เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
กันยายน 28, 2024, 06:15:35 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 4 5 6 [7] 8 9 10
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ข้อขัดแย้งหมุ่เกาะต่างๆ ในทะเลจีน  (อ่าน 17185 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
คนแปลกหน้า - รักในหลวง
" ลุกปืน สั่งให้ไปได้แต่สั่งให้หยุดและเรียกกลับไม่ได้ "
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 126
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 956



« ตอบ #90 เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2012, 10:05:50 PM »

 เยี่ยม
บันทึกการเข้า
prawin -รักในหลวง-
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 273
ออฟไลน์

กระทู้: 1218



« ตอบ #91 เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2012, 10:18:51 PM »

ทำไมเขาไม่รักษาอธิปไตยแบบประเทศไทยล่ะครับ ส่งเรื่องไปศาลโลกแล้วรอคำตัดสินเหมือนเขาพระวิหาร...
ทางบกดูง่ายกว่าเรายังยอมให้ศาลโลกตัดสิน  ทางทะเลน่าจะดูยากกว่าทำไม่เขาไม่ให้ศาลโลกช่วยตัดสินครับ พี่สิทธิพงษ์  Grin

เดี๋ยวนี้ชาติมหาอำนาจหรือชาติที่พัฒนาแล้วไม่นิยมใช้กระบวนการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือศาลโลกกันแล้วครับ เพราะหลักกฎหมายระหว่างประเทศมันยังไม่นิ่ง แล้วศาลโลกก็มักจะเอียงไปทางคู่ความที่ด้อยกว่า สู้เล่นใช้หลักกฎหมายระหว่างประเทศแบบคลาสสิกเหมือนเดิมดีกว่าคือ หลัก "Power Make Right" ง่ายกว่าเยอะครับ

ตอนที่ชาติมหาอำนาจ เช่น สหรัฐฯและฝรั่งเศสเซ็นอนุสัญญายอมรับเขตอำนาจศาลโลกกัน มีการตั้งข้อสงวนในอนุสัญญาด้วยว่า "ขอสงวนสิทธิ์ในการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยผ่านศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ" หรือบางชาติมาเก๊กว่าคือไม่เซ็นยอมรับเขตอำนาจศาลโลกเสียเลยก็จบครับ  ไหว้


แล้วเราอยู่ประมาณไหนครับพี่ที่ยังยอมรับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศครับ
รบกวนถามพี่ต่ออีกหน่อยนะครับ ถ้าเราไม่ยอมรับคำสั่งของศาลโลก ณ.วันนี้มันจะเกิดอะไรขึ้นครับ? ผลดี-ผลเสีย

อธิปไตยของความเป็นชาติไทยทำไมต้องฟังคำสั่งจากศาลโลกครับ?
อธิปไตยบนดินแดนไทย 4.6ตร.กม. จำเป็นต้องฟังคำสั่งจากศาลโลกมั้ยครับ?


ผมรู้สึกเลือดสูบฉีดแรงยังไงไม่รู้กับคำถามของตัวเอง ด้วยความเคารพ ขอบคุณพี่ครับ  ไหว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 26, 2012, 10:21:06 PM โดย prawin -รักในหลวง- » บันทึกการเข้า

คนดีไม่มีคำว่าเป็นกลาง เพราะคนดีแยกแยะความผิด ความชั่ว และความดีออกจากกันได้
เมื่อเราเป็นคนดี และเราเห็นอยู่แล้วว่าอะไรดี อะไรชั่ว  แล้วเราจะยืนอยู่เป็นกลางได้อย่างไร
การเป็นกลางในสภาวะที่แข่งกันระหว่างความดีและความชั่ว เรียกว่าความกลัวแห่งคนขี้ขลาด
หยุดกลัว หยุดขี้ขลาด

อ.เสรี วงษ์มณฑา 18/11/5
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #92 เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2012, 10:24:00 PM »

"เรา"หมายถึงไทยครับ... ตรงเกาะกูดมันโดนลากเส้นแบ่งเขตผ่าครึ่งแนวขวางแบ่งเกาะออกเป็นเหนือใต้ตามแผนที่เขมรที่อ้างตามเศษฝรั่งครับ(ถ้าอ้างหลักเดียวกับบนบกที่เขาพระวิหาร), พอแบ่งอย่างนี้ปุ๊บแปลงสัมปทานน้ำมันจะเป็นของเขมร ที่เขมรมันให้สัมปทานกับเชฟร่อน+Total ไปแล้วอ่ะ!!!...

พื้นที่ตรงนั้นรัฐบาลไทยทุกสีเสื้อเรียกมาตลอดว่า"ทับซ้อน" แต่เขมรเรียกว่า"น่านน้ำเขมร"... เราก็ยึดเกาะนั้น เอาชุมชนไปลง เอาค่ายทหารไปลง เหมือนจีนทำไงครับ(เอามั่ง)... ฮา...

ทีนี้หากไม่มีพวกอยู่ในคณะมนตรีมั่นคงฯคอยช่วยวีโต้ให้, หมวกฟ้าก็จะออกมารักษาสันติภาพได้หากใครไปยึดตรงนั้นแล้วเขมรฟ้อง UN ไงครับ... ตรงนี้ไอ้กันก็ตามหมวกฟ้าออกมาเหมือนที่อิรัค... กึ๋ยส์...
บันทึกการเข้า
prawin -รักในหลวง-
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 273
ออฟไลน์

กระทู้: 1218



« ตอบ #93 เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2012, 11:22:37 PM »

"เรา"หมายถึงไทยครับ... ตรงเกาะกูดมันโดนลากเส้นแบ่งเขตผ่าครึ่งแนวขวางแบ่งเกาะออกเป็นเหนือใต้ตามแผนที่เขมรที่อ้างตามเศษฝรั่งครับ(ถ้าอ้างหลักเดียวกับบนบกที่เขาพระวิหาร), พอแบ่งอย่างนี้ปุ๊บแปลงสัมปทานน้ำมันจะเป็นของเขมร ที่เขมรมันให้สัมปทานกับเชฟร่อน+Total ไปแล้วอ่ะ!!!...

