เรื่องแต่งปืนมันเป็นศาสตร์และศิลป์ เหมือนการทำลูกชิ้น สูตรเดียวกันบางคนทำมาอร่อยบางคนทำไม่ได้เรื่อง กัดคำเดียวแล้วบ้วนใส่หัวหมา หมายังโยกหัวหลบ
มันต่างกันที่รายละเอียดเล็กๆน้อย ที่ต่างกันไป ซึ่งปืนแต่ละกระบอกไม่เหมือนกัน ดังนั้นเจ้าของปืนก็ต้องค้นหารายละเอียดเหล่านี้เอาเอง
สิ่งที่เอามาบอกต่อกันก็แค่ช่วยย่นระยะเวลาในการค้นหา แต่ความสนุกส่วนหนึ่ง (หรือส่วนมากสำหรับบางคน) ก็คือการได้ค้นหานี่แหละ
อยากได้ปืนแม่นๆ ต้องกล้าครับ
กล้าคิด กล้าลอง กล้าเสียเวลา หรือแม้แต่กล้าเสียเงิน ถ้าไม่มีใครกล้า รอถามอย่างเดียว รับรองว่าโลกเราจะไม่มีความรู้ใหม่เกิดขึ้นมา
อย่างเช่นพี่ตุ๊หรือ อาจารย์ตุ๊ที่หลายๆ คนเรียกกัน เค้ากล้าทำทั้งหมดที่บอกมานี่แหละ ไม่ใช่ว่านั่งจิบเหล้าเฉยๆ แล้วพี่แกจะเทพรู้ไปหมดทุกอย่าง ลองผิดลองถูกมาเยอะถึงมีวันนี้
การจะลองอะไรต้องทำอยู่บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ คิดถึงชั่วโมงทดลองวิทยาศาสตร์ ต้องมีสมมุติฐาน ต้องจำกัดตัวแปร ต้องมีการเปรียบเทียบและต้องมีวิธีวัดผล
เขียนให้อ่านกันซักเรื่องหนึ่ง ลูกปืน ผมไม่ใช่วิศวะกร เรื่องที่ผมจะเขียนนี้มาจากการอ่านเอาจากหลายๆ ที่ แล้วมาสรุปเอาเป็นความคิดของผมเอง เป็นไปได้ที่จะมีความผิดพลาด
ท่านใดมีความเห็นแตกต่างหรือข้อแนะนำผมก็ยินดีรับฟังครับ แต่ขอให้เป็นแนวสร้างสรรค์หน่อยแล้วกัน
สมมุติว่าปืนมันดีอยู่แล้ว ยิงด้วยแรงดันลมและปริมาตรเท่ากันหรือใกล้เคียงกันทุกครั้ง สิ่งที่เป็นตัวแปรลำดับต่อมาคือลูกปืน
ว่ากันด้วยลูกปืน มันก็มีตัวแปรของมันเอง รูปทรง น้ำหนัก ขนาดหัวลูก ความสม่ำเสมอของรูปทรง
เป็นข้อสรุปที่ค่อนข้างแน่ชัดว่าลูกปืนหัวมนให้ความแม่นยำที่สุด โดยเฉพาะการยิงระยะไกลๆ
มีลูกหลายสิบยี่ห้อที่ทำลูกหัวมน แล้วยี่ห้อไหนเหมาะกับปืนเรา
อันนี้แหละที่ต้องไปลองกันเอาต่อ
โชคดีว่าบ้านเรามีให้ลองไม่เยอะ และสมาชิกที่ลองแล้วถ้ามาบอกต่อก็จะช่วยได้อีกแรง อาจจะไม่เจอลูกที่ดีที่สุดเหมือนที่ต่างประเทศเค้ามีใช้ แต่ก็คงดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ในบ้านเรา
ตัวแปรตัวต่อไปคือน้ำหนักลูก ซึ่งมันก็จะช่วยเราจำกัดตัวเลือกให้น้อยลง
อันดับแรกต้องมาทำความเข้าใจกับธรรมชาติของลูกปืนอัดลมก่อนว่า เค้าออกแบบมาให้ หัวมน เอวคอด กระโปงบาน (ทรงโคโยตี้เลยนะเนี่ย
) เพื่อให้มันมีแรงต้าน
เหมือนขนนกที่หางลูกธนู หรือพู่ท้ายลูกดอก เพื่อให้ลูกวิ่งได้เสถียรในแนววิ่ง ไม่หันหัวออกไปนอกทิศทาง เมื่อมันออกแบบมาอย่างนี้ ลูกจะเสียความเร็วเยอะมาก พักไว้ตรงนี้ก่อน
