เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 06, 2024, 09:30:00 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อาชีพที่ท่านต้องการให้ลูกท่านเป็น  (อ่าน 8084 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 8 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #45 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 01:18:10 PM »

       หึ หึ
ไม่มีลูกเลยไม่ต้องปวดหัว ครับ

แบบนี้ก็กินขนมจีนไม่ได้นะสิ   เศร้า
        "ไม่มีน้ำยา"
กินคลุกน้ำปลาก็ได้ ฟร๊ะ Angry Shocked

ผมชอบแกงพุงปลาครับ   น้ำลายหก
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #46 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 01:26:26 PM »

เพื่อนผมหลายคู่ ก่อนแต่งเขาก็คุยกันแล้วว่าไม่อยากมีลูก แล้วก็ไม่มีกัน Grin Grin Grin อยู่กันอย่างที่เขาตั้งใจ

คนสมัยใหม่
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« ตอบ #47 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 02:44:23 PM »

- ไม่ต้องกลัวตำรวจจับ   





  กิ๊วก๊าว อ๋อย บู่ -ไม่ต้องกลัวตำรวจจับ  แลบลิ้น แลบลิ้น แลบลิ้น  ...ผมไม่เห็นด้วยครับ         







rpcafamily
เว็บมาสเตอร์

 ออฟไลน์

กระทู้: 65



     เป็น นรต หญิง ดีอย่างไร
« เมื่อ: กันยายน 17, 2009, 10:36:37 PM » อ้างถึง 

--------------------------------------------------------------------------------

น้องอยากรู้หรือไม่ เป็นนายร้อยตำรวจหญิงดีอย่างไร  ทำไม
       คนถึงแห่กันมาสอบ ............มหาศาล....ขนาดนี้

  โปรดอ่านครับ
   นรต .หญิง ครับ  ปีนี้เป็นปีแรก แต่ยอดสมัคร แค่ 2 วัน หมื่นกว่า คน  อีก 8 วันที่เหลือน่าจะถึงแสน คน
ทำไมละคนถึงมาสอบเยอะอะไรขนาดนี้ ...หลายคนคงสงสัย................รับ 60 คน โห....

จะบอก สิทธิที่ นรตหญิง จะได้นะครับ...คาดว่านะครับ  น่าจะเหมือนกับ นรต...


- เรียนหลักสูตร 4 ปี มีชื่อนำหน้าว่า นรต.หญิง ตั้งแต่วันแรกที่ รายงานตัว
- หลังจาก เรียนจบ 4. ปี จะบรรจุเข้ารับราชการทันที  ในตำแหน่ง รองสารวัตรหน่วยงานใหนก็ได้ในประเทศไทย
- ตลอด หลักสูตร  4 ปี  เรียนฟรี ตลอดรวม ถึงค่าเครื่องแบบ .ค่าอาหาร ที่พัก ฟรี เพราะ.เป็นนักเรียนทุนรัฐบาลประเภท ก
- ขณะเป็นนักเรียนนายร้อย อยู่   จะได้รับ เงินเดือน ด้วย
- เมื่อ เรียน จบ 4 ปี จะได้ รับการประดับยศ แต่งตั้งเป็น ... ร.ต.ต.หญิง......
- ได้เรียนหลักสูตร ต่างๆ มากมาย

- อาทิ การต่อต้านการก่อความไม่สงบ ตปส (ดำรงชีพในป่า )
- หลักสูตรกระโดดร่ม   กระโดดจากเครื่องบินจริง
- ยิงปืน  สั้น ยาว    อาวุธสงคราม   
- ขณะศึกษาอยู่ รร.นรต จะได้รับการศึกษา  คณะรัฐศาปนศาสตร์   
- ศึกษาวิชาป้องกันตัว ยูโด ไอคีโด้  เคควันโด้  มวยไทย มวยสากล  ฯลฯ
- ระหว่างศึกษา สามารถ เรียนปริญญาตรี ควบคู่ไปด้วยได้  อาทิ  ราม  หรือ มสธ.....เมื่อ จบ ปี 4 ถ้ามีความสมารถพอก็ จะ จบ ป.ตรี 2   ใบ

- ได้รับการปลูกฝังเีรื่องระเบียบวินัย ภาวะผู้นำ  ระบบตำรวจ ....อย่างเข้มข้น
- ได้รับการบัญจุเป็นข้าราชการ ตั้งแต่เป็นนักเรียน  หลังจากจบ 4 ปีแล้วไม่ต้องหางานทำ  ซึ่ง เป็นเรื่องยากมากถ้า
   บุคคลภายนอกจะเข้ามาเป็นข้าราชการตำรวจแต่เมื่อจบหลัุกสูตร 4 ปี แล้วไม่ต้องหางาน ....

