ธรรมะวันหยุด
พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร watdevaraj@hotmail.com 0-2281-2430 เมตตา คือ ปรารถนาดี มีมิตรไมตรี จะทำ พูด หรือคิดสิ่งใดด้วยใจที่หวังความสุขความเจริญต่อผู้อื่นเป็นสำคัญ "เมตตา" เป็นยาวิเศษที่มีอยู่ในจิตใจของมนุษย์ทุกคน พระพุทธองค์ทรงค้นพบและนำเสนอมา 2,500 กว่าปีแล้ว
คนมีเมตตามีผลดีต่อสุขภาพ หัวใจเต้นช้าลง ความดันโลหิตลดลง ร่างกายหลั่งสารสุขมากขึ้น
โรคบางอย่างหายได้ เช่น โรคหืด และโรคความดันโลหิตสูง ได้รับการพักผ่อนหลับสนิทมากกว่าการนอนหลับธรรมดา ระบบประสาทคลายความตึงเครียดลง ลดความฟุ้งซ่านกระวนกระวาย ช่วยพัฒนาความรู้สึกนึกคิดจิตใจและความประพฤติได้ผลดี อารมณ์มั่นคง จิตเบิกบาน มีความรู้สึกผิดชอบดีขึ้น มีความคิดความฉลาดรวดเร็วขึ้น สามารถปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ดีพอใจในงานที่ทำอยู่ เป็นต้น
วิธีแผ่เมตตา
1. แผ่เมตตาโดยเจาะจงตนเองและผู้ที่อยู่ใกล้ชิด
2. แผ่เมตตาโดยไม่เจาะจงสรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่จำกัด ไม่มีประมาณ
มฆะมาณพพร้อมสหาย 33 คน มีจิตเมตตาแผ่ไพศาล บำเพ็ญประโยชน์ โดยไม่มุ่งหวังสิ่งตอบแทน ปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา สร้างถนน สร้างสะพาน สร้างศาลาให้คนพักระหว่างเดินทาง บริการข้าวน้ำ ช่วยเผาศพไม่มีญาติ เป็นต้น
บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ด้วยจิตเมตตาธรรม ไม่ใส่ใจคำกระทบกระทั่ง ไม่โกรธเมื่อถูกใส่ความ ถูกจับได้หมายปองถึงชีวิตโดยปล่อยให้ช้างตัวดุร้ายเหยียบ แต่อาศัยเมตตาธรรมที่หนักแน่นมั่นคงแผ่ไป ช้างตัวที่ดุร้ายได้สัมผัสกระแสจิตที่ชุ่มฉ่ำด้วยความรัก ความเมตตาของพวกเขา ไม่อาจทำร้ายได้
สรรพคุณเมตตา ทำให้มีสุขภาพดี มีเสน่ห์ น่ารัก เสริมความงาม มีศักยภาพ หลับเป็นสุข
หลับสบายเป็นยานอนหลับอย่างดี
ตื่นเป็นสุข ตื่นขึ้นด้วยความสดชื่น แจ่มใส มีความสุขตลอดวัน ไม่ฝันร้ายด้วยตื่นตระหนกตกใจกลางดึก เทวดารักษาหรือผู้ใหญ่ให้ความเมตตา อันตรายมียาพิษ ศัสตราวุธไม่กล้ำกราย เป็นที่รักของมนุษย์และอมนุษย์ทั้งหลาย ผิวพรรณผุดผ่องใส ใจไม่ฟุ้งซ่าน
อานุภาพแห่งเมตตาย่อมทำให้คนอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข สมควรอย่างยิ่งที่จะเจริญเมตตา
คือ ทำ พูด คิดด้วยจิตเมตตา ไม่เบียดเบียนกัน ไม่ขมเหงกัน ไม่ปรารถนาทุกข์ให้แก่กัน
"เมตตาจึงเป็นหนทางที่จะนำไปสู่ความสุขทั้งแก่ตนและผู้อื่น"