มาดูที่ความเร็วลูก ผมเคยอ่านเจอว่าลูกถ้าวิ่งจากปากกระบอกไปถึงเป้าหมายที่ความเร็วต่ำกว่าเสียง (subsonic) ลูกวิ่งได้เสถียร
ลูกวิ่งออกจากปากกระบอกด้วยความเร็วเหนือเสียง และกระทบเป้าที่ความเร็วเหนือเสียง (supersonic) ลูกก็ยังเสถียรอยู่
แต่ถ้าลูกวิ่งออกจากปากกระบอกด้วยความเร็วเหนือเสียง (> 1125 ft/s ) และสูญเสียความเร็วไปจนเหลือระดับต่ำกว่าความเร็วเสียงก่อนกระทบเป้า มันจะไม่แม่น
ช่วงความเร็วที่อยู่ตรงกลาง ประมาณ 9xx - 10xx ft/s (transonic) คาบลูกคาบดอกนี่แหละตัวการสำคัญ เพราะเกิดแรงสั่นสะเทือนจากม่านอากาศ
กลับไปอ่านย่อหน้าด้านบนอีกครั้ง จะเริ่มมองเห็นว่าถ้าเราอยากจะยิงลูกให้เสถียรที่ความเร็วเหนือเสียง มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในปืนอัดลม
เพราะผ่านไปแค่สิบหลาลูกก็จะเสียความเร็วไปกว่า 100 ft/s แล้ว เพราะรูปร่างลูกปืน เมื่อรู้แบบนี้แล้วมีทางเหลือให้เราเลือกแบบเดียวคือยิงที่ความเร็วต่ำกว่าเสียง
จากประสบการณ์ มีอยู่สองย่านความเร็วที่ให้ผลดีสำหรับปืน FAC คือ 860-880 และ 910-920 ขอย้ำนะครับว่ามันไม่ใช่ตัวเลขตายตัวสำหรับปืนทุกกระบอก แค่จากสถิติที่ผมเองเคยเห็นมา
กลับมาที่ปืนของเรา ปืนอัดอากาศ เบอร์สอง ในบ้านเราส่วนใหญ่จะให้ความแรง 30 ft/lbs ซึ่งตัวแปรที่จะได้แรงระดับนี้ก็มีแค่สองตัวคือ น้ำหนักลูก และความเร็วของลูก
เรื่องสูตรหรือโปรแกรมคำนวณขอข้ามไป มีเยอะแยะมากมายในอินเตอร์เน็ต ถ้าแค่นี้หาไม่ได้ก็ไม่ต้องอ่านต่อแล้วครับ
ถ้าสมมุติว่าปืนผมเป็น AA S510 ความแรง 30 ft/lbs แล้วผมอยากยิงลูกให้ได้ความเร็ว ประมาณ 880 ft/s คำนวณย้อนกลับมาผมก็จะได้น้ำหนักลูกคราวๆ ประมาณ 18 gn
หรือ JSB ฝาดำนั่นเอง แต่ถ้าผมใช้ JSB ฝาแดง 15.9 gn ความเร็วก็จะพุ่งไปประมาณ 930 ft/lbs มาถึงจุดนี้น่าจะเริ่มมองเห็นความสัมพันธ์โดยรวม
ความเร็วของลูกทั้งสองแบบนี้ ใกล้เคียงกับย่านความเร็วที่ผมให้ข้อสังเกตุไว้ ก็ไม่แปลกใจที่บางกระบอกยิงฝาแดงได้ดีกว่าฝาดำ แต่อีกกระบอกหนึ่งให้ผลตรงข้ามกัน
หรือบางกระบอกยิงได้ดีทั้งสองแบบ ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าลูกวิ่งความเร็วระดับ 950 ft/lbs ไปแล้วมันจะไม่ค่อยแม่น อย่าเพิ่งเชื่อผมนะครับ ไปลองกันดูก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ
*** ปัญหาของพวกเราน่าจะเป็นเรื่องอุปกรณ์ เพราะคงมีไม่เยอะที่มีเครื่องวัดความเร็วลูก คนอยู่กรุงเทพคงไม่มีปัญหา เพราะที่ชมรมเรามี เอาปืนมาทดสอบได้เลย
ถ้าคิดจะเล่นแบบซีเรียส จริงจัง เครื่องวัดความเร็วสำคัญมากกกกกก เปรียบเสมือนสายฟังเสียงหัวใจที่อยู่ที่คอคุณหมออย่างไรอย่างนั้นเลย
