เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 20, 2024, 04:17:08 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เซียนเก็งกำไร 'ทองคำ' ม. 3 'เจ๊จง' หมูทอดเงินล้าน  (อ่าน 3467 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« เมื่อ: มิถุนายน 12, 2012, 11:27:40 AM »

คุ้นหน้าคุ้นตากันนะครับ เจ๊จงหมูทอดเงินล้าน เคยดูตอนแกออกรายการVIP ช่อง9เป็นรายการแรกๆ จากคนที่ไม่มีแม้แต่บ้าน มีลูกเล็กๆ ดิ้นรนจนประสพความสำเร็จจากการขายหมูทอด  เยี่ยม

 


เจาะกลยุทธ์เก็งกำไรทองคำ “เจ๊จง” จงใจ กิจแสวง เจ้าของร้านหมูทอด ใครจะรู้ว่าเจ๊เคยสะสมทองมากสุด 80 บาท แถมโกยกำไร 500 บาทต่อ 1 บาททองคำมาแล้ว

        มุมหนึ่ง "เจ๊จง" (จงใจ กิจแสวง) หญิงกลางคนวัย 47 ปี เจ้าของฉายา “หมูทอดเศรษฐี” โด่งดังในฐานะเจ้าของร้านหมูทอด ตั้งอยู่หลัง “เทสโก้โลตัส” สาขาพระราม 4 แต่จะมีใครรู้บ้างว่า อีกมุมหนึ่ง เธอคือ “นักเก็งกำไรทองคำ” ตัวจริงเสียงจริง เรียกได้ว่า “เก็งกำไร” กันทั้งครอบครัว

        ย้อนประวัติเจ๊จงหมูทอดเงินล้าน เธอเริ่มเป็นที่รู้จัก หลังรายการ SME ตีแตก ออนแอร์เมื่อปี 2553 จากความ "ไม่ธรรมดา" ของร้านหมูทอดแห่งนี้ ที่มีรายได้เฉลี่ยถึงวันละ 100,000 บาท หรือปีละกว่า 20 ล้านบาท

        ทั้งๆ ที่ข้าวหมูทอด และอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเมนูปูจ๋า ปลาหมึก หอยจ๊อ และไส้กรอกมีราคาขายเพียงจานละ 13-31 บาทเท่านั้น ยังเติมข้าวได้ไม่อั้น แถมด้วยผักสดและกล้วยน้ำว้าให้กินฟรีอีกต่างหาก

        เจ๊จงเป็นลูกสาวคนโตจากจำนวนพี่น้องทั้งหมด 4 คน 2 คน มาช่วยงานในร้านหมูทอด ชีวิตในวัยเด็กของเจ๊จงไม่แตกต่างอะไรจาก “เด็กสลัม” ฐานะยากจน เรียกได้ว่า “หาเช้ากินเย็น” พ่อยึดอาชีพขับรถ TAXI ทุกเย็นจะต้องนำเงินที่หาได้มาให้ภรรยาที่ทำงานทอผ้าเป็นงานหลัก และเล่นไพ่เป็นอาชีพเสริม

        ในวัยเยาว์เจ๊จงถือเป็นเด็กที่ “รักเรียน” พยายามทำงานทุกอย่าง เพื่อหาเงินเรียนหนังสือจนจบชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 (ม. 3) ภาคค่ำ จากโรงเรียนวัดคลองเตย

        งานแรกที่เจ๊เริ่มทำ คือ ชวนน้องๆ เข้าไปในชุมชนที่โดนไฟไหม้เป็นประจำ (ปัจจุบัน คือ เทสโก้ โลตัส พระราม 4) เพื่อช่วยกันเก็บเศษเหล็กไปขาย จากนั้นไม่นานก็ไปเดินขายไอติม ก่อนจะมาทำงานในโรงงานพัดลมได้ค่าแรงวันละ 60 บาท เมื่อโรงงานปิดตัว ก็หันไปขายของเรียกได้ว่าขายทุกอย่างที่ได้เงิน

        ช่วงที่ขายของเจ๊จงพบรักกับสามี และแต่งงานตอนอายุ 17 ปัจจุบันมีลูก 3 คน คนโตลูกสาววัย 25 ปี “น้องลูกหนู” สิรินทิพย์ เริงวิจิตรา เรียนจบมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ลูกสาวคนกลางวัย 22 ปี “น้องแต้ว” เรียนจบมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ และลูกชายคนสุดท้องวัย 16 ปี “น้องโอ๊ต” พงศ์ภัค เริงวิจิตร กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนศรีวิกรม์

