เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
กันยายน 30, 2024, 12:27:58 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ไซโม ฮายาซ สไนเปอร์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก  (อ่าน 3796 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
black-army
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 827
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4100



เว็บไซต์
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2012, 09:07:48 PM »

ไซโม ฮายาซ (Simo Hayha) ถือว่าเป็นสไนเปอร์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก
ยังไม่มีใครมาเทียบเทียมได้ ด้วยสถิติการสังหารทหารข้าศึกที่มากถึง 542 ศพ (จากข้อมูลเท่าที่สืบค้นได้)
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2

     ไซโม เป็นชาวฟินแลนด์ เกิดที่มลฑลราลจาวี (Rautjarvi) ในฟินแลนด์ ซึ่งปัจจุบันเป็นของรัสเซียไปแล้ว
เกิดเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 1905 ทำอาชีพเกษตรกร เข้าร่วมกับกองทัพบกฟินแลนด์ในปี 1925 เมื่ออายุ 20 ปี
และได้รบในสงครามฤดูหนาว รัสเซีย-ฟินแลนด์ ระหว่างปี 1939-1940 ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยวกับการเริ่มต้น
สงครามโลกครั้งที่ 2 (สงครามฤดูหนาวที่ทหารรัสเซียกว่า 2 ล้านนาย ไม่สามารถเอาชนะทหารฟินแลนด์ 2 แสนนายได้
สาเหตุสงครามเกิดจากกรณีพิพาทเขตแดนรอบทะเลสาบลาโดกาของทั้ง 2 ชาติ
คล้ายกรณีพิพาทปราสาทพระวิหารของไทย-เขมร)

     ไซโม ได้รับหน้าที่เป็นพลซุ่มยิง (สไนเปอร์) คอยสังหารทหารรัสเซียในยุทธภูมิที่เย็นยะเยือกด้วยอุณหภูมิ
ติดลบ 20 ถึง 40 องศาเซลเซียส ซุ่มยิงโดยใช้ชุดพรางหิมะสีขาว และสังหารทหารรัสเซียได้ถึง 542 ศพ!

     อาวุธที่ไซโมใช้คือ ปืนเล็กยาวแบบ M-28 หรือที่เรียกว่า Finnish Mosin nagant (เป็นปืนที่ฟินแลนด์
ก๊อปมาจากปืนโมแซง-นากังต์ ของรัสเซียค่ะ) ไซโม เป็นทหารที่รูปร่างเตี้ยมาก สูงราว 160 ซม.กว่าๆ เตี้ยมาก
ตามมาตรฐานฝรั่ง 

และเป็นสไนเปอร์ที่แปลกเอาการคนหนึ่ง คือ เขาไม่ชอบใช้กล้องเล็งแบบสไนเปอร์ทั่วไป แต่เขาจะใช้เพียงศูนย์ปืนเหล็ก
ที่ติดมากับปืน เพราะว่าหากใช้กล้องเล็ง เขาจะต้องยกหัวขึ้น และแสงแดดที่ส่องกระทบกล้องเล็งจะทำให้เกิดประกายแสง
ซึ่งอาจทำให้พลซุ่มยิงถูกค้นพบได้

     นอกจากปืนยาวแบบ M-28 แล้ว ไซโมยังใช้ปืนกลมือแบบ M-31 Suomi (ซุโอมี) อันโด่งดังของฟินแลนด์
ซุ่มโจมตีข้าศึกด้วย โดยมีสถิติการสังหารโดยปืนรุ่นนี้กว่า 200 ศพ เมื่อรวมกับปืนยาว M-28 แล้ว สถิติจะรวมเป็น
752 ศพ!
ที่มา http://www.roiet.go.th/webboard/index.php?topic=7024.0
บันทึกการเข้า

           
จากกุ๊ยข้างถนน    ดิ้นรนรับใช้ชาติ   ไพรีจงพินาศ  มิได้ขลาดเพื่อชาติพลี
Nero Angel01
Hero Member
*****

คะแนน 275
ออฟไลน์

กระทู้: 3048


« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2012, 10:36:25 PM »

ขอบคุณอีกครั้งครับ อ่านมาบ้างจากห้องหลังแนวยิง กระทู้เรื่องราว10สุดยอดสไนเปอร์

บันทึกการเข้า
storm_54321
Hero Member
*****

คะแนน 142
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2282


รักในหลวง


« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2012, 10:48:10 PM »