- ไม่ต้องกล้วตำรวจจับ....
- ได้รับใช้ประเทศชาติ......และอีกมากมาย.........................

 

-และที่สำคัญ.......พ่อแม่และญาติพี่น้องจะ  ดีใจมาก..................

                     

แต่     

-ในระหว่างเข้ามาศึกษาบอกไว้ก่อน ว่า การที่ รร.นรต คัดบุคคล  เข้ามาด้วยขั้นตอนทีี่ ยุ่งยาก จู้จี้ สอบกันทุกขั้นตอน ทั้งร่างกายและจิตใจ  เพื่อต้องการบุคคลเข้ามาเป็ผูุ้้นำ...

- การฝึก ใน รร.นรต นั้นเหหนื่อยมาก  น้องๆอย่าามองแค่เครื่องแบบ และความโก้เก๋   หรือผู้หญิงมีดาวบนบ่า หลักสูตร
นรต หญิง นั้น เมื่อเข้ามา เรียน 4 ปีที่ รร.นายร้อยตำรวจสามพรานแ้ล้ว  สามพราน จะหล่อหลอมน้องให้แข็งแกร่ง กว่าหญิง ธรรมดา  ทั้งร่างกายและจิตใจ   ออนนอกแต่แข็งใน

- เครื่องแบบที่น้องเห็นด้วยความสวยหรู  อยากใส  แต่กว่าพวกเค้าจะได้ใส่ ไม่ได้ มาง่ายๆ หรอก ..
   อาจจะทำให้ใครหลายคนสูญเสียน้ำ ตา เสียแล้วแสียอีก ความท้อแท้ ผิดหวัง กว่าจะได้เป็น นายร้อยตำรวจ
  หยาดเหงือ อีกมากมาย...

-  อาชีพตำรวจ เป็นอาชีพที่ ต้องคำสอป  แค่เข้ามาเป็นก็โดนคนเกียจไป แล้ว....มากมาย  ตำรวจไม่ได้หอมหวาน
   อย่างที่คิด ตำรวจคือผู้พิทักสันติราษฏ  ถ้าน้องรักความสบาย  ไม่ควรเข้ามา.....ตำรวจไม่ใช่อาชีพสบาย  อย่างหลายๆ คนคิด  เงินเดือนก็น้อย ... สวัสดีการก็ไม่ดีมาก.. เหมือนที่ใครๆ ว่า แต่...
   พวกพี่ๆ เตือนน้องแล้ว นะครับ ..........ลองคิดดูให้ดี.....

 ว่า จะเลือกทางนี้หรือไม่ ...                     ถ้าเลือกที่จะเป็น ผู้พิทักษ์สันติ ของประชาชนเพื่อ
             

                     อยากจะปกป้องผืนแผ่นดินไทย.............ก็เข้ามา          แล้วเจอกัน .... 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 20, 2009, 10:58:00 AM โดย rpcafamily » 
 

[/quote
บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
your-ประชาธิปไตย
Sr. Member
****

คะแนน 925
ออฟไลน์

กระทู้: 509


« ตอบ #48 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 03:15:26 PM »

เด็กสมัยนี้บังคับใจยากแต่ละคนอารมณ์ติสท์มากเหลือเกิน แต่ละคนยังกะแมว ดึงไปหน้าจะกลับหลัง บอกให้เหลียวแลหลัง จะไปข้างหน้า

ลูกผมแม่มันเอาไม่อยู่ ผมเลยบอก มาคันนี้ผมขับเอง
ลูกเธอมันขับแบบเกียร์รถทั่วไปไม่ได้หรอกอยากให้มันเดินหน้าต้องเข้าเกียร์ถอย อยากให้มันถอยต้องเข้าเกียร์เดินหน้า

 คือประมาณว่า อย่าไปบอกมันตรงๆว่าต้องการให้ทำอะไร เป็นอะไร (ในใจผมต้องการให้มันเป็นอย่างผม เคยบอกไม่มีใครเอาทั้งสองคน)

 แต่พอผมเล่นพูดประชดประชันทางอ้อมเท่านั้นแหละ แถมพาไปดูสถานที่เรียน ถ้าในอนาคตมันอยากเรียนแบบนี้ อยากเป็นแบบนี้ เผื่อมันชอบบรรยากาศ

ได้ผลแฮะ ทั้งสองคน
คนโตก็กำลังศึกษาในสถาบันนี้
คนเล็กกำลังสอบ และอยากตามพี่สาวเข้ามาเรียนมาก