พื้นที่ตรงนั้นรัฐบาลไทยทุกสีเสื้อเรียกมาตลอดว่า"ทับซ้อน" แต่เขมรเรียกว่า"น่านน้ำเขมร"... เราก็ยึดเกาะนั้น เอาชุมชนไปลง เอาค่ายทหารไปลง เหมือนจีนทำไงครับ(เอามั่ง)... ฮา...

ทีนี้หากไม่มีพวกอยู่ในคณะมนตรีมั่นคงฯคอยช่วยวีโต้ให้, หมวกฟ้าก็จะออกมารักษาสันติภาพได้หากใครไปยึดตรงนั้นแล้วเขมรฟ้อง UN ไงครับ... ตรงนี้ไอ้กันก็ตามหมวกฟ้าออกมาเหมือนที่อิรัค... กึ๋ยส์...
+2000 คะแนนสวยให้พี่สมชายก่อน อิอิ  หลงรัก

โอ้ว...แรงสั่นสะเทือนจากเขาพระวิหารไปไกลถึงเกาะกูดเลยใช่มั้ยครับ แล้วตอนนี้เรา(ประเทศไทย)รู้มั้ยครับเรื่องเกาะกูดของเราจะโดนแบ่งครึ่ง?
แสดงถ้าเรา(ประเทศไทย)จะปกป้องเกาะกูดได้ก็ต้องปกป้องเขาพระวิหารก่อนใช่มั้ยครับ?
แล้วเรา(ประเทศไทย)จะปกป้องเขาพระวิหารยังไง...น้ำมันบริเวณเอ่าวไทยใกล้เกาะกูดถึงจะเป็นของเรา(ประเทศไทย)ครับพี่สมชาย?

ด้วยความเคารพครับพี่  ไหว้
บันทึกการเข้า

คนดีไม่มีคำว่าเป็นกลาง เพราะคนดีแยกแยะความผิด ความชั่ว และความดีออกจากกันได้
เมื่อเราเป็นคนดี และเราเห็นอยู่แล้วว่าอะไรดี อะไรชั่ว  แล้วเราจะยืนอยู่เป็นกลางได้อย่างไร
การเป็นกลางในสภาวะที่แข่งกันระหว่างความดีและความชั่ว เรียกว่าความกลัวแห่งคนขี้ขลาด
หยุดกลัว หยุดขี้ขลาด

อ.เสรี วงษ์มณฑา 18/11/5
รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ
รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย คือสมบัติของผู้มีอารยธรรม
Hero Member
*****

คะแนน 239
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1115



« ตอบ #94 เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2012, 11:48:53 PM »

แล้วเราอยู่ประมาณไหนครับพี่ที่ยังยอมรับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศครับ
รบกวนถามพี่ต่ออีกหน่อยนะครับ ถ้าเราไม่ยอมรับคำสั่งของศาลโลก ณ.วันนี้มันจะเกิดอะไรขึ้นครับ? ผลดี-ผลเสีย

อธิปไตยของความเป็นชาติไทยทำไมต้องฟังคำสั่งจากศาลโลกครับ?
อธิปไตยบนดินแดนไทย 4.6ตร.กม. จำเป็นต้องฟังคำสั่งจากศาลโลกมั้ยครับ?


ผมรู้สึกเลือดสูบฉีดแรงยังไงไม่รู้กับคำถามของตัวเอง ด้วยความเคารพ ขอบคุณพี่ครับ  ไหว้

ผมขอตอบหลักกฎหมายระหว่างประเทศ แผนกคดีเมืองนะครับ

ปัจจุบันประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกแล้ว แต่ผลจากคดีเขาพระวิหารเมื่อปี 2505 ยังผูกพันไทยและเขมรอยู่ครับ ฉะนั้นเมื่อมีข้อพิพาทใดๆก็ตามที่เกี่ยวกับคดีเขาพระวิหารเมื่อปี 2505 เช่นเรื่องพื้นที่ 4.6 ตร.กม. รอบเขาพระวิหารนี้ ไทยก็ต้องไปชี้แจงแถลงไขกับศาลโลกว่ามันเกิดอะไรขึ้นและมีวิธีแก้ไขปัญหากันอย่างไร จะมาเล่นบทตีมึนไม่ไปไม่ได้เดี๋ยวเจอหลักกฎหมายปิดปากรอบสองอีกจะซวยเอาครับ

ต่อมา หากศาลโลกมีการอธิบายคำพิพากษาเมื่อปี 2505 และมีคำสั่งอื่นๆตามมา ถามว่าถ้าไทยไม่ทำตามคำสั่งศาลโลก ผลจะออกมาเป็นอย่างไร คำตอบคือทาง ICJ ก็คงต้องมีคำสั่งตามธรรมนูญศาลโลกให้ทาง UNSC ใช้กลไกของ UN มาบังคับคดีตามคำสั่งกับไทย ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์นี้จริงทุกอย่างก็จะเข้าทางเขมรทันทีที่ไม่ว่าจะออกประตูไหนไทยก็เสียเปรียบอยู่ดีครับ ฉะนั้นเราต้องให้เสียเปรียบน้อยที่สุด

ส่วนเรื่องอธิปไตยบนพื้นที่ 4.6 ตร.กม.นั้น ถ้าดูตามพฤตินัยไทยก็ครอบครองพื้นที่ตรงนี้อย่างต่อเนื่องมานานแล้วเพราะเขมรก็ไม่เคยทักท้วงมาตั้งแต่ปี 2505 ว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นของเขมรยกเว้นพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารที่เราไปกั้นไว้ให้ แต่ที่เพิ่งจะมาเป็นเรื่องเป็นราวจนบานปลายก็เพราะมีคนหรือกลุ่มบุคคลไปยกเรื่องนี้มาใช้เป็นประเด็นทางการเมืองจนไปๆมาๆกลายเป็นแบไต๋จนเข้าทางเขมร เมื่อบอลไหลเข้าทางแบบนี้มีหรือเขมรจะไม่ยิงเข้าโกลเพราะถึงจะได้หรือไม่ได้พื้นที่ 4.6 ตร.กม. นี้มา เขมรก็ไม่เสียหายอะไรอยู่แล้วครับ  ไหว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 27, 2012, 12:24:48 PM โดย รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ » บันทึกการเข้า

...การที่เราทะนุถนอมคนที่เรารัก มันเป็นเรื่องปกติ
แต่การถนอมหัวใจคนที่เราไม่ได้รัก ใครจะทำได้สักกี่คน...