โห ฆ่าคนยังกะมดกะปลวก แต่ก้อเก่งจริงๆ  Smiley
บันทึกการเข้า

อยากให้โลกมีแต่สันติสุข
แปจีหล่อ
Hero Member
*****

คะแนน 6324
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8251



« ตอบ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2012, 11:00:25 PM »

ยิงยังไงครับถึงเยอะขนาดนี้ แล้วเอาตัวรอดได้ยังไงครับ แล้วจำนวนทหารที่ตายนี่รวมแล้วกี่กองร้อยครับ
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
black-army
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 827
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4100



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2012, 11:17:21 AM »

เพิ่มเติมครับ

ไซโม ฮายาซ (17 ธันวาคม 1905-1 เมษายน 2002) ได้รับฉายาจากกองทัพโซเวียตว่า "White Death"=ไวท์ เดธ) เรียกเป็นภาษาไทยได้อย่างเท่ๆว่า "ความตายสีขาว" (ในภาษารัสเซียเรียกว่า Belaya Smert=เบลาย่า สเมิร์ท,ภาษาฟินแลนด์เรียกว่า Valkoinen kuolema=วาลคอยเน็น คูโอเลม่า) เขาเป็นทหารฟินแลนด์ที่ในปัจจุบันยังถกเถียงกันว่าเขาคือพลซุ่มยิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ใช่หรือไม่?

ฮายาซเกิดในเขตเทศบาลเลาซ์จาไว(municipality of Rautjarvi) ซึ่งปัจจุบันเป็นชายแดนของรัสเซียไปแล้ว เขาได้เข้าเป็นทหารในกองทัพเมื่อปี 1925 โดยก่อนหน้านี้เขามีอาชีพเป็นชาวนาหรือเกษตรกร เมื่อสงครามฤดูหนาว(Winter War) ซึ่งเกิดขึ้นจากรัสเซียได้ทำการรุกรานฟินแลนด์ตั้งแต่ปี1939-1940 เริ่มขึ้น เขาก็ได้รับหน้าที่ให้เป็นพลซุ่มยิงเพื่อสังหารทหารกองทัพแดง ในภูมิประเทศที่มีอุณหภูมิหนาวตั้งแต่ -20 ถึง-40องศาเซลเซียล (วัดเป็นองศาฟาเรนไฮต์ก็จะอยู่ที่ระหว่าง -4ถึง-40องศา) โดยฮายาซใส่ชุดพรางหิมะสีขาว เขามียอดสังหารทหารโซเวียตที่ได้รับการยืนยันถึง 542ศพ!
สถิตินี้มาจากกองทัพฟินแลนด์จากสนามรบที่โคลา (battlefield of Kollaa)ซึ่งเป็นสถานที่ฮายาซสามารถสังหารข้าศึกได้เป็นจำนวนมากถึง 542ศพ จากสมุดบันทึกที่โคลาได้กล่าวไว้ว่า "ฮายาซใช้ปืนยาวเอ็ม 28 (Finnish Mosin nagant M28 rifle) ซึ่งเป็นปืนที่ฟินแลนด์ลอกแบบมาจากปืนยาวแบบโมซินนากังค์ของรัสเซีย (Soviet Mosin nagant rifle) รู้จักกันในหมู่ทหารฟินแลนด์ว่า ปืนยาว"พีสตี้คอร์ว่า"("Pystykorva") ซึ่งหมายถึงสุนัขพันธ์สปิทส์(spitz) ฮายาซเป็นคนที่มีรูปร่างเล็กคือมีความสูง 5ฟุต3นิ้ว(1.60เมตร ฝรั่งเขาถือว่าเตื้ยนะ) เขาชอบใช้ศูนย์เล็งเหล็กมาตรฐานของปืน(iron sights) สำหรับยิงเป้าขนาดเล็ก(smaller target) มากกว่าศูนย์แบบกล้องเล็ง(telescopic sights) สาเหตุมาจากเวลาเขาจะใช้กล้องเล็งจะต้องยกศรีษะสูงขึ้น และเขายังบอกว่าการใช้ศูนย์เล็งแบบเปิดนี้จะช่วยปกปิดที่ตั้งของตนเองได้ดี กว่าศูนย์แบบกล้องเล็ง (แสงอาทิตย์ที่ส่องใส่เลนส์ของศูนย์กล้องจะสะท้อนแสงทำให้ถูกพบที่ตั้งของพลซุ่มยิงได้)


