ในไทยไม่มีหรอกครับ
เค้าใช้ตำรวจ/ทหารที่ได้รับการฝึกมา
มองคนปร๊าดเดียวก็เดาได้แล้วว่าไอ้นี่น่าสงสัยรึเปล่า
เห็นเพื่อนบอกว่า คนที่ได้รับฝึกมาเดาถูกซะ ๘๐ %
คือ ใน ๑๐๐ คันที่เรียกตรวจค้นจะเจอของผิดกฎหมายซะ ๘๐ คัน
แม่นกว่า GT200 อีก
Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" พี่ Sitthipong อ่ะ ฮา
เรื่อง รถ X-ray ที่ใช้แสกน สินค้า หรือ วัตถุต้องสงสัย อ่ะ
มีใช้มานานแล้ว หน่วยงานที่นำมาใช้แรกๆ คือ ปปส.
ที่เขาได้รับมอบมาจาก D.E.A. อเมริกา อ่ะ ฮา
ตอนนี้ใช้แพร่หลาย ตามชายแดน
ตั้งแต่แม่สาย สลกบาตร หนองคาย ยันไปถึง โกลก อ่ะ ฮา
ส่วนอีกหน่วยงานหนึ่งคือ ศุลกากร เขาเพิ่งเริ่มนำเข้ามาใช้
ในกิจการ ตรวจสอบสินค้าทั้ง เข้า - ออก ที่ด่านมาบตาพุด อ่ะ ฮา
ศุลกากรใช้เครื่องเอ็กเรย์ในการตรวจสินค้ามานานแล้วครับ เริ่มเมื่อประมาณปี 48
แล้วตามชายแดนที่ยายกล่าวมาส่วนใหญ่เป็นเครื่องเอ็กเรย์ของศุลกากรทั้งนั้นครับ
เครื่องเอ็กเรย์ของศุลกากรมีขนาดใหญ่กว่าของ บช.ปส.เยอะเพราะใช้เอ็กเรย์สินค้าเป็นหลัก
เมื่อก่อนสตช.ก็เคยประสานงานว่าจะยืมไปสองเครื่องไปตั้งที่แพร่กับลำปาง
แต่ดูจากคลิปข่าวในกระทู้นี้บอกว่าจะซื้อเองแล้ว
ส่วนที่ถามว่าคนขับต้องลงจากรถมั้ย ตามหลักการแล้วต้องลงนะครับ
เพราะคิดดูว่ารังสีที่แรงขนาดส่องทะลุเหล็กทะลุรถเป็นคันๆจะมีผลต่อมนุษย์ขนาดไหน
ส่วนผู้ควบคุมรถนั้นไม่ต้องห่วงหรอกครับมีชีลด์ตะกั่วป้องกันรังสีอยู่
และรังสีเอ็กแบบนี้สร้างจากกระแสไฟฟ้าเมื่อหยุดการทำงานก็ไม่มีรังสีต้องค้างเหมือนเครื่องที่ใช้สารกัมมันตภาพรังสี
น่าคิดเหมือนกันว่าถ้าจะเอ็กเรย์ทั้งที่มีคนอยู่บนรถจะเป็นการละเมิดหรือเปล่า