คิดถึงทุกปี-บินหลา สันกาลาคีรี
bigbang
จงใช้สติก่อนใช้ปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1018
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6603


รูปจากเวปผู้จัดการครับ


« ตอบ #95 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2012, 08:49:10 AM »

งั้นนายสมชายตอบว่าจะทำอย่างไร แบบสั้นๆ รวบรัด ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสีเสื้อในประเทศไทยครับ แต่จำเป็นต้องยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์ของประเทศโดยส่วนรวม...

เราก็ขอความช่วยเหลือจีน ช่วยกันท่าไอ้กันออกไปจากน่านน้ำอ่าวไทย โดยจีนก็จะได้ประโยชน์สองต่อ ต่อแรกคือปกป้องผลประโยชน์ของจีนในอ่าวเมาะตะมะ ที่มีสัมปทานน้ำมันอยู่ แต่กำลังโดนไอ้กันแหย่ขาเข้าไปโดยเปิดประเทศพม่า... ได้ต่อที่ 2 คือขอคุยเรื่องสัมปทานน้ำมันในอ่าวไทยเสียเลย ในเมื่อคุยกับไอ้กันแล้วมันให้ผลประโยชน์น้อยมาหลายปีแล้ว คราวนี้อยากคุยกับจีนว่าจะแบ่งกันเท่าไหร่ แบ่งยังไง โดยขอให้จีนถ่วงดุลย์อำนาจไอ้กันให้ด้วย...

คือความซวยของประเทศไทยที่ได้ทุกขลาภ ยังไงก็กินคนเดียวไม่ได้ เพราะไม่มีแรงพอรักษาของ, จำเป็นต้องเสียค่า"นักเลงโต"ให้ความคุ้มครอง ก็ขอต่อรองใช้บริการให้เสียน้อยที่สุด... แล้วทำไมต้องเป็นจีนแดง ก็เพราะเป็นมหาอำนาจแถบนี้ที่ใหญ่พอถ่วงดุลย์ไอ้กัน, และที่สำคัญคือสามารถวีโต้ใน UN เพราะเป็นสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงถาวรครับ(หมวกฟ้าจะได้ออกมายุ่มย่ามไม่ได้)...

ตกลงแล้วเสร็จแล้วเราก็ทำแบบจีน คือยึดเกาะกูดมั่ง... เอาแหล่งน้ำมันแถวนั้นซะเลย, ส่วนเขาพระวิหารก็เจรจากันต่อไปเหมือนเดิม... ฮา...


กลับมาที่เกาะสแปรตซี่กันดีกว่า

แค่เราสงวนท่าที่เงียบๆ เหมือนสิงกะโปก พม่า ลาว ไม่รวมอินโด ก็เท่ากับช่วยจีนแล้วครับ 
หากออกหน้าออกตาแบบไอ้เขมร เพื่อนๆที่พิพากกับจีนมันจะหมั่นไส้เอา
ทั้งมาเลยเซีย กับ เวียดนาม นั้นเป็นคู่แข่งตลอดการแย่ง ตลาดสินค้าเราก็เยอะ หากต้องทะเลาะ
กับจีน ก็เป็นผลดีต่อเราครับ  ส่วนฟิลิปปินส์ กับ บูรไน นั้นไม่ใช่คู่แข่งการค้าเรา เขาแอนตี้ไม่ใช่ของจีน
ก็สบายด้วย ขำก๊าก

ไหนเงียบแล้วก็รุกให้จีนร่วมสำรวจกับบริษัทไทยที่ชอบแอบขึ้นราคาน้ำมัน วางแทนสำรวจ
แบ่งผลประโยชน์ ชิงตัดหน้าเขมรและเชฟรอนเลย  แล้วค่อยขอให้จีนมาช่วยล๊อบบี้ เรื่องพิพาทเขาพระวิหาร ด้วย
งานนี้ไอ้เฮงซวยเต้นอกแตกตายแน่ ขำก๊าก
 
วิธีซุ่ม กับเสี้ยมเล็กๆ ดีกว่าแส้ ไปออกหน้าเปลื่องตัวเปล่าครับ  บู่
บันทึกการเข้า

อเสวนา จะ พาลานัง
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #96 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2012, 09:07:26 AM »

งั้นนายสมชายตอบว่าจะทำอย่างไร แบบสั้นๆ รวบรัด ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสีเสื้อในประเทศไทยครับ แต่จำเป็นต้องยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์ของประเทศโดยส่วนรวม...

เราก็ขอความช่วยเหลือจีน ช่วยกันท่าไอ้กันออกไปจากน่านน้ำอ่าวไทย โดยจีนก็จะได้ประโยชน์สองต่อ ต่อแรกคือปกป้องผลประโยชน์ของจีนในอ่าวเมาะตะมะ ที่มีสัมปทานน้ำมันอยู่ แต่กำลังโดนไอ้กันแหย่ขาเข้าไปโดยเปิดประเทศพม่า... ได้ต่อที่ 2 คือขอคุยเรื่องสัมปทานน้ำมันในอ่าวไทยเสียเลย ในเมื่อคุยกับไอ้กันแล้วมันให้ผลประโยชน์น้อยมาหลายปีแล้ว คราวนี้อยากคุยกับจีนว่าจะแบ่งกันเท่าไหร่ แบ่งยังไง โดยขอให้จีนถ่วงดุลย์อำนาจไอ้กันให้ด้วย...

คือความซวยของประเทศไทยที่ได้ทุกขลาภ ยังไงก็กินคนเดียวไม่ได้ เพราะไม่มีแรงพอรักษาของ, จำเป็นต้องเสียค่า"นักเลงโต"ให้ความคุ้มครอง ก็ขอต่อรองใช้บริการให้เสียน้อยที่สุด... แล้วทำไมต้องเป็นจีนแดง ก็เพราะเป็นมหาอำนาจแถบนี้ที่ใหญ่พอถ่วงดุลย์ไอ้กัน, และที่สำคัญคือสามารถวีโต้ใน UN เพราะเป็นสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงถาวรครับ(หมวกฟ้าจะได้ออกมายุ่มย่ามไม่ได้)...

