เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 01, 2024, 02:31:58 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4 5
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คันเร่งค้าง จากติดอุปกรณ์เสริม  (อ่าน 5281 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 6 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2012, 12:44:59 PM »

copy มาครับ เผื่อเจอจะได้แก้ทัน

-----------------------------------------------------------------------

เพื่อความปลอดภัยและมีสติ...
เวลาประมาณ 11.00 น. เป็นวันที่ผมมิอาจลืมได้ ในชีวิตนี้ ผมได้ขับรถขึ้นทางด่วนพิเศษจาก ถนนจันทน์ มุ่งหน้าไปถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อที่จะไปทำบุญบริจาคสิ่งของ ที่บ้านเด็กอ่อนพญาไท ติด ถ.แจ้งวัฒนะ- ปากเกร็ด

ขณะขับรถไปได้ประมาณ 20 นาที และมองไปที่คันเร่ง เห็นหน้าจอ ที่ 140 กม.ผมก็ได้ถอนคันเร่งและแตะเบรก 2 ครั้งเพื่อลดความเร็ว
แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมได้ลองใหม่อีก 3 ครั้ง คราวนี้กระชากเบรกมือด้วยอีก 2 ครั้ง เบรกเท้าอีกก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ลองเกียร์ว่าง 1 ครั้ง ความเร็วอยู่ที่ 130 กม/ชม. ผมได้พยายามกดโทรศัพท์ไปหาเพื่อนสนิทที่นัดแนะไปทำบุญด้วยกัน
เพื่อนแนะให้ลดเกียร์ จาก D เป็น 2 และ L ความเร็วลดจาก 130/ชม. เป็น 120- 110 ซึ่งลดลงได้เพียงเท่านี้

ความพยายามในการชะลอรถมากกว่า 10 นาที และลองเกียร์ว่าง 1 ครั้ง ไม่มีผลเลย ผมคิดว่าคงอาจจบชีวิตบนการทางพิเศษแล้ว

เพื่อนได้แนะอีกครั้ง และสมาธิเริ่มรวบรว ม ความพยายามประมาณครั้งที่ 7 โยกเกียร์มาที่ช่อง N เป็นเกียร์ว่างแล้วดับเครื่อง
คราวนี้รถได้ชะลอความเร็วลงมาก ผมได้ประคองขับรถต่อไปอีกประมาณ 5 กม.. กว่ารถจะหยุดได้ ซึ่งผมก็สามารถหยุดชิดขอบทางได้ เหมือนรอดตายพ้นนร ก ผมรีบโทรบอกที่บ้านเพราะตอนแรกนึกว่าคงไม่ได้โทรสั่งเสียหรือสั่งลา ผมได้เดินอีกประมาณ 100 เมตรไปบอกเจ้าหน้าที่เก็บเงินที่ ด่านเก็บเงินใกล้แจ้งวัฒนะเพื่อขอความช่วยเหลือ
รอประ มาณ 10 นาที ก็มาช่วย ผลปรากฏว่าสาเหตุที่คันเร่งค้าง เพราะกล่องสัญญาณกันขโมยซึ่งหนักประมาณเกือบครึ่งกิโลไปทับอยู่ที่ ก้านของคันเร่งและเกิดการล็อคขึ้น

ได้สอบถามกับอู่รถแล้ว อู่แจ้งว่า มีโอกาสเป็นไปได้ที่คันเร่งค้างจากสาเหตุดังกล่าว เนื่องจากกล่องสัญญาณกันขโมยจะติดตั้งอยู่เหนือคันเร่งติดตัวถังรถสิ่งที่ควรกระทำคือ ตั้งสติแล้วโยกเกียร์มาที่ช่อง N เป็นเกียร์ว่าง จากนั้นปิดสวิทช์กุญแจดับเครื่องยนต์และเปิดไฟฉุกเฉิน รถก็ยังวิ่งอยู ่แล้วค่อย ๆ เหยียบเบรคเป็นระยะ ๆ ความเร็วรถจะค่อยลดลง จนสามารถจอดรถได้
การปิดสวิทช์กูญแจรถยนต์ดับเครื่องเลยในขณะที่เกียร์รถไม่อยู่ที่ N รถก็ยังวิ่งอยู่เครื่องยนต์และระบบเกียร์จะเสียหายมากกว่าที่อยู่ช่อง N ครับ
ขอเพิ่มเติมให้อีกหน่อยครับ ถ้าวิธีนี้ใช้ได้จริง
ดับเครื่องเฉย ๆ นะครับ อย่าดึงกุญแจออกจากรูกุญแจ เดี๋ยวพวงมาลัยล็อค จะยิ่งแย่เข้าไปอีก เพราะถ้าดับเครื่องโดยที่กุญแจยังเสียบอยู่ เรายังบังคับเลี้ยวได้
พวงมาลัยจะไม่ล็อค เราจะเปลี่ยนเลนเพื่อห ลบรถคันหน้าได้
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
คมขวาน รักในหลวง
"จากดินแดนที่ราบสูงแห่งใบขวาน ข้ามแม่น้ำ ข้ามทะเล(ถ้านั่งเครื่อง) ข้ามภูเขา สู่ดินแดนแห่งด้ามขวาน "
Hero Member
*****