คืออยากจะบอกว่า เราบังคับเด็กไม่ได้ แต่ เราสร้างบรรยากาศให้เป็นไปตามต้องการได้
ตรงกับใจที่คิดไว้ครับ ผมก็กำลังพยายามเหมือนกัน แต่ลูกยังเล็กนัก ผมเองเวลาเจอโจทย์แบบนี้ก็มักจะทำให้คิดไปถึงตอนที่ตัวเองยังเด็กๆแล้วมีผู้ใหญ่ชอบมาถาม ผมจะรู้สึกรำคาญ ในใจก็จะคิดว่าแล้วผู้ใหญ่(อย่างเอ็ง)มายุ่งอะไรด้วย อยากรู้ไปทำไม จะช่วยให้ไปตามฝันเหรอ..อะไรทำนองนี้ แต่ด้วยความเป็นเด็กก็ได้แต่โต้ตอบแบบในใจ คือแทนที่เราจะมามัวถาม(เพราะบางทีเด็กก็ยังไม่มีความชอบใดในใจ) เราควรจะทำมากกว่า ทำด้วยการพาเด็กไปพบปะประสบการณ์ดีๆ ลองดูความชอบ ความถนัด เพราะเด็กหลายๆคนเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์แต่มันหดหายไปเมื่อถูกผู้ใหญ่หรือผู้ปกครองคิดว่า"อยากให้ลูกเป็นอะไร"แล้วบังคับให้เรียนเพื่อที่จะเป็นในแบบที่ผู้ใหญ่ชอบ ผมไม่ได้บอกว่าอย่าให้เด็กเรียน แต่ผู้ปกครองที่มีความเฉลียวฉลาดอยู่บ้างต้องมองให้ออกว่า ลูกๆของตนมีความถนัด ความเฉลียวฉลาด ความสามารถพิเศษในด้านไหน แล้วเราจึงส่งเสริมเป็นพิเศษในด้านนั้นๆ เป็นต้น แต่อย่าไปปลูกฝังเด็กในเรื่องการพิจาณารายได้หรือเงินเป็นที่ตั้งเพียงอย่างเดียว เพราะเด็กพวกนี้จะถูกปลูกฝังให้แสวงหาและกอบโกยจนไม่มองถึงเรื่องของความถูกต้อง การช่วยเหลือ ความมีน้ำใจ ความเสียสละ เงินไม่ใช่ปัจจัยของความดำรงอยู่ของสังคม คุณธรรม น้ำใจ และการเสียสละต่างหาก ที่ทำให้สังคมอยู่ได้ ใครที่สอนว่าต้องได้เงิน ได้นั่นได้นี่ มีผลประโยชน์ตอบแทน นั่นแปลว่าคุณกำลังสอแบบผิดๆ และได้สร้างปัญหาให้เพิ่มขึ้นในสังคม
บันทึกการเข้า

"ข้าพเจ้าต่อสู้เพื่อคุณธรรมที่อยู่ในใจของข้าพเจ้า ใครที่ขัดขวางคุณธรรมนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด เราจะถือว่าเป็นศัตรู"
ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประชารัฐ...
Glock9mm
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #49 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 03:33:23 PM »

 อาชีพสุจริตอะไรก็ได้ที่ลูกรักในแขนงนั้น เพราะเขาต้องอยู่กับอาชีพนั้นๆไปแทบตลอดชีวิต
ไม่เบียดเบียนใคร ถ้าสมัยนี้คงเรียก Blue Ocean Strategy และก็คงคัดบทกลอนไว้ใส่ในกระเป๋าลูก
เหมือนที่แม่คัดใส่ใว้ในกระเป๋าผม ตอนขึ้นไปเรียนบางกอก  คิก คิก

    พ่อแม่ไม่มีเงินทองจะกองให้                   จงตั้งใจภาคเพียรเรียนหนังสือ
ใช้วิชาความรู้เป็นคู่มือ                               ให้ยึดถือเอาไว้ใช้เลี้ยงกาย
    พ่อกับแม่ก็มีแต่จะแก่เฒ่า                        จะเลี้ยงเจ้าเรื่อยไปนั้นอย่าหมาย
ใช้วิชาช่วยต้นไปจนตาย                            ลูกสบายแม่กับพ่อก็พอใจ
บันทึกการเข้า
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #50 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 03:39:06 PM »