ตกลงแล้วเสร็จแล้วเราก็ทำแบบจีน คือยึดเกาะกูดมั่ง... เอาแหล่งน้ำมันแถวนั้นซะเลย, ส่วนเขาพระวิหารก็เจรจากันต่อไปเหมือนเดิม... ฮา...


กลับมาที่เกาะสแปรตซี่กันดีกว่า

แค่เราสงวนท่าที่เงียบๆ เหมือนสิงกะโปก พม่า ลาว ไม่รวมอินโด ก็เท่ากับช่วยจีนแล้วครับ 
หากออกหน้าออกตาแบบไอ้เขมร เพื่อนๆที่พิพากกับจีนมันจะหมั่นไส้เอา
ทั้งมาเลยเซีย กับ เวียดนาม นั้นเป็นคู่แข่งตลอดการแย่ง ตลาดสินค้าเราก็เยอะ หากต้องทะเลาะ
กับจีน ก็เป็นผลดีต่อเราครับ  ส่วนฟิลิปปินส์ กับ บูรไน นั้นไม่ใช่คู่แข่งการค้าเรา เขาแอนตี้ไม่ใช่ของจีน
ก็สบายด้วย ขำก๊าก

ไหนเงียบแล้วก็รุกให้จีนร่วมสำรวจกับบริษัทไทยที่ชอบแอบขึ้นราคาน้ำมัน วางแทนสำรวจ
แบ่งผลประโยชน์ ชิงตัดหน้าเขมรและเชฟรอนเลย  แล้วค่อยขอให้จีนมาช่วยล๊อบบี้ เรื่องพิพาทเขาพระวิหาร ด้วย
งานนี้ไอ้เฮงซวยเต้นอกแตกตายแน่ ขำก๊าก
 
วิธีซุ่ม กับเสี้ยมเล็กๆ ดีกว่าแส้ ไปออกหน้าเปลื่องตัวเปล่าครับ  บู่

เข้าท่าครับ... คือในที่สุดก็มีจีนมาร่วมประมูลสัมปทานสำรวจและขุดเจาะน้ำมันที่เรากำลังเปิดประมูลรอบใหม่นี่ด้วย...

ผลดีของมีตัวเล่นเพิ่มเข้ามาก็คือกันไม่ให้ไอ้กัน"เล่นหนัก"เหมือนที่เคยเล่นมาแล้วทั่วโลก มีทั้งใช้ CIA ยุแหย่ล้มรัฐบาลด้วยการให้คนในประเทศตั้งกลุ่มกบฎ ฯลฯ... คือยังไงก็ตาม ไทยต้องทำใจว่าต้องมี"นักเลง"เก็บค่าคุ้มครองแน่ๆ เพราะเหมือนเด็กน้อยซวยเก็บทองคำก้อนเบ้อเร่อกลางสลัม ใครต่อใครเห็นโม๊ด สุกอร่ามเตะตาจิ๊กโก๋กะเลวกะราก... โหย...

ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอใช้บริการนักเลงใหญ่ให้"ซวยน้อยที่สุด"ครับ... เฮ้อ...
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #97 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2012, 09:20:42 AM »

โอ้ว...แรงสั่นสะเทือนจากเขาพระวิหารไปไกลถึงเกาะกูดเลยใช่มั้ยครับ แล้วตอนนี้เรา(ประเทศไทย)รู้มั้ยครับเรื่องเกาะกูดของเราจะโดนแบ่งครึ่ง?
แสดงถ้าเรา(ประเทศไทย)จะปกป้องเกาะกูดได้ก็ต้องปกป้องเขาพระวิหารก่อนใช่มั้ยครับ?
แล้วเรา(ประเทศไทย)จะปกป้องเขาพระวิหารยังไง...น้ำมันบริเวณเอ่าวไทยใกล้เกาะกูดถึงจะเป็นของเรา(ประเทศไทย)ครับพี่สมชาย?

สรุปรวบยอดก็คือ เขมรมันอ้างแผนที่เศษฝรั่งที่ลากเส้นเขตแดนกินปราสาท... แล้วถ้าอ้างสำเร็จตรงนั้น มันก็จะลามปามเหมือนขี้กลากคนขี้เกียจไม่ได้อาบน้ำ แล้วอ้างกินแดนที่อื่นด้วยหลักการแบบเดียวกัน ทำให้เขตแดนขยับบนดินจากปราสาทไล่ไปทีละหลักไปจนหลักสุดทางลงทะเลเบี่ยงไปจากเดิม เมื่อจุดที่ลงทะเลขยับไป เส้นที่ลากลงทะเลก็ขยับเหมือนแขนวงเวียนหมุนกวาดเอาแปลงขุดเจาะน้ำมันไปรวมกับเขมรครับ...

วิธีการต้องอย่ายอมว่าเป็นของเขมร ตอนนี้ไม่รู้ว่าเขาทำกันอย่างไร แต่เห็นย้ายทหารออกมา แล้ว เอา ตชด. ไปไว้ตรงนั้น... ก็หวังว่าจะไปตั้ง สภต. แล้วบังคับใช้กฎหมายไทยได้สำเร็จ ให้แผ่นดินตรงนั้นร่มเย็นด้วยกฎหมายไทยครับ เพราะเป็นแผ่นดินไทย...
บันทึกการเข้า
bigbang
จงใช้สติก่อนใช้ปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1018
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6603


รูปจากเวปผู้จัดการครับ


« ตอบ #98 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2012, 09:46:52 AM »

เข้าท่าครับ... คือในที่สุดก็มีจีนมาร่วมประมูลสัมปทานสำรวจและขุดเจาะน้ำมันที่เรากำลังเปิดประมูลรอบใหม่นี่ด้วย...

ผลดีของมีตัวเล่นเพิ่มเข้ามาก็คือกันไม่ให้ไอ้กัน"เล่นหนัก"เหมือนที่เคยเล่นมาแล้วทั่วโลก มีทั้งใช้ CIA ยุแหย่ล้มรัฐบาลด้วยการให้คนในประเทศตั้งกลุ่มกบฎ ฯลฯ... คือยังไงก็ตาม ไทยต้องทำใจว่าต้องมี"นักเลง"เก็บค่าคุ้มครองแน่ๆ เพราะเหมือนเด็กน้อยซวยเก็บทองคำก้อนเบ้อเร่อกลางสลัม ใครต่อใครเห็นโม๊ด สุกอร่ามเตะตาจิ๊กโก๋กะเลวกะราก... โหย...

ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอใช้บริการนักเลงใหญ่ให้"ซวยน้อยที่สุด"ครับ... เฮ้อ...


เรื่อง CIA ยุแหย่ล้มรัฐบาลด้วยการให้คนในประเทศตั้งกลุ่มกบฎ ฯลฯ...  นั้นคนพม่าเล่าให้ฟัง (อย่าพึ่งเชื่อนะครับ)
ว่า ที่รัฐกะฉิ่น รัฐบาลพม่าสร้าท่อก๊าชเข้าจีนไม่เสร็จเสียที เพราะถูกชนกลุ่มน้อยโจมตีบ่อยๆ   ส่วนปัญหาศาสนาที่รัฐยะไข่
ที่มีเรื่องเร็วนี้  ก็ด้วย    หากจีนยังได้เข้าไปยึดผลประโยชน์ส่วนใหญ่ในพม่าเรื่อยๆ เช่นแมนดาเลย์ มีแต่ภาษาจีนเต็มเมือง
โอกาส อองซานจะถูกใช้ให้เป็นเหยื่อแล้วถูกลอบฆ่าให้เสียชีวิต นั้นมีสูง และโยนบาปให้รัฐบาล
กับจีนว่าเป็นการสมรู้ร่วมคิด ไม่อยากให้ประเทศมีประชาธิปไตย (ฟังสำนวนนี้แล้วคุ้นๆอย่างงัยไม่รู้  ฮา)

เพราะเหตุดังกล่าวพม่าจึงเงียบ และดูห่างๆ  ส่วนมะกันก็ไปเกาะเวียดที และ ปินส์ที แต่เชื่อว่า
แต่ไม่กล้าโจมตีด้วยอาวุธกับจีนก่อนแน่นอน  สรุปแล้วประเทศเล็กๆที่มีพิพาทอาจจะขอไปร่วม
ใช้พลังด้วยน้อยหน่อยก็ดีกว่าอด แล้วเจ็บตาย เศรษฐกิจเสียหายหลายปี   

บันทึกการเข้า

อเสวนา จะ พาลานัง
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7665
ออฟไลน์

กระทู้: 9988



« ตอบ #99 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2012, 09:53:04 AM »

ไม่ถือหางทั้งจีนทั้งอเมริกันจะดีที่สุด พวกนี้มองไม่เห็นหัวประเทศเล็กๆอยู่แล้ว นี่ถ้านิวเคลียร์สักจำนวนหนึ่งสองประเทศนั่นคงเปลี่ยนท่าที
ยังไงกล้ามเราต้องใหญ่ไว้ก่อนแหละ
บันทึกการเข้า
prawin -รักในหลวง-
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 273
ออฟไลน์

กระทู้: 1218



« ตอบ #100 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2012, 08:47:25 PM »

แล้วเราอยู่ประมาณไหนครับพี่ที่ยังยอมรับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศครับ
รบกวนถามพี่ต่ออีกหน่อยนะครับ ถ้าเราไม่ยอมรับคำสั่งของศาลโลก ณ.วันนี้มันจะเกิดอะไรขึ้นครับ? ผลดี-ผลเสีย

อธิปไตยของความเป็นชาติไทยทำไมต้องฟังคำสั่งจากศาลโลกครับ?
อธิปไตยบนดินแดนไทย 4.6ตร.กม. จำเป็นต้องฟังคำสั่งจากศาลโลกมั้ยครับ?


ผมรู้สึกเลือดสูบฉีดแรงยังไงไม่รู้กับคำถามของตัวเอง ด้วยความเคารพ ขอบคุณพี่ครับ  ไหว้

ผมขอตอบหลักกฎหมายระหว่างประเทศ แผนกคดีเมืองนะครับ

ปัจจุบันประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกแล้ว แต่ผลจากคดีเขาพระวิหารเมื่อปี 2505 ยังผูกพันไทยและเขมรอยู่ครับ ฉะนั้นเมื่อมีข้อพิพาทใดๆก็ตามที่เกี่ยวกับคดีเขาพระวิหารเมื่อปี 2505 เช่นเรื่องพื้นที่ 4.6 ตร.กม. รอบเขาพระวิหารนี้ ไทยก็ต้องไปชี้แจงแถลงไขกับศาลโลกว่ามันเกิดอะไรขึ้นและมีวิธีแก้ไขปัญหากันอย่างไร จะมาเล่นบทตีมึนไม่ไปไม่ได้เดี๋ยวเจอหลักกฎหมายปิดปากรอบสองอีกจะซวยเอาครับ

ต่อมา หากศาลโลกมีการอธิบายคำพิพากษาเมื่อปี 2505 และมีคำสั่งอื่นๆตามมา ถามว่าถ้าไทยไม่ทำตามคำสั่งศาลโลก ผลจะออกมาเป็นอย่างไร คำตอบคือทาง ICJ ก็คงต้องมีคำสั่งตามธรรมนูญศาลโลกให้ทาง UNSC ใช้กลไกของ UN มาบังคับคดีตามคำสั่งกับไทย ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์นี้จริงทุกอย่างก็จะเข้าทางเขมรทันทีที่ไม่ว่าจะออกประตูไหนไทยก็เสียเปรียบอยู่ดีครับ ฉะนั้นเราต้องให้เสียเปรียบน้อยที่สุด

ส่วนเรื่องอธิปไตยบนพื้นที่ 4.6 ตร.กม.นั้น ถ้าดูตามพฤตินัยไทยก็ครอบครองพื้นที่ตรงนี้อย่างต่อเนื่องมานานแล้วเพราะเขมรก็ไม่เคยทักท้วงมาตั้งแต่ปี 2505 ว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นของเขมรยกเว้นพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารที่เราไปกั้นไว้ให้ แต่ที่เพิ่งจะมาเป็นเรื่องเป็นราวจนบานปลายก็เพราะมีคนหรือกลุ่มบุคคลไปยกเรื่องนี้มาใช้เป็นประเด็นทางการเมืองจนไปๆมาๆกลายเป็นแบไต๋จนเข้าทางเขมร เมื่อบอลไหลเข้าทางแบบนี้มีหรือเขมรจะไม่ยิงเข้าโกลเพราะถึงจะได้หรือไม่ได้พื้นที่ 4.6 ตร.กม. นี้มา เขมรก็ไม่เสียหายอะไรอยู่แล้วครับ  ไหว้