        หลังจากแต่งงาน เจ๊ยึดอาชีพ “ขายของชำ” เปิดร้านเล็กๆ อยู่ใต้แฟลตคลองเตย ส่วนสามีก็ขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แต่ 2 อาชีพนี้ไม่สามารถเลี้ยงปากเลี้ยงท้องให้กินอิ่มนอนหลับได้ ประกอบกับเจ๊ไม่อยากใช้เงินของสามี เพราะสามีเคยบอกว่า แค่เอาเงินมาฝากไว้ไม่ได้ให้ใช้

        ท่าจะไม่รอดเจ๊จงเลยตัดสินใจนำสินค้าต่างๆ ที่เหลืออยู่ในร้าน ไม่ว่าจะเป็น สบู่ แป้ง ยาสระผม และอื่นๆ อีกมากมาย ใส่ลังเบียร์แบกขึ้นรถสี่ล้อเล็กของสามี เพื่อนำไปขายในแหล่งชุมชน วันแรก “เจ๊จง” ขายของได้ถึง 3,000 บาท ก่อนจะเพิ่มพูนเป็นวันละ 20,000-30,000 บาท ขายดีจนน่าตกใจ

        นอกจากนั้นเจ๊จงยังมีผุดอาชีพใหม่ นั่นคือ “เคาน์เตอร์เซอร์วิส” รับจ่ายค่าน้ำ และค่าไฟฟ้า เรียกได้ว่าทำก่อน “เซเว่น อีเลฟเว่น” เสียอีก โดยจะเรียกเก็บค่าบริการเพียงคนละสิบบาทเท่านั้น ชีวิตช่วงนั้น “รุ่งเรือง” มากเจ๊บอก แม้จะไม่ได้มีเงินเก็บมากมาย

        ทว่าความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ !!

        ด้วยความเป็นคนชอบให้ อยากเห็นเพื่อนๆ มีเงินใช้ จึงชวนกันมาตั้งวงแชร์ สุดท้ายหลายคน “หนี และเบี้ยว” ไม่ยอมจ่ายค่าแชร์ ทำให้ทุกอย่างตกมาอยู่ที่ “เจ๊จง” เพียงผู้เดียว

        สุดท้ายเจ๊กลายเป็นคนมีหนี้ล้านกว่าบาท “เจ๊จง” ต้องจำนองแฟลต ขายรถยนต์และบ้าน เพื่อใช้หนี้ เรียกได้ว่าขายทุกอย่างจนไม่มีอะไรเหลือ ถึงขนาดโยนกุญแจห้องให้เจ้าหนี้ไปเปิดห้องขนของมีค่าออกไป

        หลังแยกทางกับสามีเจ๊จง หันมาขายอาหาร และนมสด เพื่อเลี้ยงลูก 3 คน พร้อมกับใช้หนี้ แต่ธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จ เพราะโดนเทศกิจไล่ จากนั้นก็มาขายกาแฟต่อด้วยข้าวเหนียวหมูปิ้ง แต่ยังได้เงินไม่พอใช้หนี้ จึงหันมาขายอาหารตามสั่ง อุปกรณ์ขายของเกือบทุกชิ้นยืมคนแถวบ้าน ช่วงนั้น “เจ๊จง” ประสบอุบัติเหตุรถชน ทำให้อดีตสามีที่ห่างหายไปนานกว่า 2 ปี กลับมาดูแลกันเหมือนเดิม

        โชคดีเริ่มเข้าข้างเธอบ้าง เมื่อวันหนึ่งเจ๊จงไปซื้อข้าวหมูทอดมาให้ลูกๆ กิน พร้อมกับบอกลูกคนกลาง (น้องแต้ว) ว่า “แบบนี้แม่ก็ทำได้ เดี๋ยวทำให้กิน” ก่อนจะยึดอาชีพขายข้าวหมูทอด ขายไปขายมา “เจ๊จง” เริ่มมีเงินเก็บมากขึ้น จนเข้าข่าย “คนรวย” เพราะเดินเข้าร้านทองแถวบ้านแทบทุกวัน ซื้อทองวันละหลายๆ บาท

        ตอนนั้นเจ๊จงเริ่มคุยกับเจ้าหนี้รายใหญ่ที่ติดเงินอยู่ประมาณ 1.5-2 แสนบาท เพื่อขอผ่อนชำระหนี้เดือนละ 5,000 บาท ส่วนเจ้าหนี้ที่ชอบข่มขู่ “เจ๊จง” ไม่ขอเจรจาและไม่จ่าย เรียกได้ว่า “มีเงิน แต่ไม่อยากจ่าย โทษฐานชอบข่มขู่”

