สังคมทุกวันนี้ มันเป็นสังคมทุนนิยมสามานย์ อยุติธรรม และเอารัดเอาเปรียบ
ใครมือยาว ก็สาวได้สาวเอา คนรู้มาก หลอกลวง หลอกล่อ หาประโยชน์จากคนรู้น้อยกว่า
คนรวยก็รวยจนตายไปแล้ว เกิดมาใหม่ก็ยังมีกินมีใช้
คนจนก็จนดักดาน ไร้โอกาสและเป็นเหยื่อ เป็นเครื่องมืออยู่อย่างนั้น
ระบบที่มันผิดเพี้ยน และ ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข ให้เกิดการ เฉลี่ยแบ่งปันให้กับคนในสังคมอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
จึงทำให้เกิดปัญหาไม่รู้จักจบสิ้น
วันก่อนดูรายการ ลูกชาย(รึป่าว) อดีตอธิบดีสีกากี ผู้มั่งคั่ง เปิดบ้าน"ตากอากาศ" โชว์ความร่ำรวย อวดรสนิยม ความมั่งมี
แล้ววันนี้มาได้ดู ข่าวตอนเย็น สอรายู้ด เอาครอบครัวที่โดนตัดสินจำคุกแทนค่าปรับ เพราะเอาซีดีเก่าในบ้าน ออกมานั่งขาย
จุกหัวอก อยากร้องไห้ สังคมเรา แตกต่างและมีช่องว่างห่างกันขนาดนี้เชียวหรือ
ขณะที่อีกคนนึง ต้องนั่งรถกอล์ฟเพื่อไปนั่งเล่นที่อีกมุมนึงของบ้าน
แต่อีกคน ต้องซุกหัวนอนในเพิงสังกะสี ที่ไม่น่าจะเรียกว่าบ้านได้ แถมเกือบจะติดคุก เพราะไม่มีปัญญาหาเงินมาจ่ายค่าปรับ
เวลาจะปรับขึ้นค่าแรง พ่อค้านายทุน โอดครวญจะเป็นจะตาย จะอยู่ไม่ได้ จะฉิบหาย ขายกิจการ
แต่เวลา อวดร่ำอวดรวย คงจะลืมนึกไปว่า ที่สุขสบายได้แบบนั้น ก็มาจากหยาดเหงื่อแรงงานของคนอีกไม่น้อย
ตราบใดระบบยังเป็นอยู่เช่นนี้ ก็ไม่มีวันแก้ปัญหาได้หรอก มีแต่จะยิ่งถ่างช่องว่าง ระหว่างคนจน คนรวย ให้ห่างมากขึ้นเรื่อยๆ
ปัญหาเรื่องค่าแรงเหมือนการขึ้นบันไดครับ... คนมาใหม่ได้เท่าไหร่ คนที่ทำงานมาก่อนต้องได้เท่าไหร่ ซึ่งจะเกิดการรวนของบุคลากรในแต่ละองค์แน่นอน...
ส่วนราคาสินค้าขึ้นไปรออยู่บนพื้นชั้น 2 แล้ว.. ก็ต้องดูว่ามันลอยไปอยู่ตรงนั้นได้ยัง มีองค์กรไหนหรือเปล่าที่กำหนดราคาต้นทุนให้วัตถุดิบทุกอย่างกระเพื่อม องค์กรอื่นๆขาดทุนกันถ้วนหน้าแต่องค์กรไหนที่ยังหน้าระร่ืนกำไรปีละแสนล้าน...
ทีนี้เมื่อของแพงเพราะกำหนดนายทุนพรรคให้กำไรน้อยลงเพื่อประเทศชาติไม่ได้ เลยต้องเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ผลแรงงานก็ไม่ได้รวยขึ้นเพราะค่าสินค้าต่างๆลอยขึ้นไปรออยู่แล้ว ยังผลให้เงินด้อยค่าลง ซื้อของได้ไม่เท่าเดิม ซึ่งจะตามมาด้วยปัญหาเงินเฟ้อของคนทั้งประเทศ...
ดังนั้นอยู่ที่จิกซอว์ตัวไหนที่ผิดปกติของโครงสร้างทางเศรษฐกิจล่ะ... ผู้ประกอบการต้องควบคุมต้นทุนเพื่อการแข่งขัน แต่มันผู้ใดกันล่ะที่ผูกขาดราคาต้อนทุนของสินค้าทั้งหมดในตลาดได้ ทั้งพลังงาน ทั้งปุ๋ย ฯลฯ ยังไม่ต้องรวมกับปัญหาใต้โต๊ะ บนโต๊ะ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันของผู้ประกอบการมาโดยตลอด...
ถ้าแก้ปัญหาอย่างจริงใจ ความเหลื่อมล้ำคงน้อยกว่านี้ เพราะต่างคนต่างทำหน้าที่เป็นเฟืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจบ้านเราอยู่แล้วครับ...