ขอบคุณครับพี่รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ  ไหว้
ขอถามอีกเล็กน้อย...พี่คิดว่าศาลโลกจะเป็นแพะให้พวกนักการเมืองโยนความผิดมาให้มั้ยครับ
เราเสียเขาพระวิหาร เสียเกาะกูด เสียทรัพยากรธรรมชาติ น้ำมันและแก๊ส และรวมถึงอธิปไตยของไทยเพราะ....ศาลโลก

โอ้ว...แรงสั่นสะเทือนจากเขาพระวิหารไปไกลถึงเกาะกูดเลยใช่มั้ยครับ แล้วตอนนี้เรา(ประเทศไทย)รู้มั้ยครับเรื่องเกาะกูดของเราจะโดนแบ่งครึ่ง?
แสดงถ้าเรา(ประเทศไทย)จะปกป้องเกาะกูดได้ก็ต้องปกป้องเขาพระวิหารก่อนใช่มั้ยครับ?
แล้วเรา(ประเทศไทย)จะปกป้องเขาพระวิหารยังไง...น้ำมันบริเวณเอ่าวไทยใกล้เกาะกูดถึงจะเป็นของเรา(ประเทศไทย)ครับพี่สมชาย?

สรุปรวบยอดก็คือ เขมรมันอ้างแผนที่เศษฝรั่งที่ลากเส้นเขตแดนกินปราสาท... แล้วถ้าอ้างสำเร็จตรงนั้น มันก็จะลามปามเหมือนขี้กลากคนขี้เกียจไม่ได้อาบน้ำ แล้วอ้างกินแดนที่อื่นด้วยหลักการแบบเดียวกัน ทำให้เขตแดนขยับบนดินจากปราสาทไล่ไปทีละหลักไปจนหลักสุดทางลงทะเลเบี่ยงไปจากเดิม เมื่อจุดที่ลงทะเลขยับไป เส้นที่ลากลงทะเลก็ขยับเหมือนแขนวงเวียนหมุนกวาดเอาแปลงขุดเจาะน้ำมันไปรวมกับเขมรครับ...

วิธีการต้องอย่ายอมว่าเป็นของเขมร ตอนนี้ไม่รู้ว่าเขาทำกันอย่างไร แต่เห็นย้ายทหารออกมา แล้ว เอา ตชด. ไปไว้ตรงนั้น... ก็หวังว่าจะไปตั้ง สภต. แล้วบังคับใช้กฎหมายไทยได้สำเร็จ ให้แผ่นดินตรงนั้นร่มเย็นด้วยกฎหมายไทยครับ เพราะเป็นแผ่นดินไทย...

ขอบคุณครับพี่สมชาย(ฮา) - รักในหลวง  ไหว้
แต่สิ่งที่พี่คิดมันช่างแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการแสดงของทุกรัฐบาลที่ผ่านมาเลยครับ
ทุกรัฐบาลแสดงว่าสู้ๆไปงั้นๆแหละ สุดท้ายก็จะไปลงที่แพะคือศาลโลก
และสมประโยชน์ทั้ง 3ฝ่าย ฮุนเซ็น นักการเมืองไทยทุกพรรค บริษัทที่ได้สัมปทานทั้งหลาย

มองดูการแสดงในอดีตแล้วมาดูปัจจุบัน....เฮ้อ!!!อนาคตประเทศไทย  เศร้า

ไม่ถือหางทั้งจีนทั้งอเมริกันจะดีที่สุด พวกนี้มองไม่เห็นหัวประเทศเล็กๆอยู่แล้ว นี่ถ้านิวเคลียร์สักจำนวนหนึ่งสองประเทศนั่นคงเปลี่ยนท่าที
ยังไงกล้ามเราต้องใหญ่ไว้ก่อนแหละ


คิดเหมือนกันครับพี่Yut64 ไหว้  เราต้องส่งเสริมการพึ่งพาตนเองให้มากที่สุดในภาคประชาชน
เพราะเราจะสู้ต่างชาติไม่ได้เลยหากพื้นฐานเรายังต้องพึงพาเขาในทุกๆเรื่อง

แต่บางครั้ง การเสียดินแดนจะทำภาคประชาชนตื่นตัว และอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประเทศก็ได้ก็ได้
เพราะนิสัยคนไทย ถ้าไม่ได้เสียอะไรไปก็จะไม่รู้ค่อยสึก ขอบคุณครับ  ไหว้

บันทึกการเข้า

คนดีไม่มีคำว่าเป็นกลาง เพราะคนดีแยกแยะความผิด ความชั่ว และความดีออกจากกันได้
เมื่อเราเป็นคนดี และเราเห็นอยู่แล้วว่าอะไรดี อะไรชั่ว  แล้วเราจะยืนอยู่เป็นกลางได้อย่างไร
การเป็นกลางในสภาวะที่แข่งกันระหว่างความดีและความชั่ว เรียกว่าความกลัวแห่งคนขี้ขลาด
หยุดกลัว หยุดขี้ขลาด

อ.เสรี วงษ์มณฑา 18/11/5
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #101 เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2012, 09:11:57 PM »

ในสภาวะปกติพึ่งพาตนเองนะได้  แต่เมื่อโดนนักเลงโตมาหาเรื่อง  กำลังของเราไม่พอจะไปสู้เค้า
นักเลงโตมีเส้นสายเป็นตำรวจหมวกสีฟ้า ๆ แล้วก็เพื่อนนักเลงคนอื่น ๆ อีกครับ  ถ้าเราจะรักษาสมบัติ
ที่มีอยู่ต้องหานักเลงอีกคนมาช่วยคุมโดยต้องจ่ายค่าเหนื่อยให้นักเลงด้วย  นักเลงที่มาช่วยคุมก็ต้อง
ตัวใหญ่พอ  เสียงดังพอ  ที่จะตะหวาดนักเลงคนอื่น ๆ และ สามารถใช้  สิทธิ์วีโต้  ตะหวาดตำรวจหมวกฟ้า
ให้หยุดได้ด้วย  ในที่นี้ก็คงมีแต่อาตี๋ล่ะครับที่จริงใจมากกว่านักเลงคนอื่น ๆ อยู่ซักหน่อย   อ๋อย