ตรงกับใจที่คิดไว้ครับ ผมก็กำลังพยายามเหมือนกัน แต่ลูกยังเล็กนัก ผมเองเวลาเจอโจทย์แบบนี้ก็มักจะทำให้คิดไปถึงตอนที่ตัวเองยังเด็กๆแล้วมีผู้ใหญ่ชอบมาถาม ผมจะรู้สึกรำคาญ ในใจก็จะคิดว่าแล้วผู้ใหญ่(อย่างเอ็ง)มายุ่งอะไรด้วย อยากรู้ไปทำไม จะช่วยให้ไปตามฝันเหรอ..อะไรทำนองนี้ แต่ด้วยความเป็นเด็กก็ได้แต่โต้ตอบแบบในใจ คือแทนที่เราจะมามัวถาม(เพราะบางทีเด็กก็ยังไม่มีความชอบใดในใจ) เราควรจะทำมากกว่า ทำด้วยการพาเด็กไปพบปะประสบการณ์ดีๆ ลองดูความชอบ ความถนัด เพราะเด็กหลายๆคนเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์แต่มันหดหายไปเมื่อถูกผู้ใหญ่หรือผู้ปกครองคิดว่า"อยากให้ลูกเป็นอะไร"แล้วบังคับให้เรียนเพื่อที่จะเป็นในแบบที่ผู้ใหญ่ชอบ ผมไม่ได้บอกว่าอย่าให้เด็กเรียน แต่ผู้ปกครองที่มีความเฉลียวฉลาดอยู่บ้างต้องมองให้ออกว่า ลูกๆของตนมีความถนัด ความเฉลียวฉลาด ความสามารถพิเศษในด้านไหน แล้วเราจึงส่งเสริมเป็นพิเศษในด้านนั้นๆ เป็นต้น แต่อย่าไปปลูกฝังเด็กในเรื่องการพิจาณารายได้หรือเงินเป็นที่ตั้งเพียงอย่างเดียว เพราะเด็กพวกนี้จะถูกปลูกฝังให้แสวงหาและกอบโกยจนไม่มองถึงเรื่องของความถูกต้อง การช่วยเหลือ ความมีน้ำใจ ความเสียสละ เงินไม่ใช่ปัจจัยของความดำรงอยู่ของสังคม คุณธรรม น้ำใจ และการเสียสละต่างหาก ที่ทำให้สังคมอยู่ได้ ใครที่สอนว่าต้องได้เงิน ได้นั่นได้นี่ มีผลประโยชน์ตอบแทน นั่นแปลว่าคุณกำลังสอแบบผิดๆ และได้สร้างปัญหาให้เพิ่มขึ้นในสังคม

ทำไมหรือครับ คนที่ทำงานเพื่อเงิน นั้น จำเป็นต้องเป็นพวกกอบโกย จนไม่มีความถูกต้อง แล้งน้ำใจ จนไม่สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้
 ไม่มีความเสียสละหรือครับ  งั้นผมถามหน่อยครับว่า ท่านทำงานทุกวันนี้เพื่ออะไร ถ้าท่านตอบว่า เพื่อประชาชน เสียสละ เพื่อคุณธรรม   ถ้ารัฐไม่จ่ายเงินเดือนให้ท่าน ท่านจะว่าไง ครับ  
 
      การทำงานบนพื้นฐานของความซื่อสัตย์สุจริต  ไม่ว่าจะเป็น พ่อค้า แม่ค้า หมอ ทหาร ตำรวจ พนักงานต่างๆ ผลตอบแทนที่ได้
คือ เงิน เพราะเงินเป็น วัตถุี่ ที่สามารถแลกเปลี่ยนเป็น สิ่งเท่าสามารถให้เรา ใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข ด้วยการซื้อของที่เป็น ปัจจัย 4 ไม่ต้องไป ปล้นจี้ ใครๆ  ให้สังคมส่วนรวมเดือดร้อน
         เมื่อมีเงินแล้ว ก็สามารถตอบแทนสังคมได้หลายๆ ทางเช่น การบริจาค ถวายผ้าป่า ทำบุญทำทาน และที่สำคัญคือการเสียภาษี มันขึ้นอยู่ที่ ทัศนะคติของผู้นั้นๆว่า จะตอบแทน ในรูปแบบใด  

           อย่ามองผู้อื่นให้ต่ำซิครับ คำถามก็คือ ถ้าท่านมีลูกท่านอยากให้ลูกทำงานอะไร

                



บันทึกการเข้า
telekbook - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1124
ออฟไลน์

กระทู้: 3629


« ตอบ #51 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 03:40:47 PM »

Ha Ha Ha  ฮา "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา
คนตอบกระทู้  จิตแพทย์ เขาทำวิจัย  ผลที่แสดง ตามข้างล่าง อ่ะ ฮา

80 %  เป็นโรค  "จิตนิยม"  อ่ะ ฮา
20 %  เป็นโรค  "ขาดความอบอุ่น"  ตอนเด็ก อ่ะ ฮา

อยากให้เป็นโนน่  อยากให้เป็นนี่  ตอบสนองความ "อยาก"  ของตัวเอง
ตัวเอง "ทำไม่ได้"  ก็เลย  "อัดฉีด"  ลูก อ่ะ ฮา

เรื่องเด็กๆ  ยายไม่ "คาดหวัง"  พวกเขาอ่ะ ฮา

แต่ยายจะแทรก  เรื่อง ความเป็น "ผู้นำ"  ให้เขาอ่ะ ฮา
สอนเขาว่า  ถ้าจะหาที่ยืน  ต้องยืน  "อันดับแรกๆ"  คนถึงจะจำได้ อ่ะ ฮา
อันดับกลางๆ  พวกบ๊วย ประจำ  พวกนี้จะลำบาก อ่ะ ฮา

