มีรัฐบาลไหนมองเห็นปัญหาเหล่านี้มั้ยนะ ทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่เราเพราะเราดันไปเลือกเค้ามาเอง
ประชาธิปไตยบ้านเรามันแปลกๆ ตอนหาเสียงก็บอกประชาธิปไตยมาจากเสียงของคนส่วนใหญ่
แต่พอรวมกลุ่มจับก้อนออกมาเป็นพรรคกลับต้องทำตามเสียงนายทุนพรรค มติพรรค
ไม่เห็นเอาความต้องการของประชาชนมาก่อนเลยซักพรรค
คนที่ดีๆเลยไม่สามารถเบียดแทรกเข้ามาได้ และไม่อยากเปลืองตัวโดนขุดบรรพบุรุษออกมาประจาน
พวกที่อยู่ได้ก็กล้าที่จะว่าคนอื่นได้เต็มปาก เพราะมันก็วัวสันหลังหวะกันทุกตัว
มีพรรคการเมืองไหนใส่ใจ ปตท. ที่ส่งผลประโยชน์ของประชาชนบ้าง?
มีพรรคการเมืองไหนใส่ใจ เกษตรกรชาวนา อย่างแท้จริงบ้าง?
เราจะต้องจ่ายค่าประชาธิปไตยกันอีกซักเท่าไหร่นักเลือกตั้งถึงจะพอใจ?
Uploaded with
ImageShack.usการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2554/55 มูลค่ากว่า 2.5 แสนล้านบาท โดยคิดเฉลี่ยคราวๆจากราคาข้าวเปลือกประมาณตันละ 17,000 บาทต่อตัน ในมูลค่าเงินที่อนุมัติให้รับซื้อไม่เกิน 2.69 แสนล้านบาท ประมาณตันข้าวคละประเภทรวม 15 ล้านตัน
เราลองประมาณการค่าความชื้นที่รัฐต้องจ่ายแทนชาวนาผ่านโรงสีที่ต้องหักจากชาวนาประมาณ 30-35% ทั้งจากแต่เดิมที่เคยปฏิบัติมา จากเดิมราคาข้าวเปลือกโดยตลาดเสรีตันละ 10,000 บาท 15 ล้านตันเป็นเงิน 150,000 ล้านบาท หนึ่งแสนห้าหมื่นล้านบาท ชาวนาต้องเสียเปรียบและจ่ายเงินค่าหักความชื้นเป็นเงิน 150,000 x 30% เท่ากับ 45,000 ล้านบาท สี่หมื่นห้าพันล้านบาท โดยในระบบจำนำเดิมนั้นเงินส่วนนี้รัฐเป็นผู้จ่ายแทนชาวนาผ่านโรงสีที่หักเก็บจากชาวนา สรุปคือชาวนาเสียเปรียบ
ราคาขายเข้าเปลือกแก่โรงสี 45,000 ล้านบาท แทนที่จะได้เงิน 45,000 ล้านบาทนี้ด้วยในการขายข้าว หากชาวนาเป็นผู้ลดความชื้นเอง แต่ระบบจำนำข้าวกลับเป็นตัวช่วยผลักภาระและเงินจำนวนนี้ไปที่โรงสีหรือผู้รับจำนำแทนรัฐาลนั่นเอง
เมื่อเปลี่ยนมาเป็นโครงการประกันรายได้ รัฐไม่ได้จ่ายเงินจำนวนนี้ แต่ชาวนายังต้องถูกหักเหมือนเดิม แต่รัฐประหยัดเงินได้ 45,000 ล้านบาท
แต่เมื่อกลับมาใช้ระบบจำนำข้าวโดยรับจำนำในราคาสูงขึ้น จากราคาคลาดเสรีท้ายสุดเฉลี่ยคละประเภทข้าว ราคาตันละ 11,000 บาท เป็น 17,000 บาทเฉลี่ยคละประเภทข้าว เป็นเงินค่าความชื้น 17,000x 30% เท่ากับ 5,100 บาทต่อตัน แทนที่จะเสียค่าความชื้นตามตลาดเสรีเป็นเงิน 11,000x30% เป็นเงิน 3,300 บาทต่อตัน แสดงว่าเราเสียค่าความชื้นที่กระโดดขึ้นมาดื้อๆโดยราคากำหนดขึ้นเองตามนโยบายรับจำนำเป็นเงิน 5,100-3,300 เท่ากับ 1,800 บาทต่อตัน
หากการรับซื้อข้าวทั้งประเทศในหนึ่งฤดูเป็นจำนวน 15 ล้านตัน รัฐต้องเสียเงินเพิ่มฟรีให้แก่โรงสีจำนวน 15,000,000 ตันx1,800บาท เท่ากับ 27,000 ล้านบาท
สองหมื่นเจ็ดพันล้านบาท และเงินจำนวนนี้เป็นภาษีของคนไทยทั้งประเทศครับ แต่หากนับเป็นการเสียเปล่าในการหักค่าความชื้นเต็มจำนวน เป็นเงิน 15,000,000ตัน x 5,100บาท เท่ากับ 76,500 ล้านบาท เจ็ดหมื่นหกพันห้าร้อยล้านบาท
หากเราคิดเพียงในส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นโดยระบบจำนำข้าวเป็นเงิน 27,000ล้านบาท หากคิดข้าวนาปรังเข้าไปด้วยแล้วอาจจะเป็นเงินถึง 50,000 บาท ห้าหมื่นล้านบาทต่อปี
ถามว่า คนไทยทั้งประเทศ ยอมที่จะเสียเงินเฉพาะกรณีจำนำข้าว เพื่อเช่าประชาธิปไตยของทักษิณปีละห้าหมื่นล้านบาทเชียวหรือ และที่สำคัญนายทุนค้าข้าวล้วนแล้วแต่
เป็นพลพรรคเพื่อไทย ทั้ง ส.ส.และรัฐมนตรี หรือนายทุนพรรค
ท่านยินดีหรือไม่ เท่ายินยอมหรือไม่ สำหรับค่าเช่าประชาธิปไตยจากทักษิณปีละหลายหมื่นล้านบาท