        เจ๊จงเปิด iPad พร้อมนั่งประจำการเก้าอี้ตัวเดิม ภายในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ซึ่งเป็นทั้งห้องนั่งเล่นคอมพิวเตอร์ ห้องเก็บเงิน และห้องขายน้ำ เพื่อเล่า “จุดเริ่มต้นการเก็งกำไรทองคำ” ให้ “กรุงเทพธุรกิจ BizWeek” ฟังว่า เจ๊เริ่มเก็งกำไรทองคำเมื่อ 3-4 ปีก่อน เกิดจากการอ่านหนังสือพิมพ์แล้วสงสัยว่าอะไรทำให้ราคาทองคำขึ้นลง จากนั้นก็เข้าไปศึกษารายละเอียดในเว็บไซต์ของสมาคมทองคำ

        อ่านไปอ่านมาเริ่มรู้สึกสนุกจึงตัดสินใจซื้อทองคำ !!!

        "จำได้ตอนนั้นเจ๊ให้น้องชายขี่มอเตอร์ไซค์ไปซื้อทองคำที่ร้านทองเยาวราช 15 บาท ผ่านไป 2-3 วัน ได้กำไร 3,000 บาท เจ๊ขายเลยไม่รอช้า จากนั้นก็ซื้อมาเรื่อยๆ ครั้งละ 10-20 บาท เคยซื้อทองคำมากที่สุดประมาณ 80 บาท และเคยได้กำไรมากสุดประมาณ 500 บาทต่อทองคำ 1 บาท"

        ช่วงแรกๆ ยอมรับดูกราฟทองคำไม่เป็น เช้าๆ เจ๊ก็จะเข้าไปอ่านดูว่าคนเก่งๆ เขาคุยกันในเว็บไซต์สมาคมทองคำกันยังไง ไม่เข้าใจอะไรก็ไปถามเขาส่วนใหญ่จะไขข้อข้องใจให้ได้ตลอด บางครั้งก็จดศัพท์ภาษาอังกฤษหรือถ่ายรูปกราฟทองคำมาถามลูกค้าในร้านที่มีความรู้

        เมื่อก่อนเจ๊ไม่รู้จักคำว่า “กินข้าวต้ม และขึ้นดอย” ที่คนในสมาคมทองคำกันว่าแปลว่าอะไร แต่ตอนนี้เจ๊เข้าใจแล้ว
        กินข้าวต้ม คือ ขายทองคำได้กำไร ส่วนขึ้นดอยก็ขาดทุนยังขายไม่ได้

        ก่อนซื้อทองคำทุกครั้ง เจ๊จะเข้าไปดูว่าคนเก่งๆ เขาวิเคราะห์ราคาทองคำไว้อย่างไร ส่วนใหญ่เขาจะคุยกันเรื่องแนวโน้มขึ้นลงของราคา และภาวะเศรษฐกิจโลก เพราะราคาทองคำจะอิงกับเศรษฐกิจโลก (เมื่อก่อนไม่รู้เลยจริงๆ เจ๊กระซิบกระซาบ) เจ๊ยอมรับว่าบางครั้งการวิเคราะห์ของกูรูก็มีทั้งแม่นและพลาด แต่มันก็เป็นเรื่องธรรมดา

        ช่วงหลังเจ๊สมัคร Twitter ใช้ชื่อ Jehjong และ Facebook ใช้ชื่อ “ร้านหมูทอดเจ๊จง” อยากรู้อะไรก็ถามในนี้ คนเก่งเรื่องการลงทุนเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นหุ้น กองทุน และทองคำ เจ๊บอกว่าที่ตัดสินใจเรียนรู้ “โซเชียลเน็ตเวิร์ค” เพราะ “อาจารย์ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย” ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด และกรรมการตัดสิน รายการ SME ตีแตกของ “เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์” แนะนำ

        โดยอาจารย์บอกว่า "เราต้องรู้จักสร้างแบรนด์ให้ตัวเอง"

        ตอนนี้มีคน Follow Twitter ของเจ๊แล้วประมาณ 9,147 คน และ Follow Facebook ประมาณ 13,000 คน จนเมื่อหลายปีก่อนเจ๊ได้เนรมิตร้านขายหมูทอดเป็นงานมิตติ้ง เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้หลายๆ เรื่อง ไม่น่าเชื่อคนมาเป็นร้อย นั่งพูดคุยกันอยู่ 2-3 ชั่วโมงก่อนจะแยกย้ายบ้านใครบ้านมัน