นอกจากเขาจะใช้ปืนยาวในการซุ่มยิงศัตรูแล้ว ฮายาซยังใช้ปืนกลมือซูโอมิ เอ็ม31อันโด่งดังของฟินแลนด์ยิงสังหารทหารรัสเซียไปเป็นจำนวนมากถึงสองร้อยกว่าศพ! ทำให้ยอดสังหารข้าศึกของเขาเพิ่มเป็นถึง 705ศพ!(ยิ่ง เทพเข้าไปใหญ่คนรึเปล่าเนี่ย?) หลังจากทำหน้าที่ในสนามรบมาเป็นเวลากว่า100วัน เขาก็ถูกกระสุนปืนใส่บาดเจ็บ เฉลี่ยแล้วในวันๆหนึ่งเขาจะสังหารศัตรูไป 5ศพ ส่วนใหญ่ฮายาซจะซุ่มยิงตอนกลางวันในฤดูหนาวแทบจะทุกครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่แปลกกว่าพลซุ่มยิงคนอื่นๆของโลก

ก่อนที่ฮายาซจะได้รับบาดเจ็บฝ่ายรัสเซียมีแผนที่จะกำจัดเขาให้ได้ ด้วยการใช้พลซุ่มยิง เรียกว่าพลซุ่มยิงก็ต้องจัดการด้วยพลซุ่มยิง(counter snipers=เคาน์เตอร์สไตรค์ เอ้ย! เคาน์เตอร์ สไนเปอร์)เรียกแบบไทยก็คือเพขรตัดเพชรหรือตาต่อต่าฟันต่อฟัน หรืออีกวิธีที่ขี้ขลาดหน่อยก็คือใช้ปืนใหญ่ยิงถล่ม(artillery strikes=อาร์ทิเลอะลี่ สไตรค์) โดยปืนใหญ่รัสเซียชอบใช้กระสุนปืนใหญ่แบบแตกกลางอากาศ(shrapnel=ชรัปเนล) ที่จะระเบิดกลางอากาศแล้วปล่อยลูกเหล็กกลมก้อนเล็กๆพุ่งลงมาเป็นสายฝน โดยโซเวียตน่าจะส่งทหารมาล่อให้ฮายาซยิงเพื่อที่จะได้ทราบตำแหน่งของเขาแล้ว จัดการยิงปืนใหญ่ถล่มใส่ซะ แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถเก็บฮายาซได้ แถมเขาก็ไม่เคยโดนกระสุนแบบนี้เลยเรียกว่าไร้รอยแมวข่วน(เทพอีกละ) ส่วนสไนเปอร์ที่ส่งมาเก็บเขาก็ถูกฮายาซเก็บซะเอง

พอถึงวันที่ 6 มีนาคม ปี1940 ฮายาซก็ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีกคราวนี้โดนยิงที่ขากรรไกร(jaw=จอ ถ้าคิดไม่ออกว่าตรงไหนก็ให้คิดถึงหนังเรื่องจอ 4ไว้นะครับ) ระหว่างการต่อสู้ในระยะใกล้(close combat) กระสุนพุ่งเข้าไปในหัวด้านซ้ายของเขา ฮายาซถูกหามออกจากสนามรบโดยทหารที่หามเขากล่าวว่า "หัวของเขาหายไปครึ่งหนึ่ง" ฮายาซกลับมาได้สติเอาอีกทีก็วันที่ 13 มีนาคม(หมดสติไปตั้ง 7วันเชียวนะเนี่ย) ซึ่งพอเขาตื่นมาก็เป็นวันที่ฟินแลนด์กับรัสเซียได้ประกาศสงบศึกกันพอดี หลังจากสงครามสิ้นสุดได้ไม่นานเขาก็ได้รับการเลื่อนยศจากสิบโท(corporal) เป็นร้อยตรี(second lieutenant)

