ตอนที่โดนเราก็ลองให้เหตุผลไปแล้วนะว่าเราต้องเก็นเงินร้านค้าในเวลากลางคืนคนเดียว(คืนละประมาณ7-8หมื่นบาท)จึงจำเป็นต้องพกปืนไว้ป้องกันตัว ร้อยเวรบอกว่าแล้วแต่ถ้าคุณไม่สารภาพยากจะลองสู้คดีดูก็ได้แต่ถึงชนะไม่ผิดก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาคุณเสียค่าทนายมากกว่าค่าปรับแน่ๆ ที่เจ็บใจคงจะเป็นที่ไม่ยอมให้เราประกันตัวในคืนนั้นเลย อ้างว่าเหนื่อยและง่วงขอไปนอนก่อน ปล่อยให้เราถูกขังทั้งคืนกว่าจะยอมให้ประกันตัวก็บ่ายๆของอีกวันแล้วครับ คดีไม่ยุ่งยากอะไร น่าจะทำให้เราให้เสร็จๆเขาไม่เคยถูกจับขังคงไม่รู้ครับว่าอยู่ในนั้นรู้สึกอย่างไร ถ้าเป็นข้อหาร้ายแรงอัตราโทษสูงผมจะไม่ว่าสักคำครับ แต่สุดท้ายก็จบลงแล้ว แค่รู้สึกว่าประเทศเราสองมาตรฐานจริงๆบางคนต้องคดีฆ่าคนตายเดินเข้าสถานียังกับฮีโร่ บางท่านปลุกระดมทำร้ายประเทศชาติก็มีตำแหน่งใหญ่โต บางท่านคดีร้ายแรงกลับไม่ถูกใส่กุญแจมือก่อนให้ประกันตัวในทันทีโดยไม่ต้องถูงคุมขังรอร้อยเวรไปนอน แค่ระบายให้ฟังกันถึงประสบการณ์ที่โดนมานะครับ ขออภัยหากทำให้ใครไม่ถูกใจ อิอิ
กรณีที่การพาอาวุธปืน ที่ดูจะไม่เข้าฐานความผิด หรือการพาที่พอมีเหตุความจำเป็นและเร่งด่วน....ตัวแดงนี้แหละคือเหตุผลที่จนท.มักใช้เกลี้ยกล่อมให้ยอมรับสารภาพ
เพราะถ้าผู้ต้องหาปฎิเสธว่าไม่ได้กระทำผิด จนท.ตร.ต้องทำคดีอย่างรัดกุม จนท.ผู้เกี่ยวข้องต้องไปเบิกความต่อศาล ต้องไปยืนต่อหน้าศาลให้ทนายจำเลยซักค้าน ไม่ใช่ไปศาลเฉพาะตัวจำเลย
แต่ถ้าจำเลยรับสารภาพ อัยการก็เพียงส่งฟ้องศาล แล้วเมื่อจำเลยรับสารภาพอีกทั้งไม่ใช่เรื่องอุกฉรรจ์มหันต์โทษ ศาลท่านก็จำเป็นต้องพิพากษาไปตามคำรับสารภาพ ไม่ได้สืบพยานจนสิ้นข้อสงสัย
คนเกือบทั้งหมดก็คิดเอาง่าย ว่ารับสารภาพซะ ให้มันจบๆไป ..... สังคมมีคนจำนวนน้อยที่ถือหลักการไม่ผิดไม่รับ สู้ให้ถึงที่สุด ....
.........และคนส่วนนี้คือคนที่ผมคารวะ
ว่าได้สร้างหลายบรรทัดฐานจนถึงชั้นมีคำพิพากษาศาลฎีกา
ใครสนใจประเด็นข้อกฎหมาย....ก็ลองพลิกดูหน้า 114 คอลัมน์กฎหมายปืน โดย สพป. ในหนังสืออวป.ฉบับ 448 กุมภาพันธ์ 2555 ดูนะครับ
ประเด็นการประกันตัวในชั้นตำรวจ ผมคิดว่าเราชาวปืนต้องคิดล่วงหน้าครับ ไม่ใช่เบ่ง แต่ให้รู้ข่องรู้ทางว่าไผเป็นไผ การประกันตัวก็จะรวดเร็ว และอาจไม่จำเป็นต้องไปอยู่ในห้องควบคุม
ความเป็นธรรม100%ไม่มีในโลก......เหมือนนิ้วมือแต่ละนิ้ว ที่ต่าง ที่สั้นยาวไม่เทากัน