        ตอนนี้ก็ยังมีอยู่มิตติ้ง แต่ลดขนาดเป็นงานปาร์ตี้เล็กๆ ประมาณ 10-20 คนแทน เจ๊จะจัดเกือบทุกวันหยุด เพราะสนุกและมีความสุข ส่วนใหญ่คนที่มาจะมีหลากหลายวัย เด็กเรียนปริญญาโท เด็กจบใหม่ก็มี ไม่ใช่มีแต่ สว. (คนสูงวัย)
        เจ๊ชอบไปตามงานสัมมนาต่างๆ ไปหาความรู้เรื่องการลงทุนใส่ตัวเอง บางครั้งก็ไปฟังสัมมนาเกี่ยวกับธุรกิจต่างๆ แต่จะเน้นไปงานที่วิทยากรรู้จักเรา อาจารย์ธันยวัชร์ แนะนำว่ามันเป็นการสร้างแบรนด์ชนิดหนึ่ง แกอธิบายเหตุผลที่ต้องไปฟังวิทยากรที่รู้จักเราว่า..

        เมื่อเขารู้ว่าคุณเป็นใคร เขาก็จะพูดชื่อคุณออกไมค์ คนที่ไม่รู้จักคุณก็จะรู้จักคุณในงานนี้

        ช่วงนี้เจ๊ไม่ค่อยได้ซื้อทองคำ เพราะทองคำที่มีอยู่ประมาณ 30 บาท ยังเข้าข่ายขาดทุน ซื้อมาบาทละ 24,000 แต่ตอนนี้เหลือบาทละ 23,000 ขายไปก็ขาดทุนเก็บไว้ก่อน อีกอย่างมีกูรูวิเคราะห์ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็น 1,620 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสัญญาณราคาทองคำมาจริงๆ อาจซื้อทองเพิ่มเติม แต่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อเท่าไรขอดูสถานการณ์ก่อน เจ๊ประเมิน

        ที่ผ่านมา ไม่เคยกำหนดว่าต้องได้กำไรจากการเก็งกำไรทองคำกี่บาท ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ความพอใจ ไม่อยากโลภมากเดี๋ยวลาภหาย ช่วงแรกๆ ที่เล่นเก็งกำไรเจ๊ซื้อทองคำเก็บไว้ค่อนข้างเยอะ สุดท้ายก็เอาไปขายเพื่อนำเงินมาซื้อบ้านแถววัชรพล แต่ไม่ค่อยได้อยู่ส่วนใหญ่จะไปแค่วันหยุด

        ลงทุนทองคำให้อะไรเยอะแยะมากมาย เมื่อก่อนไม่เคยเก็บเงินในแบงก์เกินระดับแสน แต่เดี๋ยวนี้ทุกวันต้องให้ลูกน้องเอาเงินที่ได้จากการขายของส่วนหนึ่งประมาณ 40,000 บาทไปเข้าแบงก์ทุกวัน การลงทุนสอนให้เรารู้จักออม ไม่ได้สอนให้รู้แต่การเก็งกำไร ตอนแรกตั้งใจจะลงทุนทองคำตอนเกษียณอายุ

        เจ๊คิดว่าวันหนึ่งจะซื้อทองคำให้ได้ครั้งละ 200-300 บาท เชื่อว่าสัก 2-3 ปี น่าจะทำได้ เพราะเจ๊มีแผนจะเพิ่มรายได้ในกระเป๋าให้มากขึ้น ตอนนี้คิดอยากลงทุนกองทุน กำลังศึกษาการลงทุน จากผู้รู้ใน Twitter

        ถามว่าอยากลงทุนในตลาดหุ้นไหม ถ้ามีโอกาสเจ๊ ไม่พลาด จริงๆ ก็มีคนแนะนำ บางคนก็ไม่สนับสนุน โดยเฉพาะ “ตัน ภาสกรนที” เจ้าของอิชิตัน แกเบรกว่า “ห้ามเล่นหุ้น” ไม่ได้บอกเหตุผล แต่เจ๊ก็อยากศึกษาเห็นกลุ่มที่ทัวร์ทำบุญด้วยกัน เขาคุยกันเรื่องหุ้นท่าทางน่าสนใจ ประกายตาเจ๊แวววาว