เพราะในอนาคต  คนมันเยอะ  มีตัวเลือกมาก อ่ะ ฮา
ต้อง  "เด่น"  จริงๆ  ถึงจะอยู่รอด  อ่ะ ฮา

แล้วอีกอย่าง  ไม่อยากสอนให้เขา  "รับราชการ"  อ่ะ ฮา
เพราะระบบ  มันกลืน  ความสามารถ  ของ "คน"  อ่ะ ฮา
ติดโน่น  ติดนี่  ระบบมันไม่สอน  หรือ ถึงขนาด "ห้ามคิด"  นอกกรอบ อ่ะ ฮา
ผมเห็นพ่อแม่หลายต่อหลายคนบังคับเคี่ยวเข็ญลูกตนเองแล้ว  ผมเหนื่อยและเบื่อแทนเด็กเลยครับ  Grin
บันทึกการเข้า
สหายเล็กน้อย
ความรักเป็นเรื่องตลก...อกหักเป็นเรื่องขำ ๆ
Hero Member
*****

คะแนน 2113
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11510


...มีแต่ตัวกับหัวใจ... เธอจะรักฉันไหม ... !!!


« ตอบ #52 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 03:47:42 PM »

Re: อาชีพที่ท่านต้องการให้ลูกท่านเป็น ..........

... อาชีพ เปิดร้านซื้อ-ขาย/ซ่อมอาวุธปืน  ครับ ... พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา ... ในเว็บนี้เยอะดีครับ ...   คิก คิก คิก คิก คิก คิก
บันทึกการเข้า



...ล้มแล้วจงลุกใหม่...จนกว่าลูกแกะจะกลายเป็นราชสีห์...
ART
ชีวิตคิดบวก แล้วจะ Happy
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 552
ออฟไลน์

กระทู้: 10809



« ตอบ #53 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 03:53:09 PM »

ชอบอะครับ ลุงจะได้ใช้บริการอะครับ  คิก คิก
บันทึกการเข้า

pak 533
Jr. Member
**

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 21



« ตอบ #54 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 03:56:43 PM »

เป็นอะไรก็ได้..แต่ขอให้เป็นคนรู้จักคิด รู้จักทำ และรู้จักตัดสินใจด้วยตัวเอง .....(เหมือนผม..ดีที่สุด ครับบบบบ)
บันทึกการเข้า

ผู้มีสติ..ย่อมตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท
your-ประชาธิปไตย
Sr. Member
****

คะแนน 925
ออฟไลน์

กระทู้: 509


« ตอบ #55 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 04:00:00 PM »


ตรงกับใจที่คิดไว้ครับ ผมก็กำลังพยายามเหมือนกัน แต่ลูกยังเล็กนัก ผมเองเวลาเจอโจทย์แบบนี้ก็มักจะทำให้คิดไปถึงตอนที่ตัวเองยังเด็กๆแล้วมีผู้ใหญ่ชอบมาถาม ผมจะรู้สึกรำคาญ ในใจก็จะคิดว่าแล้วผู้ใหญ่(อย่างเอ็ง)มายุ่งอะไรด้วย อยากรู้ไปทำไม จะช่วยให้ไปตามฝันเหรอ..อะไรทำนองนี้ แต่ด้วยความเป็นเด็กก็ได้แต่โต้ตอบแบบในใจ คือแทนที่เราจะมามัวถาม(เพราะบางทีเด็กก็ยังไม่มีความชอบใดในใจ) เราควรจะทำมากกว่า ทำด้วยการพาเด็กไปพบปะประสบการณ์ดีๆ ลองดูความชอบ ความถนัด เพราะเด็กหลายๆคนเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์แต่มันหดหายไปเมื่อถูกผู้ใหญ่หรือผู้ปกครองคิดว่า"อยากให้ลูกเป็นอะไร"แล้วบังคับให้เรียนเพื่อที่จะเป็นในแบบที่ผู้ใหญ่ชอบ ผมไม่ได้บอกว่าอย่าให้เด็กเรียน แต่ผู้ปกครองที่มีความเฉลียวฉลาดอยู่บ้างต้องมองให้ออกว่า ลูกๆของตนมีความถนัด ความเฉลียวฉลาด ความสามารถพิเศษในด้านไหน แล้วเราจึงส่งเสริมเป็นพิเศษในด้านนั้นๆ เป็นต้น แต่อย่าไปปลูกฝังเด็กในเรื่องการพิจาณารายได้หรือเงินเป็นที่ตั้งเพียงอย่างเดียว เพราะเด็กพวกนี้จะถูกปลูกฝังให้แสวงหาและกอบโกยจนไม่มองถึงเรื่องของความถูกต้อง การช่วยเหลือ ความมีน้ำใจ ความเสียสละ เงินไม่ใช่ปัจจัยของความดำรงอยู่ของสังคม คุณธรรม น้ำใจ และการเสียสละต่างหาก ที่ทำให้สังคมอยู่ได้ ใครที่สอนว่าต้องได้เงิน ได้นั่นได้นี่ มีผลประโยชน์ตอบแทน นั่นแปลว่าคุณกำลังสอแบบผิดๆ และได้สร้างปัญหาให้เพิ่มขึ้นในสังคม