คะแนน 1830
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 19896


ดนตรี คืออาภรณ์ของปราชญ์


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2012, 12:49:02 PM »

        ขอบคุณ ครับพี่ ไหว้
บวก ๑ แต้ม  ต้องกลับไปมุดดูบ้างแล้ว เยี่ยม
บันทึกการเข้า

คลิ๊ก ทริปจักรยาน   "บินเดี่ยว ทางไกล ตามใจฝัน"     ลูกอิสาน พลัดถิ่น  จากแดนดิน  "ไหปลาแดก"  เร่ร่อน รอนแรม เดินทางดั้นด้น  มาสู่  "โคนต้นสะตอ"
nine รักในหลวง
มนุษย์ล่วงทุกข์ได้ด้วย...ความเพียร
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 44
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 571


การเดินทางไกลนับหมื่นลี้....ต้องเริ่มต้นที่ก้าวแรก


« ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2012, 01:04:35 PM »

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

หลังจากพายุผ่านไป..ท้องฟ้าสดใสขึ้นทันตา..อุปสรรคนานาก็ผ่านเลยไป..ชีวิตใหม่เริ่มก้าวเดินอย่างทรนง..แข็งแกร่งดุจหมู่เกาะ.....กลางคลื่นลม..
แปจีหล่อ
Hero Member
*****

คะแนน 6324
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8251



« ตอบ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2012, 01:07:56 PM »

ดับเครื่องแล้วพวงมาลัยไม่หนักเหรอครับ รถทั่วๆไปที่เป็นพวงมาลัยพาวเวอร์ถ้าดับเครื่องยนต์นี่พวงมาลัยหนักมากนะครับ ไหนจะเบรคที่แข็งขึ้นอีกด้วย ถ้าปลดเกียร์ว่างแล้วไม่ต้องดับเครื่องก็ได้ครับ
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2012, 01:10:45 PM »

copy มาครับ เผื่อเจอจะได้แก้ทัน

-----------------------------------------------------------------------

เพื่อความปลอดภัยและมีสติ...
เวลาประมาณ 11.00 น. เป็นวันที่ผมมิอาจลืมได้ ในชีวิตนี้ ผมได้ขับรถขึ้นทางด่วนพิเศษจาก ถนนจันทน์ มุ่งหน้าไปถนนแจ้งวัฒนะ
เพื่อที่จะไปทำบุญบริจาคสิ่งของ ที่บ้านเด็กอ่อนพญาไท ติด ถ.แจ้งวัฒนะ- ปากเกร็ด

ขณะขับรถไปได้ประมาณ 20 นาที และมองไปที่คันเร่ง เห็นหน้าจอ ที่ 140 กม.ผมก็ได้ถอนคันเร่งและแตะเบรก 2 ครั้งเพื่อลดความเร็ว
แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมได้ลองใหม่อีก 3 ครั้ง คราวนี้กระชากเบรกมือด้วยอีก 2 ครั้ง เบรกเท้าอีกก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ลองเกียร์ว่าง 1 ครั้ง ความเร็วอยู่ที่ 130 กม/ชม. ผมได้พยายามกดโทรศัพท์ไปหาเพื่อนสนิทที่นัดแนะไปทำบุญด้วยกัน
เพื่อนแนะให้ลดเกียร์ จาก D เป็น 2 และ L ความเร็วลดจาก 130/ชม. เป็น 120- 110 ซึ่งลดลงได้เพียงเท่านี้

ความพยายามในการชะลอรถมากกว่า 10 นาที และลองเกียร์ว่าง 1 ครั้ง ไม่มีผลเลย ผมคิดว่าคงอาจจบชีวิตบนการทางพิเศษแล้ว