หลายท่านคงจะคิดว่าอะไรมันจะเลื่อนยศแบบก้าวกระโดดขนาดนั้นเนอะ ผมว่าสงสัยน่าเป็นเพราะผลงานที่เทพสุดๆของเขาชัวร์ๆ โดยฮายาซได้รับยศนี้ จากจอมพล คาร์ล กุฟตาฟ อีมิล แมนเนอร์ไฮม่(Field Marshal Carl Gustaf Emil Mannerheim) จอมพลผู้โด่งดังของฟินแลนด์ผู้บัญชาการป้องกันประเทศ และชื่อของเขาก็ถูกตั้งชื่อเป็นแนวป้องกันประเทศนั้นคือแนวแมนเนอร์ไฮม์นั้น เอง (Mannerheim Line=แมนเนอร์ไฮม์ ไลน์) ทำให้ฮายาซนับเป็นทหารคนแรกของกองทัพฟินแลนด์ ที่ได้ยศแบบข้ามขั้นขนาดนี้โดยที่ไม่มีทหารคนไหนจะเสมอเหมือนได้



จากการสอบถามฮายาซในปี 1998 ว่าทำยังไงถึงยิงปืนได้แม่น?เขาก็ตอบว่า"มันอยู่ที่การฝึกฝน"(Practice) เมื่อถามว่าเขารู้สึกเสียใจไหมที่ได้เข่นฆ่าผู้คนไปเป็นจำนวนมาก? เขาก็ตอบว่า"ผมทำตามคำสั่งและทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้" ("I did what I was told to as well as I could.") แปลถูกไม่ถูกก็ช่วยๆบอกกันบ้างนะครับ ฮายาซใช้ชีวิตในช่วงสุดท้ายอยู่ที่หมู่บ้านเล็กๆชื่อโรคอลาซติ(Ruokolahti) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฟินแลนด์ซึ่งถัดไปเป็นดินแดนของรัสเซียจนเสียชีวิต อยู่ที่หมู่บ้านนี้นั้นเอง เป็นการปิดฉากชีวิตของเพชรฆาตผู้สังหารทหารรัสเซียไปเป็นจำนวนมากลงอย่างสงบ

บันทึกการเข้า

           
จากกุ๊ยข้างถนน    ดิ้นรนรับใช้ชาติ   ไพรีจงพินาศ  มิได้ขลาดเพื่อชาติพลี
gzรักในหลวง
Jr. Member
**

คะแนน 6
ออฟไลน์

กระทู้: 69



« ตอบ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2012, 04:58:14 PM »

ผลงานขนาดสังหารเป็นร้อยเป็นพัน ตาคนนี้แกคงคงจิตใจด้านชา ไม่มีความรู้สึกอะไรแล้ว
บันทึกการเข้า
dongdip
Jr. Member
**

คะแนน 2
ออฟไลน์

กระทู้: 24


« ตอบ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2012, 09:53:42 AM »

หน้าที่ของทหาร มีหน้าที่หลักอันเดียว คือ ฆ่าคน ซึ่งเป็นทหารฝ่ายศัตรูให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อความอยู่รอดของประเทศและประชาชนคนอื่น ๆ หากไม่ทำ ประเทศและประชาชนฝ่ายตน ก็ไม่สามารถอยู่รอดได้มาถึงทุกวันนี้ นัั่นก็คือ โดยฝ่ายศัตรูฆ่านั่นเอง
บันทึกการเข้า
catkorat
Newbie
*

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 12



« ตอบ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2012, 12:37:13 PM »

ตามนี้เลย..ครับ  Grin
http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9550000005903
บันทึกการเข้า
storm_54321
Hero Member
*****

คะแนน 142
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2282


รักในหลวง


« ตอบ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2012, 02:22:37 PM »

เค้าทำตามหน้าที่ แต่ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด  เยี่ยม
บันทึกการเข้า

อยากให้โลกมีแต่สันติสุข
a2521
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 79
ออฟไลน์

กระทู้: 1222


« ตอบ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2012, 03:03:47 PM »

เค้าทำตามหน้าที่ แต่ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด  เยี่ยม
ใช่ครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2012, 05:24:36 PM »

เก่งจัง ยิงศูนย์เปิดด้วย Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
สาละวิน_รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 51
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1078



« ตอบ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 22, 2012, 06:57:45 PM »

ทหารรัสเซียมีให้ฆ่าเยอะจริงๆ
บันทึกการเข้า

3'SF TRAINING COMPANY.
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.049 วินาที กับ 22 คำสั่ง