บอกตรงๆกระทู้นี้ได้เรื่องได้ราวมากๆตั้งแต่ตั้งกระทู้มา
ขอบคุณพี่สมชาย พี่เล็ก และทุกๆท่าน
พี่สมชายกับผมเมื่อ 10 กว่าปีก่อน เคยมีซัมซิงลอง กันสมัย ผมหัดเล่นปืนใหม่ๆ แกเป็นอาจารผมเลย
พี่มะขิ่น พี่คอราบ อีก 2 ท่านด้วย
-------------------------
เอาละขอแย้งอาจารสมชายอีกนิดนะครับ
คืองี้ครับพี่สมชาย สมัยผมมีลูกชายคนแรก ปี 2535 ลูกสาว 2538 ลูกชาย 2543
และเพิ่งจะมีลูกหลงมาอีกคนเมื่อปรายปี 2552
ใจผมที่เคยห้าวหาญ สอนลูก 3 คนให้สู้คน สอนลูกให้ไม่ยอมคน สอนลูกให้กล้าไม่ให้กลัวคน
มันหายไปหมดแล้วครับ ...................... ผมปอดแหกครับบอกตรงๆเลย ผมปอดแหกมากๆ
จากที่เคยขับรถ 130 -150 เดี๋ยวนี้ขับเกิน 100 มันกลัวไปหมด หรือผมแก่เกินไปแล้วพี่สมชาย
อะไรที่ปะฉะดะ สมัยห้าวๆไม่มีหนี เดี๋ยวนี้ไปกินตามร้านอาหารที่ไหน เสียงแก้วโต๊ะข้างๆตกลงพื้นใจคอผมก็ไม่ดีแล้ว
มันจะตีกันไหมวะ กูจะโดนลูกหลงไหมวะ
คำแนะนำพี่สมชายผมน้อมรับครับด้วยความเคารพพี่สมชาย เพราะผมนับถือพี่คนหนึ่งดังอาจารปืนผม
แต่ผมขอเลี่ยงปัญหาดีกว่าครับ บอกตรงๆครับ ผมกลัวมันเอาดินสอไปแทงตาเพื่อนที่กัดหูมันครับ
นายสมชายจำไม่ได้เลยครับ ว่าเคยคุยเรื่องปืนเรื่องไหนกับใครมั่งน่ะครับ อย่างไรก็ขอบคุณที่ให้เกียรติเรียกว่าอาจารย์ครับ(เย้)... ส่วนเรื่องหนูตัวน้อยนั่นก็ต้องแล้วแต่วิจารณญาณของคุณพ่อกับคุณแม่แหละครับ... แฮ่ๆ...
นายสมชายมีเพิ่มเติมเฉพาะตัวเองว่าเส้นแบ่งว่าจะสู้หรือเลี่ยงมี 2 เรื่องครับ, เรื่องแรกคือศีล 5 ครับ ส่วนเรื่องที่สองคือ"หากกลัวให้วางแผน"และ"เมื่อไม่มีแผนให้เลี่ยง/หนีเอาไว้ก่อนครับ"... เรื่องหัดให้วางแผนนี่เป็นเรื่องสอนกันไม่ง่าย เพราะต้องมีเรื่องพื้นฐานอื่นก่อน ได้แก่เรื่องการใช้ภาษาไทย กับเรื่องการฝึกให้เป็นคนช่างสังเกตและจับประเด็นก่อนเรื่องวางแผนครับ...
เอาตัวอย่างที่เห็นง่าย เช่นหนังผีไทย(ผีปอบทั้ง 8 ภาค) คนวิ่งหนีผีแบบไม่มีแผนกันตลอด วิ่งกันไปวนไปวนมาไม่ไปไหน วิ่งชนกันก็ฮากันหนึ่งที วิ่งจ๊ะเอ๋ผีก็ฮากันอีกหนึ่งที... ส่วนหนังฝรั่ง"เกือบทุกเรื่อง"ที่มีบทเด็กๆ(หรือผู้ใหญ่)วิ่งหนีผี ไม่ว่าจะเป็นผีดิบแวมไพร์หรือ ผีอื่นหรือมนุษย์หมาป่าก็ตาม ขั้นแรกมันจะถามกันเองก่อนว่าใครมีแผนมั่ง? แล้วเถียงกันเรื่องแผน!!! จากนั้นหนังก็ผูกเรื่องกับการพยายามทำตามแผน, ในขณะที่หนังไทยเล่นอยู่กับเสี่ยงดวงกับความบังเอิญจนเกือบจบเรื่องก็จะ"บังเอิญ"รู้วิธีจัดการกับผี แล้วหนังก็จบตรงนั้น...
การสอนใครสักคนให้รู้จักวางแผนไม่ใช่เดินไปบอกว่าให้หัดวางแผนครับ... แต่ต้องเริ่มต้นด้วยการคุยกันบ่อยๆ ให้เล่าเรื่องต่างๆที่โรงเรียนให้เราฟัง เป็นการฝึกทักษะการสื่อสารกับฝึกเรื่องการจับประเด็น เพราะหากจับประเด็นหรือเก็บข้อมูลไม่ได้ ก็เล่าเรื่องราวต่างๆไม่ได้ จับต้นไม่ได้ จับปลายไม่ได้ ไม่รู้จะเล่ายังไง ระหว่างที่แกเล่า เราก็ถามเป็นระยะว่าแล้วหนูจะทำยังไงต่อไป...
เมื่อหนูยังตอบไม่ได้ว่าหนูจะทำยังไงต่อไป แสดงว่า"หนูยังไม่มีแผน"เราก็ชวนคุยไปเรื่อยครับ, จากนั้นก็แล้วแต่คุณพ่อคุณแม่แหละครับว่าจะ"ใส่"อะไรลงในระบบความคิดของแกครับ... เรื่องการสื่อสาร/การใช้ภาษาไทยกับเรื่องการวางแผนนี่เป็นเรื่องที่เก่าแก่มากที่สุดในอารยธรรมมนุษย์ แต่เรื่องนี้เป็น"เส้นแบ่ง"เส้นหนึ่งในสังคมไทยที่คนส่วนหนึ่งไม่ตระหนักว่า"มันมีจริง"ครับ...
แต่ถ้ายังไม่มีแผน ต้องหนีไปตั้งหลักในที่ปลอดภัยเอาไว้ก่อนครับ... อันนี้คือวิธีการมาตรฐานในทุกเรื่อง แม้แต่การเล่นหุ้น!!!...