เพื่อนได้แนะอีกครั้ง และสมาธิเริ่มรวบรว ม ความพยายามประมาณครั้งที่ 7 โยกเกียร์มาที่ช่อง N เป็นเกียร์ว่างแล้วดับเครื่อง
คราวนี้รถได้ชะลอความเร็วลงมาก ผมได้ประคองขับรถต่อไปอีกประมาณ 5 กม.. กว่ารถจะหยุดได้ ซึ่งผมก็สามารถหยุดชิดขอบทางได้ เหมือนรอดตายพ้นนร ก ผมรีบโทรบอกที่บ้านเพราะตอนแรกนึกว่าคงไม่ได้โทรสั่งเสียหรือสั่งลา ผมได้เดินอีกประมาณ 100 เมตรไปบอกเจ้าหน้าที่เก็บเงินที่ ด่านเก็บเงินใกล้แจ้งวัฒนะเพื่อขอความช่วยเหลือ
รอประ มาณ 10 นาที ก็มาช่วย ผลปรากฏว่าสาเหตุที่คันเร่งค้าง เพราะกล่องสัญญาณกันขโมยซึ่งหนักประมาณเกือบครึ่งกิโลไปทับอยู่ที่ ก้านของคันเร่งและเกิดการล็อคขึ้น

ได้สอบถามกับอู่รถแล้ว อู่แจ้งว่า มีโอกาสเป็นไปได้ที่คันเร่งค้างจากสาเหตุดังกล่าว
เนื่องจากกล่องสัญญาณกันขโมยจะติดตั้งอยู่เหนือคันเร่งติดตัวถังรถ

สิ่งที่ควรกระทำคือ ตั้งสติแล้วโยกเกียร์มาที่ช่อง N เป็นเกียร์ว่าง
จากนั้นปิดสวิทช์กุญแจดับเครื่องยนต์และเปิดไฟฉุกเฉิน
 รถก็ยังวิ่งอยู ่แล้วค่อย ๆ เหยียบเบรคเป็นระยะ ๆ
ความเร็วรถจะค่อยลดลง จนสามารถจอดรถได้


การปิดสวิทช์กูญแจรถยนต์ดับเครื่องเลยในขณะที่เกียร์รถไม่อยู่ที่ N
รถก็ยังวิ่งอยู่เครื่องยนต์และระบบเกียร์จะเสียหายมากกว่าที่อยู่ช่อง N ครับ

ขอเพิ่มเติมให้อีกหน่อยครับ ถ้าวิธีนี้ใช้ได้จริง
ดับเครื่องเฉย ๆ นะครับ อย่าดึงกุญแจออกจากรูกุญแจ เดี๋ยวพวงมาลัยล็อค จะยิ่งแย่เข้าไปอีก
เพราะถ้าดับเครื่องโดยที่กุญแจยังเสียบอยู่ เรายังบังคับเลี้ยวได้
พวงมาลัยจะไม่ล็อค เราจะเปลี่ยนเลนเพื่อห ลบรถคันหน้าได้


Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา

ยายแปลกใจ  ตรงข้อความสีแดง  อ่ะ ฮา
ก็ในเมื่อ สามารถผลักไปที่ ตำแหน่ง "เกียร์ว่าง"  ได้
แสดงว่าเครื่องยนต์  ถูกตัดระบบ ส่งกำลัง  ออกไปแล้ว

ทำมัยต้องไป "ดับเครื่อง"  อีก อ่ะ ฮา
แล้วพอดับเครื่อง  ระบบ "ห้ามล้อ"  มันจะทำงานได้เหรอ ฮา
คงจะต้องใช้ "เท้า"   กระแทกอย่างรุนแรง  "หนัก"  พิลึก อ่ะ ฮา
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
แปจีหล่อ
Hero Member
*****

คะแนน 6324
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8251



« ตอบ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2012, 01:15:32 PM »

น่าจะเป็นจินตนาการของผู้ที่เผยแพร่คนแรกมากกว่าครับ(ไม่ได้ว่าท่านเจ้าของกระทู้นะครับ)คงไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงรถวิ่งเร็วขนาดนั้นไปดับเครื่องอันตรายถึงชีวิตเลยนะครับ
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2012, 01:16:19 PM »

