดยนัยตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 646-647/2510และนายทะเบียนอาวุธปืนไม่มีอำนาจกำหนดว่าอาวุธปืนใดร้ายแรงเกินกว่าที่ประชาชนจะได้รับใบอนุญาต เพราะเป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯมาตรา 6และมาตรา 55 ที่จะออกข้อจำกัดนี้เป็นกฎกระทรวงอีกทั้งอาวุธปืนที่ขออนุญาตก็เป็นอาวุธปืนที่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดของกฎกระทรวงฉบับที่ 11 ที่มีผลบังคับใช้อยู่ในปัจจุบันและปืนที่ขอรับโอนก็เป็นปืนที่มีใบอนุญาตอยู่แล้ว  อีกทั้งยังขัดต่อหลักเกณฑ์ตามหนังสือกระทรวงมหาดไทยที่ มท 0313/5475  ลงวันที่ 5 เมษายน 2519 ซึ่งกำหนดว่าอาวุธปืนที่มีอานุภาพร้ายแรงได้แก่อาวุธปืนที่ใช้สำหรับในการสงคราม หรืออาวุธปืนที่ระบุห้ามไว้ตามกฎกระทรวง  อีกด้วย
ข้าพเจ้าจึงขอความกรุณารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้โปรดพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ให้นายทะเบียนอาวุธปืนอำเภอ......ออกใบอนุญาตให้ข้าพเจ้าซื้อ/รับโอนอาวุธปืนตามที่ข้าพเจ้าร้องขอ

เรื่องเปรียบเทียบกับ 9 มม.  ไม่ต้องใส่หรอกครับ  ที่ของเดิมมีเพราะนายทะเบียนเขาเสนอเปลี่ยน.45 เป็น 9 มม.

[พราน]

ขอขอบพระคุณท่านผู้การสุพินท์มากครับเดี๋ยวผมจะพาแฟนไปยื่นอุทธรณ์ในวันพรุ่งนี้ครับนายทะเบียนเขาก็แนะนำนะครับว่าให้ยื่นรับโอนในชื่อของผมแต่ผมคิดว่ามันไม่ถูกปืนใครมีหรือใช้ก็ควรที่จะเป็นคนนั้นรับใบอนุญาตจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องปืนผิดมือทีหลังและนายทะเบียนท่านก็บอกว่าท่านถือปฏิบัติเช่นนี้มาตลอดในการอนุญาตขนาด.357และ.45ขนาดอื่นๆท่านบอกไม่มีปัญหา

[STeelShoTS]

เอาใจช่วยคุณ PRAN ครับ

[muk]

เป็นกำลังใจให้คุณ PRAN ครับ

[joonjan]

ขออวยพรปีใหม่ให้ประสบความสำเร็จนะครับ

[ปืน]

มันต้องมีแบบนี้บ้างไช่ว่าเจ้าหน้าที่รัฐชี้ซ้ายก็ต้องซ้าย ชี้ขวาก็ต้องขวา มันน่าจะหมดไปได้แล้วการศึกษาของประชาชนก็มีไม่น้อยเหมือนสมัยก่อนแล้ว ข่าวสารก็มี การสื่อสารก็รวดเร็ว แต่ดุลพินิจของเจ้าพนักงานยังเป็นเต่าล้านปีอยู่ พอใจก็ให้ไม่พอใจก็ไม่ให้ อารมภ์ดีก็ให้ ทะเลาะกับคนที่บ้านก็ไม่ให้ จะมีปืนที่ถูกต้องสักกระบอกๆล่ะเป็นหมื่นๆแสนๆมีไม่ได้ แต่โจรที่มีอยู่เต็มบ้านเต็มเมืองไม่ต้องขออยากพกอยากปล้นอยากทำร้ายใครไม่ต้องขออนุญาติใคร แล้ววันหนึ่งความรู้จริงและความกล้าจะทำให้ข้าราชการที่เห็นประชาชนเป็นคนโง่จะลดความเข้มข้นของมุมมองเขาเปลี่ยนไป สู้ครับ

[ekkawit]

ผมขอเป็นกำลังใจให้นะครับ

[bbgun]

เรียน   รัฐมนตรี....ว่าการ....กระทรวงมหาดไทย(ผ่านนายทะเบียนอาวุธปืน.........)

[sutin999]

เอาใจช่วยคุณ PRAN ครับ

[kaew28]

สู้ๆ ครับ