ผมว่ามีข้อน่าสังเกตว่าระเบิดในบ้านเกิดขึ้นได้อย่างไร มีจุดประสงค์อย่างไร หากเป็นอุบัติเหตุ ทำไมคนทำถึงหนีมาได้
กรณี ใช้ระเบิดเบิกทาง ก็น่าสังเกต เบิกทางเพื่อหนีหรือมีจุดประสงค์อื่น
คนร้ายที่ขาขาด ผมว่าน่าจะเสียชีวิตแล้ว (อาจมีการปิดข่าว)
ส่วนคนที่จับได้ที่สนามบิน ผมว่าเขาไม่ได้มีอุปกรณ์ใดๆที่เกี่ยวข้องกันระเบิดมาด้วย แต่ต้องออกข่าวไปเช่นนั้นเพื่อควบคุมตัว
พวกมือสมัครเล่นแต่ใจรัก พวกนี้น่ากลัวกว่ามืออาชีพเพราะตามกลิ่นไม่เจอ
ขนาดพวกสถานทูตออกประกาศเตือนมาขนาดนั้น ยังตามสกัดกั้นไม่ได้( หน่วยงานลับของต่างประเทศ)
ส่วนตำรวจไทย นี่มากับดวงจริงๆ คนร้ายชาวอิหร่านไม่เคยทำสำเร็จ ตั้งแต่ครั้งซุกระเบิดแล้วขับชนแมงกไซด์หลายปีก่อน
ไม่รู้ว่าตามหลักอิสลามนี่เขาบนบานได้ไหม ถ้าได้คนร้ายคงต้องเล่นของมากอีกหน่อยถึงจะทำร้ายประเทศไทยได้
Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" จริงเลยคร๊า ฮา
ตอนเกิดเหตุ ปีรัยหว่า จำไม่ได้อ่ะ ฮา
เขาวางแผน ไปเช่ารถบรรทุก หกล้อ ขนาดเล็กมาคันหนึ่ง อ่ะ
พอคนขับมาถึง เขาก็ "เชือด" จนคนขับตาย
พอตายเสร็จ เขาก็เอา "แท็งค์น้ำ" เหล็กชุบซิงค์ แบบโบราณ สี่เหลี่ยมยกขึ้นวางบนรถ
เอาคนตายใส่ลงไปพร้อมยูเรีย ราดด้วยโซล่า และชุดจุดชนวน
มันขับลงไปจอดในชั้นใต้ดิน "เซ็นทรัล" ชิดลม ตรงที่ ซัพพลายเออร์ มาส่งของ
ตอนเช้า ก็ขับออกมาด้านถนน "ชิดลม" ที่ติดกับโทรศัพท์ เพลินจิต
บังเอิญเช้านั้น การจราจรหนาแน่น ไอ้คนขับ มันรีบ เลยไปชน มอไซค์
พอชนรถมันยิ่งติด แขกคนขับมันก็หนี อ่ะ ฮา
พอข้ามสี่แยกนี้ ก็เป็น "มาร์แตร" อ่ะ ฮา
ตำรวจ สน.ลุมพินีมาถึง ก็นึกว่าเป็นเรื่องอุบัติเหตุธรรมดา
ลากรถไปจอดหน้า สน. ตรงข้ามสวนลุม ฮา
จนกระทั้งเจ้าของรถหกล้อ มาเจอ เพราะรถของเขาหายไปพร้อมคนขับ
เจ้าของตกใจ คนขับหายไปไหน แล้วทำมัย ไอ้แท็งค์เหล็กมันอยู่บนรถ
ทั้งๆที่คนมาเช่า มันบอกว่า จะย้ายบ้าน ฮา
ตอนท้ายสุด ตำรวจขึ้นไปดูถัง จึงเจอยูเรีย พร้อมศพ อยู่ในนั้น ฮา
เป้าหมายของพวกเขาคือ "สถานฑูต" แห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่บนถนน "wireless road" อ่ะ ฮา
ตำรวจไทยไม่ได้ "โชคดี" หรอก ฮา
แขกมันซวยต่างหาก ก๊าบบบบบ
แล้วถ้ามันเกิด "ตูม" ขึ้นมา อ่ะ
ยายก็พลอยซวยไปด้วย อ่ะ ฮา
เพราะตอนนั้นยายเรียนภาษาประกิต ที่ AUA. อ่ะ ฮา
มันอยู่ชิดติดกัน แต่คนละฟากถนน ฮา