ดับเครื่องแล้วพวงมาลัยไม่หนักเหรอครับ รถทั่วๆไปที่เป็นพวงมาลัยพาวเวอร์ถ้าดับเครื่องยนต์นี่พวงมาลัยหนักมากนะครับ ไหนจะเบรคที่แข็งขึ้นอีกด้วย ถ้าปลดเกียร์ว่างแล้วไม่ต้องดับเครื่องก็ได้ครับ

นี่อาจจะตอบคำถามป้าบาร์ได้ครับ ไม่ดับเครื่องคงจะดีกว่า Grin Grin Grin เบรค พวงมาลัยยังทำงาน

สิ่งที่ควรกระทำคือ ตั้งสติแล้วโยกเกียร์มาที่ช่อง N เป็นเกียร์ว่าง
จากนั้นปิดสวิทช์กุญแจดับเครื่องยนต์และเปิดไฟฉุกเฉิน
 รถก็ยังวิ่งอยู ่แล้วค่อย ๆ เหยียบเบรคเป็นระยะ ๆ
ความเร็วรถจะค่อยลดลง จนสามารถจอดรถได้
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2012, 01:16:43 PM »

น่าจะเป็นจินตนาการของผู้ที่เผยแพร่คนแรกมากกว่าครับ(ไม่ได้ว่าท่านเจ้าของกระทู้นะครับ)คงไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงรถวิ่งเร็วขนาดนั้นไปดับเครื่องอันตรายถึงชีวิตเลยนะครับ

เป็นไปได้ครับ Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
ทิดเป้า
Hero Member
*****

คะแนน -1181
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11916



« ตอบ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2012, 01:17:24 PM »

 ไหว้ขออนุญาตออกความเห็นนะครับ
 ความเร็วเร็ว 140 กระชากเบรคมือ 2 ครั้ง ...ผมว่า หมุน - กลิ้งตั้งแต่ครั้งแรกแล้วครับ...หากเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ผมว่าควรจะ ลดเกียร์จากสูงมาต่ำ ใช้เเบรคเท้าเพิ่มน้ำหนักเท้าขึ้นเรื่อย ๆ  จนรถอยู่ในความเร็วที่พอจะควบคุมได้ ค่อยลงเป็นเกียร์ว่าง ห้ามดึงเบรคมืออย่างแรงครับ

 ไหว้ขอโทษพี่ carrera ด้วยครับ
บันทึกการเข้า

ทิดเป้า
Hero Member
*****

คะแนน -1181
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11916



« ตอบ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2012, 01:19:19 PM »

 ไหว้ต้องรอท่านพรานบุญ พรานชุมไพรมาแนะนำครับ
บันทึกการเข้า

carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2012, 01:22:17 PM »

ไหว้ขออนุญาตออกความเห็นนะครับ
 ความเร็วเร็ว 140 กระชากเบรคมือ 2 ครั้ง ...ผมว่า หมุน - กลิ้งตั้งแต่ครั้งแรกแล้วครับ...หากเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ผมว่าควรจะ ลดเกียร์จากสูงมาต่ำ ใช้เเบรคเท้าเพิ่มน้ำหนักเท้าขึ้นเรื่อย ๆ  จนรถอยู่ในความเร็วที่พอจะควบคุมได้ ค่อยลงเป็นเกียร์ว่าง ห้ามดึงเบรคมืออย่างแรงครับ

 ไหว้ขอโทษพี่ carrera ด้วยครับ
ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ผมก็ copy เขามา Grin Grin Grin จัดเต็มไปได้ครับ สบาย
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
INFANTRY2008-รักในหลวง-
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 25
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 171


นามะปราง


« ตอบ #11 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2012, 01:27:09 PM »

ลองเกียร์ว่าง 1 ครั้ง ความเร็วอยู่ที่ 130 กม/ชม. ปลดว่างแล้วน่าจะตัดการส่งกำลังแบบที่ยายว่านะครับ ถึงแม้ไอ้กล่องอะไรที่ว่าจะไปกด ไปทับ

ก้านคันเร่ง ก็ไม่เห็นเกี่ยวกับการส่งกำลังไปที่ล้อ

คราวนี้กระชากเบรกมือด้วยอีก 2 ครั้ง ความเร็วขนาดนี้รถน่าจะหมุนเป็นลูกข่างแล้ว

เพื่อนแนะให้ลดเกียร์ จาก D เป็น 2 และ L ความเร็วลดจาก 130/ชม. เป็น 120- 110 ซึ่งลดลงได้เพียงเท่านี้ เหมือนกันกับดึงเบรกมือ

