การพัฒนาจิต
ธรรมะวันหยุด
พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร www.watdevaraj.comการพัฒนาด้านจิต ยากหรือง่าย ก็คงไม่เหนือความพยายามของคนเราไปได้ ควรฝึกจิตให้มีความอดทน เมตตา กรุณา สามัคคีปรองดองกันและกันไว้ให้ดีที่สุด
การพัฒนาจิตที่ว่ายาก ก็เพราะใจคนกลับกลอกเปลี่ยนแปลงง่ายและรวดเร็วจนตามไม่ทัน แต่ถ้าเรามองเห็นประโยชน์และตั้งใจจริงก็ย่อมทำได้ ดูตัวอย่างนักกีฬาที่ดี ถ้าฝึกฝนอบรมตนให้มีความอดทนเป็นนิสัยได้แล้วจะได้รับประโยชน์มากในปัจจุบันทันตาเห็น ไม่ต้องคอยถึงชาติหน้า
ส่วนการพัฒนาด้านจิตที่ว่าง่าย เพราะไม่ต้องใช้ทรัพย์สินเงินทอง เหมือนการพัฒนาด้านวัตถุ แม้ว่าในการดำรงชีวิตของคนเราต้องอาศัยวัตถุ เพื่อความสะดวกสบายก็ตาม แต่ถ้าขาดคุณธรรมความดีเสียแล้ว ความเจริญด้านวัตถุก็ไม่อาจจะห้ามการล้างผลาญฆ่าฟันกันได้ เป็นการส่งเสริมให้คนเราเห็นแก่ตัว โหดเหี้ยมมากยิ่งขึ้น เพราะขาดธรรมเป็นเครื่องปกครองรักษาใจให้สงบระงับ
แต่ถ้าจะปกครองกันด้วยอำนาจอาวุธอย่างเดียวแล้ว คงจะไม่ก่อให้เกิดความสงบสุขขึ้นมาได้ เพราะแต่ละคนต่างก็มีความคิดทันกัน เมื่อต่อหน้าสู้ไม่ได้ก็หาทางทำร้ายเอาเวลาเผลอ
ถ้าเราพยายามช่วยกันพัฒนาจิตให้เจริญด้วยคุณธรรมมากกว่านี้ ความสงบสุขก็จะต้องมี ดังนั้น ต้องให้ความสนใจในเรื่องการฝึกศีลธรรมจรรยาอันดีงาม ให้ดำเนินไปพร้อมกับความเจริญด้านวัตถุ ผู้ที่มีหน้าที่โดยตรงก็คือ องค์กรศาสนา บิดามารดา ครูอาจารย์และผู้บังคับบัญชา ตลอดจนผู้ใหญ่ทั้งหลายไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะอนาคตบุตรหลาน ศิษย์ที่เป็นเยาวชนฝากไว้กับท่าน และเขาเหล่านั้นก็เป็นอนาคตของชาติ
บางท่านไปโทษเอาวัฒนธรรมประเพณีของต่างชาติที่หลั่งไหลเข้ามากับความเจริญด้านวัตถุเพียงอย่างเดียว แต่ในเมื่อเราไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้ก็ต้องคิดหาทางป้องกันไว้ เหมือนฝนตกแดดออกจะโทษเทวดาฟ้าดินว่า มากน้อยเกินไปก็ไม่ถูกนัก เพราะไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาได้
อุบายในการแก้ไขปัญหาต่างๆ พระพุทธองค์ก็ได้ทรงปฏิบัติให้ดูเป็นตัวอย่างและทรงสอนไว้แล้ว ถ้าเราไม่ยึดเอาหลักธรรมคำสอนอันถูกต้อง ผลเสียหายเกิดขึ้นในภายหลังจะแก้ไขอย่างไรได้
ผู้มีสติปัญญาอย่าได้ประมาทในปัญหาอันยุ่งยากต่อการแก้ไข ให้เริ่มตั้งแต่บิดามารดา ครูอาจารย์ ผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งหลายโปรดช่วยกันปลูกฝังอบรมสั่งสอนบุตรหลาน ศิษยานุศิษย์ให้มีนิสัยรักการประพฤติปฏิบัติธรรม พยายามชี้แจงให้เห็นโทษของความชั่วและทุจริตต่างๆ ให้ตั้งอยู่ในความดี มีความอดทน เมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย และหมั่นเจริญเมตตา
พระพุทธองค์ตรัสอานิสงส์แห่งการเจริญเมตตาไว้ว่า มากกว่าการบำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุทุกอย่าง เพราะเมตตาก่อให้เกิดความสุข เป็นเหตุแห่งความสามัคคีปรองดองกัน การสงเคราะห์ช่วยเหลือกันในรูปแบบต่างๆ เกิดขึ้นได้ด้วยเมตตาจิตเป็นเหตุ ดังคำที่ว่า เมตตาค้ำจุนโลก คือช่วยอุดหนุนเกื้อกูลผู้ที่มีทุกข์ แบ่งเบาขจัดปัดเป่าความทุกข์ของเพื่อนมนุษย์ให้หมดไป เมื่อคนเรานิยมเจริญเมตตา กรุณา ปรานี ใช้ความดีเป็นสื่อสัมพันธ์ ก็จะก่อให้เกิดความสงบสุข ปลอดภัย รักใคร่ปรองดองในสังคมได้