        ลูกสาวคนโต (น้องลูกหนู) ที่นั่งอยู่ด้วยกันในห้อง พูดสวนขึ้นมาว่า หนูก็สนใจตลาดหุ้น ซื้อหนังสือมาอ่านแต่ไม่เข้าใจศัพท์เทคนิค ถามว่าทำไมถึงสนใจหนูอยากศึกษา หลังเล่นทองคำตามแม่แล้วโอเค ส่วนใหญ่จะซื้อทองร้านแม่ทองใบที่เยาวราช เมื่อก่อนเคยซื้อร้านทองฮั่วเซ่งเฮง เธอบอกชื่อร้านเสร็จสรรพ

        ได้ยินว่าเจ๊จงเป็น "ที่ปรึกษา" เก็งกำไรทองคำด้วย ทุกเช้าหลังเจ๊จะดูกราฟทองคำ ไปบอกเพื่อนๆ ที่เป็นแม่ค้าในตลาดสดที่มีอยู่ประมาณ 3-4 คน เจ๊จะนำสิ่งที่กูรูบอกไปบอกต่อ แต่มีกฎว่าเราจะไม่ซื้อขายพร้อมกัน

        หน้าที่ของเจ๊ คือ มาบอกข่าวสารเท่านั้น เพื่อนเขาเห็นเจ๊เก็งกำไรทองคำแล้วได้กำไรเขาก็อยากเล่นบ้าง อย่างเซลส์ขายโค้ก ก็มาปรึกษาเหมือนกัน ขานั้นก็เล่นหลายสิบบาท ตอนนี้ตกอยู่ในภาวะเดียวกัน คือ “ติดดอย” (หัวเราะ) เจ๊ไม่ใช่คนเก่งก็ฟังเขามาอีกที เธอถ่อมตัว

        "ลงทุนแล้วได้กำไรก็อยากให้เพื่อนได้บ้าง เจ๊จนมาก่อนรู้ว่ามันลำบากขนาดไหน อะไรที่ทำให้มีเงินเพิ่มขึ้นถ้ารู้ก็จะบอก ทุกวันนี้ ก็ไม่ได้ร่ำรวยมากมีสินทรัพย์ประมาณ 10 ล้าน แบ่งเป็นที่ดินแถวนครปฐม 2 ไร่ บ้านย่านวัชรพล 3 หลัง และแถวคลอง 3 จำนวน 1 หลัง ก็เท่านั้น"

        มีเพียงเท่านี้ก็พอใจแล้ว เพราะมาจากพื้นฐานไม่มีอะไรเลย ถ้ามีโอกาสก็จะซื้อที่ดินเก็บไว้อีก ไม่ได้หวังไปเก็งกำไรแต่จะเก็บไว้ในลูก เจ๊เล่า

        ถามถึงกิจการร้านขายหมูทอด ปีหน้า (2556) เจ๊บอกว่า อยากมีรายได้ปีละ 30 ล้านบาท เท่ากับว่าต้องขายหมูมากถึง 200 กว่าโล ตอนนี้เล็งจะขยายสาขาอีก 1 แห่ง หากเป็นไปได้อาจไปซื้อตึกแถว 4 ห้อง มูลค่า 12 ล้านบาท ที่ชลบุรี


        "เจ๊ชอบมากแต่ยังไม่มีเงินซื้อ ตั้งใจจะขายของให้มากขึ้น ตอนนี้เข้าไปคุยกับกรมการค้าภายใน เรื่องรถเข็นธงฟ้า ถ้าเขาอนุมัติจริงๆ ใครอยากขายหมูทอดมาคุยกัน คุณเข็นออกไปในราคาต้นทุน 16 บาท แต่เอาไปขาย 19 บาท แค่นี้ก็รวยแล้ว"

        เจ๊ตั้งเป้าหมายระยะยาว อยากมีรายได้จากการขายหมูทอดปีละ 100 ล้านบาท (หัวเราะ) ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย และอยากขยายสาขาไปเชียงใหม่ต่ออีก

        เจ๊โชคดีที่มีผู้ใหญ่เก่งๆ คอยช่วยเหลือเรื่องการตลาด ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ธันยวัชร์ และ “พี่ใช้” สมชาติ ลีลาไกรศร ซึ่งอาจารย์ธันยวัชร์ฝากฝังเจ๊ไว้กับ “พี่ใช้” แกจะคอยแนะนำโน่นนี่นั่นตลอด