เป็นเกียร์ว่างแล้วดับเครื่องคราวนี้รถได้ชะลอความเร็วลงมาก ผมได้ประคองขับรถต่อไปอีกประมาณ 5 กม.. กว่ารถจะหยุดได้ หม้อลมเบรกอาศัยการปั๊มลมเมื่อ

เครื่องยนต์ทำงาน ถ้าดับเครื่อง ก็เหลือลมค้างที่หม้อลม เหยียบสองสามทีก็หมด แป้นก็จะแข็งเหยียบไม่ลง นี่ไปถึง 5 โล เลย

 แลบลิ้น แลบลิ้น แลบลิ้น แลบลิ้น

บันทึกการเข้า
แปจีหล่อ
Hero Member
*****

คะแนน 6324
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8251



« ตอบ #12 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2012, 01:33:00 PM »

ขออนุญาติเอาประสบการณ์ล้อหลุดมาแบ่งปันนะครับ แบบว่าขับรถเก่าล้อหลังแซงล้อหน้าหลายครั้งแล้วครับ
 กรณีที่ล้อหลังหลุดที่ผมเจอคือหลุดแบบถอดออกไปทั้งยวงเลยคือมีเพลาหลุดออกไปด้วย อาการแรกที่เตือนก่อนจะหลุดคือเวลาเบรคแล้วแป้นเบรคจะเต้นตุบๆรู้สึกได้เลยครับให้ระวังไว้เถอะครับ แล้วถ้าเิกิดว่าหลุดออกมาแล้วไม่ต้องไปยุ่งกับเบรคครับตั้งสติจับพวงมาลัยไว้ดีๆตรงๆปล่อยจนรถหยุดเองครับถ้าไปตกใจแล้วหักพวงมาลัยเลยนี่รถพลิกควํ่าได้ครับ คอยจับอาการของรถว่ามันส่ายซ้ายขวาไหมแล้วค่อยแก้อาการเอาครับ
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
คมขวาน รักในหลวง
"จากดินแดนที่ราบสูงแห่งใบขวาน ข้ามแม่น้ำ ข้ามทะเล(ถ้านั่งเครื่อง) ข้ามภูเขา สู่ดินแดนแห่งด้ามขวาน "
Hero Member
*****

คะแนน 1830
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 19896


ดนตรี คืออาภรณ์ของปราชญ์


เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2012, 01:33:56 PM »

        เอาน่า
จะน้ำแยะไปหน่อยก็ไม่เป็นไร
ผมมองว่า  ได้ข้อเตือนใจกับสิ่งที่เราคาดไม่ถึง
อาจจะเป็นพวก  รองเท้า  กระป๋องน้ำอัดลม  ขวดเครื่องดื่มชูกำลัง
กระป๋องกาแฟ ฯลฯ (รวมถึงพวกกิ๊บ-โบวผูกผม ลิปสติกฯลฯ)
ล้วนแต่อาจทำให้เกิดอันตรายโดยที่เราคาดไม่ถึง ครับ
บันทึกการเข้า

คลิ๊ก ทริปจักรยาน   "บินเดี่ยว ทางไกล ตามใจฝัน"     ลูกอิสาน พลัดถิ่น  จากแดนดิน  "ไหปลาแดก"  เร่ร่อน รอนแรม เดินทางดั้นด้น  มาสู่  "โคนต้นสะตอ"
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #14 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2012, 01:34:41 PM »

เมลล์นี้วนๆ เวียนๆ อยู่หลายรอบแล้วครับ เฉพาะในหลังแนวยิง นี่ก็หลายรอบเหมือนกัน

สมัยที่อินเตอร์เน็ตเริ่มแพร่หลายและในขณะนั้นสื่อโชเชี่ยลเน็ตเวิร์คต่างๆยังไม่มีครับ

ที่แพร่หลายที่สุดก็อีเมลล์ครับ ได้อะไรมาก็ฟอร์เวิร์ดกันระนาว คงจะมีบางพวกที่นั่งเทียนปั้นเรื่องปั้นราว

ส่งๆ ต่อๆ กันไป มีเยอะครับ ทั้งเรื่องราว โศกสุข ปนเศร้า เคล้าน้ำตา บางเรื่องพอย้อนหลังไปดูเนี่ย ขาดเหตและผลไม่น่าเชื่อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 14, 2012, 01:42:51 PM โดย Southlander » บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
หน้า: [1] 2 3 4 5
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.078 วินาที กับ 22 คำสั่ง