ทำไมหรือครับ คนที่ทำงานเพื่อเงิน นั้น จำเป็นต้องเป็นพวกกอบโกย จนไม่มีความถูกต้อง แล้งน้ำใจ จนไม่สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้
 ไม่มีความเสียสละหรือครับ  งั้นผมถามหน่อยครับว่า ท่านทำงานทุกวันนี้เพื่ออะไร ถ้าท่านตอบว่า เพื่อประชาชน เสียสละ เพื่อคุณธรรม   ถ้ารัฐไม่จ่ายเงินเดือนให้ท่าน ท่านจะว่าไง ครับ  
 
      การทำงานบนพื้นฐานของความซื่อสัตย์สุจริต  ไม่ว่าจะเป็น พ่อค้า แม่ค้า หมอ ทหาร ตำรวจ พนักงานต่างๆ ผลตอบแทนที่ได้
คือ เงิน เพราะเงินเป็น วัตถุี่ ที่สามารถแลกเปลี่ยนเป็น สิ่งเท่าสามารถให้เรา ใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข ด้วยการซื้อของที่เป็น ปัจจัย 4 ไม่ต้องไป ปล้นจี้ ใครๆ  ให้สังคมส่วนรวมเดือดร้อน
         เมื่อมีเงินแล้ว ก็สามารถตอบแทนสังคมได้หลายๆ ทางเช่น การบริจาค ถวายผ้าป่า ทำบุญทำทาน และที่สำคัญคือการเสียภาษี มันขึ้นอยู่ที่ ทัศนะคติของผู้นั้นๆว่า จะตอบแทน ในรูปแบบใด  

           อย่ามองผู้อื่นให้ต่ำซิครับ คำถามก็คือ ถ้าท่านมีลูกท่านอยากให้ลูกทำงานอะไร
ผมก็ไม่ทราบนะครับว่าท่านทำงานอะไร แต่จนถึงป่านนี้แล้วท่านก็ยังมองเรื่องของเงินหรือค่าตอบแทนเป็นที่ตั้งอยู่ดี
       1.ผมก็บอกแล้วนะครับว่าอย่าปลูกฝังเรื่องเงินหรือผลตอบแทนเพียงอย่างเดียว ก็หมายความว่า ควรสอนเรื่องอื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนายกระดับจิตใจตนเอง การกระทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและ สังคม ควบคู่ไปด้วย
       2.ผลตอบแทนมันมีหลากหลายรูปแบบ อาจจะเป็นเรื่องแรงจูงใจ ทรัพย์สิน ความภาคภูมิใจ เหล่านี้ล้วนอยู่ที่มุมมอง ผมทำงานราชการไม่รับเงินเดือนก็ได้ ถ้ารัฐเลี้ยงดูและประกันว่าครอบครัวผมจะได้รับการดูแลตลอดไปไม่อดอยาก บุตรได้รับการศึกษาชั้นสูงสุด(ตามความสามารถ) ซึ่งนั่นมันมากเกินกว่าเงินเดือนและสวัสดิการที่รัฐจ่ายให้ผมไปมาก พูดง่ายๆคือไม่มีปัญญาจ่าย ผมจึงมีรายได้จากรัฐเพียงวันละไม่กี่ร้อยบาท ซึ่งนั่นไม่ใช่คำตอบที่ว่าผมทำงานไปเพื่อเงิน แต่ผมทำงานเพื่อให้ชีวิตของผมเองมีคุณค่า ถ้ามีใครมาจ้างผมด้วยอัตรที่รัฐจ้างให้ผมอยู่เฉยๆ ผมไม่เอาเพราะมันจะทำให้ชีวิตผมดูตกต่ำและไร้ค่าไปในที่สุด
       3.คำถามที่ว่า"อยากให้ลูกทำงานอะไร" ผมก็ตอบมันไปหมดแล้ว คุณอ่านดีๆอีกสักรอบเถอะ
บันทึกการเข้า

"ข้าพเจ้าต่อสู้เพื่อคุณธรรมที่อยู่ในใจของข้าพเจ้า ใครที่ขัดขวางคุณธรรมนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด เราจะถือว่าเป็นศัตรู"
ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประชารัฐ...
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #56 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 04:41:29 PM »


