ว่าไปก็ต้องโทษคนรุ่นเก่าๆด้วยแหละรู้ว่าแผนที่มันผิดแต่ไม่ทักท้วงเลยโดนเขาใช้สิทธิครอบครองปรปักษ์ ในคำพิพากษาที่แปลเป็นอังกฤษเขียนไว้ชัดเจนว่าเราไม่ทักท้วง ถึงแม้ว่าเราหมายเหตุว่าเราสงวนสิทธิหลังตัดสินไว้แต่เวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ผมยังเด็กๆไม่เห็นมีใครดำเนินการอะไรสักอย่างจนกระทั่งมีเรี่อง เราใจดีเกินไปหรือเปล่าอย่าลืมว่าเขาไม่ชอบเราตั้งสมัยก่อนโน้นแล้วนะเพราะไปรุกรานเขาแล้วเขาก็ปลูกฝังกันมาตลอดเหมือนที่เราไม่ชอบอีกประเทศหนึ่งแหละ
เห็นด้วยว่าทำไมไม่ท้วง เกรงใจอะไร เกรงใจใคร เรื่องผลประโยชน์ของชาติมัวแต่เกรงใจลูกหลานก็ซวย...
คนรุ่นก่อนล้มหายตายจากไปหมดแล้ว หากจะด่าก็แก้ตัวไม่ได้... คนรุ่นปัจจุบันนี้แหละที่ทำอะไรไว้แล้วยังไม่ล้มหายตายจาก แถมยังอยู่ในวงการการเมืองนี่แหละ ต้องหาวิธีแก้ไขผลกรรมที่ตัวเองทำเอาไว้...
พรรคแมลงสาบนี่ก็ตัวดี มีอำนาจอยู่ในมือแต่ไม่ยอมใช้อำนาจนั้นบริหารจัดการให้มันเกิดประโยชน์แก่ประเทศ(โทษไอ้แม้วด้วย แต่ไอ้แม้วมันรู้อยู่ว่าขี้โกง หวังจากมันไม่ได้)... พรรคแมลงสาบยังมีตัวตนอยู่ ยังมีสรรพกำลังอยู่ สังคมคาดหวังเอาไว้แยะว่าจะช่วยสร้างประโยชน์แก่ประเทศชาติ เลยดีใจเมื่อได้พรรคแมลงสาบเป็นรัฐบาล...
แต่พรรคนี้ใช้ต้นทุนทางสังคมเปลืองที่สุดมากกว่ารัฐบาลขิงแก่, รัฐบาลขิงแก่รู้อยู่ว่าเกิดจากรัฐประหาร หวังอะไรไม่ได้มาก แต่รัฐบาลพรรคแมลงสาบนี่เกิดจากการเลือกตั้ง+ทหารอุ้ม+ศรัทธาประชาชน ทั้งหมดรวมกัน... แต่ในที่สุดก็มีแต่ความหน่อมแน้ม ดีแต่พูดโต้วาที ไม่กล้าทำอะไรสักอย่าง แม้แต่เอาคนไทย 2 คนกลับบ้านก็ยังทำไม่ได้(วีระ+ราตรี), สองคนนั่นไม่ยอมสารภาพเพื่อให้อภัยโทษ เพราะหากสารภาพว่า"ล่วงล้ำดินแดน"ก็แปลว่ายอมรับว่าที่โดนจับในเขตไทยนั้น กลายเป็นแผ่นดินเขมร(แต่มันแคะอดีต สส. พวกมันกลับบ้านได้!!!)...
พอรัฐบาล ม.7 ยุบสภาฯ... ประชาชนเลยคว้างไปหมด ไม่รู้ว่าจะมีนักการเมืองที่ไหนหลงเหลือให้วางใจได้อีก... เฮ้อ...
ชอบมากกกกก อยากกดซักล้านไลค์
ขอบคุณมากครับ...
นี่ถ้านายสมชายยังรับราชการอยู่ ก็สงสัยว่าขาดคุณสมบัติแล้วครับ คือข้อที่ว่า"เลื่อมใสการปกครองในระบอบประชาธิปไตย"แต่ยังเลื่อมใส"มีองค์พระมหากษัตริย์เป็นประมุข"อยู่ครับ...
ยิ่งย้อนกลับไปอ่านเรื่อง Normal Curve Distribution ด้วย จะเห็นว่าในตารางแจกแจงความถี่ปรกติของพฤติกรรมสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในโลก จะเป็นการกระจายรูประฆังคว่ำ(Bell shape) เสมอครับ... นั่นแปลว่าหากให้"คนส่วนใหญ่"ตัดสินใจเรื่องความเป็นความตาย จะมีแนวโน้มว่าลากถูลู่ถูกังเอาตัวรอดไปวันๆโดยไม่มีเป้าหมายครับ...
ตัวอย่างที่เห็นในธรรมชาติของสัตว์ฝูง ก็เช่นปลาทูน่าฝูง อยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ก็เพื่อให้ตัวเองมีโอกาสรอดจากสัตว์ผู้ล่า เพราะอยู่รวมกันเป็นฝูงก็หวังให้เพื่อนร่วมฝูงเป็นตัวล่อเป้า แล้วเพื่อนร่วมฝูงก็โดนกินก่อนตัวเองจะได้รอด... พฤติกรรมแบบนี้มีหมดในสัตว์ที่เป็นผู้ถูกล่า เมื่ออยู่ในธรรมชาติแบบอิสระ อีกตัวอย่างก็เช่นฝูงกวางหากินในทุ่งโล่ง โดยมีครอบครัวสิงโตอยู่ใกล้ๆ เมื่อไหร่หิวก็เข้าไปล่ากวางมากิน แล้วที่เหลืออยู่ก็ไม่วิ่งหนี หรือรวมกลุ่มเล่นงานสิงโต แต่หวังว่าครั้งหน้าถ้าสิงโตหิว จะกินเพื่อนร่วมฝูง!!!...
ทีนี้การปกครองในระบอบประชาธิปไตย มันก็จะมี"นักเลือกตั้ง"ผลัดกันเข้ามาแสวงประโยชน์จาก"คนส่วนใหญ่"ที่อยู่ในกลุ่ม 80 เปอร์เซ็นต์ของตามรางแจกแจงความถี่รูประฆังคว่ำ... นักเลือกตั้งจะเหมือนกันหมด คือแสวงประโยชน์จากประชาชน แล้วแต่ใส่หน้ากากว่าเป็น"เทพ"หรือ"มาร"ซึ่งในที่สุดก็ผสมกันเป็นเนื้อเดียวคือ"หลอกกิน"ต่อไปเรื่อยๆ...
แล้วนายสมชายก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรได้ครับ นอกจากพยายามอ่านให้แยะ หวังว่าตัวเองไม่เป็นคน"ส่วนใหญ่"ที่อยู่ในส่วนโค้งระฆังคว่ำ... เฮ้อ...