ก่อนมีสวัสดิการของสน....อะไรก็แล้วแต่ของมท.
ตอนนั้นค่าเงินบาทก็ตก ผมซื้อกล็อก ๒๖ ในราคา ๔๕,๐๐๐ บาท
เดี๋ยวนี้สวัสดิการก็ราคาระดับนี้
เพราะต้นทุนมันเท่ากัน แถมต้องบวกค่าเก๋าเจี๊ย.......
พอเริ่มโครงการสวัสดิการ ที่หลักการนั้นดี ตกทอดทางมรดก
แต่การจะให้ขายได้ก็ต้องดึงราคาปืนร้านให้สูง
เมื่อผู้มีสิทธิปืนสวัสดิการ เห็นว่าปืนสวัสดิการถูกกว่ามากๆ
ก็ซื้อง่ายขึ้น แต่ก็เป็นไปตามความจำเป็นของแต่ละบุคคล
โครงการสวัสดิการใหม่ จึงต้องทำความต่างทางการตลาด
โดยให้โอนได้ใน ๕ ปี และขยายฐานผู้มีสิทธิซื้อให้กว้างขึ้น
ปืนแต่ง ปืนคัสตอม ก็ยังอุตส่าห์มาจัดสวัสดิการ ...... แก่ผู้มีรายได้น้อย
ร้านค้าช่วยกันดึงราคาปืนโควต้าร้านค้าไปแขวนไว้
ตัวเสนอร่วมโครงการ ออกข่าวกระตุ้นให้รีบซื้อปืนสวัสดิการ .......
กลายเป็นการลงทุนเก็งกำไร เป็นการสร้างอุปสงค์เทียม
ก็รอครบ ๕ ปี จะได้ขาย ทำกำไรกัน
ส่วนปืนสวัสดิการแรกๆ โอนได้เมื่อตาย .......
อยากได้เงินแต่ไม่อยากตาย ก็เลี่ยงบาลี แจ้งหาย ขายเป็นปืนเถื่อน
แถมปืนเถื่อน......ขายได้ราคาดีก็เพราะคนซื้อมันไม่สุจริต
เงินที่มาซื้อก็เงินบาป แล้วปืนก็กลับมาทำร้ายสังคม........
ไม่ได้สร้างดุลต้านคนชั่ว
ใครว่าถูกต้องชอบธรรมแล้ว...ดีแล้ว...
ก็ว่าไปเถิดครับ
็Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" พี่ธำรง อ่ะ ฮา
ไอ้คำว่า ปืน "สวัสดิการ" มันก็มีคำจำกัดความ บังคับ ใช้ "เฉพาะ" แล้วอ่ะ
ไม่ต้องเปิด "Dictionary" แปลไทย ให้เป็นภาษา "ประกิต"
เหมือนลุง "ตลก." แกบอก อ่ะ ฮา
ปืนพวกนี้ ทาง มท. เขาวาง "Concept" ตั้งแต่เิริ่มแรก
คือการ "บริหารจัดการ" ให้ ข้าราชการ "คนจน" จนบ้าง รวยบ้าง อ่ะ
ได้มีโอกาสใช้ อาวุธปืน โดยที่ "ราชการ" ไม่ต้องควักกระเป๋า จ่ายเงิน อ่ะ ฮา
55555 แต่เวลา "เข้าด้ายเข้าเข็ม" ปืนพวกนี้ ก็กลับมารับใช้ "ราชการ" อ่ะ ฮา
ส่วนเมื่อซื้อแล้ว เกิน "ห้าปี" หรือหลายๆปี
มันก็เป็นเรื่อง "ส่วนตัว" ของคนที่ซื้อ จะขาย จะให้ ใครก็ได้อ่ะ
ทางราชการ "เอื้อม" ไปไม่ถึง เป็นเรื่อง "สิทธิ์" ส่วนตัวของเขา อ่ะ ฮา
ไอ้ "ร้านค้า" หน้า ปุโรหิต มันโขกเอา โขกเอา
อันนี้ เป็นเรื่องของ การ "ค้ากำไร เกินควร" อ่ะ ฮา
5555 ส่วนไอ้เรื่อง "เก๋าเจี๋ยะ" หรือ "ค่านักเลง" อ่ะ ฮา
ใครมันมาเป็น มท. 1 ไม่ว่าจะเป็น ดร. หรือ นายพลเอก
มันก็ "แดรก" กันทั้งนั้น แหละ คร๊า ฮาาาาาาา