ไม่มีใครอยากให้เราต้องไปจ่ายค่านักเลงหรอกครับ  แต่เมื่อมันเป็นความจำเป็นก็ต้องเลือกนักเลง
ที่ใจนักเลงจริง ๆ  Cry

อยากจะให้อ่านการสิ้นสุด ราชวงศ์เหงียน ครับ จะเห็นว่าเมกาส่ง CIA เข้าไปช่วย  โง ดินห์ เดียม  
ผู้โค่นล้มระบบอบกษัตริย์(บ่าวใด๋)  ของเวียดนาม คล้าย ๆ ที่ส่ง CIA เข้าไปในซีเรียอยู่ในขณะนี้ครับ
ความเลวระยำของเมกา  http://ayboon.blogspot.com/2011/02/blog-post.html  แลบลิ้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 27, 2012, 09:19:47 PM โดย ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ » บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ
รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย คือสมบัติของผู้มีอารยธรรม
Hero Member
*****

คะแนน 239
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1115



« ตอบ #102 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2012, 12:58:53 AM »

ขอบคุณครับพี่รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ  ไหว้
ขอถามอีกเล็กน้อย...พี่คิดว่าศาลโลกจะเป็นแพะให้พวกนักการเมืองโยนความผิดมาให้มั้ยครับ
เราเสียเขาพระวิหาร เสียเกาะกูด เสียทรัพยากรธรรมชาติ น้ำมันและแก๊ส และรวมถึงอธิปไตยของไทยเพราะ....ศาลโลก
อย่าไปสนใจพวกนักการเมืองเลยครับ ส่วนใหญ่ก็ดีแต่พล่ามเอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่คนอื่นไปวันๆแหละ

เรื่องปราสาทเขาพระวิหาร ถ้าทางการไทยไม่สมัครใจเข้าไปสู้คดีแต่แรก ศาลโลกก็ทำอะไรเราไม่ได้อยู่แล้วครับ

ส่วนเรื่องเกาะกูดนั้น ลองคิดตามนะครับว่าการที่กองทัพเรือไทยไปสร้างประภาคารบนเกาะกูดซึ่งอาคารถาวรดังกล่าวถือเป็นทรัพย์สินของทางราชการไทย ถ้าไม่ใช่ดินแดนภายใตอธิปไตยของไทยแล้วกองทัพเรือจะกล้าไปสร้างอาคารถาวรบนเกาะนั้นหรือครับ แล้วพื้นที่บนเกาะกูด รวมถึงเกาะรอบๆบางเกาะก็มีโฉนดที่ดินที่ออกโดยทางราชการไทยด้วย สิ่งเหล่านี้ยืนยันได้ถึงอำนาจอธิปไตยของรัฐไทยบนเกาะกูดรวมถึงเกาะรอบๆบางเกาะแล้วนะครับว่าเป็นของรัฐไทยไม่ใช่ของรัฐกัมพูชา รวมถึงสนธิสัญญาระหว่างสยามและฝรั่งเศสในสมัยนั้นก็ให้การรับรองว่าเกาะกูดและเกาะรอบๆบางเกาะเป็นของไทย เขมรซึ่งเป็นเพียงผู้สืบสิทธิต่อมาจากฝรังเศสก็ต้องยอมรับตามสนธิสัญญาฉบับนี้ด้วย

ส่วนเรื่องพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย มันเกิดจากลากเส้นจากจุดฐาน (Base Point) ออกมา 200 ไมล์ทะเลลงไปในทะเล ซึ่งความกว้าง 200 ไมล์ทะเลนี้จะซ้อนทับพื้นที่ทะเลอาณาเขต (Territorial Sea) ที่มีความกว่้าง 12 ไมล์ทะเล และเขตต่อเนื่อง (Contiguous Zone) ที่มีความกว้างถัดออกมาจากทะเลอาณาเขตอีก 12 ไมล์ทะเลของรัฐชายฝั่ง (Coastal State) ด้วย และเนื่องจากสภาพทางภูมิศาสตร์ของอ่าวไทย (ไม่นับรวมในส่วนของอ่าวรูปตัว ก ไก่ พื้นที่ตรงนั้นถือเป็นอ่าวประัวัติศาสตร์ (Historic Bay) ที่รัฐไทยใช้อำนาจอธิปไตยเหนืออ่าวแต่เพียงผู้เดียวดังกล่าวมานานแล้ว) เป็นอ่าวเว้าลึกเข้ามาในแผ่นดิน เมื่อประเทศไทย กัมพูชา มาเลเซีย และเวียดนามต่างก็ลากเส้นกำหนดเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (Exclusive Economic Zone: EEZ) ของตนออกมาในอ่าวไทยมันก็ต้องเกิดเขตทับซ้อนกันแน่นอนครับ

แต่หลักการของเขตเศรษฐกิจจำเพาะมันมีอยู่ว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตที่รัฐชายฝั่งมีเพียงสิทธิอธิปไตย (Sovereignty Right) ไม่ใช่อำนาจอธิปไตย (Sovereignty) ในการแสวงหา ใช้สอยทรัพยากร หรือทำการวิจัยในบริเวณดังกล่าว หากเกิดการทับซ้อนกันขึ้นมาก็เป็นเรื่องที่รัฐนั้นๆต้องมาเจรจากันเองว่าจะแบ่งสันปันส่วนกันอย่างไร ถ้าเจรจาแล้วแบ่งกันไม่ได้ก็พักเรื่องไว้ก่อนเมื่อพร้อมก็กลับมาเจรจากันใหม่ เรื่องการเมืองการทูตระหว่างประเทศบางทีมันก็ต้องใช้เวลาเช่นกันครับ ตอนที่เราปักปันเขตแดนทางบกและทางทะเลกับพม่า เรายังใช้เวลาเจรจาตั้งหลายสิบปีเลยครับ.  ไหว้
บันทึกการเข้า

...การที่เราทะนุถนอมคนที่เรารัก มันเป็นเรื่องปกติ
แต่การถนอมหัวใจคนที่เราไม่ได้รัก ใครจะทำได้สักกี่คน...

