บ่อดินขนาด 1 ไร่ ตั้งใจจะใส่ปลาให้ยุ่บเหมือนสระในเขาดินวนาหรือท่าน้ำหน้าวัด ผมเลยปล่อยปลาลงมั่วไปหมดเลย ปลาหมอ,ดุกอุย,ปลาไหล,ปลานิล,ปลาฉลาด,ปลาสวาย,ปลาตะเพียน,กระดี่ แต่ดันใส่ปลาช่อนและปลาบู่ลงไปด้วยอย่างละตัว (ปลาช่อนจมโคลนอยู่ในบ่อที่เขาวิดจนน้ำแห้ง ส่วนปลาบู่มีคนเอามาขายตัวละ 400.-บาท โตเท่าน่องแต่ยาวคืบเดียว)..เลยกังวลว่า 2 ตัวนี้จะกินลูกปลาซะหมด ปล่อยแล้วหายจ้อยเลย แต่ล่าสุดเห็นปลาสวาย 2 ตัว โตเท่าข้อมือโผล่ขึ้นมากินอาหารเม็ดสำหรับปลาดุก ขอเชิญท่านที่เลี้ยงปลาบ่อดินเข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันครับ
ของผมเนื้อที่บ่อประมาณ ๑ งาน ความลึกของบ่อประมาณ ๔ เมตร ปล่อยปลาหลายชนิดเช่น ปลานิล,ทับทิม,ตะเพียน,ดุกด้าน อย่างละ ๒๕๐ ตัว สวาย๔ตัว จีน ๒ ตัว
บึก ๑ ตัว แรด ๒ ตัว ให้อาหารปลารวม แรกๆให้เม็ดเล็ก พอเริ่มโตก็ให้เม็ดใหญ่ ผ่านไปเป็นปีเริ่มมีปลาเล็กๆออกมาให้เห็นตามตลิ่ง ก็เพิ่มเม็ดเล็กจิ๋วลงไปอีก ก่อนปล่อยปลาครั้ง
แรก ตั้งใจไว้ว่าจะเลี้ยงไว้เป็นอาหารในยามขาดแคลน....อยู่มาไม่นานภรรยาผมป่วยด้วยโรคหลายโรค ได้ขอร้องไม่ให้จับปลาในบ่อมาเป็นอาหาร ด้วยเหตุผลบางประการ เพื่อ
ความสบายใจของภรรยาผมก็เลยไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตทุกอย่าง ปลาในบ่อก็เลยเป็นปลาสวยงามเลี้ยงไว้เพื่อความเพลิดเพลินเท่านั้น..... ผ่านไปสองปี ปลาเริ่มแน่นบ่อค่าอาหาร
เม็ดเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผักน้ำต่างๆที่เอามาลงไว้ไม่มีเหลือให้เห็นมันกินกันหมดเกลื้ยง เลยปรึกษาพี่ชายว่าปลามันแน่นมากจนมีตายให้เห็นทุกๆวัน ตัวโตประมาณเกือบๆกิโลทั้งนั้น
ให้พี่ช่วยเอาขึ้นไปลงบ่อญาติๆกันแจกจ่ายกันไป พี่ชายรวมทั้งญาติช่วยกันใช้อวนลาก(ผมไม่ได้อยู่ดู)ไม่รู้ว่าได้มากน้อยเท่าใด ตกเย็นผมกลับมาก็ยังเหลือให้เห็นในบ่ออีกไม่น้อย
ผมก็เลี้ยงต่อมาอีกสักระยะปลาก็เริ่มเต็มบ่ออีก มันออกลูกออกหลานได้ไวมาก ปัญหาเก่าๆก็เริ่มขึ้นอีกคือมีปลาเริ่มทะยอยตายเรื่อยๆ...ผมมารู้ทีหลังว่าปลาขาดอ๊อกซิเจนในน้ำ
กลางวันตะไคร่น้ำ(หรือสาหร่ายเขียวไม่แน่ใจครับ)จะสงเคราะห์แสงให้อ๊อกซิเจนจะไม่มีปัญหาอะไร เวลากลางคืนตะไคร่น้ำจะปล่อยคาบอนไดอ๊อกไซค์ทำให้ปลาขาดอ๊อคซิเยน
เมื่อรู้ปัญหาผมก็ทำอ๊อกซิเย่นให้ปลาโดยทำน้ำตกจำลองให้ปลา ปัญหาหมดไปปลาร่าเริงไม่ลอยหัวเป็นแพเหมือนเมื่อก่อน กินอาหารมากกว่าเก่า ภรรยาชอบใจมีความสุขทุกครั้ง
ที่ให้อาหารปลา แต่ปัญหาอีกอย่างที่ตามมาคือค่าไฟเพิ่มขึ้นเป็นพันบาทจากเดิม(เปิดไฟน้ำตกเฉพาะกลางคืนครับ)ค่าอาหารก็เพิ่มขึ้นอาทิตย์ละสามร้อยบาท ทนไม่ไหวผมก็
กระซิบพี่ชายให้เอาขึ้นอีก...อ้อลืมบอกชื่อปลาอีกชนิดที่ปล่อยลงไปคือปลาจิตรลดากินอาหารเก่งโตเร็ว.... พี่ชายเอาขึ้นคราวนี้ค่อยดูดีหน่อย ปลาบางตาลงไปมาก ด้วยความ
เกรงใจของญาติๆที่ได้รับปลาไปต่างก็พร้อมใจกันรวบรวมเงินค่าอาหารปลามาให้เป็นเงิน ๖ พันบาท ก็ขอบคุณกันไปผมก็มีหน้าที่จัดซื้อจัดหามาให้ภรรยาได้เลี้ยงได้เพลิดเพลิน
กันไป...ไม่รู้ว่าเป็นกรรมดีหรือไม่ดีอย่างไรแต่ที่แน่ๆภรรยาสุขภาพจิตดีขึ้นไม่หงุดหงิดเหมือนเมื่อก่อน(เธอเป็นโรคหัวใจครับ) ตอนนี้ผมสร้างบ่อปูนขนาดหกตันไว้เลี้ยงปลาคาร์พ
สร้างเสร็จแล้วแต่ยังไม่ได้ซื้อปลามาลง กำลังศึกษาการเลี้ยงอยู่ครับ คิดว่าภรรยาคงชอบเพราะได้ใกล้ชิดให้อาหารกับมือสำผัสตัวได้ ฉลาด เชื่อง ที่สำคัญเป็นสัตว์เลี้ยงที่ไม่
ทำร้ายมนุษย์แถมมีอายุยืนยาวเป็นร้อยปี ถ้าเลี้ยงดูเขาเป็นอย่างดี น่าสนใจครับถ้าพร้อมที่จะเลี้ยง