        ตอนนี้กำลังหาทำเลขายหมูทอดแห่งใหม่ เพราะตรงที่ขายอยู่ปัจจุบัน (หลังเทสโก้โลตัส พระราม 4) เจ๊เช่าการท่าเรือฯ มา 7 ปี หากเขายึดที่คืนต้องไปขายที่อื่น ตอนนี้เล็งแถวถนนเทพารักษ์ เคยผ่านไปคนเยอะมาก เจ๊ไม่กลัวที่จะเริ่มต้นใหม่ เพราะหากของเราดีจริงมันขายได้ดีอยู่แล้ว

        ทุกวันนี้ เจ๊มีความสุขมาก เมื่อก่อนร้องไห้บ่อย ทุกวันก็ยังเครียด แต่เครียดเรื่องพี่น้อง ที่ผ่านมา สอนลูกเสมอว่า “อย่าคิดมาก จงปลง” แล้วทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดี

        สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยลืม เจ๊เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป เพราะคอลัมน์ “เอ็กซ์ไซด์” หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ เขาเป็นหนังสือพิมพ์แรกที่ลงเรื่องร้านหมูทอดของเจ๊ เพราะไปขอความช่วยเหลือจากคนรู้จักในไทยโพสต์ จากนั้นรายการทีวีก็โทรมาขอถ่ายรายการเพียบ เจ๊ก็ “ดัง” ไปตามระเบียบ
        ----------------------------------------------------
        เจ๊จงสอนลูก “พี่น้องต้องรักกัน”

        “สิรินทิพย์ เริงวิจิตรา” หรือ น้องลูกหนู ลูกสาวคนโตวัย 25 ปี อาสาเล่าให้ฟังว่า แม่มักสอนหนูเสมอว่า “พี่น้องต้องรักกัน” ประโยคนี้แม่พูดเสมอจนจำขึ้นใจ ที่ผ่านมา แม่สอนให้เดินตามรอยเท้า เพราะพิสูจน์แล้วว่ามันดีจริงๆ อย่างการที่ลงทุนทองคำก็เพราะทำแล้วได้กำไรจริงๆ

        “เชื่อแม่ดีที่สุด”

        อาชีพขายของ แม่ก็ทำให้ดูว่ามันได้กำไรมากมายแค่ไหน ตั้งแต่เรียนจบ หนูไม่เคยทำงานบริษัท เพราะได้เงินน้อยไม่เหมือนขายของ ครั้งหนึ่งแม่เคยโยนเงินจากการขายหมูทอดให้หนูกับน้องนับ แม่บอกว่าหักค่าใช้จ่ายออกที่เหลือเป็นกำไร

        “เห็นแบบนี้แล้วไม่อยากขายของเหรอ”

        จำได้เคยฝึกงานอยู่สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แล้วรู้สึกไม่ชอบ มันดูซ้ำซาก หนูเลย ตัดสินใจช่วยแม่ดูแลร้านหมูทอด ทุกวันนี้ได้ค่าแรงจากแม่วันละ 500 บาท เท่าๆ กับพนักงานคนอื่นในร้าน

        ตอนนี้หนูเก็บเงินได้เป็นแสนแล้ว น้องคนสุดท้องน่าจะได้หลายแสนแล้ว ส่วนใหญ่หนูจะเก็บเงินไม่ค่อยเอาไปทำอะไร ล่าสุดเอาไปซื้อเครื่องเติมเงินมือถือ มาตั้งหน้าร้าน

        จนป่านนี้ยังไม่คืนทุน (หัวเราะ)

        คนที่ซื้อของให้ทุกคนในบ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นพ่อ เพราะของที่หนูและแม่ใช้ ไม่ว่าจะเป็น iPhone ของหนู และ iPad ของแม่ พ่อก็เป็นคนซื้อให้ทั้งนั้น

        เรียกได้ว่า “เสี่ยเลี้ยง”

        เอ่อ....ถ้าเป็นอย่างนี้นางฟ้าแบ่งเวลาเทรดหุ้นไปขายหมูทอดมั่งดีกว่าจะได้มีเงินเก็บเยอะๆมาซื้อทองเก็บไว้แบบเจ๊จง

        ที่มา:กรุงเทพธุรกิจ

 


http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=32347
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 12, 2012, 11:30:09 AM โดย เบิ้ม » บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
supreme
Hero Member
*****

คะแนน 127
ออฟไลน์

กระทู้: 1187



« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2012, 07:16:01 PM »