คิดถึงทุกปี-บินหลา สันกาลาคีรี
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7665
ออฟไลน์

กระทู้: 9988



« ตอบ #103 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2012, 09:03:30 AM »

การที่กองทัพเรือไทยไปสร้างประภาคารบนเกาะกูดซึ่งอาคารถาวรดังกล่าวถือเป็นทรัพย์สินของทางราชการไทย

ประภาคารหลังนี้มีปรากฎในแผนที่เดินเรือสากลด้วยนะ มีผลมากในเรื่องเขต เหมือนกรณีของอีกหลังที่ทางใต้น่ะที่ตั้งบนกองหินเล็กๆเพื่อนบ้านต้องยอมรับ จะว่าไปแถวเกาะกูดทร.ใช้อำนาจอธิปไตยแทนปวงชนชาวไทยได้อยู่แล้วก็ปืนข้าโตกว่านี่ทร.ทำอะไรไว้หลายอย่างนะเหมือนปิดทองหลังพระจริงๆ เรื่องหลายเรื่องที่พลเรือนวิเคราะห์วิจารณ์กันนี่ทางทหารเขาคิดมาก่อนและคิดล่วงหน้าไปไกลและถ่ายทอดเป็นมรดกให้รุ่นหลังคิดต่อกันมาเรื่อยๆ
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #104 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2012, 11:22:58 AM »

ส่วนเรื่องพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย มันเกิดจากลากเส้นจากจุดฐาน (Base Point) ออกมา 200 ไมล์ทะเลลงไปในทะเล ซึ่งความกว้าง 200 ไมล์ทะเลนี้จะซ้อนทับพื้นที่ทะเลอาณาเขต (Territorial Sea) ที่มีความกว่้าง 12 ไมล์ทะเล และเขตต่อเนื่อง (Contiguous Zone) ที่มีความกว้างถัดออกมาจากทะเลอาณาเขตอีก 12 ไมล์ทะเลของรัฐชายฝั่ง (Coastal State) ด้วย และเนื่องจากสภาพทางภูมิศาสตร์ของอ่าวไทย (ไม่นับรวมในส่วนของอ่าวรูปตัว ก ไก่ พื้นที่ตรงนั้นถือเป็นอ่าวประัวัติศาสตร์ (Historic Bay) ที่รัฐไทยใช้อำนาจอธิปไตยเหนืออ่าวแต่เพียงผู้เดียวดังกล่าวมานานแล้ว) เป็นอ่าวเว้าลึกเข้ามาในแผ่นดิน เมื่อประเทศไทย กัมพูชา มาเลเซีย และเวียดนามต่างก็ลากเส้นกำหนดเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (Exclusive Economic Zone: EEZ) ของตนออกมาในอ่าวไทยมันก็ต้องเกิดเขตทับซ้อนกันแน่นอนครับ

แต่หลักการของเขตเศรษฐกิจจำเพาะมันมีอยู่ว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตที่รัฐชายฝั่งมีเพียงสิทธิอธิปไตย (Sovereignty Right) ไม่ใช่อำนาจอธิปไตย (Sovereignty) ในการแสวงหา ใช้สอยทรัพยากร หรือทำการวิจัยในบริเวณดังกล่าว หากเกิดการทับซ้อนกันขึ้นมาก็เป็นเรื่องที่รัฐนั้นๆต้องมาเจรจากันเองว่าจะแบ่งสันปันส่วนกันอย่างไร ถ้าเจรจาแล้วแบ่งกันไม่ได้ก็พักเรื่องไว้ก่อนเมื่อพร้อมก็กลับมาเจรจากันใหม่ เรื่องการเมืองการทูตระหว่างประเทศบางทีมันก็ต้องใช้เวลาเช่นกันครับ ตอนที่เราปักปันเขตแดนทางบกและทางทะเลกับพม่า เรายังใช้เวลาเจรจาตั้งหลายสิบปีเลยครับ.

ข้างบนนั่นเป็นคำอธิบายแบบอิงตามหลักการไว้สำหรับให้นักวิชาการอธิบายแล้วคนฟังรู้สึกดีขึ้นครับ... ฟังแล้วก็รู้สึกดีขึ้นจริงๆ เพราะมีหลักการรองรับ มีกติกาสามารถยอมรับได้ในแง่ของวิชาการด้านกฎหมายระหว่างประเทศ, สายนี้เน้นเรื่องความถูกต้องตามหลักการ โดยเราจะเห็นได้จากกลุ่มนี้มักอธิบายสาเหตุความขัดแย้งระหว่างประเทศ(หรือสงคราม)ในอดีต ออกมาในรูปของความเชื่อทางศาสนาบ้าง ความถูกผิดตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศบ้าง ความรู้สึกถูกต้องของประชาชนในประเทศบ้าง ฯลฯ ครับ ...

ส่วนในแง่ของการเมืองการทูตระหว่างประเทศในสาย Realistic Theory จะอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์แห่งชาติ มีกฎหลักอยู่ว่าทุกอย่างสามารถเป็นไปได้ทั้งสิ้น หากเจรจากันแล้วตกลงกันได้ หลักการทุกอย่างล้วนแต่คู่กรณีจะทำความตกลงกัน... และสิ่งที่จะทำให้สามารถตกลงกันได้ในเวทีการเมืองระหว่างประเทศนั่นคือกำลังทหารที่อยู่เบื้องหลังการเจรจาครับ...

สำหรับเรื่องแหล่งน้ำมันในอ่าวไทยนั้น ประเด็นอยู่ที่ทำอย่างไรให้อีกฝ่ายหนึ่งยอมตกลงด้วยในเงื่อนไขที่พอใจ, ซึ่งพอใจหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพทางทหารเบื้องหลัง... อย่าว่าแต่แหล่งน้ำมันในพื้นที่ทับซ้อนเลยครับ หากศักยภาพเพียงพอ ก็สามารถสร้างโครงการความร่วมมือสำรวจและขุดน้ำมันดิบในแผ่นดินของอีกฝ่ายหนึ่งก็ยังไหว(เช่นเดียวกับเชฟร่อนได้สัมปทานในแผ่นดินไทย)...
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 4 5 6 [7] 8 9 10
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.192 วินาที กับ 21 คำสั่ง