ผมก็ไม่ทราบนะครับว่าท่านทำงานอะไร แต่จนถึงป่านนี้แล้วท่านก็ยังมองเรื่องของเงินหรือค่าตอบแทนเป็นที่ตั้งอยู่ดี
       1.ผมก็บอกแล้วนะครับว่าอย่าปลูกฝังเรื่องเงินหรือผลตอบแทนเพียงอย่างเดียว ก็หมายความว่า ควรสอนเรื่องอื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนายกระดับจิตใจตนเอง การกระทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและ สังคม ควบคู่ไปด้วย
       2.ผลตอบแทนมันมีหลากหลายรูปแบบ อาจจะเป็นเรื่องแรงจูงใจ ทรัพย์สิน ความภาคภูมิใจ เหล่านี้ล้วนอยู่ที่มุมมอง ผมทำงานราชการไม่รับเงินเดือนก็ได้ ถ้ารัฐเลี้ยงดูและประกันว่าครอบครัวผมจะได้รับการดูแลตลอดไปไม่อดอยาก บุตรได้รับการศึกษาชั้นสูงสุด(ตามความสามารถ) ซึ่งนั่นมันมากเกินกว่าเงินเดือนและสวัสดิการที่รัฐจ่ายให้ผมไปมาก พูดง่ายๆคือไม่มีปัญญาจ่าย ผมจึงมีรายได้จากรัฐเพียงวันละไม่กี่ร้อยบาท ซึ่งนั่นไม่ใช่คำตอบที่ว่าผมทำงานไปเพื่อเงิน แต่ผมทำงานเพื่อให้ชีวิตของผมเองมีคุณค่า ถ้ามีใครมาจ้างผมด้วยอัตรที่รัฐจ้างให้ผมอยู่เฉยๆ ผมไม่เอาเพราะมันจะทำให้ชีวิตผมดูตกต่ำและไร้ค่าไปในที่สุด
       3.คำถามที่ว่า"อยากให้ลูกทำงานอะไร" ผมก็ตอบมันไปหมดแล้ว คุณอ่านดีๆอีกสักรอบเถอะ

แต่จนถึงป่านนี้แล้วท่านก็ยังมองเรื่องของเงินหรือค่าตอบแทนเป็นที่ตั้งอยู่ดี

กล่าวถูกต้องแล้วครับ ผมมองเช่นนั้นจริงๆ เมื่อผมมีเงินแล้ว ผมสามารถ ทำอะไรก็ได้ ที่ตอบแทนสังคม เช่น การทำบุญ เหมือนที่ได้กล่าวไปแล้ว

     1.ผมก็บอกแล้วนะครับว่าอย่าปลูกฝังเรื่องเงินหรือผลตอบแทนเพียงอย่างเดียว ก็หมายความว่า ควรสอนเรื่องอื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนายกระดับจิตใจตนเอง การกระทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและ สังคม ควบคู่ไปด้วย

ผมทำงานซ่อมมือถือ ผมเสียภาษีเกี่ยวกับ ด้านมลพิษ ผมตอบแทน สังคมด้วยการ บริจาค ให้ทุกองค์กร ที่เห็นว่าเหมาะสม เช่น
 บริจาคให้มัสยิด  บริจาคเงินให้ หมาแมว จรจัด บริจาคโน้นนี้ ตามที่มีการ ร้องขอมา  ที่สำคัญผมเสียภาษี   
ลูกค้าเดินเข้าร้านผม ผมบริการลูกค้าลูกค้าแฮปปี้ ลูกค้าจ่ายตัง ผมได้กำไร

2.ผลตอบแทนมันมีหลากหลายรูปแบบ อาจจะเป็นเรื่องแรงจูงใจ ทรัพย์สิน ความภาคภูมิใจ เหล่านี้ล้วนอยู่ที่มุมมอง ผมทำงานราชการไม่รับเงินเดือนก็ได้ ถ้ารัฐเลี้ยงดูและประกันว่าครอบครัวผมจะได้รับการดูแลตลอดไปไม่อดอยาก บุตรได้รับการศึกษาชั้นสูงสุด(ตามความสามารถ) ซึ่งนั่นมันมากเกินกว่าเงินเดือนและสวัสดิการที่รัฐจ่ายให้ผมไปมาก พูดง่ายๆคือไม่มีปัญญาจ่าย ผมจึงมีรายได้จากรัฐเพียงวันละไม่กี่ร้อยบาท ซึ่งนั่นไม่ใช่คำตอบที่ว่าผมทำงานไปเพื่อเงิน แต่ผมทำงานเพื่อให้ชีวิตของผมเองมีคุณค่า ถ้ามีใครมาจ้างผมด้วยอัตรที่รัฐจ้างให้ผมอยู่เฉยๆ ผมไม่เอาเพราะมันจะทำให้ชีวิตผมดูตกต่ำและไร้ค่าไปในที่สุด