เห็นเจ้แกครั้งแรกใน SME ตีแตก ฮามาก แกบริหารร้านของแกแบบซื่อๆ พูดตรงๆจริงใจ ไม่มีหลักการตลาดอะไรแบบคนอื่นๆที่ผ่านมา แกบอกว่าไม่ได้เรียนมา แต่แกก็ชนะ และกรรมการที่ตัดสินก็มาบอกว่า ที่แกทำถูกต้องตามหลักการตลาดอยู่แล้ว  ก็ไม่คิดว่าแกจะต่อยอดรายได้แกมาทางนี้ได้ เพราะตอนนั้นแกไม่รู้จักหรอกโซเชียลเน็ทเวิร์ค ก็นับว่าแกเก่งจริงๆครับ
บันทึกการเข้า

การศึกษาโดยไม่คิด ไร้ประโยชน์    การคิดโดยไม่ศึกษา เป็นอันตราย
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #2 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2012, 07:20:15 PM »

บ้านเจ๊แกหลังใหญ่โตครับ รถเบนซ์ก็มีนะ ขายหมูวันนึงหลายร้อยกิโล ของทอดสารพัดชนิดครับ เน้นอร่อย ราคาย่อมเยา มีน้ำใจผลไม้ฟรี เพิ่มข้าวฟรี ลูกค้าต้องเข้าคิวยาวเฟื้ิอย เจ๊แกออกหลายรายการนะครับ พิธีกรยังงง ทำไมคิวยาวขนาดนั้น 55 เยี่ยม

เจ๊แกเคยเล่าช่วงชีวิตลำบาก โดนโกงแชร์ แม้แต่เงินให้ลูกกินยังไม่มี ต้องหาเศษเหรียญในบ้านมาซื้อให้ลูกกิน แต่ก็ดิ้นรนสู้จนมีขึ้นมาได้ในเวลาไม่นานนัก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 12, 2012, 08:10:39 PM โดย เบิ้ม » บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #3 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2012, 07:35:19 PM »

เจ๊แกอารมณ์ดี ไม่ค่อยหวงวิชา  เยี่ยม

http://www.youtube.com/watch?v=T78icJVnqwc
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265


ขาย-อัพเกรด คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง


« ตอบ #4 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2012, 07:50:47 PM »

ผมเชื่อเสมอว่าคนคิดดี ทำดี มีน้ำใจ ต้องมีที่ยืนในสังคมครับ
บันทึกการเข้า
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2012, 08:23:26 PM »

เป็นตัวอย่างที่ดีของคนสู้ชีวิต  เยี่ยม

ขอบคุณ น้าเบิ้ม
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #6 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2012, 08:57:06 PM »

เจ้แกเก่งมากครับ   เยี่ยม
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2012, 10:39:54 PM »

พาดหัวว่าเก็งกำไรทองคำ เลยนึกว่าเก็งกำไรทองคำจนรวย... สรุปว่ารวยจากหมูทอดครับ อันนี้รวยจริง รวยกว่าเก็งกำไรทองคำ...

ส่วนเก็งกำไรทองคำตามท้องเรื่องได้กำไรทองคำหนักหนึ่งบาทได้กำไรเป็นเงิน 500 บาท, มูลค่าทองคำหนักหนึ่งบาทเป็นเงิน 24000 ยาท(ตามท้องเรื่อง)... ถ้าแค่นี้ได้เปอร์เซ็นต์น้อยมากรวยยาก(หากเทียบกับหุ้นครับ), แต่คงมีข้อดีที่เสี่ยงน้อยกว่า เพราะยังไงทองคำก็เป็นของมีค่าในตัวมันเอง...
บันทึกการเข้า
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #8 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2012, 11:21:51 PM »

พาดหัวว่าเก็งกำไรทองคำ เลยนึกว่าเก็งกำไรทองคำจนรวย... สรุปว่ารวยจากหมูทอดครับ อันนี้รวยจริง รวยกว่าเก็งกำไรทองคำ...

ส่วนเก็งกำไรทองคำตามท้องเรื่องได้กำไรทองคำหนักหนึ่งบาทได้กำไรเป็นเงิน 500 บาท, มูลค่าทองคำหนักหนึ่งบาทเป็นเงิน 24000 ยาท(ตามท้องเรื่อง)... ถ้าแค่นี้ได้เปอร์เซ็นต์น้อยมากรวยยาก(หากเทียบกับหุ้นครับ), แต่คงมีข้อดีที่เสี่ยงน้อยกว่า เพราะยังไงทองคำก็เป็นของมีค่าในตัวมันเอง...