ยังไม่จบ รู้ความแรงปืนแล้ว ได้แบบทรงลูก น้ำหนักลูกก็พอกำหนดได้แล้ว ที่นี้ก็ต้องมาคัดลูกในตลับที่เราซื้อมาอีก
ลูกในตลับเดียวกันก็มีน้ำหนักไม่เท่ากันทุกลูก ต้องใช้ตาชั่งดิจิตอลระดับทศนิยมสามตำแหน่งมาชั่งถึงจะแยกได้
ยกตัวอย่างลูก JSB Exact Heavy .177 มีน้ำหนัก 0.64x - 0.66x กรัม
ข่าวดี ผมลองแยกมาแล้ว เอามายิงก็ไม่เห็นความแตกต่างอย่างเป็นนัยสำคัญ แต่ก็ยังไม่กล้าสรุปเพราะสถานที่ทดสอบและอุปกรณ์มันสร้างตัวแปรอื่นๆ เพิ่มเข้ามา
แต่ถ้าลูกมีน้ำหนักเกินย่านนี้ไป เช่น 0.675 ซึ่งมีหลงมาไม่กี่ลูกในตลับ มันจะเริ่มมีกลุ่มแยกออกมาชัดเจน อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ต้น ต้องลองครับ
การชั่งน้ำหนักลูกโดยรวมแล้วคงไม่ได้ช่วยให้ปืนแม่นไปกว่าเดิม แค่ช่วยจำกัดไอ้ลูกที่ผิดสเป๊คมากๆ ออกไป ถ้าบังเอิญตอนแข่งเราโชคร้ายไปหยิบไอ้ลูกผิดสเป๊คมายิง มันก็จะเพี้ยนแน่นอน
ลูกรุ่นเดียวกัน แต่ผลิตมาต่างเวลากันก็ไม่เหมือนกันแล้ว ต่างกันชนิดมองเห็นได้ด้วยตาปล่าว ไว้ว่างๆ จะถ่ายรูปมาให้ดู
ยิงต่างกันหรือเปล่า
ลองแล้ว แต่ไม่แน่ใจต้องลองต่อไป ตอนนี้ลองอยู่คนเดียว ช่วยๆ กันลองแล้วมาเล่าต่อกันบ้างก็น่าจะดีนะ
บางคนล้างและเคลือบลูกปืนด้วย น้ำมันที่เอามาเคลือบก็หลากหลาย ยังอยู่ในขั้นทดลองเช่นกันว่าน้ำมันอะไรให้ผลดีที่สุด
อีกครั้ง น้ำมัน A อาจจะให้ผลดีกับปืนกระบอก ก แต่อาจจะไม่ได้เรื่องในกระบอก ข ต้องลองอีกเช่นเคย
ใครอยากลองเล่นก็หาน้ำมัน FP-10 มาใช้ได้เลย เคลือบลูกแล้วไม่ได้ผลดีก็ไม่เป็นไร เพราะน้ำมันใช้ได้สาระพัดประโยชน์
ล้างลำกล้อง เคลือบกันสนิม ล่อลื่น สาระพัด ร้านปืนขวัญใจชมรมเราก็มีขาย ใครสนใจก็ไปซื้อมาลองได้เลย
ถ้าจะทดลองเรื่องน้ำมัน ให้ระวังเรื่องโอริงไว้ด้วย ปืนบางรุ่นลูกปืนสัมผัสกับโอริงโดยตรง มันก็จะกัดโอริงได้ถ้าใช้น้ำมันไม่ถูกประเภท
ตอนนี้ผมเริ่มมีความคิดว่าการเคลือบน้ำมันอาจจะไม่จำเป็นสำหรับลูก JSB ที่เป็นลูกยอดฮิตของพวกเรา
เคยได้ยินไหมว่าสารตะกั่วคือสารล่อลื่นในน้ำมันที่เราใช้เติมรถ แปลว่าตะกั่วมันมีสภาพเป็นสารล่อลื่นกลายๆ
หยิบลูก JSB มาลองบีบดู กระโปรงมันบางและนิ่มมาก ดูแล้วน่าจะเกาะเกลียวและไหลไปในลำกล้องได้ไม่ยาก
ที่ต้องเคลือบน้ำมันน่าจะเป็นลูกที่เป็นอัลลอย อย่างเช่น Crosman Premier หรือ H&N Baracuda เพราะมันแข็งเหลือเกิน
แต่ข้อดีของการเคลือบน้ำมันก็คือคราบตะกั่วจะเกาะลำกล้องน้อยลง ยืดระยะเวลาทำความสะอาดลำกล้องไปได้นานขึ้น
ยังไม่หมดเรื่องแต่หมดแรงแล้ว
พิมพ์มาซะยืดยาว เอาไว้คึกๆ จะมาเขียนต่อ
จะให้ดีต้องมีติดสินบนบวกคะแนน แบบนะครับ คำเสือด้วย