 เห็นมั้ยครับท่านก็ยังตอบอยู่ดีว่าทำงานเพื่อเงิน เพราะผลตอบแทน ที่ง่ายที่สุดคือ เงิน
แต่การหาเงินของแต่ล่ะอาชีพมีข้อแตกต่างกันออกไป
พ่อค้า-แม่ค้า  ซื้อของมา                                      =เงิน
ครู  สอนนักเรียนผลตอบแทนก็        คือ เงินเดือน   = เงิน 
ตำรวจ จับโจรเสี่ยงภัย ผลตอบแทน คือเงินเดือน    = เงิน

บทสรุปทุกอย่างที่ทำก็เพื่อเงิน เว้นแต่ เป็น องค์กร การกุศลต่างๆ เช่น กรีนพีท สุดท้ายถ้าไม่มีเงินทุนสนับสนุนก็ แย่เหมือนกัน

 เราคนไทย ที่มีจิตใจโอบอ้อมอารี เป็นทุนอยู่แล้ว การเอื้อเฟื้อแบ่งปัน นั้น มันฝังลึกอย่ในจิตใจ คนที่ทำงานหาเงินนั้น ผมมองว่าไม่มีใคร ที่ไม่ตอบแทนสังคมหรอกครับ ท่าน  แค่ว่า มันจะน้อยหรือมาก เท่าไหร่ เท่านั้นเอง พ่อค้าแม่ค้า วันๆทำงานเพื่อหาเงิน บางคนไม่มีเวลามาคิดเรื่อง ตอบแทนประเทศชาติหรอกครับ สิ่งเดียวที่เค้าให้ได้คือเงิน หรือเวลา ที่สามารถช่วยได้
 เพียงแค่วันนี้ สอนให้ลูกหลานเราเป็นคนดี ไม่ไปโกงเค้า จี้เค้า ใช้เค้ามีกินมีใช้ไม่เดือดร้อนตนเองและ สังคม
ตอบแทนสังคมบ้างตามที่โอกาศมี  ช่วยเหลือผู้อื่นได้บ้าง ตาม อัตภาพ ที่จะทำได้ 
ส่วนตัวผม ลูกพ่อค้าแม่ค้า คิดกันแบบนี้


3.คำถามที่ว่า"อยากให้ลูกทำงานอะไร" ผมก็ตอบมันไปหมดแล้ว คุณอ่านดีๆอีกสักรอบเถอะ

เท่าที่อ่าน ลูกท่านคงจะรับราชการ ทำงานเพื่อประชาชนได้อย่างเดียว ยินดีมากครับ ที่ จะได้มีบุคลากรที่ดีมาพัฒนาบ้านเมือง


 
 
บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #57 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 05:13:57 PM »

ไม่มีลูกนะครับ
แต่ถ้ามีลูก แล้วลูกได้สักครึ่งของผม ผมคงปวดหัวตาย.....
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

Udomkd
รักษ์ธรรมชาติ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3700
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 41046



« ตอบ #58 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 05:15:39 PM »

ผมเชื่อว่า มนุษย์ ต้องได้รับการสั่งสอน

และโดยส่วนตัว(สันดานของมนุษย์คนนั้นๆด้วยครับ)อยากให้เป็นอะไรอย่างไร ก็ต้องสอนสั่งกันแต่เล็กๆ

หากแต่เราสนใจ เราก็จะทราบว่า ลูกหลานของเรา มันจะตอบสนองอย่างไร

ผมเองก็มีภารระตรงนี้อยู่ แต่ก็ยังบอกไม่ได้ว่า จะให้เขาเป็นอะไร มาสมัยนี้ มันก็อยู่ที่ตัวบุคคลด้วย สิ่งแวดล้อมก็มีผล

สรุป งงเอง อิๆๆ

ตอนนี้ก็ส่งเสริมให้เขาได้เรียนรู้ ตามสภาวะ...

ปีนี้เริ่มสตาร์ท ป.1
บันทึกการเข้า

รักมิตร รักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีด้ามขวาน
   รักมิตรรักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีคมขวาน
   รักมิตร รักเพื่อน
YIMTHANOM
Hero Member
*****

คะแนน 466
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2891



« ตอบ #59 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 05:15:56 PM »

ไม่มีลูกนะครับ
แต่ถ้ามีลูก แล้วลูกได้สักครึ่งของผม ผมคงปวดหัวตาย.....

                 พี่ซับมาแหวกแนวดีครับ...........ฮา  คิก คิก  ไหว้
บันทึกการเข้า

ปัญหาบางอย่าง แก้ได้ด้วยการนิ่งเฉย
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.098 วินาที กับ 22 คำสั่ง