ผมก็ว่าจะแก้หัวข้ออยู่ครับพี่สมชาย เห็นเค้าพาดมางั้น ก็ยกมาทั้งดุ้น ไม่อยากตัดแต่งครับ ผมยังเคยเกงกำไรได้บาทหลายพันเลยครับ  คิก คิก

แต่ตั้งแต่2หมื่นกว่า เลิกมองเลยครับ แพงไปหน่อย  Cheesy
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
SillyOldMan
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1984
ออฟไลน์

กระทู้: 7567


ผ่านทะเล เห็นบึงน้ำไร้ความหมาย


« ตอบ #9 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2012, 11:53:17 PM »

พาดหัวว่าเก็งกำไรทองคำ เลยนึกว่าเก็งกำไรทองคำจนรวย... สรุปว่ารวยจากหมูทอดครับ อันนี้รวยจริง รวยกว่าเก็งกำไรทองคำ...

ส่วนเก็งกำไรทองคำตามท้องเรื่องได้กำไรทองคำหนักหนึ่งบาทได้กำไรเป็นเงิน 500 บาท, มูลค่าทองคำหนักหนึ่งบาทเป็นเงิน 24000 ยาท(ตามท้องเรื่อง)... ถ้าแค่นี้ได้เปอร์เซ็นต์น้อยมากรวยยาก(หากเทียบกับหุ้นครับ), แต่คงมีข้อดีที่เสี่ยงน้อยกว่า เพราะยังไงทองคำก็เป็นของมีค่าในตัวมันเอง...

เห็นด้วยครับ  เยี่ยม
บันทึกการเข้า

What man is a man , who does not make the world better?
telekbook - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1124
ออฟไลน์

กระทู้: 3629


« ตอบ #10 เมื่อ: มิถุนายน 13, 2012, 08:59:07 AM »

คนแบบนี้น่านับถือครับ  เยี่ยม
บันทึกการเข้า
Wzytitiyatot
Newbie
*

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 1


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: สิงหาคม 14, 2012, 07:41:10 PM »

น่านับถือจิงๆ
บันทึกการเข้า

ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: สิงหาคม 14, 2012, 08:24:51 PM »

+1ครับขออนุญาติแชร์นะครับ
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
lek
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1594
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13942


การแบ่งปัน ทำให้เราและคนอื่นมีความสุข


« ตอบ #13 เมื่อ: สิงหาคม 14, 2012, 10:03:38 PM »

ผมเซ่อๆซ่าๆยังกำไรแปดแสนกว่าๆ
บันทึกการเข้า

มีความสุขแบบที่เรามีก็พอhttp://www.gunsandgames.com/smf/index.php?board=29.0  (รวมพลคนอีสาน)
Pong CB1300sf-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 342
ออฟไลน์

กระทู้: 2075


« ตอบ #14 เมื่อ: สิงหาคม 15, 2012, 08:26:11 AM »

พาดหัวว่าเก็งกำไรทองคำ เลยนึกว่าเก็งกำไรทองคำจนรวย... สรุปว่ารวยจากหมูทอดครับ อันนี้รวยจริง รวยกว่าเก็งกำไรทองคำ...

ส่วนเก็งกำไรทองคำตามท้องเรื่องได้กำไรทองคำหนักหนึ่งบาทได้กำไรเป็นเงิน 500 บาท, มูลค่าทองคำหนักหนึ่งบาทเป็นเงิน 24000 ยาท(ตามท้องเรื่อง)... ถ้าแค่นี้ได้เปอร์เซ็นต์น้อยมากรวยยาก(หากเทียบกับหุ้นครับ), แต่คงมีข้อดีที่เสี่ยงน้อยกว่า เพราะยังไงทองคำก็เป็นของมีค่าในตัวมันเอง...
เห็นด้วยครับ  ตอนนี้ต้องลงเงิน 23000-24000  เพือหวังกำไร 200-500 บาท
ผมเอาเงินไปลงอย่างอื่นดีกว่า   ชั่วโมงนี้ ที่ดิน พุ่งยังกะจรวด  คอนโดในเมือง

ธรุกิจขาย อาหาร ก็กำไรดีมาก ร้านก๋วยเตี๋ยว ข้างบ้านผม  ออกรถดีเดียว 2 คัน
เบนซ์ 240  /  อัลพาร์ท   2 คันรวมแล้ว 8 ล้านได้
อีกร้าน ขับ  BMW X6 คันละ 8 ล้าน
กำไร จากก๋วยเตี๋ยวเรือ มันเยอะจริง  Grin

คงต้องหาทางไปขายอาหารบ้าง ทำบ้านเช่า กินได้เดือนละ ครั้ง  หัวเราะร่าน้ำตาริน

บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.077 วินาที กับ 22 คำสั่ง